1 / 21

Privilege Society

N. S. MD SAYS. Global News. Privilege Society. INSIDE CUSTOMS. Supply & Demand. ทัศนา นาท่าเรือ. All about Logistics. SNP Joke. การกุศล. ข่าวสาร SNP ฉบับที่ 136 WWW.SNP.CO.TH. S. S. S. หยิบผิด.

evelyn
Download Presentation

Privilege Society

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. N S MD SAYS Global News Privilege Society INSIDE CUSTOMS Supply & Demand ทัศนา นาท่าเรือ All about Logistics SNP Joke การกุศล ข่าวสาร SNP ฉบับที่ 136 WWW.SNP.CO.TH

  2. S S S หยิบผิด ผมเคยพบผู้ประกอบการรายหนึ่งเป็นชาวจีน เข้ามาลงทุนทำโรงงานปั่นด้ายขนาดใหญ่ในประเทศไทย ผู้บริหารเป็นชาวจีนพูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก จึงสื่อสารกับผมรู้เรื่องดี โรงงานแห่งนี้ได้รับส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน B.O.I ในประเทศไทยหลายปี และตลอดหลายปีที่ผ่านมาโรงงานนำฝ้ายดิบเข้ามา โดยสำนักงานส่งเสริมการลงทุนยกเว้นภาษาขาเข้าให้ เมื่อปั่นเป็นเส้นด้ายแล้วก็ส่งออก โรงงานปฏิบัติตนในระเบียบของ B.O.I. ทุกประการนั่นคือไม่ยอมทำผิดใดๆ และไม่ขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอื่นตามที่กำหนดให้เลือกใช้เพียงสิทธิ์เดียว เมื่อผมได้พบผู้บริหารโรงงาน ผมสอบถามท่านผู้บริหารว่า รู้เรื่องเงินชดเชยภาษีที่รัฐบาลอุดหนุนให้แก่ผู้ส่งออกในรูปบัตรภาษีหรือไม่ ปรากฎว่า ท่านผู้บริหารไม่รู้จักและไม่เคยมีใครบอกให้รู้จัก ผมจึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับเงินชดเชยให้เข้าใจ และสรุปว่าฝ้ายดิบที่นำเข้านั้น ขณะนี้อัตราอากรกระทรวงการคลังลดให้เหลือ 0% แถมฝ้ายยังถือว่าเป็นสินค้าจากการเกษตรโดยตรงที่ภาษีมูลค่าเพิ่มก็อยู่ในอัตรา 0% อีกเช่นกัน การที่โรงงานยังสิทธิยกเว้นภาษีนำเข้าแบบ B.O.I. ก็เปล่าประโยชน์ เป็นการตัดสิทธิ์โรงงานในการยื่นขอเงินชดเชยภาษีอีกต่างหาก เมื่อผมขอดูรายงานการส่งออกเส้นด้ายที่ใช้สิทธิประโยชน์ B.O.I. ของโรงงานในรอบปีที่ผ่านมา นำมาคำนวณเป็นเงินชดเชยที่โรงงานควรได้รับ ปรากฎว่าอยู่ในจำนวนประมาณ 2 ล้านบาท N N N P P P ต่อหน้า 2

  3. ขณะนั้น ผมให้ข้อแนะนำต่อโรงงานแห่งนี้ว่า หากโรงงานหารือกับ B.O.I. ขอไม่ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีขาเข้าสำหรับฝ้ายโดยผ่านพิธีการศุลกากรแบบปกติเพราะได้อัตราภาษี 0% อยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องส่งบัญชีตัดสต๊อกวัตถุดิบกับ B.O.I. เมื่อส่งออกเส้นด้ายก็ไม่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับ B.O.I. จะมีปัญหาใดตามมาหรือไม่ ปรากฎว่า โรงงานทำตามที่ผมแนะนำ หลังจากหารือกับ B.O.I. แล้ว ทำให้โรงงานได้ข้อมูลมากขึ้น ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีมากขึ้น ซึ่งบางเรื่องทางโรงงานได้รับการแนะนำจาก B.O.I.ในทางที่ดีด้วย คือ หลายกรณีอาจไม่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มขึ้น แต่ B.O.I. กลับมีคำแนะนำที่ดีกว่า เช่นในกรณีที่ผมยกตัวอย่างข้างต้น ผมนำเรื่องนี้มาอธิบายให้ท่านผู้ประกอบการรับทราบก็เนื่องจาก 2 ฉบับ ก่อนหน้านี้ ผมพยายามให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ปัจจุบันมีมากมาย และจากอิทธิพลของการค้าเสรีที่ทำให้อัตราภาษีลดลงไปจนเหลือ 0% หลายรายการ และหลายกรณี ดังนั้น หากท่านผู้ประกอบการหารือกับตัวแทนออกของของท่านเพิ่มเติมอีกสักนิด ช่วยกันหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกสักหน่อย ผมว่า ต้นทุนโลจิสติกส์ที่รัฐบาลประกาศว่า ต้นทุนของประเทศไทยสูงกว่าประเทศอื่น ก็อาจจะต่ำลงบ้างไม่มากก็น้อยครับ S N P สิทธิชัย ชวรางกูร กลับเข้าสู่หน้าหลัก

  4. Global News ไทยสบช่องเวียดนามข้าวหมด เร่งปั๊มยอดส่งออก S นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงสถานการณ์ส่งออกข้าวไทยว่า ขณะนี้ เวียดนาม ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของไทยไม่มีผลผลิตข้าวขายแล้ว จึงเป็นโอกาสที่ไทยจะส่งออกข้าว ซึ่งสอดคล้องกับแผนระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล ที่ขณะนี้กรมจัดทำใกล้เสร็จสิ้นแล้ว โดยเบื้องต้นกำหนดการระบายหลายวิธี แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเกรงจะทำให้ตลาดข้าวปั่นป่วน ส่วนการระบายข้าวในสต็อกรัฐบาลแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ขณะนี้การเจรจามีความคืบหน้ามาก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยปริมาณ และราคาที่มีเจรจาขายได้ แต่ส่วนใหญ่จะเจรจาขายข้าวสาร 5% ปีการผลิต 51-52 ปีนี้การส่งออกข้าวไทยจะไม่น้อยกว่าที่ผ่านมา เราเคยส่งออกสูงสุด 10 ล้านตัน และต่ำสุด 8.5 ล้านตัน เชื่อว่าปีนี้จะส่งออกได้ในกรอบนี้ จากการระบายข้าวในสต๊อกก่อนฤดูข้าวใหม่ออกสู่ตลาดในเดือน พ.ย.นี้ แต่ไม่จำเป็นต้องขายหมดสต๊อก เพราะต้องเก็บสำรองเพื่อความมั่นคงด้านอาหาร ทั้งของไทย และอาจต้องเผื่ออาเซียนด้วย ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลังเวียดนามมีแผนจะส่งออก 3.2 ล้านตัน น้อยกว่าครึ่งปีแรก ที่ส่งออกมากถึง 4 ล้านตันจากเป้าหมายรวม 6.5 ล้านตันในปีนี้ จึงเชื่อว่าจากนี้ไปข้าวจากเวียดนามจะออกสู่ตลาดน้อยลง ซึ่งเป็นผลดีต่อการส่งออกข้าวไทย แต่รัฐต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง เพราะมีข้าวในสต๊อกมหาศาล หากระบายครั้งละมากๆ ตลาดจะเสียหายทันที โดยรัฐน่าจะระบายครั้งละ 200,000-300,000 ตัน รวมแล้วไม่เกิน 1 ล้านตันจากสต๊อกทั้งหมดประมาณ 6 ล้านตัน. N P ไทยรัฐออนไลน์ ต่อหน้า 2

  5. เล็งใช้เอฟทีเอไทย-ชิลี เป็นประตูสู่ตลาดอเมริกาใต้ S นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี(FTA) ไทย-ชิลี เมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา และล่าสุดอยู่ระหว่างเสนอให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบ คาดว่าจะเปิดเจรจากับชิลีได้ในปลายปีนี้ ตนจึงสั่งการให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสาเหตุที่ไทยต้องการทำ FTA กับชิลี เพราะเห็นว่าชิลีเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทยในภูมิภาคอเมริกาใต้ รองจากบราซิลและอาร์เจนตินา และเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมากที่สุดในภูมิภาค และมีนโยบายเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม ถ้าทำสำเร็จจะเป็น FTA ฉบับที่ 2 ที่ไทยทำกับประเทศในภูมิภาคนี้ ต่อจาก FTA ไทย-เปรู ที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อให้ความตกลงมีผลใช้บังคับ สำหรับประโยชน์ที่ไทยจะได้จากการทำ FTA กับชิลี คือ ไทยสามารถนำเข้าวัตถุดิบสำคัญสำหรับการผลิตสินค้าของไทย ได้แก่ สินแร่ เยื่อกระดาษ อาหารสัตว์ ธัญพืช ผลไม้สด และสินค้าประมง ส่วนสินค้าส่งออกของไทยที่จะได้ประโยชน์ ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องซักผ้าและส่วนประกอบอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เป็นต้น ส่วนข้อกังวลว่าการทำ FTA ไทย-ชิลี จะทำให้บางอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบ เช่น สัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ นายอลงกรณ์มองว่าชิลีเป็นผู้ส่งออกสินค้าสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำเป็นอันดับต้นๆของขอโลก ซึ่งการเปิดเสรีด้วยอาจทำให้ไทยต้องนำเข้าเพิ่มขึ้นจนกระทบกับราคาภายในประเทศ แต่รัฐบาลได้จัดตั้งกองทุนเพื่อรองรับและเยียวยาผลกระทบจากการเปิดเสรีไว้แล้ว 2 กองทุน คือ กองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ และโครงการให้ความช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและภาคบริการ ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้า หรือกองทุน FTA ผู้ประกอบการไทยจึงไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ N P หนังสือพิมพ์แนวหน้า ต่อหน้าที่ 3

  6. เงินบาทแข็งค่าผวาป่วนส่งออก! มีสิทธิ์แตะ 30 บาทต่อดอลลาร์ S ค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดค่าเงินบาทได้แข็งค่าขึ้นมาแตะ 31.70 จาก 31.82/83 ขณะที่ตลาดออฟชอร์ อยู่ที่ 31.72/77 ซึ่งถือว่าแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 28 เดือน เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา และปรับตัวขึ้นมาแล้ว 5.0% นับแต่ต้นปีนี้ เช่นเดียวกับค่าเงินประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ที่ต่างแข็งค่าขึ้น ยังผลให้เกิดกระแสการเข้าแทรกแซงค่าเงินเพื่อยับยั้งการแข็งค่าของสกุลเงินเหล่านั้น โดยในส่วนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เข้แทรกแซงและมีคำสั่งซื้อเงินดอลลาร์ไปยังเทรดเดอร์เป็นระยะๆ ทั้งนี้ ดอลลาร์ได้อ่อนตัวลงต่ำสุดในรอบ 15 ปี เมื่อเทียบกับค่าเงินเยนอันเป็นผลมาจากแรงกดดันในเรื่องการลดลงของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี มาอยู่ที่ระดับ 5.20% ขณะที่ความวิตกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกยังคงมีอยู่ ทำให้นักลงทุนพากันเทขายเงินดอลลาร์ออกมา นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ ไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท. ผู้ส่งออก และภาคอุตสาหกรรมได้จับตาดูความผันผวนของค่าเงินบาทมาโดยตลอด โดยสาเหตุที่เงินบาทแข็งค่ามาจากไทยเกินดุลการค้ามาหลายเดือน และเงินทุนนอกประเทศไหลเข้ามาค่อนข้างมาก แนวโน้มค่าเงินบาทจะยังคงแข็งค่าไปจนถึงสิ้นปีนี้ และอาจจะแข็งค่ามาแตะ 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ และยังมีความเป็นไปได้สูง ถ้า ธปท.ไม่ยื่นมือเข้ามาจัดการก็อาจจะหลุด 30 บาท ขึ้นมา ซึ่งเงินทุนที่ทะลักเข้ามาไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แม้ว่าจะเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้น แต่ ธปท.ควรมีมาตรการว่าจะทำอย่างไรให้เงินก้อนนี้หมุนเวียนอยู่ในประเทศไทยขั้นต่ำ 2-3 เดือน ไม่ใช่ไหลเข้ามาเก็งกำไรแล้วออกไปทันที N P ต่อหน้า 4

  7. นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่องว่า สำหรับผู้ส่งออกยังไม่น่าห่วงมาก เพราะ ยังสามารถส่งออกได้เห็นได้จากในเดือน มิ.ย.53 มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 18,039 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่าราคาสินค้าไทยยังแข่งขันกับคู่แข่งได้ดี และตลาดยังเปิดกว้างสำหรับสินค้าไทย แต่ยังมีสิ่งที่กังวลคือค่าเงินของประเทศคู่แข่งอย่างเวียดนาม เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะอ่อนค่ากว่าค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้สินค้าไทยแข่งขันกับเวียดนามได้ยากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตร S N จีนตั้งกำแพงภาษีตอบโต้สินค้าไทย-เกาหลีใต้ ทุ่มตลาด กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงผ่านทางเว็บไซต์เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ว่า จีนจะตั้งกำแพงภาษีสารเคมี "กรดเทเรฟทาลิกบริสุทธิ์" ซึ่งใช้ผลิตเสื้อผ้า และพลาสติก ที่นำเข้าจากไทย และเกาหลีใต้ เพื่อตอบโต้การทุ่มตลาด หลังพบว่าสร้างความเสียหายให้อุตสาหกรรมภายในประเทศจีนอย่างรุนแรง กำแพงภาษีดังกล่าวจะมีอัตราตั้งแต่ 2 ถึง 20.1 เปอร์เซ็นต์ มีระยะเวลานาน 5 ปี ซึ่งจีนยังชี้แจงด้วยว่า การทุ่มตลาดเกิดขึ้นเมื่อสินค้าส่งออกถูกขายในราคาต่ำกว่าต้นทุนการผลิต สมาชิกองค์การการค้าโลก 153 ประเทศจึงมีสิทธิ์ตอบโต้การทุ่มตลาดในลักษณะดังกล่าวด้วยการตั้งภาษีสูงเป็นพิเศษ อนึ่ง กรดเทเรฟทาลิกบริสุทธิ์ (pure terephyhalic acid) เป็นผงผลึกใส ส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ผลิตเส้นใยสังเคราะห์หรือ "โพลีเอสเตอร์" และขวดพลาสติก P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

  8. Privilege Society S ตอน AEC เข็นครกขึ้นภูเขา? สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับวิวัฒนาการ การเติบโต ทางความสัมพันธ์ของเหล่ากลุ่มประเทศอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ที่เริ่มต้นจาก CEPT สู่ ATIGA ในปัจจุบัน ก่อนจะเข้าสู่บรรยากาศของ ASEAN Economic Community หรือ AEC กันในปี 2015 ไปแล้วนะครับ สัปดาห์นี้ ผมจะขอชวนท่านคุยต่อถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหากเราเริ่มเป็น AEC กันภายในอนาคตอันใกล้นี้กันนะครับ ตั้งแต่เข้าสู่ปี 2010 อุปสรรคทางการค้าในรูปแบบกำแพงภาษีของทั้ง 10 ประเทศ ต้องถือว่าถูกทำลายลงไปแล้วนะครับ เพราะแม้จะยังไม่เป็นทางการ แต่ก็แทบจะพูดได้เต็มปากแล้วว่า อัตราภาษีนำเข้าของการซื้อ-ขายสินค้าระหว่างประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ แทบจะกลายเป็น 0% อยู่รอมร่อแล้ว จะเหลือก็แต่สินค้าในกลุ่มอ่อนไหว (Sensitive Lists) และสินค้าที่ส่งออกไปยังกลุ่ม CLMV หรือ กัมพูชา ลาว เมียนม่าและเวียดนามเท่านั้นเองอุปสรรคทางการค้าในรูปแบบกำแพงภาษีไม่มีปัญหาแล้ว ก็เหลือแต่ที่ไม่ใช่กำแพงภาษีนี่แหละครับ ที่ยังเป็นอุปสรรคทางการค้าในภูมิภาคนี้อยู่ เผื่อท่านผู้อ่านที่ยังไม่ทราบว่า ไอ้เจ้า มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่รูปแบบภาษี (Non-Tariff Barrier : NTBs) เนี่ยมันคืออะไรกันบ้าง ผมขอยกตัวอย่างให้ฟังสั้นๆละกันว่ามีอะไรบ้าง การขอใบอนุญาตก่อนการนำเข้า การจำกัดโควตา การห้ามนำเข้า การกำหนดมาตรฐานสินค้าทั้งทางด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยของสภาพแวดล้อมโลก มาตรการอุปสรรคด้านเทคนิค สุขอนามัยและสุขอนามัยพืช สิ่งต่างๆเหล่านี้ทั้งหมดนะครับ ที่นักเศรษฐกิจ ระบุให้อยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า NTBs ทั้งหมดยกตัวอย่างแบบเป็นรูปธรรมให้เห็นสัก 2-3 ตัวอย่างนะครับ N P ต่อหน้า 2

  9. มาเลเซีย ประเทศเสือเหลืองเพื่อนบ้านทางใต้ของเรา กำหนดกติกาไว้ชัดเจนเลยครับว่า บรรดา สะโหร่ง ผ้าถุง ผ้าปาเต๊ะ หากจะส่งออกมาประเทศพวกเขา ต้องมีการขอใบอนุญาตจากหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบของเขาเสียก่อน แถมเพิ่มความมันส์เข้าไปอีก ด้วย การจำกัดโควตานำเข้า เข้าไปอีก บรรดาผู้ประกอบการ SME ใหญ่น้อยของไทยบริเวณภาคใต้ ต่อให้มีความสามารถในการผลิตสินค้าที่ดีในระดับพรีเมี่ยมสักเพียงใด แต่เจอกับดักกำแพง 2 ชั้นของมาเลเซียอย่างนี้เข้าไป ก็เล่นเอาไปไม่เป็นเช่นกันนะครับ อีกตัวอย่างหนึ่งนะครับ เอาเป็นประเทศกัมพูชาของ คุณทักษ.. เฮ้ย ของ ท่านผู้นำฮุณเซ็น ก็แล้วกันนะครับ ใครก็รู้ประเทศกัมพูชายังถือว่าเป็นประเทศที่ยังมีทรัพยากรธรรมชาติเหลืออยู่อย่างเหลือเฟือ โดยเฉพาะทรัพยากรทางการเกษตร แถมประเทศกัมพูชาเองก็มีศักยภาพในการผลิตปุ๋ยเคมีบางตัวที่จำเป็นต่อพืชพันธุ์อยู่ในระดับต่ำถึงต่ำมากอีกต่างหาก แต่น่าแปลกครับ พี่เขาจำกัดโควตาการนำเข้าปุ๋ยซะงั้น ผมยกตัวอย่างให้ฟังเพียง 2 อย่างเท่านั้นนะครับ แต่หากมานั่งนับๆ กันดูจริงๆแล้ว NTBs ในภูมิภาคเราเขาว่ากันว่า มีมากกว่า 500 แบบเลยนะครับ ซึ่งในมุมมองของผม ยากเหลือเกินครับ ที่จะขจัดออกไปได้ทันก่อนปี 2015 ที่เป็นเส้นตายของการเป็น AEC ผมมีเหตุผลง่ายๆของผมอย่างนี้ครับ ในขณะที่ทุกวันนี้ความเอาใจใส่ต่อผู้บริโภค รวมทั้งมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคของประเทศต่างๆในอาเซียนรวมถึงประเทศต่างๆทั่วโลก นับวันจะยิ่งทวีความเข้มข้น สูงขึ้นเรื่อยๆ อาเซียนกลับกำลังทำอะไรที่สวนทางกับกระแสดังกล่าวอยู่ ด้วยการพยายามยกเลิก NTBs ที่ส่วนใหญ่เป็นมาตรการเกี่ยวกับสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อมทั้งนั้น ว่ากันว่า การรวมกลุ่มของประเทศต่างๆไม่ว่าด้านใดๆ หากไม่มีประเทศยักษ์ใหญ่อย่าง USA เข้าร่วม อัตราการประสบความสำเร็จของการรวมกลุ่มในครั้งนั้นๆ จะลดลงฮวบอย่างแน่นอน ดังที่เคยเกิดขึ้นกับ องค์การสันนิบาตโลก (League of Nations) มาแล้วในอดีต S N P ต่อหน้า 3

  10. S นักวิเคราะห์ชาวอเมริกันท่านหนึ่งเคยวิเคราะห์การรวมกลุ่มของอาเซียนไว้อย่างน่าฟังครับว่า“ประวัติศาสตร์ ไม่จำเป็นต้องซ้ำรอยเสมอไป อาเซียนกำลังเป็นบทพิสูจน์ว่า แม้ไม่มี USA การรวมกลุ่มของ ASEAN ก็ประสบความสำเร็จได้” ผมไม่เถียงท่านหรอกครับ ก็ท่านมอง ASEAN จาก NEW YORK นี่ แต่ในมุมมองนักวิเคราะห์ชาวไทยดีกรีต่ำแบบผม อยากบอกไว้เลยครับว่า“อย่าว่าแต่เข็นครกขึ้นภูเขาเลยครับ ต่อให้เข็นภูเขาทั้งลูกลงไปในครก ผมว่ายังง่ายกว่าตั้ง AEC อีกครับ” โดย...... Mr. Privilege N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

  11. INSIDE CUSTOMS S ตอน สิทธิไหนดี..? หนึ่งในคำพูดติดปากของ คุณสิทธิชัย ชวรางกูร กรรมการผู้จัดการของ SNP GROUP เกี่ยวกับเรื่องราวของการส่งออก-นำเข้าก็คือ “ทุกๆการนำเข้าหรือส่งออก ไม่ว่าครั้งใดๆ จะมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ผู้ประกอบการอาจไม่รู้ซ่อนอยู่อย่างน้อยก็ 1 สิทธิ์” ท่านคิดอย่างไรกับคำพูดประโยคนี้ครับ? สำหรับผม ผมว่าไม่มีปัญหาหรอกครับ หากสิทธิประโยชน์ที่แอบซ่อนอยู่ในการนำเข้า-ส่งออกของผมนั้น มีแค่เพียง 1 สิทธิฯตามอัตราอย่างน้อยของคุณสิทธิชัย แต่ปัญหาเกิดแน่ครับ หากสิทธิประโยชน์ฯเจ้ากรรมดันมีถึง 2 สิทธิ์ แล้วท่านอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกใช้สิทธิฯใดสิทธิฯหนึ่ง สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการท่านหนึ่งติดต่อเข้ามาที่บริษัทฯ เพื่อปรึกษาปัญหาหนึ่งกับผมครับ เรื่องราวมีอยู่ว่า ผู้ประกอบการท่านนี้ มีความประสงค์จะส่งออกสินค้าตัวอย่างจำนวนหนึ่งออกไปให้ผู้ซื้อต่างประเทศดูที่ประเทศฮ่องกง หลังจากนั้นสินค้าตัวอย่างลอตเดียวกัน จะถูกส่งต่อจาก ประเทศฮ่องกง ไปยัง ประเทศมาเลเซีย ด้วยวัตถุประสงค์เดียวกัน และหลังจากนั้นสินค้าลอตดังกล่าวก็จะถูกส่งกลับเข้ามายัประเทศไทยเหมือนเดิม การส่งออกไปในลักษณะของท่านผู้ประกอบการรายนี้ หากเราพิจารณาให้ดี จะเห็นว่ามีสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เกี่ยวข้องอยู่ 2 สิทธิด้วยกัน ได้แก่ ATA CARNET และการทำใบสุทธินำกลับ ทั้ง 2 สิทธิดังกล่าว จะสามารถทำให้ผู้ประกอบการรายนี้ ไม่ต้องชำระภาษีนำเข้า ในตอนที่นำเข้าสินค้าดังกล่าวกลับเข้ามาในประเทศ ด้วยกันทั้ง 2 สิทธินะครับ โดยมีเงื่อนไขคล้ายๆกันอยู่นิดเดียวเอง ก็คือ N P ต่อหน้า 2

  12. ถ้าท่านประสงค์ใช้สิทธิ สุทธินำกลับ สินค้าที่ท่านส่งออกไป ต้องนำกลับเข้ามาในสภาพเดิม และภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี นับจากวันส่งออกแต่หากท่านใช้ ATA CARNET ท่านต้องดูครับว่า เอกสารค้ำประกันนที่สภาหอการค้าไทยออกให้ท่านไว้นั้น กำหนดให้ท่านต้องส่งสินค้ากลับมาในประเทศภายในระยะเวลาเท่าไหร่ ซึ่งส่วนมากก็จะไม่เกิน 1 ปีนั่นแหละครับ และสภาพ รวมทั้งจำนวน ปริมาณสินค้าต้องไม่เปลี่ยนแปลงจากการส่งออกด้วยนะครับ ดูผิวเผินเหมือน ทั้ง 2 สิทธิฯนี้ จะเปรียบเสมือนฝาแฝดกันเลยเชียวใช่มั้ยครับ แต่ทั้ง 2 สิทธิฯก็ยังคงมีจุดที่ แตกต่างกันแบบเต็มๆ อยู่ 2 จุด ด้วยกัน จุดแรก การทำสุทธินำกลับนั้น การันตีแค่ว่า หากเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ผู้ประกอบการจะได้รับการยกเว้นภาษีตอนที่นำสินค้ากลับเข้ามาในประเทศไทยเท่านั้น แต่ไม่ได้การันตีว่าตอนที่ท่านผ่านพิธีการที่ต่างประเทศ ท่านจะไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ณ ประเทศนั้นๆแต่อย่างใด แต่หากท่านใช้ ATA CARNET และประเทศที่ท่านกำลังส่งสินค้าไปนั้นเป็นประเทศที่ยอมรับ ATA CARNET อยู่แล้ว ท่านจะได้รับการยกเว้นภาษีในฝั่งต่างประเทศไปโดยปริยาย รวมทั้งยังสามารถใช้ยกเว้นภาษีตอนนำสินค้ากลับเข้ามาในไทยได้เหมือนการทำสุทธินำกลับด้วย จุดที่สอง ก็คือ เนื่องจากการใช้ ATA CARNET นั้น สภาหอการค้าไทยต้องมีความเสี่ยงอันเกิดขึ้นจากอัตราภาษีนำเข้าของประเทศปลายทาง การทำ ATA CARNET จึงต้องมีหลักประกันในการค้ำประกันความเสี่ยงเอาไว้ สำหรับการขอ ATA CARNET ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะประมาณ 50% ของมูลค่าสินค้าใน Invoice นั่นแหละครับ อย่างที่คุณสิทธิชัยกล่าวไว้ครับ สิทธิประโยชน์ในการส่งออก-นำเข้า มีอยู่มากมายเหลือเกินฉะนั้นเราควรเลือกใช้สิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมกับเราที่สุดในการส่งออก-นำเข้าในแต่ละครั้งนะครับ สำหรับท่านที่อ่านแล้วยังงงๆ อยู่ว่าไอ้เจ้า ATA CARNET มันคืออะไรกันแน่ อย่าพลาด INSIDE CUSTOMS ฉบับหน้าก็แล้วกันครับ โดย......ชิปปิ้งสีเทา S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

  13. Supply & Demand ตลาดใหม่ อินโดนีเซีย S สวัสดีค่ะท่านผู้ประกอบการ ฉบับนี้ Supply&Demand นำข้อมูลเกี่ยวกับประเทศอินโดนีเซียมานำเสนอตามสัญญาจากฉบับที่แล้วที่ว่าประเทศอินโดนีเซียกำลังจะเป็นตลาดแห่งใหม่สำหรับสินค้าไทยค่ะ ก่อนอื่นข้อมูลพื้นฐานของประเทศอินโดนีเซียเริ่มด้วยที่ว่าประเทศอินโดนีเซียประกอบด้วยหมู่เกาะต่างๆร่วม 18,000 เกาะ โดยมีประชากรอาศัยอยู่ 6,000 เกาะด้วยกัน เสาหลักของเศรษฐกิจอินโดนีเซียคือทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่มากมาย และนับเป็นประเทศที่มีประชากรอาศัยอยู่เยอะเป็นอันดับที่ 4 ของโลกโดยที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมและอินโดนีเซียนั้นนับว่าเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก อินโดนีเซียมีข้อตกลง Economic Partnership Agreement กับประเทศญี่ปุ่นที่ได้ทำการตกลงเมื่อปี 2008 ซึ่งส่งผลให้สินค้าที่อินโดนีเซียส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นได้รับการงดเว้นอากรนำเข้าถึง 90% ของจำนวนรายการสินค้าทั้งหมด ญี่ปุ่นจึงเป็นประเทศที่อินโดนีเซียส่งสินค้าออกไปมากที่สุดโดยสินค้าดังกล่าวได้แก่น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ อุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ ไม้อัด สิ่งทอ และยาง ในขณะเดียวกันอินโดนีเซียมีการนำเข้าสินค้าจากประเทศสิงคโปร์มากที่สุด โดยที่ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 7 ที่อินโดนีเซียนำเข้า สินค้าที่มีการนำเข้ามากได้แก่ เครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิต เคมีภัณฑ์ เชื้อเพลิง และอาหาร ข้อได้เปรียบของประเทศไทยคือการที่ไทยมีผลิตภัณฑ์ด้านอาหารที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลกรวมถึงได้คุณภาพ จากข้อมูลเบื้องต้นจะเห็นได้ว่าสินค้าที่ไทยน่าจะตีตลาดในอินโดนีเซียได้เป็นอย่างดีคือสินค้าประเภทอาหารที่มีตราฮาลาลและอาหารกระป๋อง หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจทำธุรกิจกับประเทศอินโดนีเซีย หรือมีสินค้าที่ท่านอยากส่งออกไปตีตลาด ท่านสามารถติดต่อมายัง SNP ได้ โดยทางเรายินดีช่วยเหลือติดต่อประสานงานรวมทั้งช่วยท่านหาตลาดอย่างเต็มที่ค่ะ N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก เพนกวิ้นตัวกลม

  14. ทัศนา นานาท่าเรือ S ไปดู Port of Cadiz Bay, Spain กับ โย่ง ยิงยาว Hola!!! ทักทายกันในสไตล์สเปนซักหน่อย อาจจะดูช้าไปหน่อยแต่ทางทีมงาน SNP News ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับทีมชาติสเปนด้วยที่สามารถคว้าแชมป์ World Cup สมัยแรกได้เป็นผลสำเร็จ และคงต้องประทับใจกันไปอีกนานกับการทำนายผลที่แม่นยำของเจ้าหมึกพอล หวังว่าอีก 4 ปีข้างหน้าจะยังเห็นเจ้าสัตว์หน้าหนวดนี่อยู่สร้างสีสันให้บอลโลกอีก ท่านผู้อ่านอาจจะแปลกใจว่าเหตุใดวันนี้เปิดตัวมาด้วยเรื่องการคว้าแชมป์ของทีมชาติสเปน ที่จริงแล้วสัปดาห์นี้ผมจะพาทุกท่านไปเยื่ยมชม ท่าเรือในประเทศสเปนนั่นเอง Port of Cadiz Bay (กาดิช) ถือเป็นหนึ่งในสามท่าเรือหลักของสเปน ซึ่งอีก สองท่าเรือนั้นได้แก่ Puerto Re และEl Puerto de Santa María และด้วยความที่ Port of Cadiz นั้น มีที่ภูมิศาสตร์ทางทะเลที่ดีมากๆ โดยมีกระแสน้ำ European-African and American-Mediterranean ไหลผ่านที่ท่าเรือแห่งนี้ ทำให้การเข้าถึงท่าเรือของสายเรือต่างๆ จากหลายสายเรือเป็นไปโดยสะดวก นอกจากนี้ ท่าเรือยังมีสภาพยื่นออกไปในท้องทะเลเป็นอ่าว และส่วนที่ยื่นออกไปนั้นยังช่วยกำบังคลื่นลม ที่สามารถส่งผลมาถึงบริเวณชายฝั่งได้ ถึงกับที่ว่า Port of Cadiz Bay นับเป็นท่าเรือทางใต้ของยุโรปเลยทีเดียว ทั้งนี้ท่าเรือนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับ ถนน และทางรถไฟได้อย่างสะดวก และยังอยู่ห่างจาก สนามบิน Jerez Airportเพียง 40 กิโลเมตรเท่านั้น ท่าเรือ Cadiz มีประวัติค่อนข้างยาวนานทีเดียว ซึ่งแม้แต่Julius Caesar และจักรวรรดิโรมอันยิ่งใหญ่ ก็ยังใช้ท่าเรือนี้เป็นท่าเรือส่งสินค้าพวกปลาเค็ม และ ไวน์ไปยังประเทศทางยุโรปต่างๆ ด้วย ซึ่งนั้นแสดงให้เห็นว่าท่าเรือ Cadiz นั้นมีประวัติการค้าขายมาเป็นเวลานานแล้ว ในเรื่องของเครื่องไม้เครื่องมือ จึงไม่ต้องพูดถึงเลยว่ามีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งในการรองรับสายเรือ และตู้คอนเทนเนอร์ต่างๆจากทั่วทั้งยุโรป และ ประเทศทางฝั่งแอฟริกาด้วย N P ต่อหน้า 2

  15. สินค้านำเข้าที่สำคัญได้แก่ ปิโตรเลียม เคมีภัณฑ์ต่างๆ เครื่องอุปโภค บริโภค เเละเครื่องจักรต่างๆ ประเทศคู่ค้าในการส่งออกที่สำคัญ สหภาพยุโรป (ฝรั่งเศส โปรตุเกส เยอรมนี อิตาลีสหราชอาณาจักร) ลาตินอเมริกา สหรัฐอเมริกา ประเทศคู่ค้าในการนำเข้าที่สำคัญ สหภาพยุโรป (ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เบเนลักซ์ สหราชอาณาจักร) เป็นต้น S N สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออก ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ยางพารา เคมีภัณฑ์ กุ้งแช่เย็น/แช่แข็ง ผลิตภัณฑ์ยางเลนซ์ ข้าว อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้กระป๋องและแปรรูป เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้า ได้แก่ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งแปรรูป ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ในเมื่อพูดถึงท่าเรือพาณิชย์ของประเทศสเปนแล้ว ต้องขออนุญาตแนะนำถึงการท่องเที่ยวของประเทศสเปนซักเล็กน้อย เพราะ ประเทศสเปนถือเป็นประเทศที่มีรายได้จากอุตสาหกรรมเป็นอันดับสองของโลกเลยทีเดียว โดยที่ กาดิช นั้นนับว่ามีชายหาดหลายแห่งที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งLa Playa Victoria ซึ่งยาวกว่า 3 กม. และล้อมรอบด้วยห้องโรงแรมบาร์ร้านค้าและร้านอาหาร อีกหาดหนึ่งที่เป็นที่นิยม คือ Playa El Chato และ La Caleta ยิ่งไปกว่านั้น Port of Cadiz Bay ก็นับเป็นท่าเรือที่บรรดาเรือ Cruise หรือเรือ Ferry ต่างๆ มักจะผ่านมาเทียบท่าเรือเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้แวะชมความงามของเมือง Cadiz กันอีกด้วย P ต่อหน้า 3

  16. Tips : S • เมืองหลวงของ ประเทศ สเปน คือเมือง มาดริด • ประเทศสเปนปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข • วันที่ 12 ตุลาคม เป็นวันชาติของประเทศสเปน • การสู้วัวกระทิงอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 19 มีนาคม – 12 ตุลาคม ของทุกปี • เทศกาล Cannival ที่โด่งดังโดยผู้คนจะแต่งตัวสีสันต่างๆ บ้างเป็นปีศาจบ้าง เจ้าหญิ่งบ้าง • ก็จัดขึ้นที่ เมือง Cadiz นี้เอง โดยจะจัดขึ้นประมาณเดือนกุมภาพันธ์ N P เขียนโดย “โย่ง ยิงยาว” กลับเข้าสู่หน้าหลัก

  17. All about Logistics S ยุทธศาสตร์ด่านหน้า...พาจีนสู่ผู้นำโลก(ภาค3) ฉบับนี้ เรามาว่ากันต่อเรื่องผลดีของยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศของจีนที่ส่งผลดีต่อประเทศไทยกันต่อนะคะ เราๆคนไทยก็ต้องยอมรับความจริงที่ว่า ประเทศจีนมีการพัฒนาประเทศไม่ว่าจะด้านใดก็ตามด้วยความรวดเร็ว อาจจะเป็นเพราะว่าการผลักดันจากภาครัฐ ความตื่นตัวของภาคเอกชน หรือเพราะคุณลักษณะ และอุปนิสัยของชาวจีนที่มีความขยัน ขันแข็ง อดทน และเป็นนักสู้ที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าชาติใดในโลก และเนื่องด้วยคุณลักษณะต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ทำให้การพัฒนาโลจิสติกส์ของจีนย่อมส่งผลให้มีการขับเคลื่อนการพัฒนาโลจิสติกส์ในประเทศไทยไปโดยปริยาย เพราะการที่สองประเทศจะจับมือร่วมกันดำเนินธุรกิจ หรือโครงการระดับชาติใดๆร่วมกันแล้วนั้น ศักยภาพของทั้งคู่จะต้องเทียบเท่า ทัดเทียม หรือ อยู่ในระดับไล่เลี่ยกัน จึงจะทำให้โครงการนั้นๆ ดำเนินรุดหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และราบรื่น ทั้งนี้ มิได้จะเน้นเฉพาะเจาะจงในเรื่องของเงินทุนแต่เพียงอย่างเดียว แต่หากเกี่ยวเนื่องถึงความรู้และความเข้าใจในความหมาย และกระบวนการของโลจิสติกส์ของผู้คนในประเทศโดยเฉพาะภาครัฐ ภาคเอกชนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างหาก N P ต่อหน้า 2

  18. ปัจจุบัน ไทยกับจีนจับมือกันสร้างศูนย์โลจิสติกส์คู่แฝดกันขึ้น(China-Thai sisters logistics concept) โดยประกาศให้ สนามบินกวางเจา กับสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นศูนย์โลจิสติกส์คู่แฝดแห่งแรกเพื่อการทดลองการดำเนินการปฏิบัติงานต่างๆ (China-Thai aviation logistics center)  โดยมุ่งเน้นให้สนามบินทั้งสองแห่งสามารถรองรับ และให้บริการด้านโลจิสติกส์ได้อย่างครบวงจร เช่น integrated cargo terminal, warehousing, packaging, distribution, customs clearance, banking, inspection centers เป็นต้น จะว่าไปแล้ว การที่มีประเทศจีนคอยทั้งผลัก ทั้งดัน เดินนำหน้า เดินตามหลังบ้าอะไรบ้าง ก็ส่งผลดีที่ทำให้ประเทสไทยเกิดความตื่นตัวที่จะเร่งพัฒนาระบบอะไรๆหลายๆอย่างให้เข้าที่เข้าทางและเป็นสากลมากขึ้นเหมือนกันนะคะ Sathinun S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

  19. SNP Joke จริงเหมือนกันเนอะ.... S ว่ากันว่า....- ผู้หญิงอ้วนมักจะนิสัยดี- ผู้หญิงหน้าตาดีมักจะมีแฟนเป็นทอม- ผู้หญิงน่ารักแฟนมักจะไม่หล่อ- ผู้หญิงที่แฟนหล่อจำเป็นต้องรวย- ผุ้หญิงอยากรวยต้องมีแฟนคราวพ่อ- ผู้หญิงช่างจ้อมีแฟนมากมาย- ผู้หญิงขี้อายมักเซ็กส์จัด- ผู้หญิงอวบอัดมักทำศัลยกรรม N ว่ากันว่า....- ผู้ชายนิสัยดีมักจะขี้เหร่- ผู้ชายที่หล่อมักไม่สุภาพ- ผู้ชายที่ทั้งหล่อ และสุภาพ มักเป็นเกย์- ผู้ชายที่หล่อ สุภาพ และไม่ใช่เกย์ มักแต่งงานแล้ว- ผู้ชายที่ไม่ค่อยหล่อ และนิสัยดี มักไม่มีสตางค์- ผู้ชายที่หล่อ นิสัยดีและมีสตางค์มักจะคิดว่าเราเห็นแก่สตางค์ของเขา- ผู้ชายที่หล่อ แต่ไม่มีสตางค์ มักจะเห็นแก่สตางค์ของเรา- ผู้ชายที่หล่อและเป็นชายแท้ แต่นิสัยไม่ดี มักจะคิดว่าเราไม่สวยพอ- ผู้ชายที่เห็นว่าเราสวย และเหมาะกับเขา มักเป็นคนขาดความมั่นใจ- ผู้ชายที่หล่อ สุภาพ มีฐานะ และเป็นชายแท้ มักจะขี้อายและกลัวการเริ่มต้น- ผู้ชายที่กลัวการเริ่มต้น มักเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงไม่สนใจ P ต่อหน้า 2

  20. ว่ากันว่า.... - ผู้หญิงเก่งมักชอบบงการ- ผู้หญิงเก่งที่ไม่ชอบบงการ มักเสแสร้งเฉพาะช่วงแรกๆ- ผู้หญิงสวยมักจะโง่ แต่ผู้หญิงโง่ๆ มักจะรวย- ผู้หญิงที่ไม่โง่ และรวย มักไม่ยอมแต่งงาน- ผู้หญิงที่ไม่โง่ ไม่รวย และไม่ยอมแต่งงาน มักชอบคนมีครอบครัวแล้ว ว่ากันว่า.... - ผู้หญิงที่ดีมีแฟนคนเดียว- ผู้หญิงเก่ง คือผู้หญิงที่หาเงินได้มากกว่าสามี และเก็บไว้ใช้เองคนเดียว- ผู้หญิงฉลาด คือผู้หญิงที่หาเงินได้น้อยกว่าสามี และเก็บเงินของสามีไว้ใช้คนเดียว- ผู้หญิงอัจฉริยะ คือผู้หญิงที่หาเงินได้มากกว่าสามี ใช้เงินของสามี...และเก็บมรดกของสามีไว้ ใช้คนเดียว- ผู้หญิงยอดอัจฉริยะ คือผู้หญิงที่หาเงินได้มากกว่าสามี ใช้เงินของสามี เก็บมรดกสามีเอาไว้ แล้วเริ่มหาสามีใหม่ S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

  21. เด็กชายขอบ (จังหวัด ) การเดินทางไปสุพรรณบุรี ทำให้ผมนึกถึงเพลงที่ร้องว่า “มาด้วยกัน ไปด้วยกัน เลือดสุพรรณเอ๋ย” เป็นการเดินทางครั้งแรกกับอำเภอด่านช้าง ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร ภาพที่คิดเอาไว้คือ ดินดำน้าชุ่ม มีนาข้าวเขียวขจี (ผู้ใหญ่ลีกับนางมา) แต่สภาพความเป็นจริงที่นี่แห้งแล้งและอากาศร้อนถึงร้อนมาก เพราะเป็นพื้นที่สุพรรณบุรีชายขอบ ทีมสภาพนักงาน SNP ได้เข้าพบผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทักระดาษ ได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นคือมีคุณครู 3 คน รวม ผอ.ปู เป็น 4 คน และนักเรียน 43 คน พร้อมรับหน้าที่เป็นนักการที่ทำความสะอาด, ติดตั้งเครื่องเสียงและประชาสัมพันธ์ตัวน้อยของโรงเรียนอีกด้วย ที่นี่ใช้ระบบพี่ดูแลน้อง เป็นแบบอย่างที่ดี ช่วยแบ่งเบาภาระของคุณครูทั้ง 3 ท่านได้เป็นอย่างดี งบประมาณทางราชการเป็นไปตามจำนวนของนักเรียน โดยภาพรวมผู้ปกครองของเด็กนักเรียนมีอาชีพรับจ้างตัดอ้อยเป็นส่วนใหญ่ สิ่งที่ ผอ.ปูอยากให้ทีมสภาพนักงานช่วยเหลือคือ 1.ห้องสื่อการเรียนการสอนที่ต้องการให้ซ่อมแซมระบบสายไฟ, สายโปรเจคเตอร์และปรับปรุงภูมิทัศน์ห้องสื่อการเรียนการสอน 2.เสื้อลายไทยใส่ทำกิจกรรมในวันศุกร์เหมือนกันทั้งโรงเรียน ทางทีมสภาพนักงานจึงเป็นสื่อกลางเพื่อบอกต่อผู้ประกอบการใจดีทุกท่าน เข้าร่วมกิจกรรมก่อการดีร่วมกัน เก็บขวดน้ำพลาสติกไว้แล้วเรียกทีมงานสภาพนักงานไปเก็บมาขาย เพื่อนำเงินไปทำกิจกรรมการกุศลช่วยลดโลกร้อนใช้พลาสติกอย่างคุ้มค่าที่สุดด้วยการนำมารีไซเคิล S N P “กิจกรรมจะจัดขึ้นในวันที่ 6-7 เดือนพฤศจิกายน 2553” กลับเข้าสู่หน้าหลัก

More Related