1 / 27

SEARCHING

SEARCHING. SEARCH. 1. นำดรรชนีที่กำหนดไว้ในคำสั่ง OCCURS มาเปรียบเทียบกับจำนวนของข้อมูลในตาราง ถ้าดรรชนีมีค่ามากกว่า จะทำให้มีการไปทำงานที่คำสั่งที่อยู่ในส่วนของ AT END และจากนั้นจะไปทำงานที่คำสั่งที่อยู่ถัดจาก คำสั่ง SEARCH

amir-hardin
Download Presentation

SEARCHING

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. SEARCHING

  2. SEARCH 1. นำดรรชนีที่กำหนดไว้ในคำสั่ง OCCURS มาเปรียบเทียบกับจำนวนของข้อมูลในตาราง ถ้าดรรชนีมีค่ามากกว่า จะทำให้มีการไปทำงานที่คำสั่งที่อยู่ในส่วนของ AT END และจากนั้นจะไปทำงานที่คำสั่งที่อยู่ถัดจาก คำสั่ง SEARCH 2. แต่ถ้าดรรชนีมีค่าไม่เกินขนาดของตาราง จะมีการไปทำงานที่ส่วนของคำสั่ง WHEN เพื่อเปรียบเทียบเงื่อนไข ถ้าเงื่อนไขเป็นจริง จะไปที่คำสั่งที่อยู่ถัดจากเงื่อนไขนั้น แล้วจะทำให้จบการทำงานของคำสั่ง SEARCH นั่นคือจะไปทำงานที่คำสั่งถัดจาก SEARCH 3. แต่ถ้าเงื่อนไขไม่เป็นจริง จะทำให้มีการเพิ่มค่าของดรรชนีขึ้นอีกหนึ่ง แล้วจะย้อนกลับไปทำงานดังเช่นข้อ 2

  3. SALES-TABLE

  4. Load-data SALES-TABLE

  5. M 10 SALES-TABLE

  6. M 20 SALES-TABLE

  7. LetIndex 1-26 11111111112222222 12345678901234567890123456 ABCDEFGHIJKLMNOPQRSTUVWXYZ Letter(1) , Letter(2), … , Letter(26) LetterValues

  8. NEXT SENTENCE

  9. NEXT SENTENCE

  10. NEXT SENTENCE

  11. NEXT SENTENCE IF A = B    NEXT SENTENCEELSE   MOVE C to DEND-IFDISPLAY "This is NOT the NEXT SENTENCE".DISPLAY "This IS the NEXT SENTENCE".

  12. Multiple WHEN

  13. Lindex 1234567890123 ABCDEFGHIJKLM NOPQRSTUVWXYZ 1 2 Rindex

  14. int binary_search(int a[], int key, int left, int right) { if (left > right) // แสดงว่าแถวลำดับไม่มีสมาชิกเหลืออยู่แล้ว และไม่มี key ที่ต้องการ return -1; //แสดงว่าไม่พบค่า key else //ถ้ายังมีสมาชิกอยู่ก็ทำการค้นหาต่อไป { int mid = (left+right)/2; //mid ดัชนีตรงกลางของแถวลำดับย่อยหรือหลัก if (a[mid]>key) // แสดงว่า key ต้องอยู่ระหว่าง a[left] กับ a[mid-1] return binary_search(a,key,left,mid-1); //ดังนั้นจึงไปค้นหาต่อในแถวลำดับย่อยระหว่าง left และ mid-1 if(a[mid]<key) return binary_search(a,key,mid+1,right); if(a[mid]==key) //พบ return mid; //คืนค่าตำแหน่งของ key ในแถวลำดับ a กลับไป } }

  15. Binary Search

More Related