970 likes | 1.35k Views
กฎหมายและระเบียบในการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และบทบาทของภาคประชาชนในการให้ความร่วมมือป้องกันและตรวจสอบ ภาส ภาสสัทธา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันการทุจริตภาคประชาสังคมและการพัฒนาเครือข่าย วิโรจน์ ฆ้องวงศ์ นักกฎหมาย ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ช. กรอบการบรรยาย.
E N D
กฎหมายและระเบียบในการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และบทบาทของภาคประชาชนในการให้ความร่วมมือป้องกันและตรวจสอบ ภาส ภาสสัทธา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันการทุจริตภาคประชาสังคมและการพัฒนาเครือข่าย วิโรจน์ ฆ้องวงศ์ นักกฎหมาย ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ช.
กรอบการบรรยาย 1. ความหมาย นิยาม กรอบแนวคิด 2. สถานการณ์ทุจริตในไทย 4. สาเหตุและผลกระทบของการทุจริต 5. การขัดกันแห่งผลประโยชน์ 6. อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. 7. แนวทางเสริมสร้างเครือข่ายภาคประชาชนในการป้องกัน การทุจริต 8. การปรับเปลี่ยนภารกิจตามกฎหมาย
สังคมไทยแต่เดิม • เสาหลัก (pillars) (1) สถาบันพระมหากษัตริย์ (2) สถาบันพระศาสนา (3) สถาบันประชาชน (ครอบครัว-ชุมชน) • “ความดีงามในพื้นฐานจิตใจของคนไทย”
หลัง ค.ศ. 1990 โลกาภิวัฒน์ ทุนนิยมเสรี ตลาดเสรี ความเป็นไทย วัฒนธรรมไทย ความรู้ และเทคโนโลยี เทคโนโลยีสารสนเทศ และสื่อมวลชน การเมือง ระหว่างประเทศ อาชญากรรม ข้ามชาติ วัฒนธรรม ต่างถิ่น
สังคมวิกฤติ • สังคมสุดขั้ว – แยกขั้ว • วัตถุนิยม – บริโภคนิยม – ประชานิยม • ฉ้อราษฎร์บังหลวง • เล่นการพนัน – อบายมุขเต็มเมือง • มัวเมาไสยศาสตร์ - เกาะกระพี้ศาสนา
Corruption “คอร์รัปชัน” เป็นคำที่มีความหมายกว้างขวาง มีความหมายรวมกับการกระทำทุกลักษณะที่เป็นไปโดยมิชอบ หรือเป็นการกระทำที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว โดยใช้อำนาจ และอิทธิพล ที่มีอยู่ตามตำแหน่ง หน้าที่ หรืออาศัยฐานะตำแหน่งพิเศษที่ตนมีอยู่ในวิถีชีวิตที่เกี่ยวข้องอยู่กับกิจสาธารณะ และคำนี้ยังมีความหมายคลุมถึงการกินสินบนด้วย (Gunnar Myrdal) ความหมายในทัศนะสากล
ความหมายในทัศนะสากล (ต่อ) การกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการกระทำที่ชั่วช้า และฉ้อโกงโดยเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงกฎหมาย รวมทั้งการกระทำที่ขัดต่อตำแหน่งหน้าที่และสิทธิของผู้อื่น นอกจากนี้ ยังหมายถึงการที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งซึ่งประชาชนไว้วางใจ กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยการรับหรือยอมรับผลประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น (พจนานุกรม แบล็คลอว์ Black Law Dictionary)
ความหมายในทัศนะสากล (ต่อ) ผลประโยชน์ทับซ้อน(Conflict of interest) ผลประโยชน์ที่ทับซ้อนกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวมระหว่างผลประโยชน์ของผู้ที่มีหน้าที่จะต้องตัดสินใจทำงานเพื่อส่วนรวมไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ก็ตาม
ความหมายในทัศนะของไทยความหมายในทัศนะของไทย “ฉ้อราษฎร์บังหลวง” หมายถึง การที่พนักงาน เจ้าหน้าที่เก็บเงินจากราษฎร แล้วไม่ส่งหลวง หรือเบียดบังเงินหลวง ...การรีดนาทาเร้นประชาชน และการเบียดบังทรัพย์สินของหลวงเป็นของตน “โดยทุจริต” หมายความว่า เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเอง หรือผู้อื่น
ความหมายในทัศนะของไทย(ต่อ)ความหมายในทัศนะของไทย(ต่อ) “ทุจริตต่อหน้าที่” หมายความว่า ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดตำแหน่งหรือหน้าที่หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้น หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งนี้ เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบสำหรับตนเองหรือผู้อื่น
ความหมายในทัศนะของไทย(ต่อ)ความหมายในทัศนะของไทย(ต่อ) คอร์รัปชันเชิงนโยบาย ซึ่งหมายถึงการที่ผู้ที่ใช้อำนาจรัฐเอื้อผลประโยชน์ทางอ้อมให้บริษัทธุรกิจเอกชนของตนเองและพรรคพวกผ่านโครงการ การลงทุนต่างๆหรือการออกกฎหมายการเปลี่ยนหลักเกณฑ์การให้สัมปทานเป็นการคอร์รัปชันทางอ้อมที่บางครั้งอาจจะไม่ใช่การยักยอกงบประมาณโดยตรง
ในแง่กฎหมายอาชญากรรม หมายถึง การกระทำที่ล่วงละเมิดกฎหมายอาญาและจะต้องมีระบบงานยุติธรรม(Criminal justice system)รับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว ซึ่งกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า”ถ้าปราศจากกฎหมายก็ไม่มีอาชญากรรม” คอร์รัปชัน เป็นอาชญากรรมประเภทคอปกขาว(White Collar Crime)ซึ่งผู้กระทำผิดเป็นบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งหน้าที่การงาน มีอำนาจและได้ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบให้แก่ตนเองและผู้อื่น พฤติกรรมดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนจากบทบัญญัติของกฎหมายอันมีโทษทางอาญา สาเหตุแห่งการเกิดอาชญากรรมนั้นตามทฤษฎีกลไกการควบคุม(Containment Theory) เกิดจากระบบการควบคุมภายใน ได้แก่ความสามารถในการควบคุมตนเอง และระบบการควบคุมภายนอกได้แก่ กฎเกณฑ์ ระเบียบ จารีตประเพณีมีความอ่อนแอ
ลักษณะของWhite Collar Criminal (Reckless) ได้พูดถึงลักษณะของอาชญากรรมนี้ว่า • ประการแรก เป็นบุคคลที่มีตำแหน่งหน้าที่ในสังคมไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งหน้าที่ในภาคเอกชนหรือภาครัฐ เป็นบุคคลที่มีบุคลิกดี เป็นที่น่านับถือหรือนิยมชมชอบของประชาชนทั่วไป • ประการที่สอง เป็นบุคคลที่อาศัยโอกาสที่ตนเองมีในหน้าที่(ไม่ว่าจะเป็นในภาครัฐหรือเอกชน) กระทำผิด • ประการที่สาม อาชญากรรมที่พวกนี้ก่อมักจะเป็นอาชญากรรมที่มีรูปแบบซับซ้อนเพราะพวกนี้มักจะมีความรู้ ความเชี่ยวชาญในงานที่ตนเองดำเนินอยู่ในขณะนั้น
ลักษณะของWhite Collar Criminal (Reckless) • ประการที่สี่ เป็นอาชญากรรมที่ผู้ประกอบอาชญากรรมยากที่จะถูกบังคับใช้กฎหมาย พวกนี้มักจะมีวิธีการทำให้คดีนั้นบิดเบือนหรือเปลี่ยนแปลงได้ง่าย • ประการที่ห้า เป็นอาชญากรรมที่ประชาชนเองมักไม่ค่อยมีความรู้สึกต่อต้านหรือโกรธแค้นชิงชังโดยเฉพาะในระยะแรก • ในเมื่อสังคมใดมีอาชญากรรมย่อมจำเป็นต้องมีการควบคุมสังคมนั้นมิให้เกิดอาชญากรรมขึ้น ทำนองเดียวกันในประเทศที่มีการคอร์รัปชันย่อมต้องมีการควบคุมตรวจสอบ
ความหมายในทัศนะของไทย(ต่อ)ความหมายในทัศนะของไทย(ต่อ) คอร์รัปชันเชิงนโยบาย ซึ่งหมายถึงการที่ผู้ที่ใช้อำนาจรัฐเอื้อผลประโยชน์ทางอ้อมให้บริษัทธุรกิจเอกชนของตนเองและพรรคพวกผ่านโครงการ การลงทุนต่างๆหรือการออกกฎหมายการเปลี่ยนหลักเกณฑ์การให้สัมปทานเป็นการคอร์รัปชันทางอ้อมที่บางครั้งอาจจะไม่ใช่การยักยอกงบประมาณโดยตรง
สถานการณ์ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันสถานการณ์ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ(Transparency International -TI) เปิดเผยผลการจัดอันดับดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชัน(Corruption Perceptions Index- CPI) ประจำปี 2553 จากจำนวนประเทศทั่วโลก 178 ประเทศ (คะแนนเต็ม 10 คะแนน) นิวซีแลนด์ เดนมาร์ค สิงคโปร์ ครองตำแหน่งสามอันดับแรก (9.3 คะแนน)ฟินแลนด์และสวีเดน(9.2 คะแนน) ประเทศที่ได้อันดับสุดท้าย อิรัก และซูดาน (1.5คะแนน) พม่า(1.4คะแนน)อัฟกานิสถาน(1.38 คะแนน) โซมาเลีย(1.1คะแนน) ไทย ได้ 3.5 คะแนนเป็นอันดับ 78 ของทั่วโลก และเป็นที่ 9 จาก 23 ประเทศในเอเชีย โดยสิงคโปร์เป็นอันดับ 1
บริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ (เพิร์ก)จัดอันดับสถานการณ์คอร์รัปชันในเอเชีย ( เมษายน 2554 )
โครงสร้างสังคมไทย ระบบอุปถัมภ์ ความเบื่อหน่ายและ เพิกเฉยของประชาชน ต่อการทุจริต กระแสบริโภคนิยม วัตถุนิยม สาเหตุของการทุจริต กระบวนการยุติธรรม ไม่เข้มแข็ง การแทรกแซง จากผู้มีอิทธิพลและ นักการเมือง
ผลกระทบของคอร์รัปชัน 1. ความเชื่อมั่นจากประชาคมโลก - ขาดความเชื่อมั่น - การลงทุนลดลง - เสียภาพลักษณ์ 2. ระบบเศรษฐกิจ - เบี่ยงเบนทรัพยากร - ลดรายได้ของรัฐบาล - ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น - คุณภาพลดลง - นโยบายเบี่ยงเบน - ความมั่นคงรัฐบาลลดลง
ผลกระทบของคอร์รัปชัน (ต่อ) 3. สังคมวัฒนธรรม - วัฒนธรรมหน่วยงานเปลี่ยนไป - กฎระเบียบหย่อนยาน - ความปลอดภัยลดลง - เพิ่มอาชญากรรม - เกิดลูกโซ่วงจรอุบาทว์ 4. ประชาชนผู้เสียภาษี - รู้สึกว่าไม่ยุติธรรม - ผู้ยากไร้เสียสิทธิที่พึงได้ - ความยากจนเพิ่มขึ้น - ขาดความเสมอภาคชายหญิง - ปัญหาสิทธิมนุษยชน
ผลกระทบของคอร์รัปชัน (ต่อ) 5.ด้านการเมือง -การซื้อสิทธิขายเสียงเลือกตั้ง -รัฐบาลอ่อนแอ ขาดเสถียรภาพ -ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย -ปฐมเหตุการปฏิวัติรัฐประหาร
แนวคิดมาตรการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันแนวคิดมาตรการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน • 1. สังคมที่มีกลไกเชื่อมโยงกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านคอร์รัปชันอย่างเป็นเอกภาพ • 2. สังคมที่มีปรัชญาการมองโลกและมีค่านิยมที่ถูกต้อง • 3. สังคมที่มีระบบเอื้อให้คนดำเนินชีวิตอย่างสุจริตได้ • 4. สังคมที่มีบริบทส่งเสริมให้คนทำดี • 5. สังคมที่มีกลุ่มผู้นำการต่อต้านคอร์รัปชันที่เข้มแข็ง มีพลัง
แนวทางปฏิบัติในการสร้างจิตสำนึกที่ถูกต้อง มีคุณธรรม 1.สร้างแนวร่วมประชาชาติ เพื่อสร้างความรักชาติ ในการต่อต้านคอร์รัปชัน 2. การอบรมพัฒนาจิตใจ ตามหลักจริยธรรมทางศาสนาและความเชื่อ 3. ปรับเปลี่ยนปรัชญาการมองโลก แก้ไขค่านิยมที่ไม่ถูกต้อง 4. การให้ความรู้ความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง 5. การแก้ไขระบบที่เป็นอุปสรรค 6. การส่งเสริมบริบทสังคมให้คนต้องการทำความดี 7.เพิ่มต้นทุนความเสี่ยงในการคอร์รัปชันที่แพงขึ้นโดยการเพิ่มบทลงโทษผู้กระทำผิดให้หนักขี้นจนมีผลฉุดรั้งทั้งผู้ให้และผู้รับ
ความขัดแย้งระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม (Conflict of Interests) ผลประโยชน์ส่วนตน - เป็นผลตอบแทนที่บุคคลได้รับ โดยเห็นว่ามีคุณค่าที่จะสนองตอบความต้องการของตนเองหรือของกลุ่มที่ตนเองเกี่ยวข้องผลประโยชน์เป็นสิ่งจูงใจให้คนเรามีพฤติกรรมต่างๆ เพื่อสนองความต้องการทั้งหลาย ผลประโยชน์ส่วนรวมหรือผลประโยชน์สาธารณะ สิ่งใดก็ตามที่ให้ประโยชน์สุขแก่บุคคลทั้งหลายในสังคม ผลประโยชน์สาธารณะ ยังหมายรวมถึงหลักประโยชน์ต่อมวลสมาชิก ในสังคม
ความหมายของ Conflict of Interests • ความหมายในภาษาไทย • ผลประโยชน์ทับซ้อน • การขัดกันแห่งผลประโยชน์ • คอร์รัปชันเชิงนโยบาย • การที่ผู้ที่ต้องตัดสินใจมีประโยชน์หลายทางซึ่งขัดกัน • การที่บุคคลปฏิบัติหน้าที่เอาผลประโยชน์ส่วนตัวไปพัวพันในการตัดสินใจเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อตนเอง และเป็นการเสียประโยชน์ของทางการ
ความเชื่อมโยงของConflict of Interests กับ Conflict of Interests Conflict of Interests เป็นรูปแบบหนึ่งของ Corruption แต่ระดับหรือขนาด และขอบเขตแตกต่างกัน Conflict of Interests นำไปสู่ Corruption ที่รุนแรงขึ้น Conflict of Interests เกี่ยวกับการใช้อำนาจที่เป็นทางการเชื่อมโยงกับกฎหมาย ระเบียบการปฏิบัติและส่วนที่ไม่เป็นทางการ เป็นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลขยายไปถึงเรื่องครอบครัวต้องพิจารณาความสัมพันธ์ เช่นคู่สมรส และคนในเครือญาติ
ความขัดแย้งกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวมความขัดแย้งกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม สรุปความหมาย เป็นสถานการณ์ที่บุคคลในฐานะพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ ของรัฐ ใช้ตำแหน่งหรืออำนาจหน้าที่ในการแสวงประโยชน์แก่ตนเอง กลุ่มหรือพวกพ้อง ซึ่งเป็นการละเมิดทางจริยธรรม และส่งผลกระทบหรือความเสียหายต่อประโยชน์สาธารณะ การมีผลประโยชน์ทับซ้อน ความขัดกันแห่งผลประโยชน์ของผู้ดำรงตำแหน่งสาธารณะ คอร์รัปชันเชิงนโยบาย และคอร์รัปชันสีเทา
ประเภทของผลประโยชน์ทับซ้อนประเภทของผลประโยชน์ทับซ้อน 1.การรับผลประโยชน์ต่างๆ 2.การทำธุรกิจกับตัวเองหรือเป็นคู่สัญญา 3.การทำงานหลังออกจากตำแหน่งสาธารณะหรือเกษียณ 4.การทำงานพิเศษ 5.การรู้ขัอมูลภายใน 6.การใช้ทรัพย์สินของราชการเพื่อประโยชน์ส่วนตัว 7.การนำโครงการสาธารณะลงในการเลือกตั้งเพื่อประโยชน์ทางการเมือง
องค์ประกอบของ Conflict of Interests • บุคคลดำรงตำแหน่งของรัฐต้องรับผิดชอบ/มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์สาธารณะ • เกิดภาวะผลประโยชน์ส่วนตนแทรกแซงการตัดสินใจ/การใช้ดุลพินิจ • เกิดการตัดสินใจเพื่อประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม
สังคมไทยกับการตระหนักถึงปัญหา Conflict of Interests • สังคมไทยสนใจน้อยเพราะมองว่าเรื่องนี้เป็นค่านิยมตะวันตก บางคนมองว่าไม่ใช่เรื่องผิด เรายึดหลักกฎหมายมากกว่าหลัก Conflict of Interests “คุณต้องพิสูจน์มาว่าผมใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ(Abuses)หรือไม่อย่างไร?” วัฒนธรรม ค่านิยม และการหล่อหลอมความรู้สึกในความรัก ความผูกพันในผลประโยชน์ของชาติ/ในเรื่องส่วนรวมยังไม่เข้มข้น
ข้อเสนอแนะ การสร้างความตระหนัก การป้องกันปัญหา การแก้ไขปัญหา การ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ให้ประชาชนมีบทบาทและมีส่วนร่วมในการปกครอง และตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐอย่างเป็นรูปธรรมและมีสัมฤทธิผล กำหนดกลไกสถาบันทางการเมืองทุกส่วน ให้มีดุลยภาพและประสิทธิภาพ การเน้นย้ำคุณค่าและความสำคัญของคุณธรรม จริยธรรม และแนวทางบริการกิจการบ้านเมืองที่ดี
ประมวลจริยธรรมตาม รัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 279มาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้เป็นไปตามประมวลจริยธรรมที่กำหนดขึ้น ให้มีกลไกและระบบในการบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งกำหนดขั้นตอนการลงโทษตามความร้ายแรงแห่งการกระทำ การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมให้ถือเป็นความผิดทางวินัย กรณีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฝ่าฝืนมาตรฐานร้ายแรงให้ถือเป็นเหตุถอดถอนจากตำแหน่ง
ประมวลจริยธรรมตาม รัฐธรรมนูญ 2550 (ต่อ) มาตรา 280ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจหน้าที่เสนอแนะ/ให้คำแนะนำในการจัดทำหรือปรับปรุง ประมวลจริยธรรมและส่งเสริมให้มีจิตสำนึกในด้านจริยธรรม รวมทั้งมีหน้าที่รายงานการกระทำที่มีการฝ่าฝืนประมวลจริยธรรม เพื่อให้ผู้ที่รับผิดชอบบังคับการให้เป็นไปตามประมวลจริยธรรม
ประมวลจริยธรรมตาม รัฐธรรมนูญ 2550 (ต่อ) มาตรา 244(2)ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตาม ม.279 วรรคสาม และ ม.280 ผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญ จึงกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลัก (Core Value) 9 ประการ เพื่อให้หน่วยงานใช้เป็นแกนมาตรฐานในการจัดทำประมวลจริยธรรม
มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลัก 9 ประการ 1. การยึดมั่นในคุณธรรม และจริยธรรม 2. การมีจิตสำนึกที่ดีซื่อสัตย์ สุจริต และรับผิดชอบ 3. การยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน 4. การยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นธรรม และถูกกฎหมาย 5. การให้บริการแก่ประชาชนด้วยความรวดเร็ว มีอัธยาศัย และ ไม่เลือกปฏิบัติ
มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลัก 9 ประการ(ต่อ) 6. การให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนอย่างครบถ้วน ถูกต้อง และไม่บิดเบือนขอเท็จจริง 7. การมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน รักษามาตรฐาน มีคุณภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ 8. การยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข 9. การยึดมั่นในหลักจรรยาวิชาชีพขององค์กร
รัฐธรรมนูญฯ 2550 การกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ • มาตรา 265 ห้าม สส./สว. (รวมถึงนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรี ม.267) ไม่รับหรือแทรกแซงหรือก้าวก่ายการเข้ารับสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจหรือเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจอันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอนหรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
รัฐธรรมนูญฯ 2550 การกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ • ไม่รับเงินหรือประโยชน์ใดๆ จากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเป็นพิเศษนอกเหนือไปจากที่หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจปฏิบัติต่อบุคคลอื่นๆในธุรกิจการงานตามปกติ ให้ใช้บังคับกับคู่สมรส บุตร และบุคคลอื่นที่ดำเนินการในลักษณะผู้ถูกใช้ ผู้ร่วมดำเนินการ ผู้ได้รับมอบหมายจาก สส.หรือ สว.ให้กระทำการ
พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 • มาตรา ๘๓ ข้าราชการพลเรือนสามัญต้องไม่กระทำการใดอันเป็นข้อห้าม ดังต่อไปนี้ • (๕) ต้องไม่กระทำการหรือยอมให้ผู้อื่นกระทำการหาผลประโยชน์อันอาจทำให้เสียความเที่ยงธรรมหรือเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน • (๖) ต้องไม่เป็นกรรมการผู้จัดการ หรือผู้จัดการ หรือดำรงตำแหน่งอื่นใดที่มีลักษณะงานคล้ายคลึงกันนั้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.๒๕๔๔ • "การเรี่ยไร" หมายความว่า การเก็บเงินหรือทรัพย์สินโดยขอร้องให้ช่วยออกเงินหรือทรัพย์สินตามใจสมัคร และให้หมายความรวมถึงการซื้อขายแลกเปลี่ยน ชดใช้หรือบริการซึ่งมีการแสดงโดยตรงหรือโดยปริยายว่ามิใช่เป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยน ชดใช้หรือบริการธรรมดา แต่เพื่อรวบรวมเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาทั้งหมดหรือบางส่วนไปใช้ในกิจการอย่างใดอย่างหนึ่งนั้นด้วย
ข้อ ๒๑ ในการเรี่ยไรหรือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรี่ยไร ห้ามมิให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการดังต่อไปนี้ • (๑) กำหนดประโยชน์ที่ผู้บริจาคหรือบุคคลอื่นจะได้รับซึ่งมิใช่ประโยชน์ที่หน่วยงานของรัฐได้ประกาศไว้ • (๒) กำหนดให้ผู้บริจาคต้องบริจาคเงินหรือทรัพย์สินเป็นจำนวนหรือมูลค่าที่แน่นอน เว้นแต่โดยสภาพมีความจำเป็นต้องกำหนดเป็นจำนวนเงินที่แน่นอน เช่น การจำหน่ายบัตรเข้าชมการแสดงหรือบัตรเข้าร่วมการแข่งขัน เป็นต้น
ข้อ ๒๑ ในการเรี่ยไรหรือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรี่ยไร ห้ามมิให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการดังต่อไปนี้ • (๓)กระทำการใด ๆ ที่เป็นการบังคับให้บุคคลใดทำการเรี่ยไรหรือบริจาคหรือกระทำในลักษณะที่ทำให้บุคคลนั้นต้องตกอยู่ในภาวะจำยอมไม่สามารถปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงที่จะไม่ช่วยทำการเรี่ยไรหรือบริจาคไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม • (๔) ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐออกทำการเรี่ยไร หรือใช้ สั่ง ขอร้อง หรือบังคับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือบุคคลอื่นออกทำการเรี่ยไร
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้หรือรับของขวัญของเจ้าหน้าที่ของรัฐพ.ศ.๒๕๔๔ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้หรือรับของขวัญของเจ้าหน้าที่ของรัฐพ.ศ.๒๕๔๔ "ของขวัญ" หมายความว่า เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่ให้แก่กันเพื่ออัธยาศัยไมตรี และให้หมายความรวมถึง เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่ให้เป็นรางวัล ให้โดยเสน่หาหรือเพื่อการสงเคราะห์ หรือให้เป็นสินน้ำใจ การให้สิทธิพิเศษซึ่งมิใช่เป็นสิทธิที่จัดไว้สำหรับบุคคลทั่วไปในการได้รับการลดราคาทรัพย์สินหรือการให้สิทธิพิเศษในการได้รับบริการหรือความบันเทิงตลอดจนการออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางหรือท่องเที่ยว ค่าที่พัก ค่าอาหาร หรือสิ่งอื่นใดในลักษณะเดียวกัน และไม่ว่าจะให้เป็นบัตร ตั๋ว หรือหลักฐานอื่นใด การชำระเงินให้ล่วงหน้า หรือการคืนเงินให้ในภายหลัง
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้หรือรับของขวัญของเจ้าหน้าที่ของรัฐพ.ศ.๒๕๔๔ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้หรือรับของขวัญของเจ้าหน้าที่ของรัฐพ.ศ.๒๕๔๔ • ปกติประเพณีนิยม" หมายความว่า เทศกาลหรือวันสำคัญซึ่งอาจมีการให้ของขวัญกัน และให้หมายความรวมถึงโอกาสในการแสดงความยินดี การแสดงความขอบคุณ การต้อนรับ การแสดงความเสียใจหรือการให้ความช่วยเหลือตามมารยาทที่ถือปฏิบัติกันในสังคมด้วย
ข้อ ๕ เจ้าหน้าที่ของรัฐจะให้ของขวัญแก่ผู้บังคับบัญชาหรือบุคคลในครอบครัวของผู้บังคับบัญชานอกเหนือจากกรณีปกติประเพณีนิยมที่มีการให้ของขวัญแก่กันมิได้ การให้ของขวัญตามปกติประเพณีตามวรรคหนึ่ง เจ้าหน้าที่ของรัฐจะให้ของขวัญที่มีราคาหรือมูลค่าเกินจำนวนที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติกำหนดไว้สำหรับการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐจะทำการเรี่ยไรเงินหรือทรัพย์สินอื่นใดหรือใช้เงินสวัสดิการใดๆเพื่อมอบให้หรือจัดหาของขวัญให้ผู้บังคับบัญชาหรือบุคคลในครอบครัวของผู้บังคับบัญชาไม่ว่ากรณีใดๆมิได้
ข้อ ๖ ผู้บังคับบัญชาจะยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจให้บุคคลในครอบครัวของตนรับของขวัญจากเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งเป็นผู้อยู่ในบังคับบัญชามิได้ เว้นแต่เป็นการรับของขวัญตามข้อ 5 • ข้อ ๗ เจ้าหน้าที่ของรัฐจะยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจให้บุคคลในครอบครัวของตนรับของขวัญจากผู้ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐมิได้ ถ้ามิใช่เป็นการรับของขวัญตามกรณีที่กำหนดไว้ในข้อ ๘
ผู้ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามวรรคหนึ่ง ได้แก่ ผู้มาติดต่องานหรือผู้ซึ่งได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐในลักษณะดังต่อไปนี้ (๑) ผู้ซึ่งมีคำขอให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด เช่น การขอใบรับ รอง การขอให้ออกคำสั่งทางปกครอง หรือการร้องเรียน เป็นต้น (๒) ผู้ซึ่งประกอบธุรกิจหรือมีส่วนได้เสียในธุรกิจที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ เช่น การ จัดซื้อจัดจ้าง หรือการได้รับสัมปทาน เป็นต้น
(๓) ผู้ซึ่งกำลังดำเนินกิจกรรมใดๆที่มีหน่วยงานของรัฐเป็นผู้ควบคุมหรือกำกับดูแล เช่น การประกอบกิจการโรงงาน หรือธุรกิจหลักทรัพย์ เป็นต้น (๔) ผู้ซึ่งอาจได้รับประโยชน์หรือผลกระทบจากการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ข้อ ๘ เจ้าหน้าที่ของรัฐจะยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจให้บุคคลในครอบครัวของตนรับของขวัญจากผู้ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐได้เฉพาะกรณีการรับของขวัญที่ให้ตามปกติประเพณีนิยม และของขวัญนั้นมีราคาหรือมูลค่าไม่เกินจำนวนที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติกำหนดไว้สำหรับการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต