1 / 12

คิดแบบเศรษฐี

คิดแบบเศรษฐี. วอร์เรน บัฟเฟตต์. บุคคลที่รวยที่สุดคนหนึ่งในโลก. วอร์เรน เอ็ดเวิร์ด บัฟเฟตต์ ( Warren Edward Buffett ) เกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2473 ที่โอมาฮา, เนบราสกา ประเทศสหรัฐอเมริกาปัจจุบันเป็นนักลงทุน นักธุรกิจชาวอเมริกัน

Download Presentation

คิดแบบเศรษฐี

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. คิดแบบเศรษฐี วอร์เรน บัฟเฟตต์ บุคคลที่รวยที่สุดคนหนึ่งในโลก

  2. วอร์เรน เอ็ดเวิร์ด บัฟเฟตต์ (Warren Edward Buffett) เกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2473 ที่โอมาฮา, เนบราสกา ประเทศสหรัฐอเมริกาปัจจุบันเป็นนักลงทุน นักธุรกิจชาวอเมริกัน ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เขาเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก เป็นผู้ถือหุ้น รายใหญ่และซีอีโอของบริษัท เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ เขาได้รับการจัดอันดับให้เป็นบุคคลที่ร่ำรวย ที่สุดในโลกในช่วงครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2551 จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ โดยมีทรัพย์สิน ประมาณ $50.0 พันล้าน มักจะได้รับฉายาว่าเป็น เทพพยากรณ์แห่งโอมาฮา หรือไม่ก็ ปราชญ์แห่งโอมาฮา และใน ปี พ.ศ.2551ได้เป็นเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกด้วยจำนวนเงิน 62,000ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ชีวิตส่วนตัวของเขาเรียบง่ายและสมถะมาก เขายังคงขับรถเก่าๆ ไปทำงาน บ้านที่อยู่ก็บ้านเก่า และเขาก็ยังอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมในเมืองโอมาฮา เนบราสกา ซึ่งเป็นบ้านที่เขาซื้อมาด้วยราคา 31,500 เหรียญ เมื่อปี พ.ศ. 2501หรือตั้งแต่ 54 ปีที่แล้ว อาหารที่กินประจำยังเป็นแมคโดนัลด์กับโค้ก ซึ่งเขากินวันละหลายๆ กระป๋องประมาณ 15 กระป๋องต่อวัน เนื่องจากเป็นสินค้าของกิจการที่เขาลงทุนอยู่ มูลค่าหุ้นของเขาเป็นล้านล้านบาท แต่เขากลับจ่ายเงินเดือนให้กับตัวเองเพียงปีละ 1-2แสนดอลลาร์เท่านั้นเอง และไม่เคยขายหุ้นของตัวเองเลยตลอดชีวิต เขาขับรถเก่ายี่ห้อ Lincoln Townไปทำงานเอง ไม่มีเลขาหน้าห้อง บนโต๊ะทำงานไม่เคยมีเครื่องคอมพิวเตอร์ดูราคาหุ้น ชอบใช้ชีวิตในแบบเดิมๆเงินที่เขาหาได้ เขาเอามาใช้น้อยมาก

  3. อย่างไรก็ตาม ข่าวคราวที่สร้างความโด่งดังให้แก่วอร์เรน บัฟเฟตต์ มากที่สุดในชีวิตของเขาก็คือการที่เขา ยกทรัพย์สินถึง 85 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณสามหมื่นเจ็ดพันล้านเหรียญ ให้แก่ มูลนิธิบิลล์และเมลินดา เกตส์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาโดยสองสามีภรรยาเกตส์เพื่อนเก่าแก่ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ยังมีผลให้มูลนิธินี้กลายเป็นมูลนิธิที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเงินจำนวนนี้ถือเป็นเงินบริจาคที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกที่เคยมีมา เงินนี้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ หามาเองเกือบทั้งสิ้นตลอดชีวิตการลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก และได้รับการยกย่องว่าเป็นนักธุรกิจตัวอย่าง ที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม และไม่ฟุ้งเฟ้อเขาเชื่อว่าเงินที่เขาได้มานั้น เขาต้องการที่จะทำในสิ่งที่มีประโยชน์และทำให้เขารู้สึกภูมิใจ และเขายังคาดหวังว่า การตัดสินใจบริจาคทรัพย์สมบัติครั้งนี้ จะเป็นแบบอย่างแก่บรรดาเศรษฐีทั้งหลายให้ทำบุญสร้างกุศล โดยการบริจาคให้มูลนิธิต่าง ๆ ที่มีอยู่ โดยไม่ต้องแข่งกันตั้งมูลนิธิขึ้นมาใหม่ ส่วนการที่เขาบริจาคให้กับมูลนิธิของบิล เกตส์ เพราะเชื่อมั่นในนโยบายช่วยเหลือคนด้อยโอกาสจริง ๆ

  4. บัฟเฟตต์พูดอยู่เสมอว่าเขาเป็นคนที่โชคดีมากเขากล่าวไว้ว่า “ผมรู้สึกอยู่เสมอว่าควรจะ ตอบแทนสังคม และครอบครัวของผมก็เห็นด้วยกับผม คำถามก็คือว่า จะตอบแทนอย่างไร” และ“ผมไม่ใช่คนที่ปรารถนาในความมั่งคั่งอย่างราชา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อทางเลือกหนึ่งยังมีคนอีกจำนวน 6,000 ล้านคน ยังจนกว่าที่เรามีอยู่มาก”

  5. เศรษฐี ในทางพุทธศาสนา คนรวยธรรมดา ๆ ถือครองทรัพยากรการเงินมากกว่าชาวบ้าน เรียกว่า “วาณิช” แต่วาณิชที่รวยแล้วก็ให้ ได้แล้วก็แบ่งปัน เรียกว่า “เศรษฐี” เพราะ “เศรษฐี แปลว่าผู้ประเสริฐ” "รวยแล้วให้ ได้แล้วแบ่งปัน"

  6. ข้อคิดให้สติทางการเงินข้อคิดให้สติทางการเงิน ข้อคิดให้สติทางการเงิน จาก วอร์เรน บัฟเฟตต์

  7. Hard work : All hard work bring a profit, but mere talk leads only to poverty. ความขยัน: ทุกความขยัน....นำรายได้มาให้ , แค่พูดมีแต่นำความ ยากจน มาให้

  8. Laziness : A sleeping lobster is carried away by the water current. ขี้เกียจ: กุ้งลอบสเตอร์ที่หลับ จะถูกกระแสน้ำพัดพาหายไป Spending : If you buy things you don’t need, you’ll soon sell things you need. การใช้จ่าย: ถ้าคุณ “ซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น” คุณจะต้อง “ขายสิ่งที่จำเป็น”....ในไม่ช้า

  9. Earnings : Never depend on a single source of income. (At least make your investments get you second earning) เงินที่หาได้ : อย่าพึ่งพา “แหล่งรายได้เพียงทางเดียว” เป็นอันขาด (อย่างน้อยทำให้ “การลงทุนใด ๆ” เกิดเป็นรายได้แหล่งที่ 2 ของคุณ) Savings : Don’t save what is left after spending; Spend what is left after saving. การออม :อย่าเพียงออมเท่าที่เหลือจากการใช้จ่าย , แต่ให้ใช้จ่าย ในส่วนที่เหลือจากการออมแล้ว

  10. Borrowings : The borrower becomes the lender’s slave. การยืม : คนเป็น “ลูกหนี้” กลายเป็น... “ทาสของเจ้าหนี้”

  11. Accounting : It’s no use carrying an umbrella, if your shoes are leaking. ทำบัญชี : จะมีประโยชน์อะไรในการกางร่ม , ถ้ารองเท้าของคุณฉีกขาดอยู่ Auditing : Beware of little expenses; A small leak can sink a large ship. ตรวจสอบ :ระมัดระวังแม้รายจ่ายเล็กน้อย , รอยรั่วเล็ก ๆ สามารถจมเรือใหญ่ ๆ ได้

  12. Risk – taking : Never test the depth of the river with both feet. (Gave an alternate plan ready) การเสี่ยง :อย่าตรวจความลึกของแม่น้ำด้วยเท้า 2 ข้างเป็นอันขาด (มีแผนอื่นรองรับไว้ให้พร้อม) Investment : Don’t put all your eggs in one basket. การลงทุน :อย่าใส่ไข่ทั้งหมดของคุณ...รวมไว้ในตะกร้าเพียงใบเดียว

More Related