1 / 9

การเป็นสาวกทำงานกับคนป่วย

การเป็นสาวกทำงานกับคนป่วย. บทที่ 5 วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2014. พระเมสสิยาห์ผู้ให้การเยียวยา. “ แน่ ​ที​เดียว​ท่าน​แบก​ความ​เจ็บ​ไข้​ของ​พวก​เรา และ​หอบ​ความ​เจ็บ​ปวด​ของ​เรา​ไป กระ​นั้น​พวก​เรา​ยัง​คิด​ว่า​ที่​ท่าน​ถูก​ตี คือ​ถูก​พระ​เจ้า​ทรง​โบย​ตี​และ​ข่ม​ ใจ ” ( อิสยาห์ 53:4).

Download Presentation

การเป็นสาวกทำงานกับคนป่วย

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การเป็นสาวกทำงานกับคนป่วยการเป็นสาวกทำงานกับคนป่วย บทที่ 5 วันที่ 1 กุมภาพันธ์2014

  2. พระเมสสิยาห์ผู้ให้การเยียวยาพระเมสสิยาห์ผู้ให้การเยียวยา “แน่​ที​เดียว​ท่าน​แบก​ความ​เจ็บ​ไข้​ของ​พวก​เรา และ​หอบ​ความ​เจ็บ​ปวด​ของ​เรา​ไป กระ​นั้น​พวก​เรา​ยัง​คิด​ว่า​ที่​ท่าน​ถูก​ตี คือ​ถูก​พระ​เจ้า​ทรง​โบย​ตี​และ​ข่ม​ใจ”(อิสยาห์ 53:4) “พระคริสต์เท่านั้นที่จะสามารถแบกรับผลกระทบจากทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเราได้“พระ​องค์​ทุกข์​พระ​ทัย​ใน​ความ​ทุกข์​ทั้ง​หมด​ของ​เขา” (อิสยาห์63:9)พระองค์ไม่จำเป็นต้องทนทุกข์จากความเจ็บไข้ในชีวิตของพระองค์เอง แต่พระองค์ทรงรับความเจ็บไข้ของบุคคลอื่นๆ ด้วยเหตุนี้เราจึงมองเห็นถึงความทุกข์ทรมานในชีวิตของพระองค์ที่ได้รับอย่างเต็มที่ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์พระองค์ทรงมองเห็นถึงความทุกข์ลำบากในชีวิตของมนุษย์ที่ซาตานได้กระทำในชีวิตของพวกเขาเหล่านั้น, พระองค์ทรงช่วยเหลือทุกๆ คนตามความต้องการของชีวิตของพวกเขาด้วยความทุกข์ของพวกเขา…ด้วยฤทธานุภาพของความรักพระองค์ทรงเยียวยารักษาพวกเขา พระองค์ทรงให้ความสนใจต่อความทุกข์ทรมานในชีวิตของมนุษย์ทุกๆ คน” E.G.W. (That I may know Him, February 11)

  3. การเยียวยาฝ่ายร่างกายการเยียวยาฝ่ายร่างกาย “การ​ที่​พูด​กับ​คน​ง่อย​ว่า ‘บาป​ต่างๆ ของ​ท่าน​ได้​รับ​การ​อภัย​แล้ว’ กับ​การ​พูด​ว่า ‘จง​ลุกขึ้น​ยก​แคร่​เดิน​ไป​เถิด’ แบบ​ไหน​จะ​ง่าย​กว่า​กัน?” (มาระโก2:9) “พระ​เยซู​จึง​ทรง​ดำ​เนิน​ไป​ตามเมือง​และ​หมู่​บ้าน​โดย​รอบ ทรง​สั่ง​สอน​ใน​ธรรม​ศาลา​ของ​เขา​ทั้ง​หลาย ทรง​ประ​กาศ​ข่าว​ประ​เสริฐ​เรื่อง​แผ่น​ดิน​ของ​พระ​เจ้า ทรง​รักษา​โรค​และ​ความ​เจ็บ​ป่วย​ทุก​อย่าง​ให้​หาย” (มัทธิว 9:35) พระเยซูมิได้ทรงรักษาความเจ็บป่วยฝ่ายร่างกายเท่านั้น, แต่พระองค์ทรงรักษาความเจ็บป่วยฝ่ายคุณธรรม ซึ่งนั่นคือความบาป พระเยซูทรงพยายามที่จะรักษาความเป็นองค์รวมทั้งหมดของร่างกายด้วย (จิตวิญญาณ, จิตใจ และร่างกาย) ไม่ใช่คนบาปทุกคนที่ตระหนักถึงความบาปในชึวิตของเขา แม้กระนั้นทั้งจิตใจร่างกายของเขา จิตใจและร่างกายมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ความเจ็บปวดในชีวิต ความเสียใจและความอับอาย อาจจะก่อให้เกิดควาเจ็บป่วยทางกายด้วยเช่นกัน เขาเหล่านั้นจำเป็นจะต้องได้รับการเยียวยารักษาอย่างสมบูรณ์ด้วยการอภัยของพระผู้ช่วยให้รอดของเรา

  4. การเยียวยาจิตใจและร่างกายการเยียวยาจิตใจและร่างกาย “ใจ​ร่า​เริง​เป็น​ยา​อย่าง​ดี แต่​จิต​ใจ​ชอก​ช้ำ​ทำ​ให้​กระ​ดูก​แห้ง” (สุภาษิต17:22) พระเยซูและอัครสาวกได้ให้คำแนะนำในการดูแลรักษาโรคภัยสำหรับยุคปัจจุบันไว้ด้วยเช่นกัน “อย่า​สะสม​ทรัพย์​สม​บัติ​เพื่อ​ตัว​พวก​ท่าน​เอง​ไว้​ใน​โลก… แต่​จง​สะ​สม​ทรัพย์​สม​บัติ​เพื่อ​ตัว​พวก​ท่าน​เอง​ไว้​ใน​สวรรค์” (มัทธิว 6:19-20) “เพราะ​เหตุ​นี้ เรา​บอก​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า อย่า​กระ​วน​กระ​วาย​ถึง​ชีวิต​ของ​ตน​ว่า​จะ​เอา​อะไร​กิน หรือ​จะ​เอา​อะไร​ดื่ม และ​อย่า​กระ​วน​กระ​วาย​ถึง​ร่าง​กาย​ของ​ตน​ว่า​จะ​เอา​อะไร​นุ่ง​ห่ม ชีวิต​สำ​คัญ​ยิ่ง​กว่า​อาหาร​ไม่​ใช่​หรือ? และ​ร่าง​กาย​สำ​คัญ​ยิ่ง​กว่า​เครื่อง​นุ่ง​ห่ม​ไม่​ใช่​หรือ?” (มัทธิว 6:25) “แต่​พวก​ท่าน​จง​แสวง​หา​แผ่น​ดิน​ของ​พระ​เจ้า และ​ความ​ชอบ​ธรรม​ของ​พระ​องค์​ก่อน แล้ว​พระ​องค์​จะ​ทรง​เพิ่ม​เติม​สิ่ง​ทั้งปวง​นี้​ให้” (มัทธิว6:33) “เพราะ​ฉะนั้น อย่า​กระ​วน​กระ​วาย​ถึง​วัน​พรุ่งนี้ เพราะ​ว่า​พรุ่ง​นี้​ก็​มี​เรื่อง​กระ​วน​กระ​วาย​ของ​มัน​เอง แต่​ละ​วัน​ก็​มี​ทุกข์​พอ​อยู่​แล้ว” (มัทธิว6:34)

  5. การเยียวยาจิตใจและร่างกายการเยียวยาจิตใจและร่างกาย “ใจ​ร่า​เริง​เป็น​ยา​อย่าง​ดี แต่​จิต​ใจ​ชอก​ช้ำ​ทำ​ให้​กระ​ดูก​แห้ง” (สุภาษิต 17:22) “จง​ละ​ความ​กัง​วล​ทุก​อย่าง​ของ​พวก​ท่าน​ไว้​กับ​พระ​องค์ เพราะ​ว่า​พระ​องค์​ทรง​ห่วง​ใย​ท่าน​ทั้ง​หลาย” (1เปโตร5:7) “เรา​เผชิญ​ความ​ยาก​ลำ​บาก​รอบ​ด้าน แต่​ก็​ไม่​ถูก​บด​ขยี้ เรา​สับ​สน​แต่​ก็​ไม่​หมด​หวัง เรา​ถูก​ข่ม​เหง​แต่​ก็​ไม่​ถูก​ทอด​ทิ้ง เรา​ถูก​ตี​ให้​ล้ม​ลง แต่​ก็​ไม่​ถูก​ทำ​ลาย” (2โครินธ์4:8-9) “จง​ชื่น​ชม​ยินดี​ใน​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ทุก​เวลา ข้าพ​เจ้า​ขอ​ย้ำ​อีก​ครั้ง​ว่า​จง​ชื่น​ชม​ยินดี​เถิด” (ฟิลิปปี4:4) “อย่า​กระ​วน​กระ​วาย​ใน​สิ่ง​ใดๆ เลย แต่​จง​ทูล​พระ​เจ้า​ให้​ทรง​ทราบ​ทุก​สิ่ง​ที่​พวก​ท่าน​ขอ โดย​การ​อธิษ​ฐาน​และ​การ​วิง​วอน พร้อม​กับ​การ​ขอบ​พระ​คุณ” (ฟิลิปปี4:6) “สุด​ท้าย​นี้​พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย ขอ​จง​ใคร่​ครวญ​ดู​สิ่ง​เหล่า​นี้​คือ สิ่ง​ที่​เป็น​จริง สิ่ง​ที่​น่า​นับ​ถือ สิ่ง​ที่​ยุติ​ธรรม สิ่ง​ที่​บริ​สุทธิ์ สิ่ง​ที่​น่า​รัก สิ่ง​ที่​ควร​แก่​การ​สรร​เสริญ รวม​ทั้ง​ถ้า​มี​สิ่ง​ใด​ที่​ยอด​เยี่ยม สิ่ง​ใด​ที่​น่า​ยก​ย่อง ” (ฟิลิปปี4:8) “และ​เมื่อ​เรา​ขอ​สิ่ง​ใด ก็​ได้​สิ่ง​นั้น​จาก​พระ​องค์ เพราะ​เรา​ประ​พฤติ​ตาม​พระ​บัญ​ญัติ​ของ​พระ​องค์ และ​ปฏิ​บัติ​ตาม​ชอบ​พระ​ทัย​พระ​องค์” (1ยอห์น3:22)

  6. ความกล้าหาญ, ความหวัง, ความเชื่อ, ความเห็นอกเห็นใจ, ความรัก, การเสริมสร้างสุขภาพและการทำให้อายุยืนยาว จิตใจที่พึงพอใจ, จิตวิญญาณที่ร่าเริง ร่างกายที่สุขภาพดีและจิตวิญญาณที่แข็งแรง ความกตัญญู, ความชื่นบาน, ความเมตตากรุณา, ความไว้วางใจในความรักของพระเจ้าและการดูแลสิ่งเหล่านี้คือการป้องกันสุขภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด E.G.W. (Our Father cares, February 12)

  7. มรดกการเยียวยาของพระคริสต์มรดกการเยียวยาของพระคริสต์ “จน​เขา​ทั้ง​หลาย​ต่าง​หาม​คน​เจ็บ​ป่วย​ออก​ไป​ที่​ถนน​โดย​วาง​บน​ที่​นอน​และ​แคร่ เพื่อ​ว่า​เมื่อ​เป​โตร​เดิน​ผ่าน​ไป อย่าง​น้อย​เงา​ของ​ท่าน​จะ​ได้​ถูก​พวก​เขา​บาง​คน” (กิจการ 5:15) มีการเยียวยารักษาอันยิ่งใหญ่เกิดขึ้นในคริสตจักรยุคแรก ครั้งแรก, คนง่อยได้รับการรักษา(กิจการ3:1-19) ดังนั้น, ของประทานสำหรับการเยียวยารักษาเริ่มเกิดขึ้นในคริสตจักรยุคแรกนี้ ผู้ป่วยได้รับการเยียวยารักษาเมื่อเขาถูกวางบนถนนเมื่อเปโตรเดินผ่าน(กิจการ5:15)ฟิลิปได้ขับผีออกไปจากคนง่อย และคนเป็นอัมพาต(กิจการ8:6-8) เปาโลก็รักษาผู้ป่วยมากมายเช่นกัน(กิจการ19:11-12; 28:7-9) มีเหตุการณ์สองครั้งที่แสดงให้เห็นถึงการชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นขึ้นในพระคัมภีร์คือ โดรคัส(กิจการ9:36-42) และ ยุงกัส(กิจการ20:7-10) การอัศจรรย์เหล่านั้นสำแดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับพวกเขา ข่าวประเสริฐยิ่งถูกเผยแพร่ออกไปการอัศจรรย์แห่งการรักษาก็ค่อยๆ จางหายไป

  8. การเยียวยาสำหรับทุกวันนี้การเยียวยาสำหรับทุกวันนี้ “มี​ใคร​ใน​พวก​ท่าน​ทน​ทุกข์​หรือ? จง​ให้​คน​นั้น​อธิษ​ฐาน มี​ใคร​ร่า​เริง​ยินดี​หรือ? จง​ให้​คน​นั้น​ร้อง​เพลง​สรร​เสริญ มี​ใคร​ใน​พวก​ท่าน​เจ็บ​ป่วย​หรือ? จง​ให้​คน​นั้น​เชิญ​บรร​ดา​ผู้​ปก​ครอง​ของ​คริสต​จักร​มา และ​ให้​ท่าน​เหล่า​นั้น​อธิษ​ฐาน​เผื่อ​เขา​และ​ชโลม​เขา​ด้วย​น้ำ​มัน​ใน​พระ​นาม​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า การ​อธิษ​ฐาน​ด้วย​ความ​เชื่อ​จะ​รักษา​ผู้​ป่วย​ให้​หาย​โรค และ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จะ​ทรง​ให้​เขา​ลุก​ขึ้น​ได้ และ​ถ้า​เขา​เคยทำ​บาป พระ​องค์​ก็​จะ​ทรง​ให้​อภัย เพราะ​ฉะ​นั้น​ท่าน​จง​สาร​ภาพ​บาป​ต่อ​กัน​และ​กัน และ​จง​อธิษ​ฐาน​เผื่อ​กัน​และ​กัน เพื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​รับ​การ​รัก​ษา​โรค คำ​วิง​วอน​ของ​ผู้​ชอบ​ธรรม​นั้น​มี​พลัง​มาก​และ​เกิด​ผล” (ยากอบ 5:13-16) พระเจ้าทรงประทานฤทธานุภาพสามประการให้กับคริสตจักรเพื่อเป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือด้านร่างกายและจิตวิญญาณ การอธิษฐาน การเจิมน้ำมันให้กับผู้ป่วย การปฏิรูปสุขภาพ

  9. การเยียวยาความตาย “พระ​เยซู​ตรัส​กับ​นาง​ว่า “เรา​เป็น​ชีวิตและ​การ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย คน​ที่​วาง​ใจ​ใน​เรา​จะ​มี​ชีวิต​อีก​แม้​ว่า​เขา​จะ​ตาย​ไป และ​ทุก​คน​ที่​มี​ชีวิต​และ​วาง​ใจ​ใน​เรา​จะ​ไม่​ตาย​เลย เธอ​เชื่อ​อย่าง​นี้​ไหม?”” (ยอห์น 11:25-26) พระเยซูทางพิสูจน์ให้เห็นว่าพระองค์ทรงมีอำนาจเหนือความตาย พระองค์มิได้มีแผนที่จะทำให้ชีวิตแห่งความบาปนี้ยืนยาวต่อไปเรื่อยๆ แต่พระองค์จะทรงทำให้ชีวิตที่ดีกว่าของเราฟื้นขึ้นมา และเป็นชีวิตนิรันดร์ที่ปราศจากบาป จะไม่มีความเจ็บป่วย อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทุกๆ วันนี้ ผู้ใดที่ยอมรับพระคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดจะได้รับชีวิตนิรันดร์อย่างแน่นอน

More Related