10 likes | 91 Views
ขอเชิญเข้าร่วม การปฐมนิเทศโครงการและการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อกำหนด ขอบเขตและ แนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ( Public Scoping). โครงการท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง.
E N D
ขอเชิญเข้าร่วมการปฐมนิเทศโครงการและการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อกำหนดขอบเขตและขอเชิญเข้าร่วมการปฐมนิเทศโครงการและการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อกำหนดขอบเขตและ แนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (Public Scoping) โครงการท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ความเป็นมาและความจำเป็น : จากข้อมูลของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) พบว่า ปัจจุบันการกระจายสินค้าระหว่างท่าเรือแหลมฉบัง กับพื้นที่หลังท่าส่วนใหญ่เกือบร้อยละ 90 ยังใช้รูปแบบการขนส่งทางถนนเป็นหลัก ซึ่งเป็นรูปแบบที่สิ้นเปลืองพลังงานและมีผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมสูงที่สุด โดยมีการขนส่งทางรางเพียงร้อยละ 9 และทางชายฝั่งและลำน้ำประมาณร้อยละ 2 เท่านั้น ทำให้ประเทศไทยมีต้นทุนทางด้าน Logistics สูงมาก เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศคู่แข่งทางการค้าที่สำคัญ ระบบการขนส่งที่มีต้นทุนต่ำที่สุดได้แก่การขนส่งทางน้ำ ปัจจุบันประเทศไทยมีการขนส่งชายฝั่งและลำน้ำน้อยมาก ทั้งนี้เนื่องจากยังขาดท่าเรือและการเชื่อมโยงกับระบบการขนส่งต่อเนื่องอื่นๆ โดยในส่วนของท่าเรือแหลมฉบังยังไม่มีท่าเทียบเรือที่ให้บริการแก่เรือชายฝั่งเป็นการเฉพาะ ทำให้เรือชายฝั่งต้องเข้าเทียบท่าเรือระหว่างประเทศเพื่อขนถ่ายตู้สินค้าส่งออกขึ้นท่า รอบรรทุกลงเรือสินค้าระหว่างประเทศ หรือรับตู้สินค้าขาเข้าจากท่าเทียบเรือระหว่างประเทศโดยตรงเ มื่อเรือระหว่างประเทศเข้ามาจึงต้องรอเรือชายฝั่งบรรทุกหรือขนถ่าย ที่ตั้งโครงการท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A)ที่ท่าเรือแหลมฉบัง สินค้าให้เสร็จเรียบร้อยก่อน หรือเรือชายฝั่งจะต้องไปเทียบท่าอื่นแทน การที่เรือชายฝั่งเข้าเทียบท่าเรือระหว่างประเทศจึงก่อให้เกิดปัญหาตารางเรือเทียบท่า (Berthing Window) ของท่าเทียบเรือระหว่างประเทศเต็ม โดยปรกติผู้ประกอบการต้องให้สิทธิ์แก่เรือสินค้าระหว่างประเทศเป็นลำดับแรกก่อน เรือชายฝั่งจึงมักต้องไปเทียบท่าอื่นแทนทำให้มีค่ายกขนและค่าเคลื่อนย้ายตู้สินค้าซ้ำซ้อน รวมทั้งมีต้นทุนเรือคอยเทียบท่า (Waiting Time) ที่สูง ซึ่งการดำเนินการในปัจจุบัน กทท.ให้เอกชนร่วมลงทุนบริหารและประกอบการท่าเทียบเรือ A0 เป็นท่าอเนกประสงค์และท่าชายฝั่ง ซึ่งสามารถรับเรือสินค้าระหว่างประเทศและเรือชายฝั่งได้ในเวลาเดียวกัน แต่แผนธุรกิจของท่าเทียบเรือดังกล่าวมีลักษณะผสมผสานการให้บริการทั้งแก่ตู้สินค้าระหว่างประเทศจากเรือคอนเทนเนอร์ สินค้าประเภทหีบห่อและสินค้าโครงการ (Project Cargo) จากเรือสินค้าทั่วไปและสินค้าที่บรรทุกยานพาหนะ (Ro/Ro) ที่ขนส่งภายในประเทศและระหว่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ โดยมีแผนรับเรือตู้สินค้าทางชายฝั่งและทางลำน้ำเพียงส่วนน้อยเท่านั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว กกท.จึงมีแนวความคิดที่จะก่อสร้างท่าเทียบเรือชายฝั่งเป็นการเฉพาะ ที่ให้บริการเป็นท่าสาธารณะอย่างแท้จริงที่ท่าเรือแหลมฉบังด้วย เพื่อให้เพียงพอที่จะรองรับและทำให้เกิดความมั่นใจที่จะขยายธุรกิจการขนส่งตู้สินค้าทางชายฝั่งและทางลำน้ำมายังท่าเรือแหลมฉบัง ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต ขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ ลักษณะโครงการเบื้องต้น : โครงการท่าเทียบเรือชายฝั่ง(ท่าเทียบเรือ A) ของท่าเรือแหลมฉบังมีขนาดของแอ่งจอดเรือเท่ากับ 115 x 120 เมตร ความลึก – 10 เมตร (MSL) โดยมีความยาว 122 เมตร และ 120 เมตร สามารถรับเรือชายฝั่งขนาดระวางบรรทุก 3,000 DWT ขนตู้สินค้าได้คราวละ 200 TEU และขนาด 1,000 DWT ขนตู้สินค้าได้คราวละ 100 TEU ได้อย่างละ 1ลำ พร้อมกันในเวลาเดียว สามารถใช้ประโยชน์พื้นที่หน้าท่าและหลังท่าสูงสุด โดยมีพื้นที่หน้า 8,760 ตารางเมตร พร้อมติดตั้งปั้นจั่นหน้าท่าและปั้นจั่นจัดเรียงตู้สินค้าในลานเพื่อให้รับตู้สินค้าได้ถึง 300,000 TEU/ปี โดยใช้ขนส่งสินค้าประเภทสินค้าอาหารแห้งและอาหารสดแช่แข็ง เช่น ยาง ข้าว ฯลฯ แหล่งเงินทุน:การท่าเรือแห่งประเทศไทย แนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของโครงการดำเนินการตามแนวทาง ดังต่อไปนี้ 1. ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติ และแนวทางในการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร-ธรรมชาติ และสุขภาพ ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2552 2. แนวทางการประเมินผลกระทบทางสุขภาพในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (มกราคม, 2553) 3. แนวทางการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพสำหรับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (เมษายน, 2553) โดยได้กำหนดกรอบการศึกษาให้มีการกลั่นกรองผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากกิจกรรมการพัฒนาโครงการซึ่งอาจส่งผลกระทบเป็นสิ่งคุกคามต่อสุขภาพของชุมชนทั้งในระยะก่อสร้างและระยะดำเนินการโครงการ จากนั้นนำผลการกลั่นกรองดังกล่าวมาประชุมปรึกษาหารือเพื่อให้เกิดกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ ประชาชนทั่วไป และภาคส่วนต่างๆ ซึ่งจะเป็นขั้นตอนของการกำหนดขอบเขตและแนวทางในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพโดยสาธารณะ (Public Scoping) ต่อไป กำหนดการการปฐมนิเทศโครงการและการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น เพื่อกำหนดขอบเขตและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (Public Scoping) วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 08.30 – 12.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร 9 อาคารกิจกรรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมล่วงหน้าได้ที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา 199 หมู่ 6 ทุ่งสุขลา ศรีราชา ชลบุรี 20230 โทรศัพท์ : 0-3835-4587 ต่อ 2796 โทรสาร 0-3835-4587 โทรศัพท์มือถือ 0-5848-07497 อีเมล์ : srcnps@ku.ac.th