1 / 21

วิชาสัมมนาทางเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ ( Seminar in Business Economics)

วิชาสัมมนาทางเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ ( Seminar in Business Economics). อ. นัทธปราชญ์ นันทิวัฒน์กุล. " ชีวิตนี้สั้นนัก , อย่ายึดติดกับกฎเกณฑ์ , อภัยให้ไว , รักอย่างแท้จริง , หัวเราะให้เต็มที่ และยิ้มอยู่เสมอ " . กระบวนการเรียนการสอน. ปัญหาพิเศษทางเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ (ทำรายงานการค้นคว้าอิสระ)

billie
Download Presentation

วิชาสัมมนาทางเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ ( Seminar in Business Economics)

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. วิชาสัมมนาทางเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ(Seminar in Business Economics) อ. นัทธปราชญ์ นันทิวัฒน์กุล

  2. "ชีวิตนี้สั้นนัก, อย่ายึดติดกับกฎเกณฑ์, อภัยให้ไว, รักอย่างแท้จริง, หัวเราะให้เต็มที่ และยิ้มอยู่เสมอ "

  3. กระบวนการเรียนการสอน • ปัญหาพิเศษทางเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ (ทำรายงานการค้นคว้าอิสระ) • สัมมนากลุ่มย่อย ตามที่นักศึกษาสนใจ เกณฑ์การประเมิน 1) เกณฑ์ผ่าน ( Minimum Score) 40 % 2) เกณฑ์ให้คะแนน - รายงานการค้นคว้าอิสระ 40 % - โครงร่างการค้นคว้า 20 % - สอบกลางภาคและปลายภาค 40 %

  4. ประเด็นหัวข้อในการค้นคว้าอิสระประเด็นหัวข้อในการค้นคว้าอิสระ • เศรษฐกิจระหว่างประเทศ (International Economy) • สิ่งแวดล้อม (Environments) • ปัญหาเศรษฐกิจ(Problem of Economy) • พลังงาน (Energy) • สินค้าเกษตรกรรม (Agriculture Goods) • เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ (Creative Economy) • ครอรับชั่น การทุจริต

  5. เศรษฐกิจระหว่างประเทศ (International Economy) • การนำเข้า (Import) • การส่งออก (Export) • อัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate) • การรวมกลุ่มเศรษฐกิจ (Economy Group Agenda) • นโยบายการค้าระหว่างประเทศ (Political International)

  6. การนำเข้าและการส่งออกการนำเข้าและการส่งออก • การนำเข้า หมายถึง การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาภายในประเทศหรืออาจเรียกว่า อุปสงค์ของการนำเข้า(Demand of Import)หรืออาจเรียกอุปทานของการส่งออกก็ได้ปัจจัยที่มีผลต่อการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศได้แก่ • รายได้ประชาชาติของประเทศไทย • อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ • ราคาสินค้าโดยเปรียบเทียบของสินค้าเดียวกันในตลาดโลก • การส่งออก หมายถึง การนำสินค้าออกไปจากประเทศหรืออาจเรียกว่า อุปทานของการส่งออก(Supply of Export) หรืออาจกเรียกว่าอุปสงค์ของการนำเข้าก็ได้ ปัจจัยที่มีผลต่อการส่งออกได้แก่ • อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ • ราคาสินค้าภายในประเทศโดยเปรียบเทียบของสินค้าเดียวกันในตลาดโลก • รายได้ประชาชาติของประเทศผู้นำเข้า

  7. อัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate) • อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หมายถึง การเทียบค่าเงินต่างประเทศสกุลหนึ่งกับสกุลอื่นที่ต้องการ อาทิ เงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เงินยูโรต่อหยวน • ปัจจัยกำหนดอัตราแลกเปลี่ยน ขึ้นอยู่กับระบบอัตราแลกเปลี่ยนกล่าวคือ • ระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดจะได้แก่ ดุลชำระเงินระหว่างประเทศ อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ • ระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัว ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดจะได้แก่ อุปสงค์และอุปทานของตลาดเงินตราต่างประเทศ

  8. การรวมกลุ่มเศรษฐกิจ (Economy Group Agenda) • การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ เกิดจากการที่ประเทศต่างๆ ในโลกตกลงเข้ารวมเป็นกลุ่มทางเศรษฐกิจภายใต้เงื่อนไขที่ทั้งสองฝ่ายต้องดำเนินการ การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศมี 2 ลักษณะคือ • การรวมกลุ่มแบบทวิภาคี การรวมกลุ่ม 2 ประเทศ • การรวมกลุ่มแบบพหุภาคี การรวมกลุ่มมากกว่า 2 ประเทศ • ประเด็นสำคัญของการรวมกลุ่มเศรษฐกิจคือ • Create Demand • Economic of Scale • Economy Growth

  9. นโยบายการค้าระหว่างประเทศ (Political International) • นโยบายการค้าแบบคุ้มกัน ได้แก่ ภาษีศุลกากร โควตา มาตรการทางตรงของรัฐบาล ระบบมาตรฐานสินค้า • นโยบายการค้าเสรี หรือ นโยบายการค้าเสรี

  10. สิ่งแวดล้อม (Environments) • เศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อม เป็นการอธิบายถึงการใช้ทรัพยากรต่างๆ ในทางเศรษฐกิจ ซึ่งการใช้ทรัพยากรดังกล่าวได้เกิดผลกระทบภาย(Internal Impact) และภายนอก(External Impact) สถานประกอบการ ซึ่งผลกระทบนั้นมีทั้งในด้านบวก(Positive Impact) และผลกระทบในด้านลบ(Negative Impact) ดังนั้นการใช้ทรัพยากรเพื่อการผลิตสินค้าและบริการไม่ตอบประเด็น efficiency เท่านั้น แต่ต้องตอบ sufficiency ด้วย

  11. ปัญหาเศรษฐกิจ(Problem of Economy) • ปัญหาเศรษฐกิจ ตามวัฏจักรเศรษฐกิจ สภาพทางเศรษฐกิจมี 4 ลักษณะ • เศรษฐกิจรุ่งเรือง • เศรษฐกิจตกต่ำ • เศรษฐกิจตกต่ำที่สุด • เศรษฐกิจเริ่มรุ่งเรือง • ตัวแปรที่บ่งชี้ถึงปัญหาเศรษฐกิจที่สำคัญ • อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ • อัตราการว่างงาน • อัตราเงินเฟ้อ • การเปลี่ยนแปลงของค่าจ้างที่แท้จริง

  12. พลังงาน (Energy) • พลังงาน หมายถึง ความสามารถที่จะทำงานได้(the capacity to do work) ซึ่งอาจเป็นแรงงานที่ได้จากธรรมชาติโดยตรงหรือมนุษย์ดัดแหลงมาจากธรรมชาติเพื่อประโยชน์ใช้สอยในระดับครัวเรือนหรือเพื่อวัตถุประสงค์ใช้สอยในระดับครัวเรือนหรือเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงเศรษฐกิจ • พลังงานมีผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ เพราะ พลังงานเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญของภาคอุตสาหกรรม

  13. ปี 2516 กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมขึ้นราคาน้ำมันทำให้เกิดความซบเซาทางเศรษฐกิจ การลงทุนลดลง กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน เกิดการปริวรรตเงินตราต่างประเทศ มีการต่อต้านการไหลออกของเงินตราต่างประเทศเพื่อชำระเป็นค่าน้ำมัน ประเทศด้อยพัฒนาที่ต้องการน้ำมัน มีความต้องการน้ำมันสูง แต่ราคาแพ่ง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูง ปี 2550 กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมประสบวิกฤตเศรษฐกิจ อุปสงค์มวลรวมของประเทศลดลง กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ควบคุมปริมาณน้ำมัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดลงลง ประเทศด้อยพัฒนา มีราคาพลังงานสูงขึ้น ปริมาณการใช้สูงขึ้นโดยเฉพาะประเทศจีน วิกฤตพลังงาน

  14. สินค้าเกษตรกรรม (Agriculture Goods) • ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม เพื่อกว่า 80% ทำเกษตรกรรม • ราคาตกต่ำ เกษตรกรมีรายได้ต่ำ ต้นทุนสูง • การลดลงของพื้นที่ทำการเกษตรกรรม • การเกษตรกรรมสัมพันธ์กับปริมาณอาหาร และพลังงานของประเทศ • การเกษตรกรรมทำลายสิ่งแวดล้อม

  15. เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ (Creative Economy) • เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์(Creative Economy)คือ ระบบเศรษฐกิจที่สะท้อนถึงกระบวนการซึ่งรวมเอาวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน จึงทำให้ Creative Economy โดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางระบบการผลิตอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมและภาคการเกษตร • Creative Industry หรืออุตสาหกรรมที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ หมายถึงวงจรการสร้างสรรค์ การผลิต และการจำหน่ายสินค้าและบริการที่ใช้ทุนทางปัญญาเป็นปัจจัยการผลิตพื้นฐาน ซึ่งก็คือ กิจกรรมต่างๆ ที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้อันประกอบด้วยศิลปะ การสร้างรายได้จากการค้า และทรัพย์สินทางปัญญา (โดยเฉพาะอย่างยิ่งลิขสิทธิ์) อุตสาหกรรมในกลุ่มนี้สามารถผลิตได้ทั้งสินค้าที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้อันมีเนื้อหาเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ และมีเป้าหมายทางการตลาด นอกจากนี้ สินค้าที่มีความคิดสร้างสรรค์ยังสามารถเป็นสินค้าที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษ หรือผลิตครั้งละจำนวนมาก ซึ่งเกิดจากการเชื่อมต่อกันระหว่างช่างฝีมือหรือหัตถกรรม และภาคอุตสาหกรรมได้

  16. เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ (Creative Economy) • เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์เป็นหนึงในปัจจัยที่ช่วยลดปัญหาความยากจน และช่วยให้บรรลุเป้ าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ(Millennium Development Goals: MDGs) ขององค์การสหประชาชาติ นอกจากนี ได้ชี้ให้เห็นว่าCreative, Investment, Technology, ntrepreneurship และ Trade มีความเกียวข้องกัน หรือทีเรียกว่าCreative Nexus หรือ C-ITET Model • ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศปี 2000 – 2005 ชี้ให้เห็นว่าการค้าสินค้าและบริการเชิงสร้างสรรค์ขยายตัวเฉลียร้อยละ 8.7 ต่อปี นอกจากนี มูลค่าสินค้าเชิงสร้างสรรค์ในปี 2005 มีมูลค่าเพิม จากปี 2000 ถึง 47%

  17. โครงสร้างเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์โครงสร้างเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ • กลุ่มอุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ หรือกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความเชื่อมโยงระหว่างกันจะประกอบไปด้วย กลุ่มองค์ความรู้ดั้งเดิม เช่น ศิลปหัตถกรรม, กลุ่มการแสดงศิลปะ เช่น การละคร, กลุ่มสิ่งพิมพ์และวรรณกรรม เช่น หนังสือ, กลุ่มดนตรี เช่น คอนเสิร์ต และ CD, กลุ่ม Visual Arts เช่น ภาพเขียน, กลุ่ม Audio-Visuals เช่น ภาพยนตร์และโทรทัศน์, กลุ่มงานออกแบบ เช่น สถาปัตยกรรม และกลุ่มดิจิตอลและมัลติมีเดีย เช่น ซอฟท์แวร์ และเกม เป็นต้น

  18. ครอรับชั่น การทุจริต • ครอรับชั่น การทุจริต หมายถึง การกระทำที่เป็นการนำเอาทรัพย์ที่มิใช่ของตน มาเป็นของตนเอง ทั้งนี้การกระทำนั้นมีกฎหมายบัญญัติไว้ • ประเภทของการครอรับชั่น/ทุจริต • การเอาทรัพย์ของหน่วยงานราชการเป็นของตน อาจกระทำ 2 รูปแบบ คือ กระทำโดยตรง และกระทำโดยอ้อม • การเอาทรัพย์ของภาคเอกชนเอก็นของตนเอง โดยที่ผ่านมา ปปง.ได้แบ่งฐานความผิดออกเป็น ความผิดมูลฐานยาเสพติด ค้าหญิงและเด็ก ฉ้อโกงประชาชน ยักยอก ทุจริตต่อหน้าที่ กรรโชกหรือรีดทรัพย์ ลักลอบหนีศุลกากร และการก่อการร้อย

  19. การกำหนดหัวข้อค้นคว้าอิสระการกำหนดหัวข้อค้นคว้าอิสระ • ศึกษาสถานการณ์ • กำหนดประเด็นปัญหา • ศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง • เขียนโครงร่างการวิจัย

  20. วิธีการที่จะได้ประเด็นเรื่องศึกษาอิสระวิธีการที่จะได้ประเด็นเรื่องศึกษาอิสระ • ตัวเอง คือ • ความสนใจ • ความรู้ ความสามารถ • อนาคตในการทำงาน • ผู้อื่น คือ • ผู้ที่จะใช้ผลงานศึกษา • ผู้ที่ให้ทุน • อื่นๆ เรื่องไหน ง่าย ทำได้ มีเพื่อนทำ เพื่อนไม่หนี

More Related