50 likes | 316 Views
ท่านป ลัดกระทรวง คมนาคม พลตำรวจเอก วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี มอบนโยบายให้กับผู้บริหาร และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เมื่อวันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม 2555.
E N D
ท่านปลัดกระทรวงคมนาคม พลตำรวจเอก วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี มอบนโยบายให้กับผู้บริหาร และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เมื่อวันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม 2555
1. นโยบายด้านการพัฒนาของ คค. จะมุ่งเน้นใน 2 มิติ ประกอบด้วย การพัฒนาระบบคมนาคมเพื่อลดค่าใช้จ่ายของประเทศ และการพัฒนาระบบคมนาคมเพื่อสร้างรายได้ของประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 2. นโยบายในการดำเนินงานร่วมกันของ คค. ประกอบด้วย 2.1 เร่งดำเนินงานทุกโครงการตามนโยบายรัฐบาล โดยให้มีการกำหนดแผนงานสู่การปฏิบัติ (Implementation Plan) และแผนดำเนินงาน (Action Plan) ให้ชัดเจนโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล 2.2 เร่งรัดการดำเนินงานโครงการที่มีผลต่อการลดต้นทุน โลจิสติกส์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศ โดยเน้นโครงการที่จะส่งเสริมให้เกิดการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบส่งผลให้มีการขนส่งทางรางและทางน้ำเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนการขนส่งทางถนน เช่น เร่งแก้ปัญหาคอขวดของการขนส่ง ทางรางโดยเร่งรัดโครงการพัฒนาเส้นทางรถไฟทางคู่ที่สำคัญ 6 เส้นทาง เร่งกระบวนการจัดหารถจักรและแคร่รองรับสินค้าให้เพียงพอบริการ และเร่งแก้ปัญหาคอขวดการบริการขนถ่ายตู้สินค้าทั้งที่สถานี ICD ลาดกระบัง และท่าเรือแหลมฉบัง
2.3 เร่งรัดการดำเนินงานโครงการที่มีผลต่อการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดใน กทม. และปริมณฑล เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชน เช่น การแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในระยะยาว อย่างยั่งยืน และการบรรเทาปัญหาการจราจรในระยะต้น 2.4 เร่งรัดการดำเนินโครงการที่มีผลต่อการพัฒนาส ร้างความเชื่อมโยง (Connectivity) ของการขนส่งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ทั้งภายในและระหว่างประเทศในภูมิภาค เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการขนส่งทั้งคนและสินค้า สามารถอำนวยความสะดวก แก่การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมทั้งเตรียมการรองรับสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจยุโรปและอเมริกา ส่งผลให้เศรษฐกิจย้ายฐานมาขยายตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออก จีน และอินเดีย รวมไปถึงการเตรียมการรองรับการมาถึงของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ ในระยะยาว เช่น - การขนส่งทางอากาศ : เร่งพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 - การขนส่งทางน้ำ : พัฒนาแนวเชื่อมโยงการพัฒนาท่าเรือทวาย ที่ฝั่งตะวันตกเข้ากับท่าเรือแหลมฉบังที่ฝั่งตะวันออก พัฒนาท่าเรือ ฝั่งตะวันตกที่ท่าเรือปากบารา จ.สตูล
- การขนส่งทางถนน : พัฒนาความสมบูรณ์ของโครงข่ายถนน เพื่อเชื่อมโยงแนวเส้นทางตามกรอบความร่วมมือพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) 3 แนวเส้นทาง คือ แนวเหนือ - ใต้ แนวตะวันออก - ตะวันตก และแนวระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้ - การขนส่งทางราง : การพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงภูมิภาค ระยะที่ 1 ใน 3 เส้นทาง (กทม.- เชียงใหม่ กทม. - หัวหิน และ กทม.- โคราช – หนองคาย - เวียงจันทน์) และการพัฒนารถไฟชานเมือง 2.5 ปรับปรุง บำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางบก ราง น้ำ และอากาศ ที่มีอยู่ให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย และได้มาตรฐาน เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวกและปลอดภัย 2.6 ศึกษาและพัฒนาวิธีการนำแนวทางการใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) เพื่อใช้ในการระดมทุนสนับสนุนโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง โดยเร่งศึกษารายละเอียดวิธีการดำเนินการ ปัญหาอุปสรรค และวิธีแก้ไข โดยกำหนดให้มีคณะทำงานย่อยใน 4 ด้าน ตามนโยบาย ท่าน รวค. คือ ด้านถนนให้ กทพ. เป็นแกนนำ ด้านรางให้ รฟม. เป็นแกนนำ ด้านน้ำให้ กทท. เป็นแกนนำ และด้านอากาศให้ บกท. เป็นแกนนำ และให้คณะทำงานทุกด้านกำหนดเลือก Pilot Project ก่อนนำไปหารือร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ต่อไป
2.7 ประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานภายนอก เพื่อบูรณาการการปฏิบัติงานและการบังคับใช้กฎหมายให้เกิดประสิทธิผลอย่างเป็นรูปธรรมในการอำนวยประโยชน์ ความสุข ความสะดวก และความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน รวมถึงการเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศ 2.8 บูรณาการภารกิจของหน่วยงานในสังกัดทั้งแนวตั้งและแนวนอน เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงาน และประหยัดค่าใช้จ่ายภาครัฐ และให้ความสำคัญกับการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์สั่งการคมนาคมของกระทรวง (MOC) รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีอื่นๆ ที่เหมาะสมและทันสมัย 2.9 เน้นหลักธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการงาน/โครงการของ คค. เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงาน และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนควบคู่ไปกับการใช้หลักคุณธรรมในการบริหารงานและบุคลากร รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยการสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ และการเตรียมความพร้อมในการรองรับ AEC