470 likes | 593 Views
พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒. นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย. ๔ เมษายน ๒๕๕๖ ๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. โรงแรมเอเชีย. บทบาทและอำนาจหน้าที่ของ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒.
E N D
พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย ๔ เมษายน ๒๕๕๖ ๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. โรงแรมเอเชีย
บทบาทและอำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒
ผู้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา ๔ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่.....”
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคุณสมบัติ การแต่งตั้ง การปฏิบัติหน้าที่ และการกำกับดูแล การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.๒๕๔๒ พ.ศ.๒๕๕๖ คุณสมบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่
ข้อ ๔ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ • เป็นข้าราชการของสำนักงานซึ่งได้รับมอบหมายเป็นหนังสือจากเลขาธิการให้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันหรือการปราบปรามการฟอกเงินเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (๒) เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทบริหาร ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ตำแหน่งประเภทวิชาการ หรือตำแหน่งประเภททั่วไประดับปฏิบัติงานขึ้นไป หมวด ๑ คุณสมบัติและการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่
(ต่อ) ข้อ ๔ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ (๓) เป็นข้าราชการตำรวจหรือทหาร ตั้งแต่ชั้นสัญญาบัตรขึ้นไป (๔) เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ ตั้งแต่ระดับ ๔ หรือเทียบเท่าขึ้นไป
ข้อ ๕ ให้เลขาธิการเป็นผู้เสนอเรื่องต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อมีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งมีคุณสมบัติตามข้อ ๔
ข้อ ๖ เมื่อมีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว ให้เลขาธิการออกบัตรประจำตัวให้เฉพาะพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งอาจได้รับการมอบหมายเป็นหนังสือเพื่อปฏิบัติการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยให้พิจารณาตามความเหมาะสมหรือความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่เลขาธิการกำหนด
ข้อ ๗ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่พ้นจากตำแหน่งเมื่อ (๑) ขาดคุณสมบัติตามข้อ ๔ (๒) กระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่กำหนดในหมวด ๒ หรือหมวด ๓ ของระเบียบนี้ (๓) นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งตามความเห็นของเลขาธิการ
ข้อ ๘ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๒๒ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแจ้งให้เลขาธิการหรือรองเลขาธิการซึ่งเลขาธิการมอบหมายทราบก่อนดำเนินการ เว้นแต่เป็นกรณีจำเป็นหรือเร่งด่วน ให้ดำเนินการไปก่อนแล้วรายงานให้ทราบโดยเร็ว หมวด ๒ การปฏิบัติหน้าที่
ข้อ ๙ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๓๘ (๑) หรือ (๒) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้ (๑) แจ้งให้เลขาธิการหรือรองเลขาธิการซึ่งเลขาธิการมอบหมายทราบก่อนดำเนินการ เว้นแต่เป็นกรณีจำเป็นหรือเร่งด่วน ให้ดำเนินการไปก่อนแล้วรายงานให้ทราบโดยเร็ว (๒) ต้องระบุข้อความที่แสดงว่าเป็นพนักงานเจ้าที่ซึ่งได้รับมอบหมายไว้ในหนังสือที่ออกตามมาตรา ๓๘ (๑) หรือ (๒) (๓) จัดทำรายงานตามแบบที่เลขาธิการกำหนด แล้วส่งรายงานดังกล่าวให้เลขาธิการทราบภายในห้าวันทำการนับแต่วันที่ได้ปฏิบัติหน้าที่
ข้อ ๑๐ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๓๘ (๓) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้ • แจ้งให้เลขาธิการหรือรองเลขาธิการซึ่งเลขาธิการมอบหมายทราบก่อนดำเนินการเว้นแต่เป็นกรณีเร่งด่วน ให้ดำเนินการไปก่อนแล้วรายงานให้ทราบโดยเร็ว
(๒) ในกรณีที่เป็นการค้นเคหสถาน สถานที่ หรือยานพาหนะใด ๆ ต้องแสดงเอกสารมอบหมายและบัตรประจำตัวต่อผู้ครอบครองหรือผู้ดูแลสถานที่นั้น ถ้าหาผู้นั้นไม่พบให้แสดงต่อบุคคลที่อยู่ในสถานที่นั้น ก่อนลงมือค้นให้แสดงความบริสุทธิ์เสียก่อน และให้ค้นต่อหน้าบุคคลดังกล่าว หรือถ้าหาบุคคลดังกล่าวไม่ได้ก็ให้ค้นต่อหน้าบุคคลอื่นอย่างน้อยสองคนซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ขอร้องให้มาเป็นพยาน (๓) เมื่อค้นแล้ว ให้บันทึกรายละเอียดแห่งการค้นและบัญชีสิ่งของที่ค้นได้แล้วอ่านให้บุคคลตาม (๒) ฟังและลงลายมือชื่อรับรองไว้ หากบุคคลดังกล่าวไม่ยอมลงลายมือชื่อให้หมายเหตุไว้ในบันทึกการค้น
(๔) จัดทำรายงานการค้นตามแบบที่เลขาธิการกำหนด แล้วส่งรายงานดังกล่าวพร้อมสำเนาบันทึกการค้นและบัญชีสิ่งของให้เลขาธิการทราบภายในห้าวันทำการนับแต่วันที่ค้น
ข้อ ๑๑ ภายใต้บังคับแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๓๘/๑ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้ (๑) แจ้งให้เลขาธิการหรือรองเลขาธิการซึ่งเลขาธิการมอบหมายทราบก่อนดำเนินการเว้นแต่เป็นกรณีเร่งด่วน ให้ดำเนินการไปก่อนแล้วรายงานให้ทราบโดยเร็ว (๒) ในการจับนั้น จะต้องประกอบด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่น้อยกว่าสองคน โดยมีพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับชำนาญการหรือเทียบเท่า หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจหรือทหารตั้งแต่ชั้นสัญญาบัตรขึ้นไป เป็นหัวหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละครั้ง
(๓) แสดงเอกสารมอบหมายและบัตรประจำตัวต่อผู้จะถูกจับ (๔) แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทราบ หากมีหมายจับให้แสดงต่อผู้ถูกจับ และแจ้งด้วยว่า (ก) ผู้ถูกจับมีสิทธิจะไม่ให้การหรือให้การก็ได้ (ข) ถ้อยคำของผู้ถูกจับนั้น อาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้และ (ค) ผู้ถูกจับมีสิทธิจะพบทนายและปรึกษาทนายความหรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความ
(๕) พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องอนุญาตให้ผู้ถูกจับแจ้งให้ญาติหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจทราบถึงการจับกุม หากผู้ถูกจับประสงค์เช่นนั้น เว้นแต่ (ก) ไม่สามารถดำเนินการได้โดยสะดวก (ข) เป็นการขัดขวางการจับหรือการควบคุมผู้ถูกจับหรือ (ค) ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด
(๖) บันทึกถ้อยคำผู้ถูกจับเพื่อเป็นหลักฐานเบื้องต้นแล้วส่งตัวผู้ถูกจับพร้อมสำเนาบันทึกถ้อยคำไปยังพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับ หรือในกรณีที่สามารถส่งตัวผู้ถูกจับไปยังพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบได้ในขณะนั้นก็ให้นำตัวไปที่ทำการของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ทั้งนี้ การส่งตัวผู้ถูกจับไปยังพนักงานสอบสวนต้องดำเนินการโดยไม่ชักช้า แต่ต้องไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมง (๗) จัดทำรายงานการจับตามแบบที่เลขาธิการกำหนด แล้วส่งรายงานดังกล่าวพร้อมสำเนาบันทึกถ้อยคำผู้ถูกจับให้เลขาธิการทราบภายในสามวันทำการนับแต่วันที่จับ
ข้อ ๑๒ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๔๖ เมื่อศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้กระทำการได้แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้ (๑) แจ้งให้เลขาธิการหรือรองเลขาธิการซึ่งเลขาธิการมอบหมายทราบก่อนดำเนินการ เว้นแต่เป็นกรณีจำเป็นหรือเร่งด่วน ให้ดำเนินการไปก่อนแล้วรายงานให้ทราบโดยเร็ว (๒) จัดทำหนังสือโดยระบุชื่อ ตำแหน่ง สังกัด และคำสั่งอนุญาตของศาลเพื่อแสดงต่อบุคคล ซึ่งเกี่ยวข้องกับบัญชี ข้อมูลทางการสื่อสาร หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์เมื่อผู้นั้นร้องขอ
(๓) จัดทำหนังสือโดยระบุรายละเอียดเท่าที่มีเกี่ยวกับบัญชีของลูกค้าสถาบันการเงิน ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องมือหรืออุปกรณ์ในการสื่อสารหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่ต้องการเข้าถึง เพื่อแสดงต่อบุคคล ซึ่งเกี่ยวข้องเมื่อมีการร้องขอ (๔) จัดทำรายงานตามแบบที่เลขาธิการกำหนด แล้วส่งรายงานดังกล่าวให้เลขาธิการทราบภายในสามวันทำการนับแต่วันที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ รายงานตาม (๔) ให้เลขาธิการเป็นผู้รับผิดชอบในการเก็บรักษาและใช้ประโยชน์
หมวด ๓ การกำกับดูแล ข้อ ๑๓ ให้เลขาธิการหรือผู้ที่เลขาธิการมอบหมายเป็นผู้กำกับดูแลและติดตามประเมินผลการปฏิบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามระเบียบนี้ และให้เลขาธิการมีอำนาจออกประกาศคำสั่งหรือแนวทางเพื่อปฏิบัติการตามระเบียบนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เลขาธิการอาจจัดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือผู้ที่อาจจะได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เข้ารับการฝึกอบรมตามหลักสูตรที่เลขาธิการกำหนดก็ได้
ข้อ ๑๔ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยอันเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้นั้นรายงานข้อเท็จจริงและพฤติการณ์แห่งคดีให้เลขาธิการทราบโดยเร็ว เมื่อเลขาธิการได้รับรายงานตามวรรคหนึ่ง ให้พิจารณาดำเนินการตามระเบียบของทางราชการ ถ้าไม่มีระเบียบดังกล่าวให้พิจารณาดำเนินการตามควรแก่กรณี แล้วรายงานให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทราบ
ข้อ ๑๕ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคุณสมบัติ การแต่งตั้ง การปฏิบัติหน้าที่ และการกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามระเบียบนี้ บทเฉพาะกาล
อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา ๒๒ อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแจ้งสถาบันการเงินเกี่ยวกับการเก็บรักษาเอกสารข้อมูลธุรกรรม อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๓๘ พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นหนังสือจากเลขาธิการมีอำนาจดังต่อไปนี้ • (๑) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกเอกสารจากหน่วยงานอื่นๆเพื่อมาตรวจสอบ • (๒) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลใดๆมาเพื่อให้ถ้อยคำ • (๓) เข้าไปในเคหสถาน สถานที่ หรือยานพาหนะใดๆที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการซุกซ่อนพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพื่อตรวจค้นหรือเพื่อประโยชน์ในการติดตามตรวจสอบ • ในการปฏิบัติหน้าที่ตาม (๓) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามวรรคหนึ่งแสดงเอกสารมอบหมายและบัตรประจำตัวต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๓๘/๑ ภายใต้บังคับแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เลขาธิการ รองเลขาธิการ และพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นหนังสือจากเลขาธิการมีอำนาจจับผู้กระทำความผิดฐานฟอกเงินและบันทึกถ้อยคำผู้ถูกจับเพื่อเป็นหลักฐานเบื้องต้นแล้วส่งตัวไปยังพนักงานสอบสวนโดยไม่ชักช้าแต่ต้องไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมง อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๔๖ ในกรณีที่มีพยานหลักฐานตามสมควรว่าบัญชีลูกค้าของสถาบันการเงินเครื่องมือหรืออุปกรณ์ในการสื่อสาร หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ใด ถูกใช้หรืออาจถูกใช้เพื่อประโยชน์ในการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งเลขาธิการมอบหมายเป็นหนังสือจะยื่นคำขอฝ่ายเดียวต่อศาลแพ่ง เพื่อมีคำสั่งอนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าถึงบัญชีข้อมูลทางการสื่อสาร หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวนั้นก็ได้ อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
ในกรณีตามวรรคหนึ่ง ศาลจะสั่งอนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ยื่นคำขอดำเนินการโดยใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดๆ ตามที่เห็นสมควรก็ได้ แต่ทั้งนี้ให้อนุญาตได้คราวละไม่เกินเก้าสิบวัน เมื่อศาลได้สั่งอนุญาตตามความในวรรคหนึ่งหรือวรรคสองแล้ว ผู้เกี่ยวข้องกับบัญชีข้อมูลทางการสื่อสาร หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามคำสั่งดังกล่าวจะต้องให้ความร่วมมือเพื่อให้เป็นไปตามความในมาตรานี้ อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๔๖/๑ ในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการรวบรวมพยานหลักฐานตามพระราชบัญญัตินี้เมื่อสำนักงานร้องขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษใช้อำนาจสืบสวน สอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือเพื่อดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษมีอำนาจดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เพื่อสนับสนุนการดำเนินการของสำนักงาน อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติการตามวรรคหนึ่ง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษโดยการเสนอแนะของเลขาธิการอาจมีคำสั่งแต่งตั้งผู้ปฏิบัติงานในสำนักงานผู้หนึ่งผู้ใดเป็นพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับการสืบสวน การสอบสวน และการรวบรวมพยานหลักฐานตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษในส่วนที่เกี่ยวที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ได้ ในการปฏิบัติการตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษและเลขาธิการ ร่วมกันกำหนด อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๕๖ เมื่อคณะกรรมการธุรกรรมหรือเลขาธิการ แล้วแต่กรณี ได้มีคำสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินใดตามมาตรา ๔๘แล้วให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายดำเนินการยึดหรืออายัดทรัพย์สินตามคำสั่ง แล้วรายงานให้ทราบพร้อมทั้งประเมินราคาทรัพย์สินนั้นโดยเร็ว
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการนำทรัพย์สินที่ศาลสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินส่งให้กระทรวงการคลัง พ.ศ. ๒๕๔๙ ข้อ ๒ ของระเบียบกำหนดว่า “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในกองบริหารจัดการทรัพย์สินในการเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง” อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
แบบฟอร์มการยื่นคำขอแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ปปง.และแบบฟอร์มการยื่นคำขอมีบัตรพนักงานเจ้าหน้าที่ ปปง.
กรณียื่นคำขอแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ แบบ ขต. ๑ (ขอแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ปปง.ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒) อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
ข.ต. ๑ ขอแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ปปง.ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ เขียนที่............................................................................ วันที่ ............................................................................... ๑. ชื่อ....................................................ชื่อรอง......................................ชื่อสกุล................................................... ๒. เกิดวันที่..................เดือน..........................พ.ศ. ............................จังหวัดที่เกิด.............................................. ๓. นับถือศาสนา................................................................................................................................................... ๔. ความรู้ภาษาต่างประเทศ/มากน้อยเพียงใด....................................................................................................... ๕. ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เลขที่...............หมู่ที่/หมู่บ้าน...............................ตรอก/ซอย....................................... ถนน........................................ตำบล/แขวง................................................อำเภอ/เขต..................................... จังหวัด.....................................รหัสไปรษณีย์.............................................โทรศัพท์....................................... ๖. การศึกษา ระดับประถมศึกษา/สถานศึกษา....................................................................................................................... ระดับมัธยมศึกษา/สถานศึกษา......................................................................................................................... วุฒิการศึกษาระดับอนุปริญญาหรือปริญญาตรี/สถานศึกษา............................................................................ วุฒิการศึกษาระดับปริญญาโท/สถานศึกษา..................................................................................................... อื่นๆ................................................................................................................................................................
๗. ประวัติการทำงาน (สำหรับข้าราชการ/เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ) รับราชการครั้งแรกตำแหน่ง........................................................หน่วยงาน..................................................... ..................................................................เข้ารับราชการเมื่อวันที่...........เดือน............................พ.ศ. ............ ปัจจุบันรับราชการในตำแหน่ง...................................................กอง/เทียบเท่ากอง.......................................... .................................................กองบัญชาการ/สำนัก........................................................................................ กรม.............................................................สถานที่ทำงานที่ติดต่อได้ทางไปรษณีย์.......................................... ...............................................................................................รหัสไปรษณีย์.......................โทรศัพท์................ ๘. ประวัติการทำงาน (สำหรับบุคคลที่ไม่ใช่ข้าราชการ) เคยทำงานในตำแหน่ง..........................................................สังกัด (ฝ่าย/ส่วน)................................................. ชื่อหน่วยงาน..................................................................................................................................................... ปัจจุบันทำงานในตำแหน่ง...................................................สังกัด (ฝ่าย/ส่วน)................................................. ชื่อหน่วยงาน.......................................................................................สถานที่ทำงานที่ติดต่อได้ทางไปรษณีย์ ......................................................................................................................................................................... รหัสไปรษณีย์..............โทรศัพท์..................................................................................................................... ๙. สถานที่ติดต่อข้าพเจ้าได้สะดวก ( ) ที่ทำงาน ( ) ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ( ) อื่นๆ ระบุ................................. ........................................................................................................................................................................... (ลงชื่อ)……….…………………….ผู้ขอรับการแต่งตั้ง
คำรับรองของผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงานคำรับรองของผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงาน วันที่..............เดือน............................พ.ศ. ........... ข้าพเจ้า.................................................... . . . . . . . . . . ........ตำแหน่ง..................................................... ขอรับรองว่า................................................................ซึ่งขอรับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ. ๒๕๔๓ นั้น เป็นผู้อยู่ในบังคับบัญชาของข้าพเจ้า ผู้ขอรับการแต่งตั้งผู้นี้ เป็นผู้มีความประพฤติดี ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี เป็นผู้มีความรู้ความสามารถที่จะปฏิบัติงานได้ สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ. ๒๕๔๓ (ลงชื่อ)...........................................................ผู้รับรอง หมายเหตุ ผู้รับรองจะต้องเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของผู้ขอรับการแต่งตั้งและดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับบัญชาหัวหน้าหน่วยงานตั้งแต่ ผู้อำนวยการกอง ผู้บังคับการตำรวจ ผู้บังคับการกรมหรือเทียบเท่าขึ้นไป
กรณียื่นคำขอมีบัตรพนักงานเจ้าหน้าที่ครั้งแรกกรณียื่นคำขอมีบัตรพนักงานเจ้าหน้าที่ครั้งแรก แบบ บพ. ๑ (คำขอมีบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒) อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
คำขอมีบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่คำขอมีบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ติดรูปถ่ายขนาด ๑ นิ้ว (ถ่ายไว้ไม่เกิน ๖ เดือน) (กรุณาติดกาว/อย่าใช้ลวดเย็บกระดาษ) เขียนที่ วันที่ เรื่อง ขอมีบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ เรียน เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑. แบบฟอร์มข้อมูลบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จำนวน ๑ ชุด ๒. สำเนาบัตรเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน ๑ ชุด ๓. ภาพถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวก ขนาด ๑ นิ้ว จำนวน ๒ ภาพ (ถ่ายไว้ไม่เกิน ๖ เดือน) ๔. สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน ๑ ชุด ๕. สำเนาวุฒิบัตรการฝึกอบรมหลักสูตรพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จำนวน ๑ ชุด ๖.
ข้าพเจ้า นาย/นาง/นางสาว/ยศ เลขประจำตัวประชาชนเลขที่ตำแหน่ง สังกัด แผนก/งานฝ่าย/ส่วนกอง/สำนัก กรมกระทรวงปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ อาคารเลขที่หมู่ที่ตรอก/ซอยถนน แขวง/ตำบลเขต/อำเภอจังหวัดรหัสไปรษณีย์ โทรศัพท์โทรสารโทรศัพท์เคลื่อนที่ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ / และผ่านการอบรมเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ตามหลักสูตรที่ เลขาธิการกำหนดแล้วตามข้อ ๘ ข้าพเจ้าเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ ๔ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๕ ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคุณสมบัติ การแต่งตั้ง การปฏิบัติหน้าที่ และการกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ. ๒๕๔๓ มีความประสงค์ขอมีบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยได้แนบเอกสารประกอบคำขอ รวมรายการปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ขอแสดงความนับถือ ลงชื่อ (กรุณาลงลายมือชื่อบริเวณกึ่งกลางช่องว่างด้วยหมึกสีดำ)
คำรับรองผู้บังคับบัญชาคำรับรองผู้บังคับบัญชา ขอรับรองว่า . เป็นผู้มีคุณสมบัติตามข้อ ๔ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม ข้อ ๕ ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคุณสมบัติ การแต่งตั้ง การปฏิบัติหน้าที่ และการกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ. ๒๕๔๓ และขอรับรองว่าข้อความข้างต้นในคำขอเป็นความจริงทุกประการ ลงชื่อ () ตำแหน่ง วันที่ หมายเหตุ:-ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคุณสมบัติ การแต่งตั้ง การปฏิบัติหน้าที่ และการกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ.๒๕๔๓ ข้อ ๔ ผู้ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ต้องสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่าในสาขาเศรษฐศาสตร์ การเงิน การคลัง กฎหมาย หรือสาขาใดสาขาหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและต้องมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ (๑) เป็นข้าราชการตั้งแต่ระดับ ๓ หรือเทียบเท่า หรือเป็นข้าราชการตำรวจหรือทหารตั้งแต่ชั้นสัญญาบัตรขึ้นไป หรือ (๒) เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ ตั้งแต่ระดับ 4 หรือเทียบเท่าขึ้นไป หรือ (๓) เป็นผู้ซึ่งได้รับมอบหมายเป็นหนังสือจากหัวหน้าส่วนราชการหรือหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้มีหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ข้อ ๕ ผู้ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อ ๔ ต้องไม่เคยมีมลทินมัวหมองหรือมีความประพฤติเสื่อมเสีย เช่น การทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ
การพิจารณาของสำนักงาน ปปง. ความเห็นของเจ้าหน้าที่ ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ลงชื่อ.......................................... ( ) ตำแหน่ง วันที่........................................ คำสั่งเลขาธิการ ปปง. ออกบัตรประจำตัวให้ตามคำขอ วันออกบัตร _ วันบัตรหมดอายุ ยกคำขอ ลงชื่อ.......................................... ( ) วันที่........................................
คำสั่งนายกรัฐมนตรี ๑๓ ครั้ง ผู้ได้รับการแต่งตั้งทั้งหมด ๕,๓๕๖ คน พนักงานเจ้าหน้าที่ที่เป็นข้าราชการของหน่วยงานอื่นๆ ๕,๐๗๒ คน พนักงานเจ้าหน้าที่ ปปง. ๒๘๔ คน พนักงานเจ้าหน้าที่ ปปง.ที่ยังปฏิบัติราชการอยู่ที่สำนักงานฯ ๑๗๐ คน ข้อมูลการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมา
ปัญหาและอุปสรรค ในการดำเนินการตามกฎหมายของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมา ความไม่ชัดเจนของบทบาทของพนักงานเจ้าหน้าที่ ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ หลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ คู่มือการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ การสร้างเครือข่ายระหว่างพนักงานเจ้าหน้าที่ การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่โดยพิจารณาจากความผิดมูลฐาน
ปัญหาและอุปสรรค ในการดำเนินการตามกฎหมายของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมา แนวทางการช่วยเหลือพนักงานเจ้าหน้าที่จากการปฏิบัติหน้าที่ ปัญหาเรื่องอายุบัตรพนักงานเจ้าหน้าที่ ปัญหาความรู้ของพนักงานเจ้าหน้าที่กรณีมีการแก้ไขกฎหมาย กฎ ระเบียบต่างๆ ปัญหาแนวทางในการออกบัตรพนักงานเจ้าหน้าที่ การจัดทำทำเนียบรุ่นของพนักงานเจ้าหน้าที่ จัดการอบรมหลักสูตรพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สร้างความเชี่ยวชาญ ชำนาญเฉพาะด้าน