กรมการค้าต่างประเทศเร่งปรับระบบบริการ C/O ออนไลน์

1. N S P MD Says อินเดียยกเลิกการไต่สวนการทุ่มตลาดโปแตสเซียมฯจากไทย กรมการค้าต่างประเทศเร่งปรับระบบบริการ C/O ออนไลน์ การขอคืนอากรของสินค้าที่นำมาใช้ประโยชน์ชั่วคราว

2. S เสียภาษีนำเข้าดีหรือไม่? ในอดีต อัตราภาษีสำหรับการนำเข้าสินค้าอยู่ในอัตราที่สูง ทำให้พ่อค้านักธุรกิจจำนวนมากทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเองชำระภาษีให้น้อยที่สุด ให้ตนเองได้ประโยชน์ ได้เปรียบ และได้แต้มต่อทางการค้า จนเกิดภาพของการจับกุมและการถูกปรับให้เห็นมากมาย ปัจจุบันอัตราภาษีสำหรับการนำเข้าสินค้าลดลงไปเรื่อย ๆ ตามความร่วมมือทางการค้าที่องค์การการค้าโลกกำหนดขึ้น ตามมาด้วยข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศจนทำให้อัตราภาษีเหลือเพียง 0% ก็มีให้เห็นจำนวนมาก แต่พ่อค้านักธุรกิจจำนวนหนึ่งกลับยังไม่ทราบในเรื่องดังกล่าว กลังยังคงยึดติดกับการหลีกเลี่ยงภาษี หรือทำทุกวิธีการให้เสียภาษีต่ำที่สุดทั้ง ๆ ที่อัตราภาษีต่ำอยู่แล้ว หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมพบผู้นำเข้ารายหนึ่ง นำเครื่องจักรครบชุดสมบูรณ์เข้ามา ตามพิกัดอัตราศุลกากรเครื่องจักรชุดนี้ต้องชำระอากรในอัตรา 0% แต่ผู้นำเข้าสั่งซื้ออะไหล่บางตัวเข้ามาเพิ่มเติม คำถามที่ผมได้รับจากผู้นำเข้ารายนี้คือ เขาควรชำระภาษีสำหรับอะไหล่ชั้นนั้นหรือไม่? N P ต่อหน้า 2

3. หน้า 2 สิ่งที่ผมอธิบายให้ผู้นำเข้ารายนี้เข้าใจคือ อัตราภาษีสำหรับอะไหล่ชิ้นนี้ต้องชำระอยู่ที่อัตรา 10% จากมูลค่าของสินค้าไม่เกิน 40, 000 บาท ดังนั้นอากรขาเข้าที่ต้องชำระนั้นไม่ควรเกิน 4, 000บาท เมื่อผลออกมาเช่นนี้ จึงขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้นำเข้ารายนี้เเล้วว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งผู้นำเข้ารายนี้ ตอบผมกลับมาทันทีว่า ในระบบภาษีสมัยใหม่เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ที่จะชำระภาษีให้ครบถ้วนตามระเบียบ เเละบริษัทไม่มีนโยบายในการเลี่ยงภาษี เเละสั่งการให้พนักงานของผมดำเนินการเสียภาษีได้เลย ผมมีความรู้สึกนิยมชมชอบในตัวนโยบายการทำธุรกิจของผู้นำเข้ารายนี้เป็นอย่างมาก ที่เป็นนักธุรกิจอย่างเเท้จริง โดยนักธุรกิจที่ดีต้องไม่เอาเปรียบสังคม เมื่อได้รับประโยชน์ใดๆ จะไม่คิดเอาเเต่ได้เเต่เพียงฝ่ายเดียว จะต้องคืนสิ่งดีๆสู่สังคมด้วย คำนึงถึงความถูกต้อง เเละยุติธรรมเหมือนกับผู้นำเข้ารายนี้ ไม่ใช่ประพฤติตนเยี่ยงพ่อค้าที่ทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดประโยชน์เเก่ตนเอง เอารัดเอาเปรียบชาวบ้านอย่างไร้เหตุผล จนสุดท้ายก็สร้างตำนานความเดือดร้อนให้ตนเองมากมาย S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

4. อินเดียเป็นตลาดใหม่ในเอเชียใต้ที่มีศักยภาพและน่าสนใจ เพราะมีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากจีน อีกทั้งมีการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA)ระหว่างไทยและอินเดีย ซึ่งมีผลทำให้มูลค่าการค้าระหว่างกันมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น สำหรับการส่งออกสินค้าโปแตสเซียมคาร์บอเนตของไทยไปยังตลาดโลกนั้น ไทยส่งออกไปยังอินเดียมากเป็นอันดับสอง รองจากตลาดมาเลเซีย สัปดาห์ที่ผ่าน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2552 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมอินเดียได้ประกาศยกเลิกการไต่สวนสินค้า โปแตสเซียมคาร์บอเนต (Potassium Carbonate) ภายใต้พิกัดศุลกากร 2836.40.00 จากรัสเซีย สหรัฐ รวมทั้งไทย ซึ่งได้เปิดไต่สวนแล้วตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2550 เนื่องจากผู้ผลิตอินเดียซึ่งเป็นผู้ยื่นคำขอเปิดไต่สวนได้มีหนังสือขอถอนการยื่นคำขอให้เปิดไต่สวน การยกเลิกดังกล่าวจะทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถส่งออกไปยังตลาดอินเดียได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม จากสถิติการใช้มาตรการ AD ของประเทศต่างๆ พบว่า อินเดียมีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้ามากขึ้น โดยอินเดียเป็นผู้ใช้มาตรการ AD มากเป็นอันดับสาม รองจากสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา ดังนั้นผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกของไทยควรมีการเฝ้าระมัดระวังและเตรียมความพร้อมเพื่อวางแนวทางในการแก้ต่าง เพราะอาจมีการเปิดไต่สวนขึ้นได้อีกในอนาคต หากผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกท่านใดมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ www.snp.co.thหรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่ 02-333-1199 # 102 ติดต่อคุณปรีชาญ เงินกระโทก S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

5. S ในอดีตการออก C/O แบบต่างๆ ทั้งแบบที่มีสิทธิในการลดภาษีขาเข้าปลายทาง และแบบไม่มีสิทธิพิเศษ ผู้ส่งออกต้องจัดพิมพ์แบบฟอร์มเอง ทำให้เสียเวลาและขาดความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการเกิดต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ ณ ปัจจุบันนี้ กรมการค้าต่างประเทศ ได้จัดตั้งหน่วยบริการออกหนังสือรับรองเพื่อให้บริการด้านการออก C/O แบบต่างๆ เช่น ฟอร์ม A,E,FTA,JTEPA,GSTP และ C/O ทั่วไป ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้บริการแก่ผู้ส่งออกสินค้าทางเครื่องบิน ซึ่งเดิมผู้ประกอบการต้องจัดพิมพ์เอง ทำให้เกิดความล่าช้า ปัจจุบันกรมการค้าต่างประเทศได้พัฒนาระบบออกหนังสือรับรองออนไลน์จนระบบสมบูรณ์แบบ ผู้ส่งออกส่วนใหญ่ที่เข้าระบบได้รับความพึงพอใจ แต่ยังมีผู้ส่งออกหลายรายที่ไม่ทราบ ทำให้ขาดโอกาสการได้รับบริการอย่างเสมอภาค ผู้ส่งออกที่สมัครเข้าระบบจะได้รับหนังสือรับรองแบบต่างๆ แนบเครื่องเร็วขึ้นกว่าผู้ส่งออกระบบเดิม ซึ่งสามารถถ่ายข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง สร้างข้อมูลฝากทิ้งในระบบรอไว้ล่วงหน้าได้ไม่เสียค่าฝาก โดยคิดค่าใช้จ่ายฉบับละ 30 บาท หากผู้ส่งออกท่านใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 02-134-0941-2 หรือที่ www.snp.co.th N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก

6. สินค้านำเข้าที่มีการใช้ประโยชน์ไปแล้วนั้น เป็นสินค้าที่ไม่อยู่ในมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2482 จึงไม่สามารถยื่นขอคืนภาษีภายหลังส่งออกได้ แต่สินค้าที่นำเข้ามาใช้ประโยชน์ชั่วคราว ยังคงได้รับสิทธิปลอดภาษีด้วยกฎหมายอื่นในเรื่องของที่ได้รับยกเว้นอากร โดยการวางค้ำประกันในหลายรูปแบบและขอคืนภาษีในภายหลังการส่งออกตามเงื่อนไขและข้อปฏิบัติดังนี้ 1. เป็นสินค้าที่นำเข้าเพื่อใช้ในงานการแสดงสินค้าที่เป็นลักษณะสาธารณะหรืออาจจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบเครื่องจักร หรือการสำรวจ หรือเครื่องมือแพทย์ หรือเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการประชุมระหว่างประเทศ เป็นต้น 2. ต้องมีหนังสือยืนยันการจัดงาน หนังสือรับรองจากเจ้าของสถานที่ หลักฐานการใช้งานที่ยืนยันเป็นการนำเข้าชั่วคราว และคำร้องเพื่อขอนำเข้าชั่วคราวยื่นต่ออธิบดีกรมศุลกากร เพื่อพิจารณาก่อนการนำเข้า 3. ลักษณะการค้ำประกันที่อธิบดีกรมศุลกากรจะกำหนด เช่น ประกันด้วยเงินสด,ประกันโดยสถานทูต,ประกันด้วยหนังสือค้ำประกันของธนาคาร เป็นต้น 4. สินค้าที่นำเข้ามาเพื่อใช้แจกในงานแสดง เช่น สินค้าตัวอย่าง แผ่นพับ แคตตาล๊อค ไม่อยู่ในกลุ่มสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีขาเข้า 5. สินค้าต้องส่งกลับไปในสภาพเดิม ภายใน 6 เดือน แต่อาจจะขยายเวลา หากพบว่ามีเหตุอันควร และจะได้รับการคืนประกันภายหลังการส่งออก จากเนื้อหาของข่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่าข้อปฏิบัติไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแต่ผู้ประกอบการต้องดำเนินการในเรื่องของเอกสารและใบขออนุญาตต่างๆให้ถูกต้องและครบถ้วน เพียงเท่านี้ก็สามารถขอคืนภาษีได้แล้ว หากผู้ประกอบการพบปัญหาการนำเข้าสินค้าชั่วคราว สามารถติดต่อขอคำแนะนำได้ที่ www.snp.co.thหรือโทรศัพท์มาสอบถามได้ที่ 02-333-1199 ต่อ 301 ติดต่อคุณสุชาติ เรืองสว่าง S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก