1 / 55

บทที่ 5

บทที่ 5. การควบคุมคุณภาพ. วิวัฒนาการด้านคุณภาพ. คุณภาพในช่วงก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม คุณภาพในช่วงระหว่างหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม จนถึงก่อนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 คุณภาพในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คุณภาพในยุคโลกาภิวัตน์. 1.คุณภาพในช่วงก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม.

ivria
Download Presentation

บทที่ 5

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. บทที่ 5 การควบคุมคุณภาพ

  2. วิวัฒนาการด้านคุณภาพ • คุณภาพในช่วงก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม • คุณภาพในช่วงระหว่างหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม จนถึงก่อนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 • คุณภาพในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 • คุณภาพในยุคโลกาภิวัตน์

  3. 1.คุณภาพในช่วงก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม1.คุณภาพในช่วงก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม • แนวคิดควบคุมด้วยตนเองโดยช่างฝีมือ • คุณภาพขึ้นกับช่างฝีมือ • ผลิตภัณฑ์ยังคงเป็นสินค้า หรือสิ่งที่จับต้องได้ • คุณภาพในยุคนี้ อยู่ในแนวคิดของการควบคุมด้วยตนเอง

  4. 2. คุณภาพในช่วงระหว่างหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม จนถึงก่อนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 • แนวคิดด้านการผลิต • ใช้เครื่องจักรมาแทนแรงงานคน • เฟรเดอริก เทย์เลอร์ ::: การเพิ่มผลผลิตโดยไม่เพิ่มจำนวนช่างฝีมือ • การผลิตเข้าสู่ยุคการผลิตเชิงมวล (Mass Production) • อีลี่ วิทนีย์ ::: “ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพต้องสามารถสับเปลี่ยนกันได้” • การตรวจสอบคุณภาพ อยู่ในขอบเขตของค่าเผื่อที่ยอมให้ (Tolerance)เรียก ข้อกำหนดหรือสเปก (Specification)

  5. 2. คุณภาพในช่วงระหว่างหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม จนถึงก่อนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 (ต่อ) • การบริหารคุณภาพด้วยการตรวจสอบมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง • เฮนรี่ ฟอร์ด (1903) ถึง ดร.วอลเตอร์ เอ. ซิวอาร์ท • ดอดจ์ และ โรมิค (1925) ::: แผนการจับสิ่งตัวอย่างเพื่อการยอมรับ (Acceptance Sampling Plan) • ปี 1941 สงครามโลกครั้งที่ 2 ::: การควบคุมคุณภาพการผลิตอาวุธ โดย แผนการจับสิ่งตัวอย่างเพื่อการยอมรับ โดยอาศัยกฎเกณฑ์ของความน่าจะเป็น • การพัฒนาเทคนิคการควบคุมคุณภาพโดยอาศัยสถิติ (SQC)

  6. 3. คุณภาพในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 • ญี่ปุ่น ฟื้นฟูประเทศด้วยการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์โดยเน้นการเพิ่มความมีประสิทธิผลของต้นทุน (Cost Effectiveness) • การแข่งขันทางด้านการค้ามากขึ้น มีผลิตภัณฑ์ประเภทการบริการ • แนวคิดของคุณภาพเปลี่ยนมาเป็นแนวคิดด้านผลิตภัณฑ์แทน • ฟิลิป ครอสบี้ ::: “การสร้างความพอใจต่อลูกค้า” • เดมมิ่ง กำหนดคุณภาพไว้ 2 มุมมอง • คุณภาพด้านการออกแบบ ::: มีผลต่อรายได้ (ยอดขาย) ของธุรกิจ • คุณภาพด้านความถูกต้องในการผลิต ::: มีผลต่อต้นทุนการผลิต

  7. 3. คุณภาพในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (ต่อ) • การบริหารคุณภาพ ::: ทุกฝ่ายต้องมีส่วนร่วมในการควบคุมคุณภาพ • การควบคุมคุณภาพทั่วทั้งองค์กร (Company-Wide Quality Control ; CWQC)หรือ • การควบคุมคุณภาพแบบเบ็ดเสร็จ (Total Quality Control ; TQC) • ลูกค้า หมายถึง ผู้รับผลงาน หรือ แผนกถัดไป

  8. 4. คุณภาพในยุคโลกาภิวัฒน์ • จาก ผลิตอะไรก็ขายได้ (Product-Out Concept) • เป็น ผลิตเอาใจตลาด (Market-In Concept) • มุ่งสร้างกำไรและสร้างความพอใจแบบเบ็ดเสร็จต่อลูกค้า • คุณภาพ เป็นกลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจ (แนวคิดด้านการตลาด) • การสร้างความพอใจต่อลูกค้าอย่างเบ็ดเสร็จ(Total Customer Satisfaction : TCS) โดยอาศัยการบริหารคุณภาพแบบเบ็ดเสร็จ(Total Quality Management ; TQM) • ปรัชญาคุณภาพ (Quality Philosophy)

  9. Big Q VS Little q

  10. นิยามของคุณภาพในยุคนี้นิยามของคุณภาพในยุคนี้ • การสร้างความพึงพอใจต่อลูกค้าอย่างเบ็ดเสร็จ (Total Customer Satisfaction : TCS) • การบริหารคุณภาพแบบเบ็ดเสร็จ (Total Quality Management : TQM) • ปรัชญาคุณภาพ (Quality Philosophy)

  11. ความพึงพอใจของลูกค้า • Customer Satisfaction • เป็นผลมาจากการตอบสนองความต้องการใน 2 ด้าน • ความจำเป็น(Loss) • ความคาดหมาย (Expectations)

  12. ความจำเป็น (Needs) • ลูกค้าขาดแคลน(Lack) สิ่งใดแล้วทำให้เกิดความเดือดร้อน (Loss) • ทำให้ความจำเป็นได้รับการกำหนดเป็นลำดับชั้น • ทฤษฎีลำดับความต้องการของแมสโลว์ (Hierarchy of Needs)

  13. ความคาดหมาย (Expectations) • ความคาดหมายขั้นพื้นฐาน :: ความเหมาะสมในการใช้งาน • ความคาดหมายขั้นมาตรฐาน:: การเทียบเคียง (Benchmarking) กับผลิตภัณฑ์จากคู่แข่ง • ความคาดหมายขั้นปรารถนา :: ความคาดหมายของแต่ละบุคคลซึ่งจะแตกต่างกันออกไป • ความคาดหมายซ่อนเร้น:: ความคาดหมายที่ลูกค้าไม่ได้คาดคิด แต่ถ้าเกิดขึ้นจะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ

  14. แนวคิดของลูกค้า • อดีต ::: ลูกค้า หมายถึง ผู้ซื้อจนถึงผู้ใช้ที่ขั้นสุดท้าย • ปัจจุบัน ::: ลูกค้า หมายถึง บุคคลใดก็ตามที่ได้รับผลกระทบต่งานที่ทำ ความพึงพอใจของลูกค้า ความต้องการ Lack + Loss Needs Expectations

  15. ลูกค้า แบ่งเป็น 2 ประเภท • ลูกค้าภายใน (Internal Customer) • บุคคลที่อยู่ในองค์กรแต่ได้รับผลงานที่ทำ • ลูกค้าในแนวดิ่ง (Vertical Customer) ..ผู้บังคับบัญชา • ลูกค้าในแนวนอน (Horizontal Customer)..ผู้ใช้ผลงานในกระบวนการถัดไป • ลูกค้าภายนอก (External Customer) บุคคลที่อยู่ภายนอกองค์กรแต่ได้รับผลกระทบ

  16. ลูกค้า (Customer) ตัวเรา ลูกค้าภายใน Internal Customer ผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา แผนกต่อไปที่ได้รับผลกระทบ ผู้ซื้อ / ผู้ใช้ ลูกค้าภายนอก External Customer สังคม

  17. คุณภาพชีวิตในการทำงานคุณภาพชีวิตในการทำงาน • Quality of Working Life : QWL • การสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าที่เป็นพนักงานในองค์กร • เกิดขึ้นเมื่อได้รับการตอบสนอง ดังนี้ • ด้านความจำเป็น คือ งานของพนักงาน • ด้านความคาดหมาย ในกระบวนการทำงานของตนเอง 1. ความปลอดภัย 2. ความมั่นคง 3. ขวัญและกำลังใจ 4. เพิ่มผลิตภาพด้านแรงงาน

  18. การสร้างความพอใจต่อพนักงานการสร้างความพอใจต่อพนักงาน • การตอบสนองให้มีงานที่ดี • สอดคล้องกับความคาดหมาย 3 ประการ • SMP :: • Safety&Security • Morale • Productivity SMP

  19. คุณภาพของผลิตภัณฑ์ (Quality of Products) • การสร้างความพอใจต่อลูกค้าที่เป็น ผู้ซื้อ หรือ ผู้ใช้ • ด้านความจำเป็น คือ ผลิตภัณฑ์ ::สิ่งที่จับต้องได้ การบริการ และสารสนเทศ • ด้านความคาดหมาย คือ ความคาดหมายในตัวผลิตภัณฑ์ • คุณลักษณะคุณภาพ (Quality Characteristic) • ต้นทุน (Cost) • กำหนดการ (Schedule)หรือ กำหนดการส่งมอบ (Delivery) QCS or QCD

  20. ไตรศาสตร์ด้านคุณภาพของจูรานไตรศาสตร์ด้านคุณภาพของจูราน • The quality Trilogy • การบริหารคุณภาพที่ดี สนใจ Big Q :: reduce Cost • จูราน :: การสร้างแนวความคิดด้านคุณภาพที่เหมาะสมกับบุคลากรในทุกๆ หน้าที่ ทุกลำดับชั้น ทุกสายการผลิต • ไตรศาสตร์ของจูราน เป็นศาสตร์ที่เป็นระบบ และอยู่บนความมีเหตุและผลในการบริหาร

  21. ไตรศาสตร์ด้านคุณภาพของจูรานไตรศาสตร์ด้านคุณภาพของจูราน การปรับปรุงคุณภาพ (QI) (QM) การบริหารคุณภาพ การวางแผนคุณภาพ (QP) การควบคุมคุณภาพ (QC) การประกันคุณภาพ (QA)

  22. การบริหารคุณภาพ (Quality Management : QM) • กระบวนการในการชี้บ่งและบริหารกิจกรรมต่างๆ ที่มีความจำเป็นต่อการดำเนินการให้บรรลุจุดประสงค์ด้านคุณภาพของกระบวนการ • ประกอบด้วย QP + QC + QI • จุดประสงค์ ::การประกันคุณภาพ QA • QA :: การสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าคุณภาพของจูราน

  23. การวางแผนคุณภาพ (Quality Planing) • การกำหนดไว้ซึ่งเป้าหมาย (Goal) ที่จะบรรลุสู่ความคาดหมายของลูกค้าที่กำหนด • แล้วทำการจัดสรรทรัพยากรที่มีจำกัดด้วยวิธีการ (Means) • ที่จะทำให้เกิดความมั่นใจว่า ผลจากวิธีการดังกล่าวทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจ

  24. ขั้นตอนการวางแผนคุณภาพ ประกอบด้วย • การชี้บ่งลูกค้า (โดยทั่วไปหมายถึง ลูกค้าภายนอก) • พิจารณาความต้องการลูกค้า (Need & Expectations) • กำหนดคุณภาพในการออกแบบ หรือลักษณะของผลิตภัณฑ์ • กำหนดเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ ได้จากนโยบายผู้บริหาร เป้าหมายคุณภาพ คุณภาพตามข้อ 3 • ทำการออกแบบและพัฒนากระบวนการ (คำนึงถึงวิธีการภายใต้ทรัพยากรที่จำกัด ที่ทำให้บรรลุเป้าหมายของผลิตภัณฑ์)

  25. ถ้าการวางแผนคุณภาพ ไม่สมบูรณ์ • ความไม่มีคุณภาพด้านความถูกต้องในการผลิต หรือ • ความบกพร่องด้านคุณภาพ (Quality Deficiencies)

  26. การควบคุมคุณภาพ(Quality Control) • การเฝ้าพินิจ (Monitoring)ผลจากกระบวนการเพื่อเปรียบเทียบกับความคาดหมายของลูกค้า ซึ่งถ้าไม่ได้เป็นไปตามความคาดหมายที่จะส่งผลให้ลูกค้าเกิดความพอใจแล้ว จะต้องค้นหาสาเหตุและทำการแก้ไข (Problem Solving) • เป็นการรักษาสภาพเดิมให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด

  27. การปรับปรุงคุณภาพ(Quality Improvement) • การคาดการณ์ความคาดหมายใหม่ของลูกค้าสำหรับผลิตภัณฑ์เดิม หรือ • การค้นหาความจำเป็นของลูกค้าสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ แล้วทำการวางแผนใหม่ ตลอดจนการควบคุมแล้วใช้บรรลุตามเป้าหมาย • เป็นการทำลายสภาพเดิมและสร้างระบบใหม่ขึ้นมาเพื่อบรรลุตามเป้าหมายใหม่ของคุณภาพ

  28. สัดส่วนของความพยายามสำหรับ 3 กระบวนการหลักของการบริหารคุณภาพกับพนักงานระดับต่างๆ วางแผน สูง (Top) ปรับปรุง ควบคุม กลาง (Middle) ต่ำ (Worker) 3S + QCC + IE + VA ความสัมพันธ์ 80% 100%

  29. การบริหารคุณภาพแบบเบ็ดเสร็จ(Total Quality Management : TQM) • เป็นการบริหารคุณภาพที่ให้บุคลากรในทุกสายงานทุกระดับมีส่วนร่วมกับการบริหารคุรภาพ • Kano :::“การบริหารธุรกิจที่มีจุดประสงค์ให้เกิดการประกันคุณภาพ” หรือ “การบริหารธุรกิจเพื่อให้ได้กำไรอย่างเป็นธรรม โดยผ่านการสร้างความพึงพอใจให้กับบุคลากรทุกฝ่ายที่มีส่วนได้เสียกับธุรกิจ (Stakeholder)”

  30. ปรัชญา 3 ประการของ TQM • ความมีส่วนร่วมทั่วทั้งองค์กร (Company-Wide) • พนักงานจะต้องมีการควบคุมคุณภาพด้วยตนเอง • กระบวนการทำงานของพนักงานได้รับการแก้ไขและปรับปรุงด้วยตนเอง (สมัครใจทำ) • 3S เป็นการจัดระเบียบการทำงานโดยมองด้วยตาเปล่า (3ส) • QCC (Quality Control Circle) • IE (Industrial Engineering) • VA (Value Analysis)

  31. ปรัชญา 3 ประการของ TQM • ความมีระบบ(Systematic) • การบริหารภายใต้แนวคิดที่สามารถสอบกลับได้ (Traceability)โดยไม่มีอุปสรรคจากหน้าที่การงาน ตำแหน่งงาน หรือสายงานผลิต

  32. ปรัชญา 3 ประการของ TQM • การตัดสินใจด้วยข้อเท็จจริง (Scientific) • Deductive ::: การแก้ปัญหาในเชิงทฤษฎี • พิจารณาจากเหตุและผลแล้วจะสรุปเข้าหาข้อสรุปทันที • Inductive ::: วิธีอนุมาน (Inference) • พยายามอธิบายด้วยสาเหตุและผล • ไม่ตัดสินปัญหาด้วยประสบการณ์ ลางสังหรณ์ และความกล้า • การตัดสินใจ อาศัยกลวิธีทางสถิติที่เหมาะสม

  33. รูปแบบการบริหารแบบ TQM มีหลักการคือ • การบริหารที่เน้นลูกค้า (Customer-Oriented Management) • ความเป็นเลิศด้านทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Excellence) • ความเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ (Product Leadership) • ความเป็นเลิศด้านการบริหาร (Management Excellence)

  34. แนวทางในการปฏิบัติขั้นพื้นฐานแนวทางในการปฏิบัติขั้นพื้นฐาน • ค้นหาความต้องการของลูกค้าทั้งลูกค้าภายในและภายนอกองค์กร • ออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการที่จะบรรลุความพึงพอใจของลูกค้า • ออกแบบกระบวนการผลิต และหาทางป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น • เก็บผลการปฏิบัติงานไว้เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงการปฏิบัติงาน • พยายามขยายแนวความคิดเหล่านี้ไปยังผู้ผลิตรายย่อยด้วย

  35. Stevenson เสนอแนวทางเพิ่มเติมที่สำคัญ คือ • การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Continual Improvement) • กิจกรรมตามวงจรการบริหารคุณภาพเดมมิ่ง (Deming Cycle) • ไคเซ็น (Kaizen) :::การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง วงจร PDSA Action ปฏิบัติการแก้ไข Plan การวางแผน QI Study ศึกษาผล Do ดำเนินการแก้ไข

  36. Stevenson เสนอแนวทางเพิ่มเติมที่สำคัญ คือ • การเทียบเคียง (Benchmarking)กับบริษัทคู่แข่ง • การให้อำนาจแก่พนักงาน (Empowerment) • ทำงานเป็นทีม (Team Approach) • การตัดสินใจตามข้อเท็จจริงแทนความคิดเห็น (Decisions Based on Facts rather than Opinions) • ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคหรือเครื่องมือที่ใช้ (Knowledge of Tools) • คุณภาพจากผู้ผลิตรายย่อย (Supplier Quality)

  37. สมรรถนะที่ควรจะเป็น (เป้าหมาย) ปัญหา (Problem) สมรรถนะที่เกิดขึ้นจริง (ผลงาน) หลักการของการควบคุมคุณภาพ • QC :::การรักษาไว้ซึ่งเป้าหมายโดยมีกิจกรรมเพื่อรักษาเป้าหมายนั้น • ปัญหา ::: ความเบี่ยงเบนของสมรรถนะที่เกิดขึ้นจริง (ACTUAL Performance) จากสถานะที่ควรจะเป็น (SHOULD Performance) • การเฝ้าพินิจ (Monitoring):::เปรียบเทียบผลงานกับเป้าหมาย • การแก้ปัญหา(Problem Solving):::แก้ที่สาเหตุ และทำการบรรเทาปัญหา

  38. การแก้ปัญหา แบ่งเป็น 3 มาตรการ • มาตรการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า • แก้ที่อาการปัญหา • มาตรการแก้ปัญหา • เป็นมาตรการปฏิบัติการแก้ไข (Corrective Action) • แก้ปัญหาเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกิดปัญหาเท่านั้น • มาตรการป้องกันปัญหา • การป้องกันการเกิดซ้ำของปัญหา (Preventive Action) • ค้นหาและระบุรากเหง้าของปัญหา แล้วสร้างมาตรการป้องกันมิให้เกิดขึ้นอีก

  39. การควบคุมคุณภาพโดยอาศัยสถิติ(Statistical Quality Control ; SQC) • กระบวนการตัดสินใจทางสถิติ ประชากร (Population) สิ่งตัวอย่าง (Sample) การชักตัวอย่าง การตัดสินใจ (Decision Making) ผลลัพธ์ (Result) ข้อมูล (Data) กลวิธีทางสถิติ (Techniques)

  40. SQC มีกระบวนการหลักๆ 3 กระบวนการ คือ • การควบคุมเพื่อการยอมรับ (Acceptance Quality Control : AQC) • ระบบที่จะป้องกันลูกค้าจากการยอมรับผลิตภัณฑ์ที่บกพร่อง • จูงใจและกระตุ้นให้ผู้ผลิตดำเนินการใช้ระบบ QCของกระบวนการ • การควบคุมกระบวนการโดยอาศัยสถิติ (Statistical Process Control : SPC) • พิจารณาความแตกต่างของกระบวนการนั้น ว่ามีสาเหตุจาก • ความผันแปรแบบธรรมชาติ (Common Cause):::สภาวะเสถียร • ความผันแปรผิดธรรมชาติ (Special Cause) :::สภาวะไม่เสถียร

  41. การเปรียบเทียบชนิดของความผันแปรระหว่างแนวคิดของแหล่งกำเนิด และแนวคิดของการจัดการ

  42. การทดสอบสมมติฐาน(Test of Hypothesis) H0 : Process in Control (อิทธิพลของ Chance Cause) H1 : Process out of Control (อิทธิพลของ Assignable Cause) • โดยทำการศึกษาและวิเคราะห์เพื่อยอมรับสมมติฐานใดๆ ตามหลักการทางสถิติ • ก่อนใช้ SPC ต้องทำการบริหารกระบวนการภายใต้ Chance Causeก่อน

  43. SQC มีกระบวนการหลักๆ 3 กระบวนการ คือ • การออกแบบการทดลอง (Design of Experiments : DOE) • วิเคราะห์หาปัจจัยที่มีผลต่อพารามิเตอร์ (Parameter)ที่ทำการควบคุม • เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเมื่อพารามิเตอร์ดังกล่าวออกนอกการควบคุม • “บทบาทในการควบคุมคุณภาพในสายการผลิต (On-line QC)” • DOE ช่วยในการวิจัยและพัฒนา(R&D)เพื่อเลือกปัจจัยที่มีผลต่อพารามิเตอร์ที่ออกแบบ แล้วหาค่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพารามิเตอร์

  44. มาตรฐาน ISO 9000 • มาตรฐานระหว่างประเทศ (International Organization for Standardization: ISO) • เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ • เพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาคุณภาพสำหรับอนาคต • ประกาศใช้ครั้งแรก เมื่อปี 1987 ISO • มาตรฐานทุกฉบับต้องมีการทบทวนทุก 5 ปีเป็นอย่างน้อย แบ่งเป็น • ระยะแรก ISO 9000:1994 ปรับปรุงบางส่วนของข้อกำหนด • ระยะที่สอง ISO 9000:2000ปรับปรุงในสาระสำคัญ

  45. อนุกรมมาตรฐานISO 9000 : 1994 ข้อกำหนด ข้อแนะนำ ISO 9001 ISO 9000-1 ISO 9000-2 ISO 9000-3 IS0 9000-4 ISO 9004-1 ISO 9004-2 ISO 9004-3 IS0 9004-4 ISO 9002 ISO 9003 แผนผังอนุกรมมาตรฐาน ISO 9000:1994

  46. อนุกรมมาตรฐานISO 9000 : 2000 ข้อกำหนด ข้อแนะนำ ISO 9001 ISO 9000 ISO 9004 แผนผังอนุกรมมาตรฐาน ISO 9000 : 2000

  47. จุดประสงค์ของอนุกรมมาตรฐาน ISO 9000:2000 • การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องของระบบบริหารคุณภาพ • ความเข้ากันได้ (Compatibility)กับมาตรฐานสากลอื่น • ความพึงพอใจของลูกค้า (Customer Satisfaction) • เป็นมาตรฐานสากลในการตรวจประเมินความสามารถขององค์กรที่จะบรรลุข้อกำหนดของลูกค้าและกฏระเบียบ

  48. โครงสร้างของมาตรฐาน ISO 9000:2000 • ISO 9000 (Fundamentals and Vocabulary) • หลักการของระบบการบริหารงานคุณภาพ แนวคิด และนิยาม • ISO 9001 (Requirements) • ข้อกำหนดของระบบบริหารคุณภาพ (ข้อ 0 – ข้อ 8) • สามารถตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า • มีรายละเอียดการตรวจประเมินทั้งภายในและภายนอกองค์ • ISO 9004 (Guidance for Performance Improvement) • แนวทางเพื่อการปรับปรุงสมรรถนะขององค์กรด้วยหลักการบริหาร 8 ประการ

  49. หลักการบริหารคุณภาพ 8 ประการ • การเน้นที่ลูกค้า (Customer Focus) • ความเป็นผู้นำ (Leadership) • การมีส่วนร่วมของบุคลากร (Involvement of People) • เน้นกระบวนการ (Process Approach)

  50. หลักการบริหารคุณภาพ 8 ประการ (ต่อ) • การบริหารงานอย่างเป็นระบบ (System Approach to Management) • การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Continuous Improvement) • การตัดสินใจบนพื้นฐานความเป็นจริง (Factual Approach to Decision Making) • ความสัมพันธ์กับผู้ขายเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน (Mutually Beneficial Supplier Relationship)

More Related