1 / 61

ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต ( Internet )

บทที่ 1. ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต ( Internet ). ความหมายของ อินเทอร์เน็ต.

Download Presentation

ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต ( Internet )

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. บทที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต( Internet )

  2. ความหมายของอินเทอร์เน็ตความหมายของอินเทอร์เน็ต

  3. อินเทอร์เน็ต (Internet) หมายถึง เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาด ใหญ่ ที่มีการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายหลายๆ เครือข่ายทั่วโลก โดยใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า โพรโทคอล (Protocol) ผู้ใช้เครือข่ายนี้สามารถสื่อสารถึงกันได้ในหลายๆ ทาง อาทิเช่น อีเมล เว็บบอร์ด และสามารถสืบค้นข้อมูลและข่าวสารต่างๆ รวมทั้งคัดลอกแฟ้มข้อมูลและโปรแกรมมาใช้ได้

  4. ประวัติและความเป็นมาของอินเทอร์เน็ตประวัติและความเป็นมาของอินเทอร์เน็ต

  5. อินเตอร์เน็ตกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ.1969 หรือประมาณปี พ.ศ. 2512 โดยพัฒนามาจาก อาร์พาเน็ต (ARPAnet) ซึ่งเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายใต้ความรับผิดชอบของหน่วยงานโครงการวิจัยขั้นสูง (Advanced Research Projects Agency) หรือเรียกชื่อย่อว่า อาร์พา (ARPA) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกาจุดประสงค์ของโครงการอาร์พาเน็ต เพื่อสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่คงความสามารถในการติดต่อสื่อสารถึงกันได้ • ในปี 2512 ได้มีการปรับปรุงหน่วยงานอาร์พาและเรียกชื่อใหม่ว่า ดาร์พา (DARPA : Defense Research Project Agency ) • ในปี 2518 ดาร์พาได้โอนหน้าที่ดูแลรับผิดชอบอาร์พาเน็ตโดยตรงให้แก่ หน่วยสื่อสารของกองทัพ (Defense Communications Agency) หรือ DCA เนื่องจากอาร์พาเน็ตได้แปรสภาพจากเครือข่ายที่ปฏิบัติงานได้อย่างแท้จริงแล้ว

  6. ในปี 2526 อาร์พาเน็ตแบ่งออกเป็น 2 เครือข่าย คือ - เครือข่ายด้านการวิจัยใช้ชื่อ อาร์พาเน็ตเหมือนเดิม - เครือข่ายของกองทัพใช้ชื่อว่า "มิลเน็ต" (MILNET : MILitaryNETwork) ซึ่งใช้การเชื่อมต่อโดยใช้โปรโตคอล TCP/IP (Transmission Control Protocol / Internet Protocol ) เป็นครั้งแรก ในปี 2528 • พอมีถึงปี 2533 อาร์พาเน็ตรองรับเป็น backbone ไม่ไหวจึงยุติบทบาท และเปลี่ยนไปใช้ NFSNET และเครือข่ายอื่นแทน และได้มีการเชื่อมเครือข่ายต่างๆ ทำให้เครือข่ายมีขนาดใหญ่มากขึ้นจนเป็นเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันนี้

  7. ประเทศไทยกับอินเทอร์เน็ตประเทศไทยกับอินเทอร์เน็ต

  8. อินเทอร์เน็ตเริ่มมีบทบาทอย่างมากในช่วงปี 2530-2535 โดยเริ่มจากการเป็นเครือข่ายในระบบคอมพิวเตอร์ระดับมหาวิทยาลัย (campus network) • เข้าสู่อินเทอร์เน็ตอย่างสมบูรณ์เมื่อ ปี 2535 โดย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย • ต่อมาในปี พ.ศ.2536 เนคเทค ได้เช่าวงจรสื่อสารความเร็ว 64 กิโลบิตต่อวินาที ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการขนถ่ายข้อมูล ทำให้ประเทศไทยมีวงจรสื่อสารระหว่างประเทศ 2 วงจร หน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมเชื่อมโยงเครือข่ายในระยะแรก ได้แก่ สถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ และต่อมาได้ขยายไปยังหน่วยงานราชการอื่น ๆ • สำหรับภาคเอกชน ได้มีการก่อตั้งบริษัทสำหรับให้บริการอินเตอร์เน็ตแก่เอกชนและบุคคลทั่วไป ที่นิยมเรียกกันว่า ISP (Internet Service Providers)

  9. อินเตอร์เน็ต คือ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเกิดจากระบบคอมพิวเตอร์เครือข่ายย่อย ๆ หลาย ๆ เครือข่ายรวมตัวกันเป็นระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ ซึ่งขยายความได้ดังนี้ คือ การที่คอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป สามารถติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันได้โดยผ่านสาย Cable หรือ สายโทรศัพท์ ดาวเทียม ฯลฯ การติดต่อนั้นจะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน หรือใช้อุปกรณ์ร่วมกัน เช่น ใช้ Printer หรือ CD-Rom ร่วมกัน เราเรียกพฤติกรรมของคอมพิวเตอร์ลักษณะนี้ว่า เครือข่าย (Network) ซึ่งเมื่อมีจำนวนคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายมากขึ้น และมีการเชื่อมโยงกันไปทั่วโลก จนกลายเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ เราเรียกสิ่งนี้ว่า อินเตอร์เน็ต นั่นเอง

  10. คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันได้ พูดคุยกันรู้เรื่องนั่นเอง ซึ่งเราเรียกว่าภาษาที่ใช้สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ว่า โปรโตคอล (Protocol) • คอมพิวเตอร์ในระบบอินเตอร์เน็ตนั้น จะมีภาษาสากลใช้สื่อสารกันโดยเฉพาะ เรียกว่า Protocol ซึ่งเราเรียก Protocol เฉพาะนี้ว่า TCP/IP โดยย่อมาจากคำว่า Transmission Control Protocol (TCP) Internet Protocol (IP) นั่นเอง

  11. ยุคไร้พรมแดนนั้น การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากๆ ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ใช้ต้นทุนในการลงทุนต่ำ

  12. เหตุผลสำคัญที่ทำให้อินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมแพร่หลายคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้อินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมแพร่หลายคือ 1. การสื่อสารบนอินเทอร์เน็ต ไม่จำกัดระบบปฏิบัติการของเครื่องคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ที่ต่างระบบปฏิบัติการกันก็สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ 2. อินเทอร์เน็ตไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของระยะทาง ไม่ว่าจะอยู่ภายในอาคารเดียวกันห่างกันคนละทวีป ข้อมูลก็สามารถส่งผ่านถึงกันได้ 3. อินเตอร์เน็ตไม่จำกัดรูปแบบของข้อมูล ซึ่งมีได้ทั้งข้อมูลที่เป็นข้อความอย่างเดียว หรืออาจมีภาพประกอบ รวมไปถึงข้อมูลชนิดมัลติมีเดีย คือมีทั้งภาพเคลื่อนไหวและมีเสียงประกอบด้วยได้

  13. คำศัพท์เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต URLย่อมาจากคำว่า Uniform Resource Locator หมายถึงที่อยู่ (Address) ของข้อมูลต่างๆในอินเตอร์เนต รูปแบบของ URL จะประกอบด้วย http://www.thonburi-u.ac.th/com/index.html 1. ชื่อโปรโตคอลที่ใช้ (http ซึ่งย่อมาจาก HyperText Transfer Protocol)2. ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ และชื่อเครือข่ายย่อย (www.thonburi-u)3. ประเภทของเวบไซต์ (ac.th) 4. ไดเร็กทอรี่ (com) 5. ชื่อไฟล์และนามสกุล (index.html)

  14. Home Pageโฮมเพจ คือเว็บเพจหน้าแรกที่เป็นหน้าดัชนีหรือรายการที่บอกรายละเอียดของเว็บไซตนั้นๆ เราอาจจะเปรียบโฮมเพจเหมือนหน้าบ้านของเว็บไซต์ก็ได้Web Page เป็นหน้าเอกสารเว็บที่สร้างขึ้นด้วยภาษา HTML (Hypertext Markup Language)ซึ่งโปรแกรมเบราเซอร์จะทำหน้าที่แปลภาษาHTMLออกมาเป็นหน้าเอกสารทางจอภาพคอมพิวเตอร์  เว็บเพจอาจจะประกอบด้วยข้อความ ภาพกราฟิก หรือภาพเคลื่อนไหว อาจมีเสียงประกอบด้วยก็ได้ ทำให้ดึงดูดความสนใจ Proxy Server เป็น Serverที่ช่วยเก็บ Castของ Websiteต่าง ๆ ที่เราเคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้วซึ่งจะช่วยให้การเรียกดูในครั้งต่อไปให้เร็วขึ้นนั่นเอง Web Server เป็นที่รวมหรือ ที่อยู่ของ Websiteต่าง ๆ ที่เข้าใจกันง่าย ๆ ว่า Web hosting ภายในประกอบด้วย Websiteต่าง ๆ มากมาย

  15. คำศัพท์เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต • Intranetคือ การใช้งานอินเตอร์เน็ตในองค์กร ใช้เหมือนอินเตอร์เน็ตทุกอย่าง แต่ไม่ได้ต่อเชื่อมกับอินเตอร์เน็ต • Extranetคือ มีความคล้ายกับ Intranet เพียงแต่สามารถเปิดช่องให้สำหรับลูกค้าที่มีสิทธิ์เข้ามาใช้บริการของ Server

  16. Internet

  17. Intranet

  18. Extranet

  19. ISP (Internet Service Provider) เป็นองค์กรหรือหน่อยงานที่คอยให้บริการด้านอินเทอร์เน็ต และดูแลการเชื่อมต่อแต่ละเครือข่าย National ISP ISP ระดับประเทศ ซึ่งให้บริการเชื่อมต่อกับ ISP ระหว่างประเทศ และดูแล ISP ภายในประเทศ Regional ISP ISP ระดับภูมิภาค ให้บริการแต่ละภูมิภาค Local ISP ISP ระดับท้องถิ่น ให้บริการในระดับเมือง หรือระดับท้องถิ่น

  20. ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต(Internet Service Provider : ISP)

  21. เทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต • DSL เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาเพื่อให้การขนส่งข้อมูลผ่านทางสายโทรศัพท์มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีความเร็วในการขนส่งข้อมูลเพิ่มมากขึ้น และรับรองข้อมูลได้หลายรูปแบบ ประเภทที่นิยมมากที่สุดคือ ADSL

  22. ISDN เป็นเทคโนโลยีที่รวมเอาบริการต่างๆที่ใช้ในระบบโทรศัพท์ เข้าไว้ด้วยกัน โดยใช้การส่งสัญญาณแบบดิจิตอล ซึ่งกำหนดมาตารฐานขึ้นโดย ITU-T เพื่ออใช้ในการบริการด้านขนส่งข้อมูลและระบบโทรศัพท์แบบดิจิตอล โดยสามารถรองรับข้อมูลเสียง ภาพและวีดีโอ ผ่านทางสายโทรศัพท์ISDN เป็นเทคโนโยยีที่รวมบริการด้านดิจิตอลไว้ด้วยกันเพื่อให้ขอบเขตความสามารถของโทรศัพท์เพิ่มมากขึ้น

  23. Leased Line สายเช่า หรือ สายคู่เช่า ใช้คู่สายทั้งหมดสองคู่สำหรับขนส่งข้อมูลพร้อมกัน (Full-Duplex) สายเช่าเป็นระบบการส่งข้อมูลในแบบ Cir Cuit Switching คือส่งสัญญาณไปบนเส้นที่จองไว้ โดยผู้ใช้มีสิทธิ์ใช้ช่องสัญญาณนั้นเท่านั้น สามารถขอใช้ได้บริการได้ที่องค์การโทรศัพท์หรือผู้ให้บริการรายอื่น

  24. ชื่อโดเมนในระบบ Internet ชื่อโดเมน (ชื่อบนอินเตอร์เน็ต) ในทางปฏิบัติ คือ ชื่อที่เป็นตัวแทนแสดงถึงตัวของท่านบนอินเตอร์เน็ต เพื่อใช้แทนIP Address ทำให้ง่ายต่อการจดจำ เช่นหมายเลข IP Address 203.146.15.9 แทนที่ด้วยโดเมนเนมชื่อ mbk.ac.th

  25. ชื่อโดเมน จะแบ่งออกเป็นระดับชั้น โดยอาจจะเป็น 2 ระดับ หรือ 3 ระดับ ก็ได้ โดยแต่ละระดับจะถูกคั่นด้วยเครื่องหมายจุด เช่น ส่วนแรก จะหมายถึงชื่อองค์กรส่วนที่สอง จะเป็นส่วนขยายบอกประเภทขององค์กร เช่น เป็น องค์กรของเอกชน หรือองค์กรของรัฐบาลส่วนที่สาม จะเป็นส่วนขยายบอกประเทศที่เครื่องคอมพิวเตอร์นั้นตั้งอยู่

  26. ตัวอย่าง โดเมนที่ได้รับความนิยมกันทั่วโลก .com ย่อมาจาก commercial สำหรับธุรกิจ .eduย่อมาจาก education สำหรับการศึกษา .intย่อมาจาก International Organization สำหรับองค์กรนานาชาติ .org ย่อมาจาก Organization สำหรับหน่วยงานที่ไม่แสวงหากำไร .netย่อมาจาก Network สำหรับหน่วยงานที่มีเครือข่ายของ ตนเองและทำธุรกิจด้านเครือข่าย .govย่อมาจาก Governmental สำหรับหน่วยงานองกรค์ของรัฐ .mil ย่อมาจาก Military สำหรับองค์กรทหาร

  27. ตัวอย่าง โดเมนเนมหน่วยงานของไทย .ac.th ย่อมาจาก Academic Thailand สำหรับสถานศึกษาในประเทศไทย .co.th ย่อมาจาก Company Thailand สำหรับบริษัทที่ทำธุรกิจในประเทศไทย .go.th ย่อมาจาก Government Thailand สำหรับหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล .net.th ย่อมาจาก Network Thailand สำหรับบริษัทที่ทำธุรกิจด้านเครือข่าย .or.th ย่อมาจาก Organization Thailand สำหรับหน่วยงานที่ไม่แสวงหากำไร .in.th ย่อมาจาก Individual Thailand สำหรับของบุคคลทั่วๆ ไป

  28. บริการของอินเตอร์เน็ต(Internet Service)

  29. @ E-mail

  30. อีเมลล์ (E-mail) หรือเรียกอีกอย่างว่า “จดหมายอิเล็กทรอนิกส์” (Electronic Mail) เป็นบริการอย่างหนึ่งเป็นเครือข่าย อินเทอร์เน็ต สำหรับรับส่งจดหมายผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถส่ง จดหมายไปยังผู้ใช้ที่อยู่ห่างไกลได้อย่างรวดเร็ว สามารถรับส่งข้อมูได้หลากหลาย ทั้งรูปแบบที่เป็นข้อความ รูปภาพ หรือไฟล์ข้อมูลอีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการ ส่งจดหมายได้มาก เว็บไซต์ที่ให้บริการ e-mail ฟรี ได้แก่

  31. www.hotmail.com

  32. www.mail.yahoo.com

  33. www.gmail.com

  34. Telnet

  35. เป็นบริการสำหรับเข้าใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ต้องการจากระยะไกลผ่านเครื่อข่ายอินเทอร์เน็ต โดยผู้ใช้บริการจะต้องติดตั้งโปรแกรม Telnet Clint ไว้ที่เครื่อง และคอมพิวเตอร์ปลายทางจะต้องติดตั้งโปรแกรม Telnet Server เพื่อใช้ในการรับส่งคำสั่งเมื่อมีผู้ใช้ป้อนคำสั่งจากคอมพิวเตอร์ของตนเอง คำสั่งดังกล่าวจะส่งไปยังเครื่องปลายทางและส่งผลลัพธ์กลับมาแสดงที่หน้าจอของเครื่องผู้ใช้ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ทรัพยากรต่างๆของเครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทางเหมือนกับเข้าใช้งานจากคอมพิวเตอร์โดยตรง

  36. File Transfer Protocol (FTP)

  37. เป็นบริการสำหรับการรับส่งไฟล์ผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดยผู้ใช้สามารถดึงไฟล์จากเครื่อง Server มาเก็บยังเครื่องของตนเอง เรียกว่า ดาวน์โหลด (Download) ข้อมูล ส่วนการส่งข้อมูลไปเก็บบนเครื่อง Server เรียกว่า การอัฟโหลด (Upload) ข้อมูล โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการ FTP เรียกว่า FTP Serverและเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้บริการ เรียกว่า FTP Client

  38. Videoconference เป็นบริการแบบ Real-Time ที่ให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลเสียงและวีดีโอได้ ใช้สำหรับการกระประชุมั้ผู้เข้าร่วมประชุมไม่จำเป็นต้องอยู่สถานที่เดียวกัน แต่สามารถพูดคุยกันได้ช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

  39. Instant Messaging

  40. AIM

  41. Yahoo! Messenger

  42. MSN Messenger

  43. ICQ

  44. Google Talk

  45. Sanook! QQ

  46. Skype

  47. Windows Messenger

  48. E-Mail (Electronic Mail)

More Related