360 likes | 1.11k Views
วิจัยปรากฏการณ์วิทยา ( Phenomenology study ). คณะผู้จัดทำ ณรงค์ศักดิ์ พรมวัง ๑ ๕๓๓ JCe ๒๐๑ บุญเลิศ จันดีนุพาบ ๒ ๕๓๓ JCe ๒๐๔ พิเชษฐ เทบำรุง ๓ ๕๓๓ JCe ๒๐๕.
E N D
วิจัยปรากฏการณ์วิทยา (Phenomenologystudy) คณะผู้จัดทำ ณรงค์ศักดิ์ พรมวัง๑ ๕๓๓JCe๒๐๑ บุญเลิศ จันดีนุพาบ๒ ๕๓๓JCe๒๐๔ พิเชษฐ เทบำรุง๓ ๕๓๓JCe๒๐๕ ๑รร.มัธยมวานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ๒วิทยาลัยครูสะหวันนะเขต สปป.ลาว ๓มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร อ.พังโคน จ.สกลนคร
วิจัยปรากฏการณ์วิทยา (Phenomenologystudy) เป็นแนวทางศึกษาโดยวิธีการให้บุคคลอธิบายเรื่องราว และ ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ตนเองประสบมา • โดยมีฐานความคิดว่า มนุษย์จะรู้ดีในเรื่องที่ตนเองมีประสบการณ์มาก่อน • โดยการรับรู้และรู้ความหมายในขณะที่มีสติสัมปชัญญะ
ปรัชญาการวิจัยแนวปรากฏการณ์วิทยาปรัชญาการวิจัยแนวปรากฏการณ์วิทยา เนื่องจากวิธีการวิจัยนี้อาศัยแนวคิดและทัศนะจากจากปรัชญา ปรากฏการณ์วิทยา ซึ่งเป็นปรัชญาประเภทจิตนิยม (idealism) ดังนั้นจึงต้องทำความเข้าใจปรัชญานี้เพื่อจะช่วยให้เข้าใจในการทำ วิจัยด้วยวิธีนี้ได้ดีขึ้น เช่น
ปรัชญาการวิจัยแนวปรากฏการณ์วิทยา (ต่อ) ๑. ปรากฏการณ์วิทยาแนวสัจนิยม (Realistic phenomenology) เน้นการค้นหาแก่นสารที่เป็นสากลของวัตถุ / สสารต่างๆ อย่างหลากหลาย รวมไปถึงกิจกรรมมากมายของมนุษย์ แรงกระตุ้น และตัวตนต่างๆ
ปรัชญาการวิจัยแนวปรากฏการณ์วิทยา (ต่อ) ๒. ปรากฏการณ์วิทยาแนวอัตถิภาวะ (existential phenomenology) กล่าวเกี่ยวกับการนำเอาวิธีการวิเคราะห์มนุษย์มาใช้ในฐานะที่เป็นหนทางสู่ภววิทยารากฐาน (fundamental ontology) ซึ่งพ้นไปจากภววิทยาอาณาบริเวณต่างๆ
ปรัชญาการวิจัยแนวปรากฏการณ์วิทยา (ต่อ) ๓. ปรากฏการณ์วิทยาแนวอรรถปริวรรต (hermeneutic phenomenology) ตามแนวคิดของไฮเดกเกอร์ (Heidegger; 1889-1976) เป็นปรากฏการณ์ วิทยาการตีความ พยายามที่จะระมัดระวังในเรื่องเกี่ยวกับวิธีการของมัน นั่นคือ เป็นการอธิบายถึงระเบียบวิธีทางปรากฏการณ์วิทยา เพราะต้องการ ใส่ใจเกี่ยวกับการที่สิ่งทั้งหลายปรากฏตัวขึ้นมาอย่างไร ต้องการปล่อยให้ สิ่งต่างๆ พูดถึงตัวของตังเอง เป็นวิธีการตีความอย่างหนึ่ง เพราะอ้างได้ว่ “ไม่มีปรากฏการณ์อันใดที่ไม่ถูกตีความโดยเรา”
การศึกษาแบบปรากฏการณ์วิทยาการศึกษาแบบปรากฏการณ์วิทยา สามารถจำแนกได้ ๒แนวทางใหญ่ๆ ดังนี้ ๑. ประสบการณ์ของบุคคลคืออะไร และบุคคลนั้นให้ความหมาย ต่อโลก และประสบการณ์ของเขาอย่างไร ๒. เราจะสามารถรู้ได้ว่าประสบการณ์ของบุคคลอื่น เป็นประสบการณ์ที่เราไปรับรู้ได้อย่างไร
วิธีการศึกษาปรากฏการณ์วิทยาวิธีการศึกษาปรากฏการณ์วิทยา แบ่งออกได้ ๓ประเภท ดังนี้ ๑. ปรากฏการณ์วิทยาในเชิงศาสตร์แห่งการตีความ เป็นการศึกษา ประสบการณ์ตรงของบุคคล ให้ความสนใจเกี่ยวกับความรู้สึก และสิ่งแวดล้อมของบุคคล ค้นหาประเด็นเนื้อหาทางด้านวัฒนธรรมของ มนุษย์ ความสัมพันธ์ของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น บุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ จะสะท้อนความรู้สึกในเหตุการณ์นั้น ๆ ออกมา การวิเคราะห์ จะมุ่งเจาะหาความหมาย และความรู้สึกนึกคิดของบุคคลที่มีต่อเหตุการณ์ นั้นเป็นการเฉพาะ
วิธีการศึกษาปรากฏการณ์วิทยา (ต่อ) ๒. ปรากฏการณ์วิทยาเชิงประจักษ์ เป็นการศึกษาแนวคิดและกระบวนการในด้านความรู้ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ การสะท้อนความรู้สึก ความคิด และประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา เป็นการค้นหาพฤติกรรมของบุคคลที่แสดงออกมาโดยตรง
วิธีการศึกษาปรากฏการณ์วิทยา (ต่อ) ๓. ปรากฏการณ์วิทยาแนวการสืบค้นด้วยตนเอง เป็นการศึกษาเพื่อหาความหมายในปัญหาที่น่าสนใจ เพื่ออธิบายว่าทำไมมนุษย์จึงมีพฤติกรรมเช่นนั้น หรือทำไมจึงเกิดปัญหาเช่นนั้น โดยทั่วไปผู้วิจัยจะต้องมีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับประสบการณ์ของบุคคลเหล่านั้น
แนวทางของการศึกษาในแนวทางของปรากฏการณ์วิทยาแนวทางของการศึกษาในแนวทางของปรากฏการณ์วิทยา มีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ การค้นหาประเด็นปัญหาและการให้ความหมาย จาก ประสบการณ์ตรงของบุคคลผู้ให้ข้อมูล หรือผู้มีส่วนร่วมใน การวิจัยเพื่อค้นหาสิ่งที่ยังไม่มีใครเคยตอบมาก่อน
แนวทางของการศึกษาในแนวทางของปรากฏการณ์วิทยา (ต่อ) ไม่ใช่การอธิบายสาเหตุ หรือความสัมพันธ์ของตัวแปรต่าง ๆ ผู้วิจัยต้องมีการศึกษาหาความรู้ในด้านต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจ องค์ประกอบที่เกี่ยวข้องจะทำให้การสัมภาษณ์ ครอบคลุมประเด็น ต่าง ๆ มากที่สุด การวิเคราะห์ข้อมูลจะทำการจัดหมวดหมู่ของ ข้อมูลเพื่อหาความหมายและคำตอบของสิ่งที่ต้องการศึกษา
วิธีดำเนินการวิจัย Moustakas (1994) กล่าวถึงวิธีดำเนินการวิจัยแนวปรากฏการณ์วิทยา เป็น 7 ขั้นตอน ๑. กำหนดหัวข้อ และคำถามในการวิจัยที่เหมาะสมกับวิธีการศึกษาแนว ปรากฏการณ์วิทยา ๒. ทบทวนองค์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่ศึกษา ๓. กำหนดเกณฑ์สำหรับเลือกบุคคลปละปรากฏการณ์สำหรับศึกษา ๔. ให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่ผู้ที่ถูกเลือกมาศึกษา รวมทั้งจัดการกับประเด็นที่เกี่ยวกับ จริยธรรมในการวิจัย ๕. กำหนดประเด็นหรือแนวคำถามสำหรับการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก ๖. ทำการสัมภาษณ์และบันทึกการสัมภาษณ์อย่างละเอียด อาจจำเป็นต้องทำการ สัมภาษณ์ซ้ำ หลายครั้ง ๗. เตรียมข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ และดำเนินการวิเคราะห์
ปรากฏการณ์และตัวอย่างการงานวิจัยปรากฏการณ์และตัวอย่างการงานวิจัย • ปฏิสัมพันธ์ระหว่างพยาบาลกับคนไข้ • การกระทำของพยาบาลที่จัดว่าเป็นหรือไม่เป็นการดูแลรักษาในทัศนะคนไข้ • การเป็นผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น เบาหวาน มะเร็ง • การเป็นผู้ติดเชื้อ HIV • การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ • การเป็นหญิง/ชายขายบริการทางเพศ
ปรากฏการณ์และตัวอย่างการงานวิจัย (ต่อ) โดยในการเลือกตัวอย่างนั้นจุดสำคัญอยู่ที่การเลือกเพื่อให้ ได้ผู้ที่เหมาะสมนั่นคือ ต้องเป็นผู้มีประสบการณ์ หรือได้รับ ประสบการณ์ที่นักวิจัยเจาะจงศึกษากลุ่มตัวอย่างที่เลือกมาศึกษา ควรเป็นผู้ที่มีประสบการณ์มากพอสมควร อาจเป็นผู้ที่มี ประสบการณ์ในระดับใกล้เคียงกันหรือแตกต่างกันก็ได้
ปรากฏการณ์และตัวอย่างการงานวิจัย (ต่อ) การเลือกตัวอย่างสำหรับการวิจัยแนวปรากฏการณ์วิทยา ก็ไม่แตกต่างจากวิธีการในการวิจัยเชิงคุณภาพทั่วๆ ไปนั่นคือ นักวิจัยจะ เลือกแบบเจาะจง เพื่อให้ได้ตัวอย่างที่เหมาะสมกับ เป้าหมายและลักษณะของการวิจัยเป็นหลัก
การเก็บข้อมูล นักวิจัยแนวปรากฏการณ์วิทยา ใช้เครื่องมือในการเก็บข้อมูลของการวิจัยได้แก่ การสัมภาษณ์ เป็นการสัมภาษณ์แบบไม่มีโครงสร้าง เน้นให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด การสังเกต ใช้ร่วมในการเก็บข้อมูลได้
การเก็บข้อมูล (ต่อ) การสัมภาษณ์แนวปรากฏการณ์วิทยานั้น มีคำถาม 3 ประเภท ต่อไปนี้เป็นคำถามที่มีประโยชน์ ๑. คำถามเพื่อทราบรายละเอียดของปรากฏการณ์หรือสิ่งที่เกิดขึ้น จากคำพูดของผู้ให้สัมภาษณ์เอง ๒. คำถามถึงเหตุการณ์ที่มีลักษณะตรงกันข้ามกับปรากฏการณ์ที่ ศึกษา เพื่อทำความเข้าใจว่าผู้ตอบได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างจาก ปรากฏการณ์ที่เขาได้ประสบ ๓. คำถามที่จะให้ข้อมูลในรายละเอียดว่า ชีวิตประจำวันของผู้ที่ ถูกศึกษานั้นเป็นอย่างไร
การวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับการวิจัยแนวปรากฏการณ์วิทยา ในสาระสำคัญแล้วไม่ได้ต่างไปจากการวิเคราะห์ในการวิจัย เชิงคุณภาพทั่วไป ทั้งในเรื่องการเตรียมข้อมูล และการวิเคราะห์ เนื้อหา แต่สิ่งที่ปรากฏการณ์วิทยาเน้นเป็นพิเศษในการวิเคราะห์ คือการ “กลั่น” เอาความหมายของปรากฏการณ์จากข้อมูล ไม่เพียงแต่ความหมายในทัศนะของผู้ให้ข้อมูลแต่ละรายเท่านั้น แต่ความหมายโดยทั่วไปของปรากฏการณ์นั้นๆ ด้วย
การวิเคราะห์ข้อมูล(ต่อ)การวิเคราะห์ข้อมูล(ต่อ) หลังจากเตรียมข้อมูลให้อยู่ในสภาพที่พร้อมจะวิเคราะห์แล้ว ๑. ขั้นแรกของการวิเคราะห์ จะเริ่มด้วยให้นักวิจัยสำรวจ ภายในตัวเอง ว่าตนเองมีอคติ หรือมีข้อสรุปที่คิดไว้ก่อนเกี่ยวกับ ปรากฏการณ์ที่ศึกษานั่นหรือไม่ ถ้ามีต้องขจัดออกไปเสียก่อน ก่อนที่จะเริ่มต้นวิเคราะห์ข้อมูล
การวิเคราะห์ข้อมูล(ต่อ)การวิเคราะห์ข้อมูล(ต่อ) ๒. ขั้นที่สองของการวิเคราะห์ เป็นการแตกข้อมูลหรือข้อความทั้งหมด ออกเป็นส่วนย่อย ๆ ตามความหมายที่ปรากฏอยู่ในแต่ละส่วน เพื่อให้ สะดวกในการคัดแยกข้อมูลออกเป็นเรื่อง ๆ แต่ละส่วนของข้อมูลที่ชำแหละ ออกมานั่นจะถูกนิยามหรือให้ความหมาย ต่อจากนั้นส่วนต่างๆ จะถูกคัด รวมกันเป็นกลุ่ม ๆ หรือเป็นเรื่อง ๆ ตามความหมายที่เชื่อมโยงกับของส่วน เหล่านั้น แต่ละกลุ่มก็จะประกอบด้วยข้อมูลที่เป็นเรื่องเดียวกันอย่างแท้จริง นักวิจัยจะมองหา และให้ความสำคัญแก่เรื่องที่เกี่ยวกับปรากฏการณ์ศึกษาเป็น พิเศษ
การวิเคราะห์ข้อมูล(ต่อ)การวิเคราะห์ข้อมูล(ต่อ) ๓. ขั้นสุดท้ายเป็นการสังเคราะห์โครงสร้าง ในขั้นนี้นักวิจัยจะ พยายาม “กลั่น” เอาความหมายของปรากฏการณ์ออกมาจาก ประสบการณ์ของตัวอย่างที่ศึกษาทุกราย นักวิจัยจะต้องมองทะลุ ผ่านสิ่งที่ปรากฏลงไปยังความหมายที่อยู่เบื้องหลังของสิ่งนั้น เพื่อหาแก่นของประสบการณ์ชนิดนั้นทั้งหมดตามจุดมุ่งหมาย ที่นักวิจัยจะต้องไปให้ถึง
ข้อจำกัดวิธีการวิจัยแนวปรากฏการณ์วิทยาข้อจำกัดวิธีการวิจัยแนวปรากฏการณ์วิทยา Creswell (1998) กล่าวถึงสิ่งต่อไปนี้ว่าเป็นข้อจำกัดและเป็นสิ่ง ท้าทายความสามารถของนักวิจัยเชิงคุณภาพที่ใช้วิธีการศึกษาแนว ปรากฏการณ์วิทยา คือ ๑. แนวคิดทางปรัชญาของปรากฏการณ์วิทยา ๒. การเลือกตัวอย่างที่เหมาะสมสำหรับศึกษา และ ๓. การขจัดความคิดและอคติส่วนตัวของนักวิจัย
สรุปการวิจัยแนวปรากฏการณ์วิทยาสรุปการวิจัยแนวปรากฏการณ์วิทยา การวิจัยแบบปรากฏการณ์วิทยาเป็นการตีความสิ่งที่ ปรากฏให้ได้ความหมายที่แฝงซ่อนอยู่เบื้องลึกภายใน จิตใจของผู้ประสบกับปรากฏการณ์นั้น
จบการนำเสนอ ขอบคุณครับ