1 / 65

Lecture 7_3 ระบบชำระเงินอีเล็กทรอนิกส์ (e-Payment)

Lecture 7_3 ระบบชำระเงินอีเล็กทรอนิกส์ (e-Payment). องค์ประกอบหลักของระบบการชำระเงิน. ลูกค้า ร้านค้า ธนาคาร หรือ สถาบันทางการเงิน ผู้กำหนดกฎระเบียบปฏิบัติ มาตรฐาน เครือข่ายธนาคาร. การสร้างระบบการชำระเงิน. 1. พัฒนาระบบเอง โดย พัฒนาโปรแกรม พร้อมกับโปรแกรมเว็บเซิร์ฟเวอร์ ( Web Server)

meda
Download Presentation

Lecture 7_3 ระบบชำระเงินอีเล็กทรอนิกส์ (e-Payment)

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Lecture 7_3 ระบบชำระเงินอีเล็กทรอนิกส์(e-Payment)

  2. องค์ประกอบหลักของระบบการชำระเงินองค์ประกอบหลักของระบบการชำระเงิน • ลูกค้า • ร้านค้า • ธนาคาร หรือ สถาบันทางการเงิน • ผู้กำหนดกฎระเบียบปฏิบัติ มาตรฐาน • เครือข่ายธนาคาร

  3. การสร้างระบบการชำระเงินการสร้างระบบการชำระเงิน 1. พัฒนาระบบเอง โดยพัฒนาโปรแกรมพร้อมกับโปรแกรมเว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web Server) 2. จัดหาโปรแกรมสำเร็จรูปด้วยการซื้อ หรือการเช่าใช้รายเดือน / ปี 3. จ้างบริษัทมืออาชีพในการพัฒนา (Outsource) 4. ใช้ระบบชำระเงินของธนาคารใดธนาคารหนึ่ง

  4. สิ่งจำเป็นของระบบชำระเงินสิ่งจำเป็นของระบบชำระเงิน • การรักษาความปลอดภัยการส่งข้อมูลการทำรายการ • การเข้ารหัส และการถอดรหัส (Encryption-Decryption) • ระบบตรวจสอบผู้ทำรายการซื้อขายเป็นบุคคลที่มีสิทธิจริง • ลายเซ็นดิจิตอล (digital signature) ใช้ในการรับรองผู้ซื้อ • ใบรับรองดิจิตอล (digital certificate) ใช้เพื่อรับรองว่าร้านค้ามีอยู่จริงและเชื่อถือได้

  5. สิ่งที่จำเป็นของระบบชำระเงินRequirements of Commerce Cryptography เป็นกลไกหลักในแต่ละ Application

  6. ระบบการชำระเงิน (Payment System) • สำหรับการทำธุรกิจทั่ว ๆ ไป • เช่น เงินสด เช็ค บัตรเดบิต การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ • สำหรับการทำธุรกิจแบบ E-commerce • - บัตรแม่เหล็ก (Magnetic Strip Card) • - บัตรอัจฉริยะ (Smart Card) • - เช็คอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Check) • - เงินสดอิเล็กทรอนิสก์ (Electronic Cash) E-Payments อาศัยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

  7. บัตรแม่เหล็ก Magnetic Strip Cards แบ่งเป็น 3 ชนิด ได้แก่ 1. Online Magnetic Strip Cards - ATM Card - Debit Card - Credit Card 2. Offline Magnetic Strip Cards - บัตรโทรศัพท์ 3. Hybrid Magnetic Strip Cards

  8. Type of Electronic Payments • Credit Cards • Internet Banking • Electronic Wallet • Electronic Check • Digital Cash / E-Cash • Debit Card/Smart Card • Person to Person (P2P) • E-Mobile • Offline

  9. ระบบชำระเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ทระบบชำระเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ท รูปแบบการชำระเงิน แบ่งเป็น 2 ระบบ คือ 1. ระบบชำระเงินแบบจ่ายก่อน (Pre-paid Payment System) “ ชำระเงินก่อนแล้วค่อยนำไปซื้อสินค้าทีหลัง ” เช่น E-Cash 2. ระบบชำระเงินแบบจ่ายทีหลัง (Post-paid Payment System) “ ซื้อสินค้าก่อนแล้วชำระเงินภายหลัง ” เช่น E-Check และ Credit Card

  10. ระบบชำระเงินแบบจ่ายก่อน Pre-paid Payment System • E-Cash หรือ เงินสดอิเล็กทรอนิกส์ • คือ การชำระเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ท ที่แปลงจากเงินจริงให้ • เป็นเงินที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ชำระเงินให้ผู้ขายแทนการใช้ • เงินจริง • เงื่อนไขการชำระเงิน • 1. ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องมีบัญชีธนาคารเดียวกัน • 2. ผู้ซื้อและผู้ขายต้องขอใช้บริการเงินสดอิเล็กทรอนิกส์ • 3. ผู้ซื้อและผู้ขายต้องมี E-wallet อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง

  11. เงินสดอิเล็กทรอนิกส์(Digital Cash or E-Cash) • ลูกค้าต้องมีบัญชีเดียวกันกับผู้ขาย และต้องมี software e-wallet เพื่อใช้ในการรับส่งข้อมูลระหว่างลูกค้าและผู้ขาย ที่ลูกค้าจะใช้ eCoin (ทั้งนี้ลูกค้าจัดซื้อ eCoin ด้วยบัตรเครดิตและ eCoin จะอยู่ในรูปตัวเลขจำนวน 15 หลัก) • ลูกค้าจะต้องทราบราคาของสินค้าชนิดนั้น และทำการตกลงกับผู้ขายว่าจะชำระเงินทางธนาคารใด • ติดต่อไปยังธนาคารเพื่อซื้อ Coin โดยธนาคารจะตรวจสอบบัญชีและสร้าง coin ที่ตามมูลค่าที่ลูกค้าต้องการ โดยใน coin จะระบุว่า coin นี้ใครเป็นผู้ซื้อ จำนวนเท่าใด และมีลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์กำกับว่าเป็นของธนาคารจริง และส่งให้ลูกค้า • ร้านค้า จะแสดงสัญลักษณ์ไอคอนพิเศษของ eCoin ไว้ที่หน้าเว็บเพจการชำระเงิน • หลังจากนั้นลูกค้าคลิกสัญลักษณ์การชำระเงินเพื่อกรอกหมายเลข 15 หลักดังกล่าว • ชุดข้อมูลดิจิตอล(Digital)แทนเงินสด

  12. เงินสดอิเล็กทรอนิกส์(Digital Cash or E-Cash) • ผู้ขายจะส่ง Coin จากลูกค้าไปให้ธนาคารตรวจสอบว่าเป็นของธนาคารจริงหรือไม่ โดยดูจากลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ • เมื่อตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ธนาคารจะทำการโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ขายตามจำนวนเงินที่ระบุใน Coin

  13. ข้อจำกัด • ไม่สะดวกในการเปิดบัญชี และดาวน์โหลดโปรแกรม E-Wallet • ยุ่งยากในการจัดการสำหรับลูกค้าที่มีจำนวนมาก ๆ • คนที่ไม่มีบัตรเครดิตจ่ายเงินลำบาก • เหมาะกับธุรกรรมที่มูลค่าน้อยต่ำกว่า $10 • ข้อมูลดิจิตอล 1 ชุด ใช้ได้เพียงครั้งเดียว • เหมาะกับการซื้อสินค้าที่รับสินค้าได้ทันทีบนInternet เช่น เกม โปรแกรม ข้อมูลภาพ เป็นต้น

  14. ตัวอย่างองค์กรที่ใช้ • รูปแบบใช้เฉพาะที่ธนาคารใน USA. • Cybercash • Mondex • Spendcash • Visa

  15. ระบบชำระเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ทระบบชำระเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ท 2. ระบบชำระเงินแบบจ่ายทีหลัง (Post-paid Payment System) “ ซื้อสินค้าก่อนแล้วชำระเงินภายหลัง ” เช่น E-Check และ Credit Card

  16. ระบบชำระเงินแบบจ่ายทีหลัง Post-paid Payment System 1. E-Check หรือ เช็คอิเล็กทรอนิกส์ เป็นการใช้เช็คที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ชำระเงินให้กับผู้ขาย บริการเช็คอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางอินเทอร์เน็ท - นำเสนอบิลให้กับผู้ซื้อ - ยินยอมให้ผู้ซื้อชำระเงินตามใบแจ้งราคาของรายการสินค้า - จัดการเกี่ยวกับข้อมูลการโอนเงิน - ยินยอมให้ผู้ซื้อชำระเงินอัตโนมัติ - เป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างโปรแกรมจัดการด้านการเงิน กับโปรแกรม จัดการการติดต่อซื้อขาย

  17. การใช้เช็คอิเล็กทรอนิกส์ Electronic Check

  18. Check Electronic • ลูกค้าสั่งจ่ายส่ง check electronic ไปร้านค้า • ร้านค้าส่งข้อมูลไปยังธนาคารเพื่อทำการตรวจสอบและโอนเงินเข้าบัญชี • ธนาคารส่งข้อมูลมายังผู้สั่งจ่ายว่าได้โอนเงินเรียบร้อยแล้ว ระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล • เข้ารหัสเลขที่บัญชี • ธนาคารเพียงผู้เดียวถอดรหัสบัญชีได้ • โปรโตคอล SETและใบรับรองดิจิตอล ตรวจสอบผู้สั่งจ่าย หรือธนาคารว่าเป็นจริง

  19. 2. Credit Card (บัตรเครดิต) • สามารถชำระเงินด้วยบัตรแทนการชำระด้วยเงินสดได้ โดยค่าของสินค้าจะถูกหักจากยอดคงเหลือของบัตรเครดิต • ใช้บัตรเครดิตในระบบเดิมต่อเชื่อมเข้ากับระบบอนุมัติวงเงินผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต โดยวงเงินขึ้นอยู่กับข้อตกลงของสถาบันทางการเงิน • ส่งข้อมูลการสั่งซื้อ และข้อมูลของผู้ถือบัตรไปตรวจสอบยังธนาคารที่เป็นผู้ออกบัตรเครดิตและอนุมัติแบบReal Time • ระบบจะยืนยันการอนุมัติวงเงินผ่านทางหน้าจอบราวเซอร์และทางอีเมล์ในเวลาเดียวกัน

  20. ลูกค้าจะถูกตรวจสอบความสามารถในการชำระเงินเมื่อสมัครเป็นสมาชิกลูกค้าจะถูกตรวจสอบความสามารถในการชำระเงินเมื่อสมัครเป็นสมาชิก ร้านค้าจะตรวจสอบกับธนาคาร เมื่อลูกค้าใช้บัตรเครดิต ร้านค้าออกใบสลิป(สำเนา)ให้ลูกค้าเซ็นชื่อเป็นหลักฐานว่าได้ชำระเงินจริง ร้านค้านำใบสลิปไปเรียกเก็บเงินกับทางธนาคาร ลูกค้านำเงินไปชำระธนาคารในวันครบกำหนดชำระตามใบแจ้งค่าใช้จ่าย ขั้นตอนการชำระเงินด้วย Credit Card แบบ offline

  21. ร้านค้าหรือ Serverของร้านค้า Gateway ลูกค้า ธนาคารที่ร้านค้าใช้บริการ กระบวนการอื่น ๆ เครือข่ายของธนาคาร ธนาคารเจ้าของบัตรลูกค้า ขั้นตอนการสั่งซื้อ Online ด้วยบัตรเครดิต

  22. การชำระเงินด้วย Credit Card แบบ online ตัวอย่างวิธีการซื้อหนังสือจาก Tohome.com • เลือกสินค้าใส่ในตระกร้า • ลงทะเบียนเป็นสมาชิก • ระบุที่จัดส่ง • ชำระเงินด้วยบัตรเครดิต

  23. ขั้นตอนการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตขั้นตอนการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต

  24. การสมัครเป็นสมาชิกของร้านค้ามี 2 รูปแบบ คือ 1. ร้านค้าสมัครเป็นสมาชิกธนาคารใดธนาคารหนึ่ง ธนาคารจะให้Merchant Internet Account ร้านค้านำ Merchant Internet Account มาเซตกับระบบ ระบบตะกร้า (Shopping Cart) และระบบรักษาความปลอดภัย การสมัครเพื่อเปิดบริการชำระเงินด้วย Credit Card แบบ online ของร้านค้า

  25. 2. ร้านค้าสมัครเป็นสมาชิกกับองค์กร หรือบริษัทตัวกลางรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิต • ไม่ใช่ธนาคาร • เป็นร้านค้าของบุคคลธรรมดา • ลดขั้นตอนในการติดต่อธนาคาร • เพิ่มช่องทางทำมาหากิน • ไม่ต้องมีเงินก้อนเพื่อฝากไว้ประกันความเสี่ยง • คิดค่าบริการต่อ Transaction • เช่น Escrow, Verisign, Paypal

  26. สัญลักษณ์รูปการทำธุรกรรมที่มีการรักษาความปลอดภัยสัญลักษณ์รูปการทำธุรกรรมที่มีการรักษาความปลอดภัย

  27. 3 Digits • หมายเลข 3 หลักสุดท้ายที่ปรากฎอยู่ที่ด้านหลังบัตรเครดิตบริเวณแถบลายเซ็นต์ • หมายเลขเพิ่มเติมนอกเหนือจากหมายเลขบัตร 16 หลัก • เพิ่มความปลอดภัยสำหรับการสั่งซื้อสินค้าผ่านทาง mailorder / telephone order / internet • บ. MasterCard International เป็นผู้นำมาใช้เป็นรายแรก • ทุกครั้งที่มีการชำระเงินผู้ถือบัตรต้องกรอกหมายเลข 3 ตัวเพิ่มเติม จากหมายเลข 16 หลัก

  28. ตัวอย่าง 3 digits

  29. Credit Card • ข้อดี • - ชำระเงินได้สะดวก • - ผู้ซื้อที่ยังไม่มีเงินก็สามารถซื้อสินค้าได้ • ข้อเสีย • - เสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมหมายเลขบัตรเครดิต

  30. 3. Internet Banking (การหักบัญชีออนไลน์) • การต่อเชื่อมระบบการรับชำระเงินของระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่ระบบInternet Banking โดยตรง • ให้ผู้ซื้อสินค้าผ่านเว็บเข้าไปกดอนุมัติให้หักบัญชีของตนเองเพื่อชำระค่าสินค้าได้โดยตรง • ก่อนการใช้งานจะต้องมีการลงทะเบียนเพื่อแสดงความยินยอมและอนุมัติกับทางธนาคารก่อนล่วงหน้า

  31. Internet Banking • การให้บริการธนาคารทาง Internet • เป็นบริการประเภท Self Service Non-cash • เป็นการให้บริการที่มีต้นทุนต่ำที่สุด สามารถทดแทนบริการส่วนใหญ่ที่เดิมต้องทำที่ สาขาธนาคาร ซึ่งมีต้นทุนสูงกว่ามาก (ประมาณ 10 เท่า) • ใช้บริการได้ง่าย มีการโต้ตอบในทันที (Interactive) • ง่ายต่อการบำรุงรักษา • สามารถใช้บริการได้จากต่างจังหวัดหรือต่างประเทศที่ สามารถเข้าถึง Internet ได้ จึงมีค่าใช้จ่ายต่ำ

  32. ตัวอย่างของการให้บริการ Internet Banking • การสอบถามข้อมูลในบัญชี • การโอนเงิน • ชำระค่าบริการต่าง ๆ เช่น ค่าประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ ฯลฯ • แบบฟอร์มคำร้องขอใช้บริการต่างๆ เช่น ขอใช้บัตรเครดิต ขอสินเชื่อ • การบริการลูกค้าอื่น เช่น ขอสมุดเช็ค ระงับการจ่าย ฯลฯ

  33. ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยที่ให้บริการ • เอเชีย www.bankasia4u.com • กสิกร www.tfb.co.th • ไทยพาณิชย์ www.scbeasy.com • กรุงไทย www. ktb.co.th • กรุงศรีอยุธยา www. krungsrionline.com

  34. 4. การใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-wallet) • เป็นโปรแกรมที่ลูกค้าต้องดาวน์โหลดไปติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ของลูกค้าเอง เพื่อจัดเก็บข้อมูลบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัว • เมื่อลูกค้าเข้าไปชอปปิ้งที่เว็บไซต์ที่มีให้บริการ E-wallet ลูกค้าจะกรอกข้อมูลเท่าที่จำเป็นอย่างอัตโนมัติเท่านั้น • เหมือนกับรูปแบบ “One Click Shopping” • ช่วยประหยัดเวลาในการสั่งซื้อมากขึ้น

  35. Electronic Wallet Server ของธุรกิจ/ร้านค้า Order Form / Payment Client HTTP Server ถอดรหัสและดึงข้อมูล Download Pro.เพื่อติดตั้งจากเว็บ VISA ข้อมูลการสั่งซื้อ ข้อมูลการสั่งซื้อ ส่งต่อข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ เพื่อขออนุมัติ Electronic Wallet $ Cyber Cash $

  36. 5. สมาร์ทการ์ด (Smart Card) • เป็น Card ที่ฝังด้วย microship เพื่อเก็บข้อมูล • ข้อมูลที่จัดเก็บ เช่น การเงิน การประกันชีวิต เลขหมายบัตร credit และ รหัส password • ปลอดภัยกว่า บัตรเครดิต และบัตรเดบิต • ข้อมูลมีการเข้ารหัส Encryption • ใช้กับเครื่องอ่าน (smart card reader)

  37. Micro Ship

  38. Smart Card ในไทย ความล้มเหลวของสมาร์ดการ์ด • การ์ดที่ ICT ประมูลจากบริษัทเอกชนมาได้ 70,000 ใบ • ไม่สามารถอ่านข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยได้

  39. 6. เดบิทการ์ด (Debit Cards) • ใช้เหมือนเงินสด หรือ เช็คส่วนตัว • ตั้งวงเงินการใช้จ่ายได้เอง • buy now pay now • ต้องมีบัญชีในธนาคาร • เมื่อซื้อสินค้าจะถูกหักบัญชีทันที • แถบ magnetic จะใช้เก็บข้อมูล • เมื่อมีการใช้จ่ายจักมีการตรวจสอบวงเงินจากบัญชีเงินฝากโดยตรงว่า มีเงินเพียงพอที่จะชำระสินค้าหรือไม่

  40. 7. Person to Person (P2P) • ชำระเงินระหว่างบุคคลผ่านเว็บไซต์ที่เป็นผู้ให้บริการทางการเงิน • เช่น Paypal.com Paysbuy.com • ข้อดี • รวดเร็ว • ง่าย • เจ้าของเว็บไซต์ไม่ต้องเสี่ยงกับระบบความปลอดภัย และ จัดหาระบบการชำระเงินที่ยุ่งยาก

  41. ระบบการจ่ายเงินของ Paypal ระบบการจ่ายเงินของ Paypal เป็นระบบที่น่าสนใจและกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ ระบบของ Paypal ทำให้ผู้ใช้สามารถส่งเงินสดไปให้ใครก็ได้ในประเทศ โดยใช้เพียงแค่อีเมล์เท่านั้น • บ.Paypal เป็นตัวอย่างบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยี P2P • บริการที่นิยม คือ การโอนเงินระหว่างบุคคล การชำระค่าสินค้า เช่น Ebay.com

  42. ระบบการจ่ายเงินของ Paypal ขั้นตอนการใช้บริการ • สมัครเป็นสมาชิกกับ Paypal (จะได้ user+psw) หลังจากเปิดบัญชีและเติมเงินไว้แล้ว • เมื่อต้องการจะจ่ายเงินให้กับใคร ผู้จ่ายเงินใส่หมายเลขบัตรเครดิตของตนและจำนวนเงินที่ต้องการจ่าย บัตรเครดิตของผู้จ่ายก็จะถูกหักบัญชี • Paypal จะสร้างบัญชีของผู้รับเงินเอาไว้ให้มีเงินตามจำนวนที่ได้รับ และจะส่ง E-mail ไปยังปลายทางผู้รับเงิน • ผู้รับเงินรับ E-mail และลิงค์เข้าไป Paypal (ผู้รับเงินต้องเป็นสมาชิก) ผู้รับเงินจะทราบว่าเงินมาจากใคร และแสดงความต้องการว่าจะเลือกรับเงินแบบไหน เช่น ฝากเงินเข้าบัญชีของตน ส่งเช็คไปให้ หรืออาจจะเก็บเงินนี้ไว้ที่ Paypal ก่อนเพื่อที่จะนำไปใช้ส่งให้คนอื่นต่อไปก็ได้ในอนาคต • รายได้ของ Paypal นั้นมาจากดอกเบี้ยของเงินที่ค้างอยู่ในบัญชี

More Related