นาย คงกะพันธุ์ มังคะโชติ IT 51230062

1. Display Card (การ์ดแสดงผล) นาย คงกะพันธุ์ มังคะโชติ IT51230062

2. Display Card (การ์ดแสดงผล)

3. Display Card (การ์ดแสดงผล) หลักการทำงานพื้นฐานของการ์ดแสดงผลจะเริ่มต้นขึ้น เมื่อโปรแกรมต่างๆ ส่งข้อมูลมาประมวลผลที่ ซีพียูเมื่อซีพียูประมวลผล เสร็จแล้ว ก็จะส่งข้อมูลที่จะนำมาแสดงผลบนจอภาพมาที่การ์ดแสดงผล จากนั้น การ์ดแสดงผล ก็จะส่งข้อมูลนี้มาที่จอภาพ ตามข้อมูลที่ได้รับมา การ์ดแสดงผลรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาส่วนใหญ่ ก็จะมีวงจร ในการเร่งความเร็วการแสดงผลภาพสามมิติ และมีหน่วยความจำมาให้มากพอสมควร

4. ส่วนสำคัญของ Display Card (การ์ดแสดงผล) • หน่วยความจำ • ความละเอียดในการแสดงผล • อัตราการรีเฟรชหน้าจอ

5. 1.หน่วยความจำ • การ์ดแสดงผลจะต้องมีหน่วยความจำที่เพียงพอในการใช้งาน เพื่อใช้สำหรับเก็บข้อมูลที่ได้รับมาจากซีพียู และสำหรับการ์ดแสดงผล บางรุ่น ก็สามารถประมวลผลได้ภายในตัวการ์ด โดยทำหน้าที่ในการ ประมวลผลภาพ แทนซีพียูไปเลย ช่วยให้ซีพียูมีเวลาว่ามากขึ้น ทำงานได้เร็วขึ้น • เมื่อได้รับข้อมูลจากซีพียูมาการ์ดแสดงผล ก็จะเก็บข้อมูลที่ได้รับมาไว้ในหน่วยความจำส่วนนี้นี่เอง ถ้าการ์ดแสดงผล มีหน่วยความจำมากๆ ก็จะรับข้อมูลมาจากซีพียูได้มากขึ้น ช่วยให้การแสดงผลบนจอภาพ มีความเร็วสูงขึ้น และหน่วยความจำที่มีความเร็วสูงก็ยิ่งดี เพราะจะมารถรับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น ยิ่งถ้าข้อมูล ที่มาจากซีพียู มีขนาดใหญ่ ก็ยิ่งต้องใช้หน่วยความจำที่มีขนาดใหญ่ๆ เพื่อรองรับการทำงานได้โดยไม่เสียเวลา ข้อมูลที่มี ขนาดใหญ่ๆ นั่นก็คือข้อมูลของภาพ ที่มีสีและความละเอียดของภาพสูงๆ กลับไปหน้าเมนู

6. 2.ความละเอียดในการแสดงผล2.ความละเอียดในการแสดงผล • การ์ดแสดงผลที่ดีจะต้องมีความสามารถในการแสดงผลในความละเอียดสูงๆ ได้เป็นอย่างดี ความละเอียดในการแสดงผลหรือ Resolution ก็คือจำนวนของจุดหรือพิเซล (Pixel) ที่การ์ดสามารถนำไป แสดงบนจอภาพได้ จำนวนจุดยิ่งมาก ก็ทำให้ภาพที่ได้ มีความคมชัดขึ้น ส่วนความละเอียดของสีก็คือ ความสามารถในการแสดงสี ได้ในหนึ่งจุด จุดที่พูดถึงนี้ก็คือ จุดที่ใช้ในการแสดงผล ในหน้าจอ เช่น โหมดความละเอียด 640x480 พิกเซล ก็จะมีจุดเรียงตามแนวนอน 640 จุด และจุดเรียงตามแนวตั้ง 480 จุด • โหมดความละเอียดที่เป็นมาตรฐานในการใช้งานปกติก็คือ 640x480 แต่การ์ดแสดงผลส่วนใหญ่ สามารถที่จะแสดงผลได้หลายๆ โหมด เช่น 800x600, 1024x768 และการ์ดที่มีประสิทธิภาพสูงก็จะ สามารถแสดงผลในความละเอียด 1280x1024 ส่วนความละเอียดก็มี 16 สี, 256 สี, 65,535 สี และ 16 ล้านสีหรือมักจะเรียกกันว่า True Color กลับไปหน้าเมนู

7. 3.อัตราการรีเฟรชหน้าจอ3.อัตราการรีเฟรชหน้าจอ • การ์ดแสดงผลที่มีประสิทธิภาพ จะต้องมีอัตราการรีเฟรชหน้าจอได้หลายๆ อัตรา อัตราการรีเฟรชก็คือ จำนวนครั้งในการกวาดหน้าจอ ใหม่ในหนึ่งวินาที ถ้าหากว่าอัตรารีเฟรชต่ำ จะทำให้ภาพบนหน้าจอ มีการกระพริบ ทำให้ผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ เกิดอาการล้า ของกล้ามเนื้อตา และอาจทำให้เกิดอันตราย กับดวงตาได้ • อัตราการรีเฟรชในปัจจุบันมีมากกว่า 100 เฮิรตซ์ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของการ์ดแสดงผล ถ้าใช้จอภาพขนาดใหญ่ อัตรารีเฟรช ยิ่งต้องเพิ่มมากขึ้น อัตรารีเฟรช ยิ่งมากก็ยิ่งดี กลับไปหน้าเมนู

8. ตัวอย่างการ์ดแสดงผลในปัจจุบันตัวอย่างการ์ดแสดงผลในปัจจุบัน XFX GeForce GTX275 XXX Edition

9. XFX GeForce GTX275 XXX Edition • XFX นบเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่เหล่าเกมเมอร์หรือผู้ที่ชื่นชอบการOverclock เจาะจงเลือกใช้เป็นอันดับต้นๆ เสมอ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เป็นเมนบอร์ดและกราฟิกการ์ดที่ได้สร้างชื่อเสียงไว้จนเราคุ้นเคยกันดี สำหรับในบ้านเราจะมีบริษัท เอสเซนตี้ รีซอร์สเซส จำกัด หรือที่รู้จักกันในชื่อ ARC นำเข้ามาจำหน่ายให้แฟนๆ ได้เลือกใช้กัน อีกทั้งเพิ่มความมั่นใจในการบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม ช่วยให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจและไว้วางใจในทุกๆ ผลิตภัณฑ์มากขึ้น สำหรับกราฟิกการ์ดที่เราได้รับมาทดสอบในวันนี้เป็นรุ่น Geforce GTX275 มีชิพเซ็ต GT200 ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการประมวลผลภาพกราฟิกภายในเกมสามมิติ (3D) ใหม่ในปัจจุบันที่มีความซับซ้อนมากๆ ให้มีความสวยงาม และราบรื่นสามารถเล่นเกมได้โดยไม่มีอาการสะดุดให้เสียอารมณ์ นอกจากนั้นแล้ว XFX Geforce GTX275 ยังมีความสามารถในการเล่นไฟล์Media ความละเอียดสูง (HD) ได้ดีอีกด้วย

10. XFX GeForce GTX275 XXX Edition • คุณสมบัติผลิตภัณฑ์ • ผลการทดสอบ

11. คุณสมบัติผลิตภัณฑ์ • รูปแบบกล่องแพ็กเกจในระยะหลังๆ ทาง XFX จะเลือกใช้โทนสีดำ-เขียว ออกแบบรูปทรงคล้ายแท่งสีเหลี่ยมเหมือนๆ กันเกือบทั้งหมด ที่ด้านหน้าโดดเด่นด้วยตัวอักษร GTX ขนาดใหญ่ที่ดูดุดันมากทีเดียว พร้อมกันนั้นที่ด้านข้างกล่องได้ระบุความต้องการของเพาเวอร์ซัพพลายที่แนะนำขั้นต่ำที่ 550 วัตต์ด้วยกัน ส่วนอุปกรณ์อื่นที่จำเป็นให้มาใช้งานอีกเล็กน้อย รวมไปถึง Key สำหรับโปรแกรม 3D Mark vantage เพื่อใช้ในการทดสอบประสิทธิภาพและความแรงของกราฟิกการ์ดด้วยความสามารถของ API DirectX10 บน Window vista สำหรับตัวการ์ด XFX GeForce GTX275 ยังคงมาพร้อมชุดระบายความร้อนในรูปแบบ Referent Card โดยที่ไม่ได้ทำการปรับเปลี่ยนส่วนใดๆ เพิ่มเข้ามา แผ่น PCB ที่ใช้มีสำดำทั้งสองด้าน ซึ่งดูแล้วมีความประณีตในการประกอบในทุกๆ จุดเลยทีเดียว ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะนับเป็นจุดเด่นของ XFX มานานแล้ว แต่ที่สะดุดตามากเป็นพิเศษจะอยู่ที่ด้านหน้ากล่องสังเกตเห็นว่ามีการสกรีนตัวอักษร XXX Edition พ่วงท้ายมาด้วย นั่นแสดงว่าค่า XFX ย่อมมีความพิเศษที่ไม่เหมือนกับ Referent Card อื่นๆ ย่างแน่นอน สำหรับชิพเซ็ต NVIDIA GTX275 (GT200) จะบรรจุทรานซิสเตอร์ไว้มากถึง 1,400 ล้านตัว วางไว้บน Die ขนาด 487 mm2 ใช้เทคโนโลยีการผลิตด้วยขนาดที่เล็กเพียง 55 นาโนเมตร ซึ่งช่วยให้ GPU มีความร้อนน้อยลงจากเดิมได้มากทีเดียว ออกแบบให้มี Processor Cores 240 Units ซึ่งทาง XFX ได้คัดเลือกชิพเซ็ตที่ได้คุณภาพมาทำการโอเวอร์คล๊อกความเร็วให้เหนือกว่า Referent Card ทั่วไปที่ความเร็ว GPU 670MHz, Shader 1476MHz, Memory 2360MHz, Pixel Fillrate 18.8Gpixel/s, Texture Fillrate 42.9GTexel/sทางด้านหน่วยความจำ NVIDIA ยังคงเป็นชนิด GDDR3 มีความจุ 896MB มี Bus width 448-bit, Band width 132.2GB/s สำหรับชิพเซ็ต NVIDIA GTX275 ยังคงมีชุดคำสั่ง PhysX มาด้วยเช่นเคยเพื่อการคำนวณข้อมูลที่มีความซับซ้อนของระบบฟิสกส์ภายในเกมให้ดูสมจริง และเฟรมเรทไหลรื่นไม่สะดุด นอกจากนั้นจะ NVIDIA CUDA เทคโนโลยีที่มีความยืดหยุ่นในการเขียนโปรแกรมต่างๆ มาใช้งาน GPU ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการทำงานด้านภาพกราฟิก ตัดต่อวีดีโอ หรือดูหนังด้วยไฟล์ HD เป็นต้น กลับไปหน้าเมนู GTX275

12. ผลการทดสอบ • เมื่อติดตั้งและลงไดร์ฟเวอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราตรวจวัดอุณหภูมิที่ตัวการ์ดด้วยโปรแกรม GPU-Z และ Hardware monitor พบว่ามีอุณหภูมิเท่ากันที่ 44 องศาเซลเซียส นับว่าตัวการ์ดมีความร้อนน้อยมากทีเดียวเมื่อเทียบกับกราฟิกการ์ดที่มาด้วยชุดระบายความร้อนแบบ Referent Card ในรุ่นก่อนหน้านี้ ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตทรานซิสเตอร์ขนาด 65 นาโนเมตร สำหรับผลคะแนนจากการทดสอบด้วยโปรแกรมเบนซ์มาร์กที่เราเตรียมไว้ นับว่าสูงมากทีเดียว นั่นแสดงได้ถึงสมรรถนะที่ทรงพลัง สามารถนำไปเล่นเกม 3D ที่มีในปัจจุบันได้ทั้งหมด รวมไปถึงการดูหนัง HD ด้วยเช่นกัน เมื่อนำ XFX GeForce GTX275 ไปใช้งานจริง และเล่นเกมก็สามารถใช้งานได้เป็นปกติ สามารถเล่นเกมติดต่อกันเป็นเวลา 3-4 ชั่วโมงได้สบาย โดยไม่มีอาการค้างหรือจอฟ้ามารบกวน ส่วนความสามารถในการโอเวอร์คล๊อก เราสามารถพากราฟิกการ์ดรุ่นนี้ไปที่ 725/1600/2400MHz (Core/MEM/Shader) และสามารถใช้ทำงาน เล่นเกมได้ปกติ โดยรวมแล้วนับว่าเป็นกราฟิกการ์ดที่มีประสิทธิภาพสูงอีกหนึ่งรุ่น สามารถใช้งานได้ครอบคลุมทั้งการทำงานและความบันเทิงได้ครบทั้งหมด กลับไปหน้าเมนู GTX275

13. ขอบคุณครับ