220 likes | 338 Views
ภูษิต ประคองสาย วลัยพร พัชรนฤมล วราภรณ์ ปวงกัณทา วิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ นำเสนอในงานประชุมวิชาการ กระทรวงสาธารณสุข 2552 21 มีนาคม 2552 ณ อิมแพคชาแลนเจอร์ เมืองทองธานี.
E N D
ภูษิต ประคองสาย วลัยพร พัชรนฤมล วราภรณ์ ปวงกัณทา วิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ นำเสนอในงานประชุมวิชาการ กระทรวงสาธารณสุข 2552 21 มีนาคม 2552 ณ อิมแพคชาแลนเจอร์ เมืองทองธานี ข้อเสนอเพื่อพัฒนาการลงทุนด้านสุขภาพในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10(พ.ศ. 2550-2554)
ความเป็นมาและความสำคัญของการศึกษาความเป็นมาและความสำคัญของการศึกษา • แผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 ยึดกระบวนทัศน์การพัฒนาแบบบูรณาการที่มี “คนเป็นศูนย์กลาง” และแนวคิดปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” • การวางแผนการลงทุนด้านสุขภาพที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องทำการวิเคราะห์และทบทวนสภาพปัญหาสุขภาพและมาตรการที่ดำเนินการในปัจจุบันของประเทศไทย • ด้วยความจำกัดของทรัพยากรสุขภาพและระบบบริการสุขภาพปัจจุบันที่มุ่งเน้นการรักษาพยาบาลและการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุอย่างขาดประสิทธิภาพ • หนังสือ DiseaseControl Priorities in Developing Countries, 2nd edition (DCP2) ของมูลนิธิ Bill and Melinda Gates ได้รวบรวม cost-effective interventions สำหรับภาวะการเจ็บป่วยด้วย (ก) โรคติดเชื้อ (ข) โรคไม่ติดต่อ และ (ค) ภาวะบาดเจ็บและอุบัติเหตุ
วัตถุประสงค์ของการศึกษาวัตถุประสงค์ของการศึกษา • เพื่อทบทวนภาระโรคในประเทศไทย เปรียบเทียบกับการลงทุนด้านสุขภาพที่ผ่านมา • ทบทวนมาตรการควบคุม ป้องกันโรคที่มีลำดับความสำคัญสูงในประเทศไทย เปรียบเทียบกับข้อเสนอแนะใน DCP2 • ประเมินการสูญเสียผลิตภาพจากการตายและการเจ็บป่วยจากภาระโรคที่มีลำดับความสำคัญสูง 10 อันดับแรกในเพศชายและหญิง • ประมาณการความต้องการงบประมาณเพื่อการลงทุนด้านสุขภาพระยะปานกลาง (health sector medium term expenditure framework – MTEF) • จัดทำข้อเสนอแผนการลงทุนด้านสุขภาพในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10
วิธีการศึกษา (1) • ทบทวนแบบแผนภาระโรคของคนไทยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาจากการศึกษาภาระโรคและปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ 2 ครั้ง (พ.ศ. 2542 และ 2547) • คัดเลือกภาระโรคและปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ 10 อันดับแรกที่มี DALY loss สูงสุดปี พ.ศ. 2547 เพื่อเป็นกรอบทบทวนมาตรการทั้งในและนอกระบบสุขภาพที่มีประสิทธิภาพสูง ในการลดภาระโรคและปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ • ทบทวนมาตรการที่ระบุใน DCP2 เพื่อเปรียบเทียบว่า มาตรการต่างๆ ที่ดำเนินการในประเทศไทยมีความสอดคล้องหรือแตกต่างจากมาตรการที่ระบุไว้ใน DCP2 หรือไม่ อย่างไร • วิเคราะห์สถานการณ์รายจ่ายสุขภาพทั้งหมดตามรายกิจกรรมสุขภาพ และค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพสำหรับภาระโรคที่มีลำดับความสำคัญสูง
วิธีการศึกษา (2) • ประเมินการสูญเสียผลิตภาพ เนื่องจากภาระโรคและปัจจัยเสี่ยงที่มีความสำคัญ 12 อันดับแรก • การประมาณการการลงทุนด้านสุขภาพในระยะปานกลาง (MTEF) • ประชุมเชิงปฏิบัติการ multi-stakeholders เพื่อระดมสมองวิเคราะห์สภาพปัญหาภาระโรคในปัจจุบัน และพิจารณาข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการปรับเปลี่ยนทิศทางการลงทุนด้านสุขภาพให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น • สังเคราะห์ผลการศึกษาจากทุกขั้นตอน เพื่อจัดทำเป็นข้อเสนอรูปแบบและระดับการลงทุนด้านสุขภาพของภาครัฐในแผนฯ 10
10 อันดับแรกของกลุ่มโรคที่ก่อให้เกิดความสูญเสียปีสุขภาวะ (DALY)ในประชากรไทย พ.ศ. 2547 % of Total 52.6 42.8 หมายเหตุ– ประชากรไทยโดยรวมสูญเสียปีสุขภาวะเพิ่มขึ้นจาก 9.5 เป็น 9.9 ล้านปีสุขภาวะ ระหว่างปี 2542 และ 2547 ที่มา โครงการศึกษาภาระโรคและปัจจัยเสี่ยงของประเทศไทย พ.ศ. 2547
จำนวนปีสุขภาวะที่สูญเสียของประชากรไทยตามกลุ่มของสาเหตุระหว่างพ.ศ. 2542 และพ.ศ. 2547 เพศหญิง เพศชาย
ปัจจัยเสี่ยงและจำนวนปีสุขภาวะที่สูญเสียจากภาระโรคของประชากรไทย พ.ศ. 2542 และ 2547 ที่มา โครงการศึกษาภาระโรคและปัจจัยเสี่ยงของประเทศไทย พ.ศ. 2547
แนวโน้มการสูบบุหรี่และการดื่มสุราของประชากรไทยแหล่งข้อมูล สอส. 2544, 2546, 2549
ความชุกของการดื่มสุราในประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปแหล่งข้อมูลสอส. 2544, 2546 และ 2549
ผลการศึกษา Productivity loss from 12 BOD การสูญเสียผลิตภาพจากการตายก่อนวัยอันควรและการเจ็บป่วยเนื่องจาก 12 ภาระโรคในปี 2548 Total productivity loss from 12 BOD = 219,560million baht ~ 3.1%ofGDP in2548 Note: GDP in 2548 = 7,104,228 million baht
ภาระโรค 3 อันดับแรกที่มีความสูญเสียสูงสุดในประเทศไทย หมายเหตุ เป็นข้อมูล 2548 ยกเว้น DALY loss เป็นข้อมูลปี 2547 • อุบัติเหตุจราจร และ HIV/AIDS ก่อให้เกิดความเสียหายทั้ง 4 มิติ • เบาหวาน โรคหัวใจหลอดเลือด เกิดความสูญเสีย ใน 2 มิติ • ดังนั้นการปรับทิศทางการลงทุนด้านสุขภาพในประเทศไทย ควรจะให้ความสำคัญของการลดภาระโรค ในตารางด้านบน
Health care expenditure in Thailand by function in 2001 and 2005
Household consumption: tobacco, alcohol and healthMedian household expenditure per month Sources: Analyses from 2006 SES
MTEF – วิธีการ, scenarios Three scenarios
MTEF – ผลการศึกษา, status quo สัดส่วนรายจ่ายกิจกรรมสุขภาพตาม status quo ปี 2550-2554 Status quo: • P&P = 5-6% of total recurrent health expenditure • Proportion of P&P is decreasing over the time (2550-2544)
MTEF – ผลการศึกษา, the most possible scenario • คำนึงถึงความสามารถในการจ่ายของรัฐ และ การใช้เงินที่เพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ • Scenario 2 และ 3 มีผลให้ P&P เพิ่มขึ้นอย่างมากหลายเท่าตัว ในปี 2554 น่าจะมีความเป็นไปได้น้อยเมื่อเทียบกับ Scenario 1 (Scenario 2 เพิ่ม 7 หมื่นล้าน และ Scenario 3 เพิ่ม 1 แสนล้าน) • Scenario ที่มีความน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด คือ scenario 1(เพิ่มรายจ่ายสุขภาพ P&Pเป็นสองเท่า ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นไป)
วิจารณ์ผลการศึกษา • ข้อจำกัดในการใช้ DALY loss เป็นตัวชี้วัดและประเมินภาระโรค • ไม่มีความไวเพียงพอในการสะท้อนภาระโรคหรือการเจ็บป่วยที่เป็น delayed effect ของปัจจัยหรือพฤติกรรมเสี่ยง • DALY เน้นการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรและการเจ็บป่วยด้านกายภาพ ซึ่งไม่สอดคล้องกับนิยามคำว่า สุขภาพ (Health) ของ WHO • เป็นการประเมินแนวโน้มในอดีต ซึ่งอาจจะไม่สามารถครอบคลุมโรคอุบัติใหม่ (emerging disease) เช่น SARS และ Avian Flu • ข้อจำกัดของข้อมูลทุติยภูมิและหลักฐานทางวิชาการในบางภาระโรคและปัจจัยเสี่ยง • ข้อจำกัดของ DCP2 ที่สามารถทบทวนเฉพาะหลักฐานที่มีการตีพิมพ์เผยแพร่ โดยอาจขาดองค์ความรู้หรือประสบการณ์ของมาตรการที่ประสบความสำเร็จในบริบทของประเทศไทย
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย (1) ด้านภาระโรค • จัดตั้งวาระสุขภาพแห่งชาติที่สอดคล้องกับภาระโรคในปัจจุบัน โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อและภาระโรคที่เกิดจากพฤติกรรมสุขภา • เน้นการป้องกันและควบคุมโรคและลดปัจจัยเสี่ยงใน 4 ภาระโรคที่สำคัญ • การป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ HIV/AIDS • การป้องกันและควบคุมอุบัติเหตุจราจร • การควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ ยาสูบ • การลดภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย (2) ด้านมาตรการ • สนับสนุนมาตรการที่มีประสิทธิภาพและประเทศไทยดำเนินการอยู่แล้วให้ดำเนินการต่อไปและมีความครอบคลุมเพิ่มมากขึ้น • แก้ไขข้อจำกัดหรือข้อขัดข้องทั้งด้านกฎหมาย งบประมาณ และกำลังคน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินการ • ศึกษามาตรการที่มีประสิทธิภาพที่ประเทศไทยยังไม่ได้ดำเนินการ และปรับให้สอดคล้องกับบริบทของประเทศไทยก่อนที่จะสนับสนุนให้มีการดำเนินการ • ให้ชะลอ หรือยุติ มาตรการที่ไม่มีประสิทธิภาพที่ประเทศไทยยังดำเนินการอยู่
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย (3) ด้านการเงินการคลังสุขภาพ • ต้องปรับเปลี่ยนการลงทุนด้านสุขภาพไปสู่การควบคุมและป้องกันโรค และการลดปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดภาระโรคที่มีลำดับความสำคัญสูง • เพิ่มการลงทุนด้านส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเพิ่มขึ้นเป็น สองเท่า จากระดับการลงทุนเดิม • ทรัพยากรที่เพิ่มขึ้นต้องเน้นไปที่มาตรการและกิจกรรมที่อยู่ทั้งในและนอกระบบสาธารณสุข ทั้งในรระดับประเทศและระดับชุมชน • มีการระดมทรัพยากรและการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน โดยมีกลไกการบริหารงบประมาณที่มีประสิทธิภาพ และมีระบบกำกับติดตามที่เข้มแข็ง
กิตติกรรมประกาศ • สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ • สำนักงานสถิติแห่งชาติ • กระทรวงสาธารณสุข • สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) • สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) • สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) • สำนักงานวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพไทย (สวปก.) • แผนงานร่วมสร้างเสริมสุขภาพกับระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (PP-link)