190 likes | 320 Views
REGULAR EXPRESSION FUNCTION. REGULAR EXPRESSION FUNCTION. ในภาษา PHP ได้เตรียมฟังก์ชันเพื่อเพิ่มความสามารถในการค้นหาตัวอักษรหรือกลุ่มคำในข้อความ โดยสามารถที่จะกำหนดเงื่อนไข(ตัวเลือก)ในการค้นหาได้ ทั้งนี้ต้องมีความเข้าใจในรูปแบบ และสัญลักษณ์ที่ใช้ในการค้นหา.
E N D
REGULAR EXPRESSION FUNCTION ในภาษา PHP ได้เตรียมฟังก์ชันเพื่อเพิ่มความสามารถในการค้นหาตัวอักษรหรือกลุ่มคำในข้อความ โดยสามารถที่จะกำหนดเงื่อนไข(ตัวเลือก)ในการค้นหาได้ ทั้งนี้ต้องมีความเข้าใจในรูปแบบ และสัญลักษณ์ที่ใช้ในการค้นหา
สัญลักษณ์ที่ใช้กำหนดตัวเลือกสัญลักษณ์ที่ใช้กำหนดตัวเลือก สัญลักษณ์ที่ใช้ในการกำหนดตัวเลือกในการค้นหา ของ Regular Expression . แทนตัวอักษรใดก็ได้ […] ใช้ครอบกลุ่มตัวอักษรหรือกลุ่มของคำที่ต้องการให้มีใน ข้อความ [^…] ใช้ครอบกลุ่มของตัวอักษรหรือกลุ่มของคำที่ไม่ต้องการให้ มีในข้อความ
สัญลักษณ์ที่ใช้กำหนดตัวเลือก (ต่อ) ^ ใช้กำหนดตำแหน่งเริ่มต้นของข้อความ $ ใช้กำหนดตำแหน่งท้ายสุดของข้อความ \<ใช้กำหนดตำแหน่งเริ่มต้นของคำ
สัญลักษณ์ที่ใช้กำหนดตัวเลือก (ต่อ) |> ใช้กำหนดตำแหน่งท้ายสุดของคำ | ใช้เลือกตัวเลือกตัวใดตัวหนึ่งใน(…) (…) ใช้ครอบกลุ่มของตัวอักษรหรือกลุ่มของคำที่ต้องการให้มี ในข้อความ \metacharecter เมื่อเป็นตัวเลือก เช่น . ? + { } | ( )
สัญลักษณ์ที่ใช้แทนตัวอักษรหรือคำสัญลักษณ์ที่ใช้แทนตัวอักษรหรือคำ ? จำนวนที่มีได้ไม่เกินหนึ่งตัวและถ้าไม่มีก็ได้ * จำนวนที่มีเท่าไรก็ได้และถ้าไม่มีก็ได้ + จำนวนที่มีเท่าไรก็ได้แต่อย่างน้อยต้องมีหนึ่งตัว {n} จำนวนที่มีได้อย่างน้อยที่สุดคือ n ตัว
สัญลักษณ์ที่ใช้แทนตัวอักษรหรือคำ (ต่อ) {n,} จำนวนที่มีได้อย่างน้อยที่สุดคือ n หรือมากกว่า n ตัว {,m} จำนวนที่มีได้สูงสุดคือ m ตัว {n,m} จำนวนที่มีได้อย่างน้อยสุดคือ n แต่ต้องไม่เกิน m ตัว
สัญลักษณ์ (ต่อ) ตัวอย่าง “^supin” เป็นการค้นหาข้อความที่ขึ้นต้นด้วย supin “[^joe]” เป็นการค้นหาข้อความที่ไม่มีตัวอักษร j หรือ o หรือ e “\>supin” เป็นการค้นหาคำในข้อความที่ลงท้ายด้วย supin “(\.|\?|\+|\\)”เป็นการค้นหาข้อความที่มีตัวอักษร . ? + \
ฟังก์ชันที่ใช้ใน Regular expression • ereg() • ereg_replace() • eregi() • ereg_replace()
Ereg ใช้ค้นหาตัวอักษรหรือกลุ่มคำตามที่ได้กำหนดไว้ที่ตัวเลือกหรือเงื่อนไข และการค้นหาจะมีความแตกต่างกันในตัวพิมพ์เล็กกับตัวพิมพ์ใหญ่ คือ A จะไม่เท่ากับ a รูปแบบของคำสั่ง int ereg(string patter,string text);
Ereg (ต่อ) ตัวอย่าง <? $s = “เอกสารของผมเก็บไว้ที่ ..\home\joe ถ้าเพื่อนคนไหนสนใจก็สามารถ copy ได้ครับ”; if(ereg(“home”,$s)) { echo “ในข้อความมีสิ่งที่คุณต้องการ”; }
Ereg (ต่อ) else { echo “ไม่มีสิ่งที่คุณต้องการในข้อความที่ค้นหา”; } flush(); ?> ผลลัพธ์ของโปรแกรม ในข้อความมีสิ่งที่คุณต้องการ
ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง • erei • ereg_replace • eregi_replace
Ereg_replace ใช้ค้นหาตัวอักษรหรือกลุ่มของคำเหมือนกับฟังก์ชัน ereg() แต่ มีการเปลี่ยนตัวอักษรหรือกลุ่มคำที่พบในข้อความนั้นเป็นตัวอักษรหรือ กลุ่มคำใหม่ รูปแบบของคำสั่ง string ereg(string patter, string replace,string text);
Ereg_replace (ต่อ) ตัวอย่าง <? $s = “ เอกสารของผมเก็บไว้ที่ ..\home\joe ถ้าเพื่อนคนไหนสนใจก็สามารถ copy ได้ครับ”; echo “ ข้อความก่อนใช้ฟังก์ชัน ereg_place<br>”;
Ereg_replace (ต่อ) echo” => $s<br>”; echo “ข้อความหลังใช้ฟังก์ชัน ereg_place<br>”; echo “=>”.ereg_replace(“home”,”home_replace”,$s); flush(); ?>
Ereg_replace (ต่อ) ผลลัพธ์ของโปรแกรม ข้อความก่อนใช้ฟังก์ชัน ereg_place เอกสารของผมเก็บไว้ที่ ..\home\joe ถ้าเพื่อนคนไหนสนใจ ก็สามารถ copy ได้ครับ ข้อความหลังใช้ ฟังก์ชัน ereg_place เอกสารของผมเก็บไว้ที่ ..\home_replace\joe ถ้าเพื่อนคนไหนสนใจ ก็สามารถ copy ได้ครับ
Eregi การทำงานของฟังก์ชัน eregi() จะเหมือนกับฟังก์ชัน ereg() แต่การค้นหาตัวอักษรหรือกลุ่มของคำนั้นตัวพิมพ์เล็กกับตัวพิมพ์ใหญ่ จะมีค่าที่ไม่แตกต่างกัน คือ A จะมีค่าเท่ากับ a
Eregi_replace การทำของฟังก์ชัน eregi_replace() จะเหมือนกับฟังก์ชัน ereg_replace() แต่การค้นหาตัวอักษรหรือกลุ่มของคำนั้นตัวพิมพ์เล็กกับ ตัวพิมพ์ใหญ่จะมีค่าที่ไม่แตกต่างกันคือ A จะมีค่าเท่ากับ a