1 / 19

ความเสมอภาคทางเพศ

บทเรียนเพื่อการศึกษาวิชาสุขศึกษา. เรื่อง. ความเสมอภาคทางเพศ. และสถานการณ์เสี่ยงต่อการ มีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน. โดย ครูอนันต์ นุชเทศ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. โรงเรียน เซนต์ฟ รัง ซีส เซ เวียร์ จังหวัดนนทบุรี. ความเสมอภาคทางเพศ.

chesmu
Download Presentation

ความเสมอภาคทางเพศ

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. บทเรียนเพื่อการศึกษาวิชาสุขศึกษา เรื่อง ความเสมอภาคทางเพศ และสถานการณ์เสี่ยงต่อการ มีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน โดย ครูอนันต์ นุชเทศ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ จังหวัดนนทบุรี

  2. ความเสมอภาคทางเพศ หมายถึง การที่ชายและหญิงมีสิทธิ เสรีภาพในการแสดงออกซึ่ง บทบาททางเพศของตนเองที่มีต่อสังคมได้อย่างเท่าเทียมซึ่งกันและกัน แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบทีเหมาะสมของสังคม วัฒนธรรม และประเพณี ที่ดีงามของไทย

  3. ความเสมอภาคทางเพศ ปัญหาความไม่เท่ากันทางเพศระหว่างเพศชายและเพศหญิงในอดีต จึงทำให้มีการระบุสิทธิความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิงไว้ในรัฐ- ธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 มาตรา 30 ว่า... “บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตาม กฎหมายเท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน การเลือก ปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่อง ถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือ สุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อ ทางศาสนา การศึกษาอบรมหรือความคิดเห็นทางการเมือง อันไม่ขัด ต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทำมิได้”

  4. ความเสมอภาคทางเพศ จากการที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญของไทยและกฎหมายของประเทศ ต่างๆ ตลอดจนการรณรงค์เรียกร้องความเสมอภาคทางสังคมในเรื่องของ สิทธิสตรีทั่วโลกนั้น ทำให้ผู้หญิงได้รับสิทธิ ดังนี้ การยินยอมให้วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์มีโอกาสได้เรียนต่อ การเปิดโอกาสให้สตรีรับการศึกษาในระดับที่สูง การส่งเสริมอนามัยเจริญพันธุ์และสิทธิสตรี การสนับสนุนการมีส่วนร่วมทางการเมือง

  5. ความเสมอภาคทางเพศ การยินยอมให้วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์มีโอกาสได้เรียนต่อ การเปิดโอกาสให้สตรีรับการศึกษาในระดับที่สูง การส่งเสริมอนามัยเจริญพันธุ์และสิทธิสตรี การสนับสนุนการมีส่วนร่วมทางการเมือง เพื่อให้มีความรู้ความสามารถ และนำไปประกอบอาชีพได้ใน อนาคต ทำให้เข้าสู่การจ้างงานอย่างเป็น ทางการ สามารถเพิ่มผลิตผลทาง เศรษฐกิจให้มากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่ม รายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว มากขึ้น โดยให้ผู้หญิงมีสิทธิกำหนด จำนวนบุตรได้ ทำให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมทางสังคม มากขึ้น ประสบความสำเร็จในชีวิต และสามารถใช้ศักยภาพที่มีได้ อย่างเต็มที่

  6. ความเสมอภาคทางเพศ ความเท่าเทียมในเรื่องเพศ อดีตผู้หญิงที่แต่งงาน แล้ว จะต้องใช้นามสกุลสามี แต่ในปัจจุบัน พรบ. ชื่อบุคคล (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2548 มาตรา 12 มีผลทำให้ผู้หญิงมีสิทธิที่เลือกใช้ นามสกุลของตนหรือสามีก็ได้ การใช้นามสกุล การใช้คำนำหน้านามผู้หญิง พรบ. คำนำหน้านามหญิง พ.ศ. 2551 มีผล บังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 4 มิถุนายน 2551 ให้ผู้หญิงที่จดทะเบียนสมรส หรือหย่า สามารถขอใช้คำนำหน้านามว่า นาง หรือนางสาวก็ได้

  7. ความสำคัญของความเสมอภาคทางเพศความสำคัญของความเสมอภาคทางเพศ ความสำคัญของความเสมอภาคทางเพศ ขึ้นอยู่กับความเข้าใจใน บทบาททางเพศ และการมีสัมพันธภาพที่เหมาะสมระหว่างชายและหญิง โดยวัยรุ่นชายและวัยรุ่นหญิง จะรู้สึกอ่อนไหวกับคำพูดที่เกี่ยวข้องกับบท บาททางเพศของตนค่อนข้างมาก ประโยชน์ของการเรียนรู้เรื่องความเสมอภาคทางเพศ การเรียนรู้เรื่องความเสมอภาคทางเพศ ทำให้เรารู้จักการวางตัวต่อ เพศตรงข้าม ปัญหาทางเพศ และแนวทางการแก้ไขทางเพศ จะทำให้เรา สามารถแสดงออกพฤติกรรมทางเพศและบทบาททางเพศได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และนำความรู้ไปประยุกต์ใช้เพื่อการดำเนินชีวิตที่มีความสุขได้

  8. การวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศการวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศ การวางตัวให้เหมาะสมกับเพศของตนเอง การวางตัวให้เหมาะสมกับเพศเดียวกัน การวางตัวให้เหมาะสมกับเพศตรงข้าม

  9. การวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศการวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศ การวางตัวให้เหมาะสมกับเพศของตนเอง การแต่งกาย ควรแต่งให้สุภาพเรียบร้อย เหมาะสมกับกาลเทศะ ทั้งเพศชายและ เพศหญิง การแสดงกิริยาวาจา ควรแสดงกิริยาวาจา สุภาพ อ่อนโยน เหมาะสมกับกาลเทศะ รู้จักสำรวม - ผู้ชาย ไม่พูดจาว่าร้าย นินทา หรือใช้ คำพูดล่วงเกินผู้หญิง ไม่หยาบคาย ก้าวร้าว - ผู้หญิง ควรแสดงกิริยามารยาทสุภาพ เรียบร้อย เช่น การนั่ง ลุก เดิน เป็นต้น การคบเพื่อนต่างเพศ - ผู้ชาย ให้เกียรติผู้หญิง ปฏิบัติตนเป็น สุภาพบุรุษ ไม่เป็นนักฉวยโอกาส และ ไม่ทำให้ผู้หญิงเสื่อมเสียชื่อเสียง - ผู้หญิง รู้จักรักนวลสงวนตัว ไม่ควรไป กับเพศชายตามลำพัง

  10. การวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศการวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศ การวางตัวให้เหมาะสมกับเพศเดียวกัน หมายถึงการที่ชายกับชาย หรือหญิง กับหญิงประพฤติปฏิบัติต่อกันเพื่อสร้าง สัมพันธภาพที่ดีระหว่างกัน ด้วยการพูด จาสุภาพ ไพเราะ หรือแสดงกิริยาท่า ทางที่เป็นมิตรต่อกัน ให้ความช่วยเหลือ ตามความเหมาะสม ชักชวนกันปฏิบัติ ในสิ่งที่ดี มีความเอื้ออาทรต่อกัน

  11. การวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศการวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศ การวางตัวให้เหมาะสมกับเพศตรงข้ามในฐานะเพื่อน การวางตัวให้เหมาะสมกับเพศตรงข้ามในฐานะคู่รัก

  12. การวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศการวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศ การวางตัวให้เหมาะสมกับเพศตรงข้ามในฐานะเพื่อน เพศชาย เพศหญิง 1. ควรแต่งกายให้สุภาพ 1. ควรแต่งกายให้สุภาพ 2. ใช้วาจาสุภาพ 2. ใช้วาจาสุภาพ 3. กิริยาอาการสุภาพบุรุษ 3. กิริยาอาการสุภาพสตรี 4. แสดงความห่วงใยในเรื่องความ ปลอดภัยต่างๆ 4. แสดงความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อ แผ่ รู้จักการขอบคุณ 5. การให้ความสนิทสนมควรอยู่ใน ขอบเขต 5. ไม่อยู่ตามลำพังกับเพศชายใน ที่ลับตาคนสองต่อสอง

  13. การวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศการวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศ การวางตัวให้เหมาะสมกับเพศตรงข้ามในฐานะคู่รัก ชาย-หญิง ที่มีความสัมพันธ์กัน ในฐานะคู่รัก ควรจะศึกษาอุปนิสัย ค่านิยม ความต้องการ ความพึงพอใจซึ่งกัน และกัน เพื่อให้ความสัมพันธ์พัฒนาต่อไปจนถึงการ ตัดสินใจที่จะสมรสและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ควรทำความ รู้จักกับญาติของทั้งสองฝ่าย เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับครอบครัว และสร้างความสัมพันธ์ในระหว่างญาติก่อนแต่งงาน

  14. การวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศการวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศ การวางตัวให้เหมาะสมกับเพศตรงข้ามในฐานะคู่รัก ลำดับขั้นตอนของการสร้างสัมพันธภาพความรัก มี 3 ขั้นตอน คือ - มิตรภาพ - ความรัก - ความสัมพันธ์ทางเพศ ซึ่งทั้ง 3 ขั้นตอนนี้ - เพศหญิง จะมีพัฒนาการตามลำดับ จากมิตรภาพ ความรัก ถึงขั้นสุดท้ายคือ ความสัมพันธ์ทางเพศ - เพศชาย จะมีพัฒนาการข้ามขั้น คือ เริ่มจากมีมิตรภาพก่อน แล้วจึง ข้ามขั้นตอนมาเป็นความสัมพันธ์ทางเพศเลย ไม่ต้องมีความรัก

  15. การวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศการวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศ 4. แสดงกิริยาต่างๆ เช่น นั่ง เดิน ยืน อย่างสุภาพ เรียบร้อย มีบุคลิกภาพดี 5. ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ 6. ให้ความสนิทสนมใน ขอบเขตไม่คลุกคลีมาก เกินไป และไม่ฉวยโอกาส 3. ให้เกียรติผู้หญิง 2. ใช้วาจาสุภาพ 7. ไม่สูบบุหรี่ ดื่มสุรา หรือเสพสารเสพติด 1. แต่งกายสุภาพ

  16. การวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศการวางตัวอย่างเหมาะสมทางเพศ 6. ไม่ควรให้รับของกำนัลจาก ฝ่ายชายบ่อยๆ โดยไม่มี เหตุผลอันสมควร 5. ไม่แสดงกิริยาสนิทสนมกับ ฝ่ายชายมากเกินไป 7. แสดงกิริยาที่เหมาะสม สุภาพ ไม่สูบบุหรี่ ดื่มสุรา หรือเสพสารเสพติด 4. รักนวลสงวนตัว ไม่เปิด โอกาสให้ฝ่ายชาย 3. มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จัก ขอบคุณอย่างจริงใจ 8. รู้จักมารยาทสังคม การเดิน การนั่ง การยืน ต้องดูเรียบ ร้อย เหมาะสมกับกาลเทศะ 2. ใช้วาจาสุภาพ 9. รักนวลสงวนตัว ไม่เปิด โอกาสให้ฝ่ายชาย 1. แต่งกายสุภาพ

  17. สถานการณ์เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนสถานการณ์เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน สถานการณ์เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ หมายถึง เวลา สถานที่ โอกาส สภาพแวดล้อมอารมณ์ และตัวบุคคลทั้งชายและหญิง ที่จะนำไปสู่การมีเพศ สัมพันธ์ได้ง่าย ซึ่งสถานการณ์ต่างๆ นั้น มีดังนี้ 1. การสัมผัส การโอบกอด การจูบ 2. การอยู่ในที่ลับตาคน 3. การถูกชักชวนยั่วยุให้ดูสื่อทางเพศ 4. การถูกชักชวนให้ไปดูสิ่งแปลกๆ 5. การไปเที่ยวในสถานบันเทิงเริงรมย์

  18. สถานการณ์เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนสถานการณ์เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน ปัญหาและผลกระทบจากการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน เสียการเรียน ความอับอาย ความทุกข์ใจ การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ การทำแท้ง เด็กเกิดมามีปัญหา สร้างความทุกข์ให้พ่อแม่ เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล

  19. สถานการณ์เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนสถานการณ์เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน การหลีกเลี่ยงสถานการณ์เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน 1. เรียนรู้ถึงความคิดต่างกันของหญิงชายในเรื่องเพศ 2. รู้จักการวางตัวให้เหมาะสมทางเพศ 3. ผู้หญิงไม่แต่กายล่อแหลม 4. หลีกเลี่ยงสถานการณ์เสี่ยงทางเพศ การถูกเนื้อต้องตัว การพักค้างคืนร่วมกัน โดยไม่มีผู้ใหญ่ดูแล การอยู่ในที่ลับตาคนตามลำพัง การนัดหมายกับเพศตรงข้ามในยามวิกาล การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการใช้สารเสพติด การเที่ยวในยามวิกาล หรือการเดินทาง ในที่เปลี่ยว

More Related