200 likes | 340 Views
นางสาวยุพิน ขมินทกูล กลุ่มงานกองทุนและสวัสดิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน โทร. 0 2628 7000 ต่อ 406-407 0 2628 5061. การอุดหนุนเป็นเงินเพิ่ม การครองชีพชั่วคราวแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนเอกชน (วุฒิ ป.ตรี ขึ้นไป).
E N D
นางสาวยุพิน ขมินทกูล กลุ่มงานกองทุนและสวัสดิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน โทร. 0 2628 7000 ต่อ 406-407 0 2628 5061
การอุดหนุนเป็นเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนเอกชน(วุฒิ ป.ตรี ขึ้นไป)
โรงเรียนที่มีสิทธิรับเงินเพิ่มฯ สามัญศึกษาที่รับเงินอุดหนุนรายบุคล อาชีวศึกษา โรงเรียนที่มีสิทธิรับเงินเพิ่มฯ สามัญศึกษาที่รับเงินอุดหนุนรายบุคล อาชีวศึกษา *
ครูและผู้อำนวยการที่มีสิทธิรับเงินเพิ่มฯครูและผู้อำนวยการที่มีสิทธิรับเงินเพิ่มฯ -ทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและ ส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ในโรงเรียน -ได้รับการบรรจุหรือมีหนังสือแต่งตั้งจากโรงเรียน ต้องมีใบประกอบวิชาชีพจากคุรุสภา หรือหนังสืออนุญาต ปฎิบัติการสอนโดย ไม่มีใบประกอบวิชาชีพจากคุรุสภา หรือหนังสือรับรองสิทธิจากคุรุสภา -ส่งเงินสะสมเข้ากองทุนสงเคราะห์
บุคลากรทางการศึกษาที่มีสิทธิรับเงินเพิ่ม การครองชีพชั่วคราว 1. เป็นผู้ปฎิบัติหน้าที่บรรณารักษ์ งานแนะแนว งานเทคโนโลยีการศึกษา งานทะเบียนและวัดผล งานบริหารงานทั่วไป 2. ได้รับการบรรจุ /แต่งตั้งจากโรงเรียนวุฒิ ป.ตรีขึ้นไป 3. ส่งเงินสะสมเข้ากองทุนสงเคราะห์
การคำนวณเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวครูโรงเรียนเอกชนการคำนวณเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวครูโรงเรียนเอกชน
วิธีการขอรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราววิธีการขอรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว โรงเรียน 1.จัดทำคำขอรับเงินเพิ่มฯ (พช.1/1) และบัญชีรายชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีสิทธิ์รับเงินเพิ่ม ฯ (พช.2/1) พร้อมเอกสารประกอบ - สำเนาหนังสือแต่งตั้งทำการสอน/บรรจุ - 3%ของครูประจำเดือนมิ.ย. - สำเนาใบประกอบวิชาชีพของครู/หนังสือผ่อนผันให้ทำการสอนโดยไม่มีใบประกอบวิชาชีพ 2.ส่ง สช. /สพป. ภายในวันที่ 20 มิ.ย.ของทุกปี
วิธีการขอรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว (ต่อ) ยกเว้น ปีงบประมาณ 2555 เพิ่มเติม 1.บัญชีรายชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีสิทธิ์รับเงินเพิ่ม ฯ พช.2 (9เดือน) 2. สำเนาแต่งตั้งบุคลากรทางการศึกษา 2. เงินสมทบ 3%ของครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำเดือน ม.ค.-ก.ย55
วิธีการขอรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว (ต่อ) สพป./สช.จังหวัด 1.ตรวจสอบคำขอรับเงินเพิ่ม พช.1/1 บัญชีรายชื่อครู พช.2/2 พร้อมเอกสารประกอบ 2.สรุปจำนวนครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีสิทธิ และจำนวนเงินเพิ่มการครองชีพฯส่ง สช. ภายในวันที่ 10 กรกฎาคม ของทุกปี
วิธีการเบิกจ่าย โรงเรียน จัดทำใบสำคัญรับเงิน (พช.3/1) พร้อมเอกสารประกอบ ดังนี้ 1. บัญชีรายชื่อครูกรณีมีการปรับเพิ่มเงินเดือนครูและบุคลากรทาง การศึกษา (พช.4/1) (ม.ค.-ก.ย.55) 2. บัญชีรายชื่อครูกรณีมีการถอดถอนครูประจำเดือน ของเดือนที่ผ่านมา (พช.5/1) (ม.ค.-ก.ย.55) 3. ส่ง สช./ สพป. ภายในวันที่ 3 ของเดือนที่ขอเบิก 4. หลักฐานการจ่ายเงินเพิ่มฯให้แก่ครูประจำเดือนม.ค.-ก.ย.55 โดยผ่านระบบธนาคาร (พช.6) ส่ง สช./ สพป. หลังจากได้โอนเงินให้ครูและบุคลากรแล้ว
วิธีการเบิกจ่าย (ต่อ) สช/สพป. 1. ตรวจสอบ พช.3 พร้อมเอกสารประกอบ 2. สรุปยอดจำนวนครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่มีสิทธิและจำนวนเงิน 3. ขออนุมัติเบิกจ่ายต่อผู้มีอำนาจ 4. โอนเงินเข้าบัญชีโรงเรียน และโรงเรียนโอนเงินเข้าบัญชีครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นรายบุคคล
เงื่อนไขการให้เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเงื่อนไขการให้เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว • การจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวให้คำนวณ ตามวันที่ครูได้ปฏิบัติงานตามระเบียบศธ. คุ้มครองการทำงานของครูและครูใหญ่ ...พ.ศ.2542 2. ครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่พ้นสภาพการเป็นครูและบุคลากรทางการศึกษา ไม่มีสิทธิรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว รร. ต้องแจ้งผู้อนุญาตภายในสิ้นเดือน
กรณีโรงเรียนไม่ยื่นคำขอรับเงินเพิ่มฯกรณีโรงเรียนไม่ยื่นคำขอรับเงินเพิ่มฯ ให้โรงเรียนนั้นต้องรับผิดชอบจ่าย เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว ให้แก่ครูที่มีสิทธิ
การกำกับดูแล 1.ดำเนินการตรวจติดตาม และรายงานผลการจ่ายเงิน
การกำกับดูแล 2. กรณีการเบิกจ่ายเงินผิดพลาด หรือไม่มีสิทธิ์ ให้เรียกเงินคืน จากโรงเรียนทันที
การกำกับดูแล 3. เมื่อปรากฏว่ามีการทุจริตให้ผู้อนุญาตเรียกเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของจำนวนเงินที่ทุจริต แล้วพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายแก่ ผู้กระทำความผิด
การกำกับดูแล • 4. กรณี รร.เลิกกิจการก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาของ รร.ที่เลิกกิจการสามารถยื่นคำขอและใบสำคัญรับเงินเพิ่มฯ ต่อ สช./สพป. ได้
การกำกับดูแล กำหนดให้มีการตรวจติดตามและ รายงานผลการจ่ายเงิน เมื่อปรากฏว่า มีการทุจริตให้ผู้อนุญาตเรียกเงินคืน พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของ จำนวนเงินที่ทุจริต แล้วพิจารณา ดำเนินการตามกฎหมายแก่ ผู้กระทำความผิด