790 likes | 1.12k Views
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ งานคลัง. หลักสูตร “สารวัตรงบประมาณ การเงินและพัสดุ” ๓๐ เม.ย.๒๕๕๗. หัวข้อการการบรรยาย. 1. ความหมายของ “งานคลัง” และ “การเงิน” 2. กฎหมายการเงินการคลัง 3. ที่มาของกฎหมายการเงินการคลัง 4. กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง. ที่มาของกฎหมายการเงินการคลัง. ความหมาย.
E N D
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับงานคลังความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับงานคลัง หลักสูตร “สารวัตรงบประมาณ การเงินและพัสดุ” ๓๐ เม.ย.๒๕๕๗
หัวข้อการการบรรยาย 1. ความหมายของ “งานคลัง” และ “การเงิน” 2. กฎหมายการเงินการคลัง 3. ที่มาของกฎหมายการเงินการคลัง 4. กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
ที่มาของกฎหมายการเงินการคลังที่มาของกฎหมายการเงินการคลัง ความหมาย - ความหมายของ “งานคลัง” - ความหมายของ “การเงิน”
ความหมายของ “การคลัง” “การคลัง” หมายความว่า การดำเนินการเกี่ยวกับการเงินของรัฐบาล หรือการรับจ่ายเงินและบัญชีของแผ่นดิน
ความหมายของ “การเงิน” “การเงิน” หมายความว่า กิจกรรมที่ดำเนินการเกี่ยวกับเงิน ซึ่งประกอบด้วย การเบิกเงิน การจ่ายเงิน การรับเงิน การเก็บรักษาเงิน และการนำเงินส่งคลัง
ที่มาของกฎหมายการเงินการคลังที่มาของกฎหมายการเงินการคลัง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 167 วรรคสาม กำหนดให้มีกฎหมายการเงินการคลังของรัฐ เพื่อกำหนด - กรอบวินัยการเงินการคลัง - หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการวางแผนการเงินระยะปานกลาง - การจัดหารายได้
-การกำหนดแนวทางในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายของแผ่นดิน - การบริหารเงินและทรัพย์สิน การบัญชี กองทุน สาธารณะ - การก่อหนี้หรือการดำเนินการที่ผูกพันทรัพย์สิน หรือภาระทางการเงินของรัฐ - หลักเกณฑ์การกำหนดวงเงินสำรองจ่ายเพื่อ กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น - การอื่นที่เกี่ยวข้อง
เจตนารมณ์ของมาตรา 167 วรรคสาม 1. ใช้เป็นกรอบในการจัดหารายได้ 2. กำกับการใช้จ่ายเงินตามหลักการรักษา เสถียรภาพ 3.พัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และ ความเป็นธรรมในสังคม
มาตรา 170 “เงินรายได้ของหน่วยงานของรัฐใดไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินให้หน่วยงานของรัฐ นั้นทำรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเมื่อสิ้นปีงบประมาณทุกปีและให้คณะรัฐมนตรีทำรายงาน เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป การใช้จ่ายเงินรายได้ตามวรรคหนึ่งต้อง อยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังตามหมวดนี้”
เจตนารมณ์ของมาตรา 170 เพื่อกำหนดให้ตรวจสอบการรับและการ ใช้จ่ายเงินรายได้ของหน่วยงานของรัฐ ซึ่ง เป็นเงินนอกงบประมาณที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน อันนำไปสู่การกำหนดยุทธศาสตร์ทางการเงินการคลังที่สมบูรณ์และ สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงด้านการเงินของประเทศ
การดำเนินการยกร่างกฎหมายการเงินการคลังของรัฐการดำเนินการยกร่างกฎหมายการเงินการคลังของรัฐ มาตรา 303 กำหนดให้ ค.ร.ม. ที่เข้าบริหาร ราชการแผ่นดินภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปเป็น ครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ ดำเนินการจัดทำหรือ ปรับปรุงกฎหมายตามมาตรา 167 วรรคสาม ภายในสองปี นับแต่วันที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายการเงินการคลังที่ครอบคลุม บทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ แต่ก็มีบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับกรอบวินัยการเงินการคลัง กระจัดกระจายอยู่ในกฎหมายหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ. เงินคงคลัง พ.ศ. 2491 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม และ พ.ร.บ. บริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548
กรมบัญชีกลางได้มีการตั้งคณะทำงานพิจารณาร่างกฎหมายการเงินการคลังใน ส่วนที่เกี่ยวกับการบริหารการเงินและทรัพย์สิน การกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับบัญชีการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนสาธารณะ
กรอบวินัยการเงินการคลังตาม พ.ร.บ. เงินคงคลัง - มาตรา 4 การหักเงินที่ต้องนำส่งคลังไว้ใช้จ่าย - มาตรา 6 หลักเกณฑ์การจ่ายเงินจากคลัง - มาตรา 7 การสั่งจ่ายเงินจากคลังได้ก่อนที่มี กฎหมาย อนุญาตให้จ่าย - มาตรา 8 เงินที่จ่ายจากคลัง - มาตรา 12 การจ่ายเงินเป็นทุนหรือทุนหมุนเวียน
มาตรา 4 พ.ร.บ. เงินคงคลัง ฯ ให้นำเงินที่จัดเก็บหรือรับไว้ส่งคลังตามกำหนดเวลาและข้อบังคับที่ รมว.กค. กำหนด โดยไม่หักไว้เพื่อการใด ๆ เลย แต่ รมว.กค. มีอำนาจกำหนดข้อบังคับอนุญาตให้หักเงินที่จะต้องส่งคลังนั้นได้ ในกรณี ดังนี้ - เป็นรายจ่ายที่มีกฎหมายอนุญาตให้จ่าย - จ่ายเป็นสินบนรางวัลหรือค่าใช้จ่าย - จ่ายคืนให้บุคคลเพราะไม่พึงต้องชำระให้รัฐบาล
มาตรา 6 พ.ร.บ. เงินคงคลัง ฯ ภายใต้บังคับ มาตรา 7 มาตรา 8 และมาตรา 12 การจ่ายเงินจากคลังให้กระทำได้เฉพาะตาม - พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี - พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม - พ.ร.บ. โอนเงินในงบประมาณ - มติให้จ่ายเงินไปก่อน - พ.ร.ก. ที่ออกตามบทรัฐธรรมนูญ
มาตรา 7 พ.ร.บ. เงินคงคลัง ฯ จ่ายเงินจากคลังได้ก่อนมีกฎหมายอนุญาตได้ในกรณี ดังนี้ - ตั้งงบประมาณไว้แล้ว แต่ไม่พอ มีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องจ่ายโดยเร็ว เช่น ราคาวัสดุขึ้นราคา เป็นต้น - มีการตรากฎหมายใหม่ ทำให้ต้องจ่ายเงิน เช่น กฎหมายช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เป็นต้น
- มีข้อผูกพันกับรัฐบาล หรือสถาบันการเงินระหว่างประเทศ - เพื่อไถ่ถอนพันธบัตรเงินกู้ - เพื่อซื้อเงินตราต่างประเทศ หลักทรัพย์ พันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศ
มาตรา 8 พ.ร.บ. เงินคงคลัง ฯ “เงินต่อไปนี้ ให้สั่งจ่ายจากบัญชีเงินคงคลังบัญชีที่ 2 หรือคลังจังหวัดได้ คือ (1) เงินยืมทดรองราชการ (2) เงินฝาก (3) เงินขายบิล (4)เงินที่จำเป็นต้องจ่ายคืนภายในปีงบประมาณที่นำส่งแล้ว เพราะเป็นเงินอันไม่พึงต้องชำระให้รัฐบาล”
เงินยืมทดรองราชการ หมายถึงเงินทดรองราชการตาม พ.ร.บ. วิธีการงบประมาณ “เงินทดรองราชการ” หมายความว่า เงินที่กระทรวงการคลังจ่ายและอนุญาตให้ ส่วนราชการมีไว้ตามจำนวนที่เห็นสมควร เพื่อทดรองเป็นค่าใช้จ่ายตามระเบียบหรือ ข้อบังคับของกระทรวงการคลัง
เงินฝาก “เงินฝาก” หมายความว่า เงินที่ กค.รับฝากไว้และ จ่ายคืนตามคำขอของผู้ฝากตามข้อบังคับ และระเบียบของ กค. เงินฝากเป็นเงินนอกงบประมาณประเภทหนึ่ง ที่ส่วนราชการได้รับไว้ และมีกฎหมายอนุญาตให้นำไปใช้จ่ายได้โดยไม่ต้องส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน เช่น เงิน-บูรณะทรัพย์สิน เงินบริจาค เงินที่มีผู้มอบให้โดยมีวัตถุประสงค์ให้ใช้จ่ายในกิจการ เป็นต้น
เงินขายบิล “เงินขายบิล” หมายความว่าเงินที่กระทรวงการคลังรับไว้ ณ ที่แห่งหนึ่งเพื่อโอนไปจ่าย ณ ที่อีกแห่งหนึ่งตามข้อบังคับ และระเบียบของกระทรวงการคลัง
เงินขายบิล ใช้กับเงินนอกงบประมาณ โดยปกติเป็นเงินนอกงบประมาณของส่วน-ราชการหนึ่งในกรุงเทพฯนำส่งคลังเพื่อโอน ไปจ่ายให้กับส่วนราชการในต่างจังหวัด หรือจะเป็นการโอนระหว่างส่วนราชการใน ต่างจังหวัดให้ส่วนราชการในกรุงเทพฯ หรือโอนระหว่างส่วนราชการในจังหวัดให้ ส่วนราชการอีกจังหวัดหนึ่งก็ได้
มาตรา 12 พ.ร.บ. เงินคงคลัง ฯ “การจ่ายเงินเป็นทุนหรือเป็นทุนหมุนเวียน เพื่อการใดให้กระทำได้แต่โดยกฎหมาย”
เงินทุนหมุนเวียน “เงินทุนหรือเงินทุนหมุนเวียน” ได้แก่เงินที่จ่ายให้ส่วนราชการเป็นทุนเพื่อดำเนินกิจการอย่างใด อย่างหนึ่ง โดยยอมให้ส่วนราชการนำรายรับจาก กิจการนั้นๆ สมทบเพื่อไว้ใช้จ่ายได้โดยไม่ต้องนำ ส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
การจัดตั้งเงินทุนหรือทุนหมุนเวียนการจัดตั้งเงินทุนหรือทุนหมุนเวียน การตั้งเงินทุนหรือเงินทุนหมุนเวียน จะ กระทำได้แต่โดยกฎหมายเท่านั้น อาจเป็น กฎหมายพิเศษ เช่น พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 หรือ กำหนดไว้เป็น รายการหนึ่งในเอกสารงบประมาณประจำปีและรัฐสภาได้อนุมัติงบนั้น เช่น เงินทุน หมุนเวียนเพื่อซื้อขายรถจักรยานยนต์ ผ่อนส่ง เป็นต้น
เงินทุนหมุนเวียน แบ่งเป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1. ทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืม 2. ทุนหมุนเวียนเพื่อการจำหน่าย 3. ทุนหมุนเวียนเพื่อการบริการ 4.ทุนหมุนเวียนเพื่อการสงเคราะห์และ สวัสดิการสังคม 5. ทุนหมุนเวียนเพื่อการสนับสนุนส่งเสริม
ทุนหมุนเวียนเพื่อการสนับสนุนส่งเสริมทุนหมุนเวียนเพื่อการสนับสนุนส่งเสริม เป็นกลุ่มที่มีวัตถุประสงค์ใช้เงินเพื่อสนับสนุน และส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่ง ประโยชน์สุขโดยรวมของประชาชน เช่น กองทุนเพื่อการสืบสวนและสอบสวนคดีอาญา
กรอบวินัยการเงินการคลังตาม พ.ร.บ. วิธีการงบประมาณ มาตรา 9 ทวิ การกู้เงินกรณีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ มาตรา 16 การใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณที่ล่วงแล้วไปพลางก่อน มาตรา 17 การใช้งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม มาตรา 29 ทวิ เงินทุนสำรองจ่าย
มาตรา 9 ทวิ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณฯ เมื่อ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีใช้ บังคับแล้ว ถ้ารายจ่ายสูงกว่ารายได้ ให้ กค.มี อำนาจกู้เงินได้ตามความจำเป็นในปีหนึ่งๆ ต้องไม่เกิน (1) ร้อยละยี่สิบของงบประมาณรายจ่ายประจำปี (2) ร้อยละแปดสิบของงบประมาณรายจ่ายที่ตั้ง ไว้สำหรับชำระคืนเงินกู้
วิธีการกู้เงินตาม มาตรา 9 ทวิ จะใช้วิธีออกตั๋วเงินคลัง พันธบัตร ตราสารอื่น หรือทำสัญญากู้ก็ได้ การออกตั๋วเงินคลังให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยตั๋วเงินคลัง แต่การออกพันธบัตร ตราสารอื่น หรือ การทำสัญญากู้ ต้องได้รับอนุมัติจาก ค.ร.ม.ก่อน
มาตรา 16 พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณฯ ถ้า พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี ออกใช้ไม่ทันปีงบประมาณใหม่ ให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณที่ล่วงแล้วไปพลางก่อนได้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ผู้อำนวยการกำหนดโดยอนุมัตินายกรัฐมนตรี
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายปีที่ล่วงแล้วไปพลางก่อนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายปีที่ล่วงแล้วไปพลางก่อน - ใช้ได้เพียงบางส่วน - รายจ่ายเงินเดือน ค่าตอบแทน ใช้สอย วัสดุ ใช้ได้ไม่เกิน 1 ใน 3 ของยอดเงินที่ ตั้งไว้ในปีที่แล้ว
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายปีที่ล่วงแล้วไปพลางก่อนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายปีที่ล่วงแล้วไปพลางก่อน - รายจ่ายงบลงทุน ใช้ไม่ได้ เว้นแต่ในกรณี ต้องจ่ายตามข้อผูกพัน ให้จ่ายได้ - กรณีจำเป็นและเร่งด่วน สำนักงบประมาณ อาจอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินตามงบประมาณ ปีที่แล้วเกินกำหนดก็ได้ แต่ไม่เกินงบปีที่แล้ว
มาตรา 17 พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณฯ ในกรณีจำเป็นจะต้องจ่ายเงินหรือก่อหนี้ผูกพัน เกินกว่าหรือนอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี ค.ร.ม. อาจเสนอร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมต่อรัฐสภาได้ และให้แสดงถึงเงินที่พึงได้มาสำหรับจ่ายตามงบ ประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมที่ขอตั้งด้วย ...
เหตุผลของการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมเหตุผลของการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม -งบประจำปีไม่พอ และจะเสียหายถ้าไม่ได้รับงบเพิ่ม - โอนงบจากส่วนราชการอื่นหรืองบอื่นมาไม่ได้ - รัฐบาลมีรายได้จากภาษีอากร หรือรายได้อื่นสูง กว่าที่ประมาณการไว้
ปัญหาของการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปัญหาของการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม โดยหลักการแล้ว จะไม่กระทำ เพราะ - อาจใช้จ่ายโดยไม่ระมัดระวัง - หากไม่มีรายได้สูงกว่าประมาณการ ก็ต้อง เก็บภาษีเพิ่มหรือกู้เงิน - รัฐสภาควบคุมยาก - แสดงถึงความไม่รอบคอบในการตั้ง งบประมาณ
มาตรา 29 ทวิ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณฯ ให้มีเงินทุนจำนวนหนึ่งโดยรัฐมนตรีจ่ายจากคลัง เรียกว่า “เงินทุนสำรองจ่าย” เป็นจำนวนหนึ่งร้อย ล้านบาท เงินทุนนี้ให้นำไปจ่ายในกรณีที่มีความ จำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ราชการแผ่นดิน โดยอนุมัติ คณะรัฐมนตรี และเมื่อได้จ่ายไปแล้ว ให้ขอตั้ง รายจ่ายชดใช้เพื่อสมทบทุนนั้นไว้จ่ายต่อไป
เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามมาตรา 10 พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณฯ กำหนดให้มีงบกลางแยกต่างหากจากงบประมาณ รายจ่ายของส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจก็ได้ และจะกำหนดให้มีรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อ กรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็นในงบกลางนั้นด้วยก็ได้
ข้อแตกต่างของเงินทุนสำรองจ่ายกับเงินสำรองจ่ายข้อแตกต่างของเงินทุนสำรองจ่ายกับเงินสำรองจ่าย 1. เงินทุนสำรองจ่ายเป็นเงินนอกงบประมาณ เพราะมิได้กำหนดไว้ในพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ส่วนเงินสำรองจ่ายเป็นรายการหนึ่งในพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี ทุกปี 2. ตอนต้นปีเงินทุนสำรองจ่ายมีเต็ม 100 ล้านบาท เสมอ แต่เงินสำรองจ่ายมีตามวงเงินที่ตั้งในแต่ละปี 3. เงินทุนสำรองจ่ายใช้ได้ไม่มีกำหนด แต่เงินสำรองจ่ายต้องใช้ภายในปีงบประมาณ
โครงสร้างรายรับของรัฐบาลโครงสร้างรายรับของรัฐบาล รายรับรัฐ รายจ่ายสาธารณะ รายได้ ไม่ใช่รายได้ เงินกู้ เงินคงคลัง ภาษี อากร รายได้อื่น ๆ - เงินช่วยเหลือ - เงินบริจาค รัฐพาณิชย์ (รัฐวิสาหกิจ) การขายสิ่งของ บริการของรัฐ
รายจ่ายสาธารณะ “รายจ่ายสาธารณะ” หมายถึง การใช้จ่ายของ รัฐบาลเพื่อรักษาระดับการดำเนินงานของรัฐ และ เพื่อผลประโยชน์ของสังคมโดยส่วนรวม “รายจ่ายรัฐบาล หรือ รายจ่ายสาธารณะ” เป็นคำที่ใช้แทนกันได้ หมายถึง รายจ่ายที่รัฐบาลได้ใช้จ่ายไปเพื่อการบริหารงานอันเป็นภาระหน้าที่ ของรัฐโดยทั่วไป และเพื่อจัดให้มีสินค้าและ บริการอันเป็นประโยชน์แก่ประชาชนโดยรวม
รายจ่ายนอกงบประมาณ “รายจ่ายนอกงบประมาณ” หมายถึง รายจ่าย สาธารณะลักษณะหนึ่งที่รัฐบาลใช้จ่ายไปโดยไม่รวมอยู่ในงบประมาณแผ่นดิน การใช้จ่ายเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบเฉพาะ โดยไม่ต้องจัดทำผ่านระบบงบประมาณแผ่นดินและไม่ต้องนำไปจัดทำเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีในกระบวนการงบประมาณแผ่นดิน
รายจ่ายนอกงบประมาณ มี 7 ลักษณะ 1) รายจ่ายจากเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ 2) รายจ่ายจากเงินกู้จากต่างประเทศ 3) รายจ่ายของรัฐวิสาหกิจ 4) รายจ่ายของหน่วยการปกครองท้องถิ่น 5) เงินทุนหมุนเวียน หรือ เงินกองทุน 6) เงินบำรุงสถาบันการศึกษาและสาธารณสุข 7) เงินบริจาคหรือผู้มอบให้โดยมีวัตถุประสงค์
เงินคงคลัง “เงินคงคลัง” หมายถึง เงินสด หรือสิ่งที่ใกล้เคียงกับเงินสดที่รัฐบาลมีไว้เพื่อการใช้จ่ายประจำวันและหมายความรวมถึงเงินฝากกับธนาคารต่างๆ เช่น เงินฝากธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่ง กค.ได้นำฝาก ไว้ที่สำนักงานใหญ่ และที่สาขาเพื่อวัตถุประสงค์ในการเบิกจ่ายเงินของรัฐบาลให้สะดวกและปลอดภัยและรวมถึงเงินสดที่ได้นำฝากธนาคารพาณิชย์อื่นๆไว้ด้วย
กระแสรายรับ รายรับเงินงบประมาณ - รายได้จากภาษีอากร - รายได้จากรัฐวิสาหกิจ - รายได้จากการขายสิ่ง ของและบริการ - รายได้อื่น - เงินกู้เพื่อชดเชยการ ขาดดุล รายรับเงินนอกงบประมาณ - เงินฝาก - เงินทุนหมุนเวียน กระแสรายจ่าย รายจ่ายเงินงบประมาณ - รายจ่ายเงินงบประมาณ ปีปัจจุบัน - รายจ่ายเงินงบประมาณ ปีก่อน (เหลื่อมปี เงินกัน เงินขยาย) รายจ่ายเงินนอกงบประมาณ - เงินฝาก - เงินทุนหมุนเวียน
ความสัมพันธ์ระหว่างการรับจ่ายเงินของรัฐกับเงินคงคลัง รายรับในงบ รายรับนอกงบ รายจ่ายในงบรายจ่ายนอกงบ เงินคงคลัง
ความสัมพันธ์ระหว่างเงินคงคลัง เงินงบประมาณ การขาดดุลเงินในงบประมาณ และการกู้เงิน 1) ถ้ารัฐบาลใช้หลักการขาดดุลเงินงบประมาณ โดยการกู้เงิน สมการ รายจ่ายของรัฐบาล รายได้ของรัฐบาล เงินกู้
2) ถ้ารัฐบาลต้องนำเงินคงคลังมาใช้ในกรณี รัฐใช้จ่ายแบบขาดดุลและกู้เงินมาแล้วก็ตามรายจ่ายยังมากกว่ารายรับ สมการ การขาดดุลงบประมาณ สมการ รายจ่ายรัฐบาล รายได้ของรัฐบาล เงินกู้เงินคงคลัง รายจ่ายรัฐบาล รายได้รัฐบาล เงินกู้ เงินคงคลัง
หนี้สาธารณะ “หนี้สาธารณะ” หมายถึง หนี้ที่รัฐบาลของประเทศต่างๆ เป็นผู้กู้ เหตุผลที่ไม่เรียกหนี้รัฐบาล 1. ผูกพันรัฐบาลทุกรัฐบาลที่เข้าบริหารประเทศ 2. ผู้รับภาระชำระคือประชาชนผู้มีหน้าที่เสีย ภาษีอากร 3. เพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญ ทำให้สำนึก ถึงหน้าที่และหันมาสนใจการเมืองมากขึ้น