270 likes | 1.17k Views
โครงงานไข่หวานเมืองสองแคว. จัดทำโดย. นายฐากูร ทัพประไพ นายกฤติโชค มากล้น นายชุติพงศ์ เกตุยิ้ม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1. โรงเรียนพุทธชินราชพิทยา. บทที่ 1 บทนำ ที่มาและความสำคัญ
E N D
โครงงานไข่หวานเมืองสองแควโครงงานไข่หวานเมืองสองแคว
จัดทำโดย นายฐากูร ทัพประไพ นายกฤติโชค มากล้น นายชุติพงศ์ เกตุยิ้ม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนพุทธชินราชพิทยา
บทที่ 1 บทนำ ที่มาและความสำคัญ เนื่องจากได้ศึกษาค้นคว้าสิทธิบัตรนานาชาติของต่างประเทศคือ ประเทศ Switzerland จากเว็บipic.moc.go.th และปัจจุบันผลิตภัณฑ์ไข่เป็นอาหารหลักของคนเรามานาน ไข่มีมากมายตามท้องตลาดและสามารถทำอาหารได้ง่าย จึงมีการคิดค้นแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไข่ธรรมดาเปลี่ยนมาเป็นไข่เค็ม ไข่เยี่ยวม้า เป็นที่มากมาย แต่ยังไม่มีใครคิดริเริ่มทำไข่หวาน คณะผู้จัดทำ จึงริเริ่มคิดการทำไข่หวานโดยต่อยอดจากไข่เค็มที่ทำมาจากการดองไข่ให้เค็ม มาเป็นใช้น้ำตาลในการแช่อิ่มแทนและเราคิดว่าถ้าเราได้ใส่น้ำใบเตยเข้าไปก็จะทำให้ไข่ มีรสหวานหอมน่ารับประทานและมีประโยชน์ยิ่งขึ้น เพราะใบเตยหรือน้ำใบเตยมีประโยชน์ในการช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำและยังช่วยบำรุงหัวใจ และคณะผู้จัดทำ ยังได้ออกแบบโลโก้บรรจุภัณฑ์เพื่อผลิตภัณฑ์ของคณะผู้จัดทำ และให้ชื่อว่า “ ไข่หวานเมืองสองแคว เพื่อเป็นที่รู้จักและเป็นของฝากของจังหวัดพิษณุโลกต่อไป
หลักการดำเนินการ ในการทำไข่หวานเมืองสองแควมีหลักการทำเหมือนไข่เค็มแต่เปลี่ยนส่วนผสมใหม่คือเปลี่ยนจากเกลือเป็นสารละลายน้ำตาลทรายและใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์คือหลักการแพร่จากของเหลวที่มีความเข้มข้นมาก(น้ำเชื่อม) ไปยังของเหลวในไข่ซึ่งมีความเข้มข้นน้อยกว่าโดยผ่านรูพรุนของไข่ วัตถุประสงค์ เป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ชอบบริโภคไข่และยังเป็นการแปรรูปเปลี่ยนรสชาติอาหารใหม่ส่วนน้ำใบเตยยังช่วยให้มีกลิ่นหอมชวนให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น
ขอบเขตการศึกษา การดำเนินการทำไข่หวานสองแควนั้น 1. ใช้ไข่เป็ด ไข่ไก่ และไข่นกกระทาจำนวนละ 10 ฟอง 2. ใช้น้ำใบเตย 4 ถ้วยตวงต่อน้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม 3. ใช้เวลาในการดองไข่ 7 วัน
บทที่ 2 เอกสารประกอบ (1) ประเภทของสิทธิบัตร : ชื่อที่บอกถึงการประดิษฐ์(11) เลขที่ประกาศโฆษณา : 220(43) วันที่ประกาศโฆษณา : 09/04/2525 (51) การจำแนกสิทธิบัตรสากล : C07D263/10A61K 31/42(21) เลขที่คำขอ : 000306เลขที่สิทธิบัตร :(22) วันที่ยื่นคำขอ : 12/12/2523วันที่ออกสิทธิบัตร :(30) การยื่นคำขอนอกราชอาณาจักร (31) เลขที่คำขอ(32) วันยื่นคำขอประเทศที่ยื่นขอCH79001141021/12/2522SwitzerlandCH800785621/10/2523SwitzerlandUS80021596512/12/2523United State of America
ผู้ขอรับสิทธิบัตร (71) ชื่อผู้ขอประเทศที่ขอเอฟ ฮอฟฟ์แมนน์-ลา โรช แอนด์โคSwitzerlandผู้ประดิษฐ์ (72) ชื่อผู้ประดิษฐ์ประเทศคาร์ล เบอร์นอเออร์Switzerlandคาร์ลแฮนซ์ โฟร์ทเนอร์Switzerland(54) ชื่อที่แสดงถึงการประดิษฐ์ น้ำดองไข่เค็ม และไข่เค็มสมุนไพร สูตรขมิ้นชัน(57) บทสรุปการประดิษฐ์ ดองไข่เค็มสมุนไพะร สูตรขมิ้นชัน ตามการประดิษฐ์ประกอบด้วยน้ำสะอาดเกลือไอโอดีน , สมุนไพรขมิ้นชัน2. น้ำดองไข่เค็มสมุนไพร สูตรขมิ้นชัน ตามข้อถือสิทธิ 1ที่เหมาะสม ประกอบด้วยน้ำสะอาด 66 - 68% โดยน้ำหนัก ,เกลือไอโอดีน 14 - 16 % โดยน้ำหนัก , สมุนไพรขมิ้นชันบดละเอียด 17 - 19% โดยน้ำหนัก3. น้ำดองไข่เค็มสมุนไพร สูตรขมิ้นชัน ตามข้อถือสิทธิ 1ที่เหมาะสมที่สุด ประกอบด้วย น้ำสะอาด 67% โดยน้ำหนัก,เกลือไอโอดีน , 15% โดยน้ำหนัก , สมุนไพรขมิ้นชันบดละเอียด18% โดยน้ำหนัก4. ไข่เค็มสมุนไพร สูตรขมิ้นชัน ที่ได้จากการดองด้วยน้ำดองไข่ของข้อถือสิทธิ 1 - 3 ข้อใดข้อหนึ่ง
ข้อถือสิทธ์ 1. น้ำดองไข่เค็มสมุนไพร สูตรขมิ้นชัน ตามการประดิษฐ์ประกอบด้วย น้ำสะอาดเกลือไอโอดีน , สมุนไพรขมิ้นชัน2. น้ำดองไข่เค็มสมุนไพร สูตรขมิ้นชัน ตามข้อถือสิทธิ 1ที่เหมาะสม ประกอบด้วยน้ำสะอาด 66 - 68% โดยน้ำหนัก ,เกลือไอโอดีน 14 - 16 % โดยน้ำหนัก , สมุนไพรขมิ้นชันบดละเอียด 17 - 19% โดยน้ำหนัก3. น้ำดองไข่เค็มสมุนไพร สูตรขมิ้นชัน ตามข้อถือสิทธิ 1ที่เหมาะสมที่สุด ประกอบด้วย น้ำสะอาด 67% โดยน้ำหนัก,เกลือไอโอดีน , 15% โดยน้ำหนัก , สมุนไพรขมิ้นชันบดละเอียด18% โดยน้ำหนัก4. ไข่เค็มสมุนไพร สูตรขมิ้นชัน ที่ได้จากการดองด้วยน้ำดองไข่ของข้อถือสิทธิ 1 - 3 ข้อใดข้อหนึ่ง(ข้อถือสิทธิ 4 ข้อ, 1 หน้า, 0 รูป)
บทที่ 3 อุปกรณ์และวิธีดำเนินงาน ไข่หวานเมืองสองแควงาน วัสดุ-อุปกรณ์ 1.ขวดโหล 3 ใบ 2.หม้อ 1 ใบ 3.ทัพพี 1 ด้าม ส่วนผสม 1.ไข่เป็ด 10 ฟอง 2.ไข่ไก่ 10 ฟอง 3.ไข่นกกระทา 10 ฟอง 4.น้ำใบเตย 4 ถ้วยตวง : ไข่อย่างละ 10 ฟอง 5.น้ำตาล 1 กิโลกรัม : น้ำใบเตย 4 ถ้วยตวง
วิธีการดำเนินงาน 1.นำไข่เป็ด ไข่ไก่ และไข่นกกระทา มาล้างให้สะอาด 2.นำไข่ที่ล้างสะอาดแล้วใส่ในขวดโหลเตรียมไว้
3.คั้นน้ำใบเตย 8 ถ้วยตวงต่อไข่10ฟองแล้วนำผ้าขาวบางกรองเศษใบเตยออก 4.นำใบเตยที่กรองแล้วมาเทใส่หม้อ แล้วนำน้ำตาลเทลงไป 5-6 ถ้วยตวง
5.เคี่ยวให้น้ำตาลละลายให้หมด แล้วปล่อยให้เย็น 6.นำน้ำใบเตยที่เย็นแล้วใส่ในขวดโหลที่เตรียมไว้ ถ้าไข่ลอยขึ้นมาให้มาไม้หรืออะไรมาขัดเพื่อไม่ให้ไข่ลอย
7.ปิดฝาให้สนิท นำไปเก็บไว้ 7 วัน 8. นำไข่ที่ครบกำหนดมาต้มโดยต้มด้วยน้ำเดือดด้วยเวลา 5-6 นาที แล้วนำมาบริโภคได้
บทที่ 4 ผลการศึกษา เมื่อครบ 7 วันเราจึงนำไข่ออกจากโหลและสามารถที่จะรับประทานได้โดยนำไข่ไปต้มในขณะที่น้ำยังอุ่นอยู่และต้มไปโดยใช้เวลา 5 นาที ถ้าต้มเลยเวลาที่กำหนด จะทำให้เนื้อไข่ขาวแข็งและอาจทำให้ไข่แตกได้ ซึ่งเมื่อต้มเสร็จแล้วไข่หวานสองแควจะมีรสชาติที่หอมหวานกลมกล่อมโดยไม่ต้องใช้น้ำตาล และไข่ยังมีสีที่น่ารับประทานอีกด้วย
บทที่ 5 สรุปผล/ข้อเสนอแนะ โครงงานไข่หวานเมืองสองแควจัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอการแปรรูปไข่ จากไข่เค็มให้กลายเป็นไข่หวานโดยใช้กรรมวิธีเดียวกับการทำไข่เค็มคือ ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์โดยมวลสารที่มีความเข้มข้นมากคือน้ำตาล ไปสู่ความเข้มข้น น้อยคือไข่ ขั้นแรกเรานำไข่เป็ดมาล้างและนำไปใส่ในขวดโหลที่สะอาดจากนั้นจึงใส่น้ำใบเตยที่มีความหวานมากๆลงไปทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ เราก็จะได้ไข่หวานกลิ่นหอมจากใบเตยมารับประทาน ไข่หวานเมืองสองแคว มีสรรพคุณช่วยในการสูญเสียน้ำของคนเราและยังช่วยเรื่องหัวใจอีกด้วย เพราะมีใบเตยเป็นส่วนผสม คณะผู้จัดทำหวังว่าไข่หวานเมืองสองแควจะกลายเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ที่ชอบบริโภคไข่หันมาลองชิมไข่หวานเมืองสองแควของเรา เราสามารถดัดแปลงส่วนผสมที่เป็นพืชสมุนไพรจากใบเตยให้กลายมาเป็นสมุนไพรอื่นๆได้ตามต้องการ ซึ่งจะได้มีสรรพคุณที่แตกต่างกันไปตามสมุนไพรนั้นๆอีกด้วย
ไข่ กินไข่ แล้วได้อะไร? ไข่ 1 ฟองประกอบด้วยเปลือกไข่ ไข่แดง และไข่ขาว ในไข่ขาวมีโปรตีนซึ่งเป็นโปรตีนที่สมบูรณ์ คือมีกรดอะมิโนที่จำเป็นอยู่ครบถ้วนให้คุณค่า ทางโภชนาการสูง ส่วนไข่แดงมี ทั้งไขมัน วิตามินและแร่ธาตุ วิตามินที่พบใน ไข่แดง คือวิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี วิตามินเคและวิตามินบีรวม ส่วนวิตามิน ซีมีเฉพาะช่วงที่ตัวอ่อนได้รับการผสมและเจริญ เติบโตเป็นระยะสั้น ๆ เท่านั้น สำหรับแร่ธาตุที่พบในไข่แดง คือ กำมะถัน โปแทสเซียม โซเดียม แคลเซียม แมกนีเซียม และเหล็กไข่จึงเป็นอาหารที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงนักโภชนาการนิยมใช้ไข่เป็นมาตรฐาน ในการตรวจสอบคุณภาพของโปรตีนของอาหารอื่น ๆ และเนื่องจากไข่มีคุณค่าทางโภชนาการและราคาถูก ช่วยเสริมสุขภาพให้ทุกคน จึงแนะนำให้ใช้ไข่แดงเป็นอาหารสำหรับทารถอายุ 5 เดือนขึ้นไป ส่วนเด็กวัยเรียนจนถึง
วัยผู้ใหญ่สามารถกินไข่ได้ทุกวัน วันละ 1 ฟอง สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่เสี่ยงต่อภาวะ ไขมันในเลือดสูง สามารถกินไข่ได้สัปดาห์ละ 3 ฟอง เพราะไข่แดงมีคอเลสเตอรอลสูง แต่ถ้ากินเฉพาะไข่ขาวสามารถกินได้ทุกวันไข่กับคอเลสเตอรอลในแต่ละวันร่างกายต้องการคอเลสเตอรอลจากอาหาร ไม่เกิน 300 มิลลิกรัม เพราะส่วนหนึ่งร่างกายสามารถสร้างได้เอง สถาบันวิจัยโภชนาการ ได้ทำการวิเคระห์หาคอเลสเตอรอลในไข่ทั้งฟอง พบว่าคอเลสเตอรอลอยู่ระหว่าง 146 -232 มิลลิกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดหากไข่ถ้าฟองใหญ่จะมีคอเลสเตอรอลสูงกว่า ฟองเล็ก และในแต่ละวันเรายังได้รับคอเลสเตอรอล จากอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ชนิดต่าง ๆด้วย คนที่มีปัญหาไขมันในเลือดสูงควรระมัดระวังในการบริดโภคไข่ เพราะอาจทำให้ได้รับคอเลสเตอรอลมากเกินไป ส่งผลให้เกิดปัญหา ไขมันอุดตันในเส้นเลือด และทำให้เกิดอาการหัวใจขาดเลือดในระยะต่อไป ฉะนั้น ปริมาณเหมาะสมในการบริโภคคือไมเกินสัปดาห์ละ 3 ฟอง
ไข่ดิบดีต่อสุขภาพจริงหรือ?ไข่ดิบดีต่อสุขภาพจริงหรือ? การกินไข่ดิบไม่มีผลดีต่อสุขภาพ เพราะในไข่ขาวดิบมีโปรตีนที่ชื่ออวิดิน เมื่อเรากินไข่ขาวดิบเข้าไป อะวิดินจะไปจำตัวกับ ไบโอดินซึ่งเป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งในลำไส้ ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมเอาวิตามินไปใช้ประโยชน์ได้ แต่ถ้าปรุงไข่ให้สุกก่อนกิน อะวิดินจะถูกความร้อนทำลายได้ นอกจากนี้ไข่ดิบยังย่อยยาก เพราะมีลักษณะเป็นเมือกลื่น และหากมีเชื้อโรคปะปนอยู่ในไข่ดิบที่เรากิน จะทำให้ได้รับเชื้อโรคก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้อีกด้วย ดังนั้นไข่ที่ควรบริโภคคือไข่ที่ปรุงให้สุก ไม่ใช่ไข่ดิบ หรือไข่สุกๆดิบๆ ความเชื่อที่ว่ากินไข่สุกๆดิบๆ เป็นสิ่งดีเป็นประโยชน์ต่อร่างกายจึงไม่เป็น ความจริงหากต้องการกินไข่ลวกให้ได้ประโยชน์ ควรลวกให้ไข่ขาวเป็นสีขุ่นไม่ใช่สีขาวใสเหมือนไข่ดิบ
น้ำตาล น้ำตาลเป็นสารประกอบ คาร์โบไฮเดรตซึ่งมีรสหวาน โดยมากได้จากน้ำตาล มะพร้าว อ้อย ถ้าเป็นความหมายเฉพาะอย่าง และทำด้วยอะไร ก็เติมคำนั้นๆ ลงไป เช่น ทำจากตาลเรียกว่าน้ำตาลโตนด ทำจากมะพร้าวเรียกว่าน้ำตาลมะพร้าว ทำจากอ้อยแต่ยังไม่ได้ทำเป็นน้ำตาลทรายเรียกว่าน้ำตาลทรายดิบ ทำเป็นเม็ดๆ เหมือนทรายเรียกว่าน้ำตาลทราย ทำเป็นก้อนแข็งเหมือนกรวดเรียกว่าน้ำตาลกรวด หลอมเป็นปึกเรียกว่าน้ำตาลปึก เป็นต้น
ใบเตย นำใบเตยสดล้างให้สะอาด หั่นเป็นท่อนๆใส่หม้อต้มด้วยน้ำสะอาด พอเดือดก็ลดไฟลง เคี่ยวไปเรื่อยๆจนมองเห็นสีของใบเตยสีเขียวอ่อนเจือจาง ตักใบเตยออกด้วยการกรองให้เหลือแต่น้ำใบเตย เอาเกลือป่นใส่ครึ่งช้อนชา ตามด้วยน้ำเชื่อม ปล่อยให้เดือดต่อไปอีก 5 นาทีอีกวิธีหนึ่ง เอาใบเตยมาล้างให้สะอาด ตากแดดให้แห้งเอาไปคั่วแล้วเก็บใส่ขวดหรือกระป๋องแบบใบชา ก็จะได้ "ชาเตยหอม" เมื่อต้องการดื่มก็เอามาชงแบบชงน้ำชา กลิ่นหอมชวนดื่ม ราคาถูก ใช้แต่งสีอาหาร เพิ่มกลิ่นหอมให้อาหาร ช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยลดอาการกระหายน้ำ ทำให้ชุ่มชื่น
โลโก้ผลิตภัณฑ์โครงงานไข่หวานเมืองสองแควโลโก้ผลิตภัณฑ์โครงงานไข่หวานเมืองสองแคว
สวัสดี ตัวแทนโรงเรียนพุทธชินราชพิทยา