1 / 28

คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์. วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. คอมพิวเตอร์ (Computer). คอมพิวเตอร์ หมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานตามชุดคำสั่งอย่าง อัตโนมัติ โดย จะทำการคำนวณข้อมูล เปรียบเทียบตรรกะของข้อมูล และให้ผลลัพธ์ออกมาตามที่กำหนด. ประเภทของคอมพิวเตอร์. Mainframe computer.

Download Presentation

คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์ วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

  2. คอมพิวเตอร์ (Computer) • คอมพิวเตอร์ หมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานตามชุดคำสั่งอย่างอัตโนมัติ โดยจะทำการคำนวณข้อมูล เปรียบเทียบตรรกะของข้อมูล และให้ผลลัพธ์ออกมาตามที่กำหนด

  3. ประเภทของคอมพิวเตอร์ Mainframe computer • เมนเฟรม คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีการพัฒนามาตั้งแต่เริ่มแรก • เมนเฟรมเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีราคาสูงมาก มักอยู่ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์หลักขององค์การ และต้องอยู่ในห้องที่มีการควบคุมอุณหภูมิและมีการดูแลรักษาเป็นอย่างดี • ข้อเด่นของการใช้เมนเฟรมอยู่ที่งานที่ต้องการให้มีระบบศูนย์กลาง

  4. เมนเฟรม คอมพิวเตอร์ ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วง ค.ศ.1942-1946 มีชื่อเรียกว่าอีนีแอค ENIAC ( Electronic Numerical Integer and Calculator ) เป็นเครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกที่ใช้หลอดสุญญากาศ จำนวน 18,000 หลอด จึงต้องใช้กำลังไฟฟ้าค่อนข้างมาก มีปัญหาเรื่องความร้อนและไส้หลอดขาดบ่อย ๆ ต้องวางไว้ในห้องปรับอากาศ คอมพิวเตอร์เมนเฟรมที่ถูกนำมาใช้ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ IBM 1620 เมื่อปี พ.ศ. 2506 โดยได้รับมอบจากมูลนิธิ เอ ไอ ดี และ บริษัท IBM ซึ่งติดตั้งที่ภาควิชาสถิติ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบันหมดอายุการใช้งานนำไปเก็บรักษาไว้ที่ศูนย์บริภัณฑ์การศึกษาท้องฟ้าจำลอง กรุงเทพฯ

  5. ประเภทของคอมพิวเตอร์ Mini computer • ในช่วงปี ค.ศ. 1965-1970 ได้มีการนำวงจรรวม หรือ เรียกว่าไอซี (IC : Integrated Circuit) จึงทำให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมแต่ความเร็วในการทำงานสูงขึ้น • ตัวอย่างคอมพิวเตอร์ในยุคนี้ได้แก่ IBM 360 เป็นหนึ่งในคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวมที่สามารถทำงานได้ทั้งการประมวลผลแฟ้มข้อมูล และวิเคราะห์ค่าทางคณิตศาสตร์ • คอมพิวเตอร์ ชื่อ PDP1 เป็น มินิคอมพิวเตอร์(Minicomputer) ของบริษัท DEC (Digital Equipment Corporation) เป็นที่นิยมใช้กันแพร่หลายโดยเฉพาะในกลุ่มของนักวิทยาศาสตร์ นักวิศวกร และนักวิจัยตามมหาวิทยาลัย

  6. ประเภทของคอมพิวเตอร์ Micro computer • ไมโครคอมพิวเตอร์ เป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกสร้างจากการนำเอาวงจรรวมหรือไอซี มารวมกันเป็นวงจรขนาดใหญ่ เรียกว่า VLSI (Very Large Scale Integration) ลงในชิปแต่ละอัน ทำให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลง จนตั้งไว้ที่โต๊ะได้ • นำไปสู่การเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ที่เรียกว่า PC หรือ Personal Computer) คอมพิวเตอร์ PC ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1975 โดยบริษัทIBM ได้กลายเป็นต้นแบบในการพัฒนาต่อยอดรุ่นหลัง ๆ ถัดมา

  7. องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์

  8. หน่วยประมวลผลกลาง หน้าที่ของ CPU ควบคุมให้การทำงานเป็นไปตามคำสั่ง วิเคราะห์ข้อมูลที่ป้อนเข้า จัดการปฏิบัติงาน ส่งข้อมูลไปจัดเก็บ • CPU หรือ Central Processing Unitมีหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบและปฏิบัติงานตามคำสั่งที่ปรากฏอยู่ในโปรแกรม • ประกอบด้วยหน่วยย่อย ๆ อีก 2 หน่วย ได้แก่ หน่วยคำนวณเลขคณิต และตรรกวิทยา (ALU หรือ Arithmetic and Logical Unit) และ หน่วยควบคุม (CU หรือ Control Unit)

  9. หน่วยความจำ (Memory unit) • ทำหน้าที่เก็บโปรแกรมหรือข้อมูลที่รับมาจากหน่วยรับข้อมูล เพื่อเตรียมส่งให้หน่วยประมวลผลกลางทำการประมวลผล และรับผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล เพื่อเตรียมส่งออกหน่วยแสดงข้อมูลต่อไป • หน่วยความจำแบ่งออกเป็น 2 ประเภท • หน่วยความจำหลัก (Main memory) • หน่วยความจำแรม (RAM : Random Access Memory) • หน่วยความจำรอม (ROM : Read Only Memory) • แคช (Cache) • หน่วยความจำเสมือน (Virtual Memory) • หน่วยความสำรอง (Secondary Storage)

  10. อุปกรณ์รับข้อมูล / แสดงผลข้อมูล • Input / Output Unit • อุปกรณ์รับข้อมูล(Input devices) ทำหน้าที่ในการรับโปรแกรม และข้อมูลเข้าสู่คอมพิวเตอร์ ตัวอย่าง ของอุปกรณ์ที่ใช้รับข้อมูลเข้า ได้แก่ แป้นพิมพ์หรือคีย์บอร์ด (Keyboard) เครื่องสแกนต่าง ๆ • อุปกรณ์แสดงผล (Output devices) ทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์จากการประมวลผล เช่น จอภาพเครื่องพิมพ์ ลำโพง

  11. องค์ประกอบส่วนฮาร์ดแวร์องค์ประกอบส่วนฮาร์ดแวร์

  12. ส่วนประกอบของ Pc

  13. Mainboardหรือ Motherboard

  14. Rom bios • Basic Input / Output System เป็นชุดคำสั่งหรือโปรแกรมขนาดเล็กที่ซีพียูใช้เมื่อเปิดเครื่องให้คอมพิวเตอร์ทำงานจะคอยควบคุมหรือจัดการข้อมูลที่วิ่งระหว่างระบบปฏิบัติการกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ยังใช้เก็บข้อมูลพื้นฐานสำหรับเครื่องนั้น ๆ • หน้าที่หลักของ BIOS • ตรวจสอบอุปกรณ์ภายในเครื่องว่ามีอะไรบ้าง • กำหนดการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุด • ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างระบบปฏิบัติการหรือ application program กับฮาร์ดแวร์

  15. ขนาดข้อมูล • การนำเลขฐานสองตั้งแต่หนึ่งหลักขึ้นไปเรียกว่า บิต (bit) • 4 bit จะเท่ากับ 1 nibble • 8 bit จะเท่ากับ 1 byte • 2 byte จะเท่ากับ 1 word • 2 word จะเท่ากับ 1 double word • หน่วยวัดความจุ (ของหน่วยความจำ ฮาร์ดดิสก์) ที่ได้ยินบ่อย ๆ คือ กิโลไบต์, กิกกะไบต์ มีความหมายเป็นตัวเลขดังนี้ • 1 kB (kilobyte) = 1024 byte ( 210 ) • 1 MB ( Megabyte) = 1,048,576 byte (220) • 1 GB (Gigabyte) กิกะไบต์ = 1,073,741,824) (230) byte • 1 TB (Terabyte) เทอราไบต์ = 1.099,511,627,776 (240) byte

  16. รหัสข้อมูล • รหัสข้อมูล (Data representation) ได้แก่รหัสที่ใช้แทนตัวเลข ตัวอักษร สัญลักษณ์ต่าง ๆ โดยนำเลขฐานสองมาเรียงต่อกันเป็นกลุ่ม • รหัส BCD (Binary Code Decimal) • รหัส EBCDIC (Extended Binary Coded Decimal Interchange Code) • รหัสข้อมูลที่นิยมใช้ได้แก่ รหัส ASCII (American National Standard Institute) ประกอบด้วยเลขฐานสองจำนวน 1 byte แทนตัวอักษร 1 ตัวสามารถสร้างจำนวนตัวอักษรได้ 256 ตัวอักษร • รหัส UTF-8 เริ่มเป็นที่นิยมใช้กันมากขึ้นสามารถรองรับการทำงานระบบหลายภาษา (Multi language) หรือที่เรียกว่า Unicode จะใช้เนื้อที่ในการเก็บตัวอักษร 1 ถึง4 ไบต์ ต่อตัวอักษร 1 ตัว ตัวอักษรของทุกชาติ ทุกภาษาจะถูกเก็บรวมไว้ในรหัสนี้ทั้งหมด

  17. ซอฟแวร์ที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ซอฟแวร์ที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ • ซอฟต์แวร์ (Software) คือ โปรแกรมคำสั่งที่เขียนขึ้นเพื่อสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน • ในการสร้างซอฟต์แวร์ ผู้สร้างจะต้องรู้ภาษาคอมพิวเตอร์เพื่อนำไปใช้ในการเขียนซอฟต์แวร์ เราแบ่งภาษาคอมพิวเตอร์ออกเป็นยุคสมัย ดังต่อไปนี้ • ภาษายุคที่ 1 (1GL) ภาษาเครื่อง • ภาษายุคที่ 2 (2GL) ภาษา Assembly หรือ ภาษาระดับต่ำ • ภาษายุคที่ 3 (3GL) ภาษาระดับสูง • ภาษายุคที่ 4 (4GL) • ภาษายุคที่ 4 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อลดจำนวนคำสั่งให้เหลือน้อยลง และมีลักษณะใกล้เคียงกับภาษาอังกฤษ ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ที่ไม่เคยเขียนโปรแกรมโดยใช้ภาษา 3GL สามารถเขียนโปรแกรมได้ภาษายุคที่ 4 ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึง (Access) ฐานข้อมูล (Database) ภาษา 4GL ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปคือภาษา SQL (Structured Query Language) ซึ่งคิดค้นโดย บริษัท IBM

  18. ระบบปฏิบัติการ (os : operation system) • โปรแกรมที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างฮาร์ดแวร์ (อาจผ่านทางไบออสหรือโดยตรง) และโปรแกรมที่ผู้ใช้กำลังใช้งาน หน้าที่ของระบบปฏิบัติการ สามารถแบ่งได้เป็น 2 ส่วน คือ • ควบคุมการทำงานของโปรแกรมและอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์รับข้อมูล และแสดงผลลัพธ์ (Input/Output Device) และ ให้ผู้ใช้สามารถใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก • จัดสรรทรัพยากรซึ่งใช่ร่วมกัน (Shared Resource) หน้าที่นี้จะเห็นได้ชัดในเครื่องเมนเฟรม (Mainframe) มีการใช้ทรัพยากรเหล่านี้ร่วมกัน

  19. โปรแกรมประยุกต์ • โปรแกรมที่โปรแกรมเมอร์เขียนขึ้นด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหนึ่งเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำการประมวลผลให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ • โปรแกรมสำเร็จรูปเกี่ยวกับการจัดการฐานข้อมูล (DBMS : Data Base Management System) เช่น FoxPro, ORACLE, INFORMIX, MySQLและ Access เป็นต้น • โปรแกรมสำเร็จรูปเกี่ยวกับการจัดพิมพ์เอกสาร เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปประเภทประมวลผลคำ (Word Processing) • โปรแกรมสำเร็จรูปแบบตารางคำนวณหรือ Spreadsheet เหมาะสำหรับจัดการข้อมูลที่อยู่ในรูปของตาราง จะเหมาะสมเป็นอย่างมากถ้าข้อมูลนั้นเป็นตัวเลขและใช้ในการคำนวณ • โปรแกรมสำเร็จรูปด้านกราฟิก ซอฟต์แวร์ด้านนี้มีความสามารถในการสร้าง แก้ไข หรือดัดแปลงภาพ • โปรแกรมสำเร็จรูปประเภทอรรถประโยชน์ (Utility ) ซอฟต์แวร์อรรถประโยชน์ใช้ในงานด้านการควบคุม ตรวจสอบ และปรับปรุงการทำงานของระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

  20. ลิขสิทธิ์ซอฟแวร์ • ใน พ.ศ. 2445 มีการกำหนดลิขสิทธิ์เกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ในงานวรรณกรรมเรื่อง "วชิรญาณวิเศษ" • พ.ศ. 2457 ได้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายใหม่ในสมัย รัชกาลที่ 6 แต่ยังคงเน้นงานด้านวรรณกรรม • พ.ศ. 2474 ในสมัยรัชกาลที่ 7 มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้ครอบคลุมงานอื่นๆ เช่น งานคิดค้นทางวิทยาศาสตร์และผลงานของชาวต่างชาติ แต่กฎหมายฉบับนี้มีบทลงโทษในสถานเบา • พ.ศ. 2521 ได้เพิ่มงานสื่อ ภาพ-เสียงและวีดีโอลงไปในตัวของกฎหมาย • พ.ศ. 2534 รัฐบาลได้ประกาศขยายความครอบคลุมงานด้านวรรณกรรม ที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรม ได้ออกเป็นพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2538

  21. งานที่สามารถมีลิขสิทธิ์ได้งานที่สามารถมีลิขสิทธิ์ได้ • งานหรือความคิดสร้างสรรค์ในสาขาวรรณกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม งานภาพยนตร์ หรืองานอื่นใดในแขนงวิทยาศาสตร์ • โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Computer Program หรือ Computer Software) คือ ชุดคำสั่งที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อกำหนดให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน • งานฐานข้อมูล (Database) คือ ข้อมูลที่ได้เก็บรวบรวมขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ด้านต่าง ๆ

  22. งานที่ไม่สามารถมีลิขสิทธิ์ได้งานที่ไม่สามารถมีลิขสิทธิ์ได้ • ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่างๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสารอันมิใช่งานในแผนกวรรณคดีแผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ • รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย • ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น • คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ • คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่างๆ ตามข้อ 1 ถึง 4 ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐ หรือของท้องถิ่นจัดทำขึ้น

  23. การละเมิดลิขสิทธิ์ • การทำซ้ำหรือดัดแปลง • การเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ • การให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนางานดังกล่าว

  24. การกระทำที่ได้รับการยกเว้นไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์การกระทำที่ได้รับการยกเว้นไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ • มาตรา 32 การกระทำแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของบุคคลอื่นตาม พ.ร.บ. นี้ หากไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์จากงานอันมีลิขสิทธิ์ตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์และไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควร มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ • (1) วิจัยหรือศึกษางานนั้น อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร • (2) ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่นในครอบครัวหรือญาติสนิท • (3) ติชม วิจารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น • (4) เสนอรายงานข่าวทางสื่อมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น • (5) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายหรือในการรายงานผลการพิจารณาดังกล่าว • (6) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏโดยผู้สอน เพื่อประโยชน์ในการสอนของตน อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร • (7) ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนของงาน หรือตัดทอนหรือทำบทสรุปโดยผู้สอนหรือสถาบันศึกษา เพื่อแจกจ่ายหรือจำหน่ายแก่ผู้เรียนในชั้นเรียนหรือในสถาบันศึกษา ทั้งนี้ต้องไม่เป็นการกระทำเพื่อหากำไร • (8) นำงานนั้นมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการถามและตอบในการสอบ

  25. การกระทำที่ได้รับการยกเว้นไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์การกระทำที่ได้รับการยกเว้นไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ • มาตรา 35 การกระทำแก่โปรแกรมคอมพิวเตอร์ อันมีลิขสิทธิ์ของบุคคลอื่นตาม พ.ร.บ. นี้ มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หากไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไร และได้ปฏิบัติตามมาตรา 32 วรรคหนึ่ง ในกรณีดังต่อไปนี้ • (1) วิจัยหรือศึกษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น • (2) ใช้เพื่อประโยชน์ของเจ้าของสำเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น • (3) ติชม วิจารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น • (4) เสนอรายงานข่าวทางสื่อมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น • (5) ทำสำเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในจำนวนที่สมควรโดยบุคคลผู้ซึ่งได้ซื้อหรือได้รับโปรแกรมนั้นมาจากบุคคลอื่นโดยถูกต้อง เพื่อเก็บไว้ใช้ประโยชน์ในการบำรุงรักษาหรือป้องกันการสูญหาย • (6) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายหรือในการรายงานผลการพิจารณาดังกล่าว

  26. การกระทำที่ได้รับการยกเว้นไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์การกระทำที่ได้รับการยกเว้นไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ • (7) นำโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้นมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการถามและตอบในการสอบ • (8) ดัดแปลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในกรณีที่จำเป็นแก่การใช้ • (9) ทำสำเนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อเก็บรักษาไว้สำหรบการอ้างอิง หรือค้นคว้าเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน

  27. open source • ประเทศไทยมักจะถูกประเทศมหาอำนาจทำการกีดกันทางการค้า โดยมีข้ออ้างอยู่ 3 ข้อคือ ละเมิดสิทธิมนุษยชน มีการทำลายสิ่งแวดล้อม และมีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา • ซอฟแวร์ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย • Shareware หรือ Freeware เป็นโปรแกรมที่ใช้งานฟรี แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขหรือข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ผู้พัฒนาหรือผู้จำหน่ายกำหนดไว้ เช่นให้ทดลองใช้ก่อน • Open source ซอฟต์แวร์ ที่สามารถนำไป ใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และมี source code ติดมาให้ อนุญาตให้เผยแพร่ตัวโปรแกรมและ source code ได้อย่างเสรี แต่ก็มี license เหมือนซอฟต์แวร์ทั่วไป • open-source license (เช่น GPLGeneral Public License, BSD)

More Related