สรุปสาระสำคัญ

สรุปสาระสำคัญ ร่างประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำและแสดงบัญชีรายการรับจ่ายของโครงการที่บุคคลหรือนิติบุคคล เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐ พ.ศ. ....

เหตุผลและความจำเป็นในการออกประกาศเหตุผลและความจำเป็นในการออกประกาศ • การจัดหาพัสดุของหน่วยงานรัฐใช้เงินของแผ่นดิน(งบประมาณ เงินกู้ เงินช่วยเหลือ หรือรายได้ของหน่วยงานรัฐ) • การดำเนินการที่ผ่านมามีการทุจริตแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบทำให้รัฐเสียหาย • เพราะการสมยอมในการเสนอราคา ไม่แข่งขันอย่างเป็นธรรม จ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่รัฐเพื่อได้เป็นคู่สัญญา

เหตุผลและความจำเป็นในการออกประกาศ (ต่อ) 4. บางกรณีนักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการทำความผิด ละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น 5. จึงสมควรกำหนดให้มีการแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายของบุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ

อำนาจที่ใช้ในการออกประกาศอำนาจที่ใช้ในการออกประกาศ • มาตรา ๑๐๓/๗ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดย • พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๕๔

วันที่ประกาศมีผลใช้บังคับวันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ขอบเขตการใช้บังคับ • ผู้มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย บุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคล ที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ • ประเภทสัญญา สัญญาทุกประเภทที่ทำขึ้นในโครงการจัดหาพัสดุของหน่วยงานของรัฐ

ขอบเขตการใช้บังคับ (ต่อ) 3. มูลค่าของสัญญา สัญญาทุกประเภทที่มีมูลค่า ตั้งแต่ 500,000 บาท ขึ้นไป (ร่างประกาศ ข้อ 5 ) บทเฉพาะกาล ไม่ใช้กับคู่สัญญาที่มีการลงนามในสัญญาก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 5(หลัก) 1. ความเป็นคู่สัญญาเริ่มตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญา หรือ ถือได้ว่าสัญญาเกิดขึ้น 2.ให้เปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน 1 บัญชี ต่อ 1 โครงการ เพื่อใช้ในการรับและจ่ายเงินของโครงการ

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 6(ข้อยกเว้น) อาจใช้บัญชีเดียวสำหรับหลายๆ โครงการได้ ภายใต้เงื่อนไข ดังนี้ (1)สามารถส่งมอบได้ภายใน 7 วันนับแต่วันทำสัญญา (2)ไม่มีการรับประกันหรือบริการหลังส่งมอบ

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 7 วรรคแรก คู่สัญญาต้องจัดทำบัญชีแสดงรายรับรายจ่ายเพิ่ม อีก 1 ชุด แยกตามประเภทสัญญา ได้แก่ 1. การจัดจ้างงานก่อสร้าง 2. การจัดจ้างซึ่งมิใช่งานก่อสร้าง 3. การจ้างพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ 4. การจัดซื้อ การจำหน่าย และการแลกเปลี่ยน

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 7 (ต่อ) 5. การเช่าทรัพย์สิน 6. การได้รับสัมปทานหรือได้รับสิทธิใดๆ วรรคสอง คู่สัญญาต้องจัดทำรายงานสรุปรายรับรายจ่ายโดยแยกข้อมูลจากงบการเงินประจำปีเป็นกลุ่มโครงการและนอกกลุ่มโครงการ

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 8 1. รายรับจากการปฏิบัติตามสัญญา ได้แก่ - เงินหรือค่าตอบแทนที่ได้รับจากการปฏิบัติงานหรือดำเนินงานตามสัญญาในแต่ละงวดงาน - เงินประกันผลงานที่คู่สัญญาได้รับคืนจากหน่วยงานของรัฐ - เงินรับล่วงหน้า

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 8(ต่อ) 2. รายรับอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสัญญา ได้แก่ - เงินชดเชย - เงินค่าปรับ - เงินจูงใจหรือสนับสนุน - ผลประโยชน์หรือทรัพย์สินอื่นใดที่สามารถตีค่า เป็นเงินสดอันได้รับมาจากการได้มาซึ่งสัมปทาน หรือสิทธิอื่นใด

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 8(ต่อ) 3. รายรับอื่นๆ ที่กำหนดไว้ให้คู่สัญญาได้รับ นอกจาก 1. และ 2.

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 9 รายการรายจ่าย สัญญาประเภทการจัดจ้างงานก่อสร้าง 1. ค่าใช้จ่ายในการเสนอราคา ได้แก่ (ก) ค่าจัดซื้อเอกสาร (ข) ค่าหลักประกันซอง 2. ค่าหลักประกันสัญญา 3. เงินประกันผลงาน 4. ค่าออกแบบหรือค่าถอดแบบ

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 9(ต่อ) 5. ค่าวัสดุครุภัณฑ์ 6. ค่าจ้างหรือค่าแรงงานบุคลากรหรือลูกจ้าง 7. ค่าเช่าสถานที่ 8. ค่าเช่าเครื่องมือและอุปกรณ์

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 9(ต่อ) 9. ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษาเครื่องจักรหรือเครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้าง 10. ค่าขนส่งเครื่องจักรกล เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้ใน การก่อสร้าง 11. ค่าเบี้ยประกันภัย 12. ค่าเสียหายที่ต้องจ่ายให้กับบุคคลภายนอก 13. ค่าปรับ 14. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 10 สัญญาประเภทการจัดจ้างงานที่ไม่ใช่งานก่อสร้าง 1. ค่าใช้จ่ายในการเสนอราคา ได้แก่ (ก) ค่าจัดซื้อเอกสาร (ข) ค่าหลักประกันซอง 2. ค่าหลักประกันสัญญา 3. เงินประกันผลงาน 4. ค่าวัสดุครุภัณฑ์ 5. ค่าจ้างหรือค่าแรงงานบุคลากรหรือลูกจ้าง 6. ค่าเช่าสถานที่

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 10(ต่อ) 7. ค่าเช่าเครื่องมือและอุปกรณ์ 8. ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษา และค่าขนส่งเครื่องจักรหรือเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ 9. ค่าจ้างที่ปรึกษาจากต่างประเทศ ค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของที่ปรึกษา 10. ค่าแรงงานบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ 11. ค่าเบี้ยประกันภัย 12. ค่าเสียหายที่ต้องจ่ายให้กับบุคคลภายนอก 13. ค่าปรับ 14. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 11 สัญญาประเภทจ้างพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ 1. ค่าใช้จ่ายในการเสนอราคา ได้แก่ (ก) ค่าจัดซื้อเอกสาร (ข) ค่าหลักประกันซอง (ค) ค่าใช้จ่ายในการศึกษาระบบงานเดิมและ นำเสนอแนวคิดและการออกแบบระบบงาน (ง) ค่าใช้จ่ายในการสาธิตผลิตภัณฑ์ และหรือค่าศึกษาดูงาน 2. ค่าหลักประกันสัญญา 3. เงินประกันผลงาน

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 11(ต่อ) 4. ค่าฮาร์ดแวร์ (Hardware) 5. ค่าซอฟแวร์ (Software) 6. ค่าอุปกรณ์เครือข่าย 7. ค่าพัฒนาระบบ 8. ค่าบำรุงรักษา 9. ค่าจ้างที่ปรึกษาจากต่างประเทศ ค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่นๆของที่ปรึกษา

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 11(ต่อ) 10. ค่าแรงงานบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ 11. ค่าเช่าสถานที่ 12. ค่าเบี้ยประกันภัย ค่าขนส่ง ค่าประกันความเสียงจากอัตราแลกเปลี่ยน 13. ค่าปรับ 14. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 12 สัญญาประเภทการจัดซื้อ การจำหน่าย และการแลกเปลี่ยน 1. ค่าใช้จ่ายในการเสนอราคา ได้แก่ (ก) ค่าจัดซื้อเอกสาร (ข) ค่าหลักประกันซอง (ค) ค่าใช้จ่ายในการสาธิตผลิตภัณฑ์ ค่าศึกษาความเป็นไปได้หรือการศึกษาดูงาน

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 12(ต่อ) 2. ค่าหลักประกันสัญญา 3. เงินประกันผลงาน 4. ค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนของสินค้า เช่น ราคาสินค้า ค่าติดตั้ง ภาษี เบี้ยประกันภัยและค่าขนส่ง เป็นต้น 5. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 13 สัญญาประเภทการเช่าทรัพย์สิน 1. ค่าใช้จ่ายในการเสนอราคา ได้แก่ (ก) ค่าจัดซื้อเอกสาร (ข) ค่าหลักประกันซอง 2. ค่าหลักประกันสัญญา 3. เงินประกันผลงาน 4. ค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนของทรัพย์สินที่ให้เช่า 5. ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม การบำรุงรักษา ทรัพย์สินที่ให้เช่า

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 14 สัญญาประเภทการได้รับสัมปทานหรือได้รับสิทธิใดๆ 1. ค่าใช้จ่ายในการเสนอราคา ได้แก่ (ก) ค่าจัดซื้อเอกสาร (ข) ค่าหลักประกันซอง (ค) ค่าศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ (ง) ค่าสำรวจออกแบบและทดลองปฏิบัติการ 2. ค่าหลักประกันสัญญา 3. เงินประกันผลงาน

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 14(ต่อ) 4. ค่าประทานบัตร ค่าธรรมเนียม ค่าผลประโยชน์ตอบแทน ส่วนแบ่งกำไร จากการได้สัมปทานหรือสิทธิบัตร 5. ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษาเครื่องจักร เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ 6. ค่าเบี้ยประกันภัย 7. ค่าซื้อหรือเช่าเครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ 8. ค่าจ้างที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ และค่าจ้างแรงงาน 9. ค่าสาธารณูปโภค

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 15 วิธีการจัดทำบัญชีแสดงรายรับรายจ่าย หลัก ระยะเวลาในการบันทึกบัญชีให้ใช้เกณฑ์เงินสดในการบันทึกบัญชี เพื่อให้จำนวนเงินรับและจ่ายตรงกับข้อมูลการรับจ่ายในบัญชีเงินฝากธนาคาร

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 15(ต่อ) เว้นแต่เป็นรายการที่เกิดขึ้นในระหว่างปีบัญชีมากกว่าหนึ่งปีขึ้นไป ให้บันทึกบัญชี ดังนี้ 1. มีการบันทึกรายการรับจ่ายด้วยหลักคงค้างหรือตามความสำเร็จของงานเป็นไปตามมาตรฐานบัญชีแล้วในปีก่อน แต่ได้รับเงินจริงในปีปัจจุบัน ให้บันทึกรายการและจำนวนเงินที่รับจริง แล้วหมายเหตุปีบัญชี และจำนวนเงินที่ได้มีบันทึกรับรู้เป็นรายรับรายจ่ายในแต่ละปี

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 15(ต่อ) 2.มีการรับหรือจ่ายเงินล่วงหน้าก่อนการส่งมอบงาน ให้หมายเหตุวันเดือนปีที่มีการรับหรือจ่ายเงินล่วงหน้าไว้ในบัญชีด้วย

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 16 หลัก ค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการบันทึกบัญชี ให้บันทึกตามจำนวนที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละโครงการ ยกเว้น ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเป็นค่าใช้จ่ายซึ่งคู่สัญญาต้องนำไปแสดงเป็นรายจ่ายในบัญชีรายรับรายจ่ายโครงการอื่นด้วย หรือเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายที่คู่สัญญาใช้ในการดำเนินกิจการอื่นซึ่งมิได้อยู่ในบังคับที่ต้องแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายตามประกาศนี้ ให้แสดงรายจ่ายโดยคิดคำนวณตามอัตราส่วนร้อยละของการก่อให้เกิดรายได้ในแต่ละโครงการ

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 17 เฉพาะกลุ่มบัญชีโครงการให้แสดงรายละเอียดของรายรับและรายจ่ายตามรายการในบัญชีเงินฝากธนาคารตามข้อ 5 (bank statement) พร้อมทั้งแสดงข้อมูล ต่อไปนี้ - เลขที่ใบเสร็จรับเงิน และ หรือใบกำกับภาษี - ชื่อผู้ผลิตหรือผู้ขายหรือผู้รับเงิน - จำนวนหน่วย - ราคาต่อหน่วย

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 18 เอกสารหลักฐานประกอบการยื่นบัญชีแสดงรายการรับจ่ายได้แก่ - สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน - สำเนาเอกสารหลักฐานแสดงการรับจ่ายเงิน ของโครงการ - สำเนาสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐ

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 19 วิธีการยื่นและระยะเวลาการยื่น - ยื่นบัญชีแสดงรายรับรายจ่ายต่อกรมสรรพากร โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามกำหนดระยะเวลา ดังต่อไปนี้ (1) กรณีบุคคลธรรมดาเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ (ก) หากระยะเวลาการจ่ายเงินตามสัญญาทั้งหมดอยู่ภายในปีภาษี ให้ยื่นพร้อมกับการยื่นชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 19 (ข) หากระยะเวลาการจ่ายเงินตามสัญญาทั้งหมดมิได้อยู่ภายในปีภาษี ให้ยื่นพร้อมกับการยื่นชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของทุกปี และให้ยื่นบัญชีแสดงรายการรับจ่ายทั้งหมดของโครงการตามสัญญาอีกครั้งหนึ่งเมื่อเสร็จสิ้นโครงการตามสัญญา

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 19(ต่อ) (2) นิติบุคคลเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ (ก) กรณีระยะเวลาการจ่ายเงินตามสัญญาทั้งหมดอยู่ภายในรอบปีบัญชีเดียวกัน ให้ยื่นเมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีพร้อมกับการยื่นบัญชีงบดุล(งบการเงิน)ประจำปี (ข) กรณีระยะเวลาการจ่ายเงินตามสัญญาทั้งหมดมิได้อยู่ภายในรอบปีบัญชีเดียวกัน ให้ยื่นทุกสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี และเมื่อเสร็จสิ้นโครงการแล้ว

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 20และ21 วิธีการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการรับจ่าย ให้เป็นดุลพินิจของกรมสรรพากรที่จะนำบัญชีแสดงรายการรับจ่ายของโครงการไปใช้ประกอบการตรวจสอบบัญชีงบดุลประจำปีของนิติบุคคลหรือตรวจภาษีเงินได้ของบุคคลหรือนิติบุคคล และหากพบว่าอาจมีการทุจริตเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินในโครงการใด ให้รายงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบ พร้อมส่งเอกสารหลักฐานและความเห็นเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 22 กรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐว่ากระทำความผิดซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. คณะกรรมการ ป.ป.ช. อาจแจ้งให้กรมสรรพากรส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปก็ได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับวิธีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสำนักงาน ป.ป.ช. และกรมสรรพากร

สาระสำคัญของร่างประกาศฯ ข้อ 23 บทกำหนดโทษ บุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐผู้ใด ไม่แสดงบัญชีรายการรับจ่ายของโครงการตามประกาศนี้ ให้ถือว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติที่จะเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ

Q & A

สรุปสาระสำคัญ

สรุปสาระสำคัญ

Presentation Transcript