1 / 3

จดหมายข่าว KM สำนักวิชาการ สว. รวมใจ สานสายใย เรียนรู้ร่วมกัน

จดหมายข่าว KM สำนักวิชาการ. สว. รวมใจ สานสายใย เรียนรู้ร่วมกัน. ปีที่ 3 ฉบับที่ 5 เดือนพฤษภาคม 2551. วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ประจำเดือน พฤษภาคม. วันวิสาขบูชา.

nami
Download Presentation

จดหมายข่าว KM สำนักวิชาการ สว. รวมใจ สานสายใย เรียนรู้ร่วมกัน

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. จดหมายข่าว KM สำนักวิชาการ สว. รวมใจ สานสายใย เรียนรู้ร่วมกัน ปีที่ 3 ฉบับที่ 5 เดือนพฤษภาคม 2551 วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ประจำเดือน พฤษภาคม วันวิสาขบูชา วันวิสาขบูชา เป็นวันบูชาเพื่อน้อมระลึกถึงวันที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ซึ่งเกิดขึ้นในวันและเดือนเดียวกันนับว่าเป็นวันอัศจรรย์ยิ่ง คือ ในวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือนหก หรือเดือนเวสาขะ พระจันทร์เสวยวิสาขฤกษ์ เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อกว่าสองพันห้าร้อยปีมาแล้วในระยะเวลาที่ต่างกัน คำว่า "วิสาขบูชา" หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญเดือน 6 โดยย่อมาจาก “ วิสาขปุณณมีบูชา ”แปลว่า “ การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ ” ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ มีเดือน 8 สองหน ก็เลื่อนไปเป็นกลางเดือน 7 กล่าวโดยสรุปคือ วันประสูติ ตรัสรู้ของพระพุทธองค์ เป็นวันที่ชาวพุทธได้บุคคลสำคัญที่สุดวันปรินิพพานเป็นวันที่ชาวพุทธสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดและวันทั้ง ๓ นี้อยู่ในวาระเดียวกัน คือ วันเพ็ญเดือนวิสาขะ วันนี้จึงนับเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งทางพระพุทธศาสนา องค์การสหประชาชาติได้เล็งเห็นความสำคัญของวันนี้ จึงประกาศให้เป็น “ วันสำคัญสากลโลก ” ( Vesak Day ) การจัดงานวันวิสาขบูชาในประเทศไทย ได้เริ่มกระทำมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นราชธานี ดังตำนาน “ อันพระนครสุโขทัยธานีถึงวันวิสาขนักขัตฤกษ์ครั้งใด ก็สว่างไสวด้วยแสงประทีป เทียน ดอกไม้เพลิง... ” ในสมัยอยุธยาไม่ปรากฏหลักฐาน ส่วนสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 2 ได้ทรงฟื้นฟูพิธีวิสาขบูชาให้เป็นแบบแผนขึ้น และกระทำสืบต่อกันมาจนปัจจุบัน จดหมายข่าว KM สำนักวิชาการ สว. รวมใจ สานสายใย เรียนรู้ร่วมกัน ข้อมูลจาก http://www.easyinsurance4u.com/buddha4u/visaka.htmณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2551 พระราชพิธีฉัตรมงคลรัชกาลปัจจุบัน ตรงกับวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุยเดชฯ ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เสด็จขึ้นครองราชย์ เป็นอันดับที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี จึงถือว่าวันที่ 5 พฤษภาคม ของทุกปีเป็นมงคลสมัย พสกนิกรของพระองค์ ต่างพร้อมใจกันด้วยความจงรักภักดี จัดพิธีฉลองวันขึ้นครองราชย์ของพระองค์ ก่อนสมัยรัชกาล พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าอยู่หัว ยังคงไม่มีพิธีนี้ มีแต่พิธีที่จัดขึ้นเป็นการส่วนตัว โดยขุนนางชั้นผู้ใหญ่ เพื่อฉลองเครื่องราชูปโภค และ ตำแหน่งซึ่งตนรักษามา และ จัดให้มีขึ้น ในช่วงเดือน 6 กระทั่ง สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นครองราชย์ ได้ทรงประกอบพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2393พระองค์ทรงพระราชดำริว่า วันบรมราชาภิเษก เป็นมหามงคลสมัย ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศทั้งหลายที่มีพระเจ้าแผ่นดิน(หรือพระราชินี) ครองประเทศ ย่อมนับถือว่า วันนั้นเป็นวันนักขัตฤกษ์มงคลกาลต่างก็จัดงานขึ้นเป็นอนุสรณ์ อย่างไรก็ตาม พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริ ว่าเป็นการยากที่จะทรงอธิบายความหมายของวันฉัตรมงคลต่อพสกนิกรของพระองค์โดยละเอียดได้ จึงทรงโปรด ให้เรียกชื่อ ไปตามเก่าว่างานสมโภชเครื่องราชูปโภค แต่ทำให้เป็นวันคล้ายวันราชาภิเษก กล่าวคือในวันนั้น (วันขึ้น 13 ค่ำ เดือน 6 ) นิมนต์ พระสงฆ์มาสวดมนต์ที่พระที่นั่งดุสิต มหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง ในรัชกาลปัจจุบัน พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดงาน 3 วัน วันแรกตรงกับวันที่ 3 พฤษภาคม เป็นงานพระราชกุศลทักษิณานุประทาน ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย อุทิศถวายแด่ พระบรมราชบุพการีเป็นพิธีสงฆ์ สดัปกรณ์ พระบรมอัฐิสมเด็จสวดพระพุทธมนต์แล้ว พระราชาคณะถวายพระธรรมเทศนา พระสงฆ์สดัปกรณ์ พระบรมอัฐิ วันที่ 4 พฤษภาคม เริ่มพระราชพิธีฉัตรมงคล มีงานเลี้ยงพระและสมโภชเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ตอนเที่ยง ทหารบก ทหารเรือ ยิงปืนใหญ่ เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด ในวันนี้ จะทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ พระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก่ผู้ที่สร้าง คุณงามความดีแก่ประเทศอีกด้วยข้อมูลจาก http://sunsite.au.ac.th/thailand/special_event/coronation/indext.html ณวันที่ 16 พฤษภาคม 2551

  2. “ วันพืชมงคล - พิธีแรกนาขวัญ” ในหนังสือพระราชพิธี 12 เดือน พระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรง อธิบายถึง พิธีแรกนาขวัญไว้ดังนี้ "การแรกนาที่ต้องเป็นธุระของผู้ซึ่งเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เป็นธรรมเนียมมาแต่โบราณเช่นในเมืองจีน สี่พันปีล่วงมาแล้ว พระเจ้าแผ่นดินก็ทรงลงไถนาเองเป็นคราวแรก พระมเหสีเลี้ยงไหม ส่วนจดหมายเรื่องราวอันใดในประเทศสยามนี้ ที่มีปรากฏอยู่ในการ แรกนานี้ก็มีอยู่เสมอเป็นนิตย์ไม่มีเวลาเว้นว่างด้วยการซึ่งผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินลงมือทำเองเช่นนี้ ก็เพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่ราษฎร ชักนำให้มีใจหมั่นในการที่จะทำนา เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่จะได้อาศัยเลี้ยงชีวิตทั่วหน้า เป็นต้นเหตุของความตั้งมั่นและเจริญไพบูลย์แห่งพระนครทั้งปวง" วันพืชมงคลนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตรัสไว้ว่า เป็นพระราชพิธีที่มี 2 ชื่อ ต่อเนื่องกันเป็นพิธีเดียวคือ วันสวดมนต์ทำขวัญพืชพันธุ์ต่างๆ มีข้าวเปลือก เป็นต้น เป็นวันพระราชพิธีพืชมงคล ส่วนพิธีตอนเช้าคือการไถ เป็นพระราชพิธีจรดพระนังคัล พระราชพิธีพืชมงคลและจรดพระนังคัลในปัจจุบันนี้ เป็นพระราชพิธีเก่าแก่มาแต่โบราณ เป็นพระราชพิธีเสริมสร้างให้เกิดขวัญกำลังใจแก่เกษตรกรของชาติที่ว่ากันว่า เป็นกระดูกสันหลังของประเทศไทยโดยแท้ ในปีนี้พระยาแรกนา(นายจรัลธาดา กรรณสูต ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) เสี่ยงทายผ้านุ่งไปประกอบพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พยากรณ์ว่า น้ำสำหรับปีนี้จะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ และผลาหารมังสาหารจะอุดมสมบูรณ์ดี ส่วนการเสี่ยงทายพระโคกินเลี้ยง ปีนี้พระโคกินข้าวพยากรณ์ว่า ธัญญาหาร ผลาหารจะบริบูรณ์ดี กินหญ้าพยากรณ์ว่าน้ำท่าจะบริบูรณ์พอควร พร้อมด้วยธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร และมังสาหาร อุดมสมบูรณ์ดี สำหรับการประกอบพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญจะมีการนำอาหาร 7 สิ่ง ได้แก่ ข้าวเปลือก ข้าวโพด น้ำ หญ้า ถั่ว งา และเหล้ามาให้พระโคเลือกกินเพื่อเสี่ยงทาย (ข้อมูลจาก http://sunsite.au.ac.th/thailand/special_event/coronation/indext.htmlได้รับอนุญาตจาก : ธนพล จาดใจดี. (1994). เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับประเทศไทย. กรุงเทพฯ : ห.จ.ก. ไทยเจริญการพิมพ์.และ http://hilight.kapook.com/view/23682) จดหมายข่าว KM สำนักวิชาการ สว. รวมใจ สานสายใย เรียนรู้ร่วมกัน การศึกษาดูงานบุคลากรฝ่ายพัฒนาหลักสูตรและการสอน ฝ่ายพัฒนาหลักสูตรและการสอน จัดให้บุคลากรในฝ่ายฯได้เพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ด้านหลักสูตรและการสอนโดยจัดโครงการศึกษาดูงานด้านบริหารจัดการหลักสูตรและ e-Learning ภายในประเทศ จำนวน 3 ครั้ง สำหรับครั้งแรก เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2551 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังมีกำหนดการศึกษาดูงาน 2 แห่งดังนี้ 1. วิทยาลัยนานาชาติ ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่งจาก รศ.ดร.ดุษณี ธนะบริพัฒน์ รักษาการผู้อำนวยการวิทยาลัยนานาชาติ อาจารย์Dr. Jochen Amrehn และ Dr. Hla Shain 2. คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่งจาก ผศ.ดร. จันทร์บูรณ์ สถิตวิริยวงศ์ คณบดี รศ.ดร. นพพร โชติกกำธร และ รศ.ดร. โชติพัชร์ ภรณวลัย รักษาการในตำแหน่งรองคณบดี คุณวนิดา ศุภเจียรพันธ์ เลขานุการคณะ และคุณภูวิช ชัยกรเริงเดช นักวิชาการคอมพิวเตอร์ผู้บรรยาย สำหรับเนื้อหารายละเอียดการดูงานของฝ่ายพัฒนาหลักสูตรคลิกอ่านได้จาก web site ที่ http://www.stou.ac.th/Offices/Oaa/OaaOldpage/km/workshop1/index2.htm

  3. 108 วิธีที่คุณทำเองได้ง่ายๆ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ต่อจากจดหมายฉบับที่แล้วนะคะ ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการดำเนินชีวิตประจำวันนั้นมีวิธีการมากมายที่เราสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเองจากวารสารชมรมชาวสัมมากรได้รวบรวมเกร็ดความรู้ต่าง ๆ นำมาบันทึกไว้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านได้พอสมควร วิธีการขจัดคราบไขมันที่ติดรอบท่ออ่างล้างจาน ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานๆ จะเป็นเหตุให้ท่ออุตันได้มีวิธีทำ คือนำเกลือแกงใส่ลงไปในท่อ 2-3 ช้อน จากนั้นนำเบกกิ้งโซดาหรือผงฟูต้มน้ำให้เดือดแล้วเทลงไป ไขมันที่อุดตันก็จะหลุดออกไปหมด วิธีขจัดพวกมดแมลงมาขึ้นถังขยะทำได้ง่ายๆ โดยหยดแอมโมเนียลงข้างๆ ถังขยะสักเล็กน้อย กลิ่นแอมโมเนียจะทำให้มดแมลงไม่กล้าเข้ามาใกล้ถังขยะอีก การรักษาเครื่องมือทำสวนที่เป็นโลหะไม่ให้ผุกร่อนได้ง่าย มีวิธีการรักษาโดยใช้วาสลินทาผิวของโลหะทุกครั้งเมื่อใช้เสร็จแล้ว และนำมาทำความสะอาดอีกครั้ง การใช้เตาแก๊สแบบประหยัด ทำได้โดยปรับเปลวไปให้เป็นสีน้ำเงินเสมอ และไม่ควรเปิดไฟแก๊สให้สูงกว่าก้นหม้อด้วย จะทำให้หม้อร้อนช้า ควรปรับระดับให้พอดีกับก้นหม้อ สำหรับจดหมายข่าว KM สำนักวิชาการฉบับนี้ขอนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาเพิ่มอีก 4ข้อนะคะ ยังมีอีกหลายวิธี สำหรับการขจัดปัญหากับอุปกรณ์เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน จะนำมาเสนอในฉบับต่อๆไปนะคะ (ที่มา : วารสารชมรมชาวสัมมากร หน้า 22 โดย นางดวงแก้ว เทพศิริ) ดูแลหน้าท้องขจัดไขมันส่วนเกิน จดหมายข่าว KM สำนักวิชาการ สว. รวมใจ สานสายใย เรียนรู้ร่วมกัน สุขภาพกาย การดูแลหลังอาบน้ำ ขอนำเสนอการดูแลสุขภาพกายเรื่อง “ดูแลหน้าท้องขจัดไขมันส่วนเกินด้วยการดูแลขณะอาบน้ำ” ต่อจากฉบับที่แล้วซึ่งฉบับเดือนเมษายน ได้เสนอ “การดูแลขณะอาบน้ำ” ไปแล้วนะคะ สำหรับฉบับนี้ก็ขอนำเสนอในหัวข้อเรื่อง “การดูแลหลังอาบน้ำ”เพื่อช่วยลดปัญหาเรื่องผิวหน้า ช่วยแก้ปัญหาท้องแห้งเป็นขุยและช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนโลหิต โดย... ให้ลงน้ำมันและโลชั่นหลังอาบน้ำและเช็ดตัวเป็นขั้นตอนที่ 3 คือ นวดหน้าท้อง (อย่าหลงลืมช่วงสะโพกและต้นขา) ด้วยโลชั่นหรือน้ำมันกระชับผิวกาย นวดวนตามเข็มนาฬิกา สุดท้ายอาจนวด ผสมกับดึงผิวไปด้วย ให้ใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือดึงเนื้อขึ้นมาแล้วปล่อย ดึงแล้วปล่อยไปเรื่อยจนผิวออกแดง และเลือดไหลเวียนดี ประคบน้ำแข็ง ช่วงเวลาก่อนนอน ฟิตหน้าท้องอีกรอบด้วยการใส่ถุงมือหยิบก้อนน้ำแข็ง 2-3 ก้อนมาถูที่หน้าท้อง ความเย็น จากน้ำแข็งจะช่วยกระชับหน้าท้อง การเผาผลาญพลังงานจะเป็นไปด้วยดี ขจัดเซลล์ที่หมดสภาพ โดยขัดผิวหน้าท้องเพื่อขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพอาทิตย์ละครั้ง ด้วยการผสมเกลือทะเลหนึ่งกำมือกับ น้ำมันนวด 10 มิลลิลิตร (ได้น้ำมันนวดผสมสารสกัดจากมะนาวจะยิ่งดี) คนส่วนผสมและถูหน้าท้อง เบาๆ ในลักษณะขัดวนตามเข็มนาฬิกา แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เช็ดให้แห้งอย่างเบามือ (ที่มา : วารสารชมรมชาวสัมมากร หน้า 27 โดย นางดวงแก้ว เทพศิริ) หลงใหลไป ในเรื่องคิด จิตถูกขัง หลงชอบ-ชัง หาถูก-ผิด จิตหวั่นไหว หลงค้นหา เรื่องเท็จ-จริง จิตวุ่นวาย พอเห็นใจ มันเผลอคิด จิตเห็นจริง(ที่มา : บ้านอารีย์ วารสารธรรมะ..แบ่งปัน ฉบับที่ ๐๖ พฤษภาคม ๒๕๕๑ คำบรรยายโดย พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส) เก็บมาฝาก จิตถูกขัง ขอเชิญชาว สว ส่งข่าวสารความรู้เผยแพร่ในจดหมายข่าว KM ได้ที่ผู้แทนสำนักงานเลขานุการ (รัตนา เที่ยงธีระธรรม) โทร 7509 จัดทำจดหมายข่าว โดย น.ส.รัตนา เที่ยงธีระธรรม

More Related