200 likes | 534 Views
ฝน ดาว ตก ( Meteor shower ). SRU Department of Physics. ฝนดาวตก ( Meteor shower ).
E N D
ฝน ดาว ตก (Meteor shower) SRU Department of Physics
ฝนดาวตก (Meteor shower) • เป็นปรากฎการณ์ที่คนบนโลกมองเห็นแนวเส้นสว่างมากมายพาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืนเป็นระยะ ๆ เกิดขึ้นจากการที่โลกโคจรฝ่าเข้าไปในกลุ่มฝุ่นอุกกาบาต (meteoroid) น้อยใหญ่ ซึ่งโดยมากจะมีต้นกำเนิดมาจากดาวหางที่เคยโคจรผ่านเข้ามาในระบบสุริยะชั้นใน และทิ้งกลุ่มฝุ่นอุกกาบาตเหล่านี้ตามแนวทางโคจร ฝนดาวตกที่ผู้อ่านอาจเคยได้ยินชื่อบ่อย ๆ คือ ฝนดาวตกเปอร์ซีดส์ (Perseids) หรือรู้จักกันในนามของฝนดาวตกวันแม่
ฝนดาวตก (Meteor shower) • เนื่องจากจะมีมากเป็นพิเศษในช่วงวันที่ 11-12 สิงหาคมของทุกปี และดาวหางที่เป็นต้นกำเนิดของดาวตกกลุ่มนี้ก็เพิ่งโคจรผ่านเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์เมื่อปลายปี พ.ศ. 2535 ที่ผ่านมา นักดาราศาสตร์ทราบมานานแล้วว่า ฝนดาวตกแต่ละกลุ่มจะมีมากผิดปกติหากดาวหางต้นกำเนิดโคจรเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์ ในช่วงก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 นี้
ฝนดาวตก (Meteor shower • ฝนดาวตกที่นับว่ามีชื่อเสียงมากที่สุดและอาจเป็นฝนดาวตกกลุ่มสำคัญกลุ่มแรกที่มีการบันทึกไว้ จะกลับมาสร้างชื่อเสียงให้กับตัวมันเองอีกครั้ง ฝนดาวตกลีโอนิดส์ (Leonids) เป็นฝนดาวตกที่ถูกยกย่องให้เป็นราชาแห่งฝนดาวตก เนื่องจากมันได้เคยสร้างความตื่นตะลึงให้กับชาวโลกเมื่อกว่าศตวรรษมาแล้ว
ลีโอนิดส์กับดาวหางเทมเปล-ทัตเทิลลีโอนิดส์กับดาวหางเทมเปล-ทัตเทิล • ดาวหาง เทมเปล-ทัตเทิล (Tempel-Tuttle) เป็นดาวหางธรรมดา ๆ ดวงหนึ่ง ที่ไม่มีความสว่างมากมายและมีชื่อเสียงเทียบเท่ากับฮัลเลย์ แต่ที่มันได้รับความสนใจก็เพราะมันเป็นผู้ให้กำเนิดฝนดาวตกลีโอนิดส์ เทมเปล-ทัตเทิลมีคาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์ 33.2 ปี
ลีโอนิดส์กับดาวหางเทมเปล-ทัตเทิลลีโอนิดส์กับดาวหางเทมเปล-ทัตเทิล • อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ในทุก ๆ รอบ 33-34 ปีฝนดาวตกกลุ่มนี้มีมากเป็นพิเศษ ดาวหางเทมเปล-ทัตเทิลเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1965 โดยเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดที่ระยะ 0.982 หน่วยดาราศาสตร์ ( ใกล้เคียงกับระยะที่โลกอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มาก)
ลีโอนิดส์กับดาวหางเทมเปล-ทัตเทิลลีโอนิดส์กับดาวหางเทมเปล-ทัตเทิล • ระนาบการโคจรเอียงทำมุม 163 องศากับระนาบที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ นั่นหมายความว่า หากมองดูวงโคจรจากด้านเหนือของระนาบดังกล่าว จะเห็นดาวหางโคจรสวนทางกับการโคจรของโลก
ลีโอนิดส์กับดาวหางเทมเปล-ทัตเทิลลีโอนิดส์กับดาวหางเทมเปล-ทัตเทิล • เนื่องจากระนาบการโคจรและระยะที่ใกล้เคียงกันมากเช่นนี้ ทำให้โลกมีโอกาสที่จะเดินทางฝ่าเข้าไปในกลุ่มฝุ่นอุกกาบาตของดาวหางดวงนี้ได้โดยตรง และเป็นระยะเวลานานเป็นพิเศษ
ลีโอนิดส์กับดาวหางเทมเปล-ทัตเทิลลีโอนิดส์กับดาวหางเทมเปล-ทัตเทิล • ด้วยการเคลื่อนที่ของอนุภาคในกลุ่มฝุ่นจากดาวหางที่มีทิศสวนทางกับโลกเช่นนี้ ทำให้ฝนดาวตกกลุ่มนี้พุ่งเข้าสู่โลกด้วยอัตราเร็ว 71 กิโลเมตรต่อวินาที นับว่าเป็นกลุ่มฝนดาวตกที่มีอัตราเร็วสัมพัทธ์กับโลกสูงที่สุดในบรรดาฝนดาวตกทั้งหมด
ลีโอนิดส์ในประวัติศาสตร์ลีโอนิดส์ในประวัติศาสตร์ • ในยุคกลาง มีความเชื่อว่าปรากฏการณ์ฝนดาวตกที่รู้จักกันในปัจจุบันนี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในบรรยากาศโลก ( atmospheric feature) แทนที่จะเป็นปรากฏการณ์บนท้องฟ้า ( celestial phenomena)
ลีโอนิดส์ในประวัติศาสตร์ลีโอนิดส์ในประวัติศาสตร์ • ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่ศาสตร์ในการพยากรณ์อากาศถูกเรียกว่าวิชา Meteorlogy พื้นฐานความเชื่อนี้มีมาแต่สมัยของอริสโตเติล ซึ่งเชื่อว่าบรรยากาศมีการเปลี่ยนแปลงได้ แต่ "สวรรค์" ปราศจากการเปลี่ยนแปลง
ลีโอนิดส์ในประวัติศาสตร์ลีโอนิดส์ในประวัติศาสตร์ • หลังยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ความสนใจในปรากฏการณ์ชนิดนี้มีเพิ่มขึ้น หลังจากรุ่งอรุณของวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1833 เป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นในวันนั้น ฝนดาวตกกว่าหมื่นดวงพาดผ่านท้องฟ้าทางตะวันออกของอเมริกาเหนือ
ลีโอนิดส์ในอนาคต • ไบรอัน จี. มาร์สเดน และ กาเรท วิลเลียมส์ แห่ง Minor Planet Center และ โดนัลด์ เค ยีโอแมนส์ แห่ง JPL ได้คำนวณการเคลื่อนที่ของดาวหางภายใต้ แรงรบกวนต่างๆ ในอนาคตพบว่าดาวหางเทมเปล-ทัตเทิลจะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด อีกครั้งในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2574
ลีโอนิดส์ในอนาคต • แต่ก่อนที่จะถึงวันนั้นมันจะผ่านดาวพฤหัสบดี ด้วยระยะห่าง 1.5 หน่วยดาราศาสตร์ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2572 การเข้าใกล้กันครั้งนี้ทำให้วงโคจรของโลกและดาวหางห่างกันมากขึ้นเป็น 0.0162 หน่วยดาราศาสตร์ ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1733 และเหตุการณ์ลักษณะนี้ยังได้เกิดขึ้นก่อนการกลับมาของดาวหางในปี 1899
ลีโอนิดส์ในอนาคต • กล่าวคือดาวหางผ่านใกล้ดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดีในปี 1870 และ 1898 ตามลำดับ เป็นผลให้ระยะห่างของวงโคจรห่างกัน 0.0117 หน่วยดาราศาสตร์ ซึ่งทำให้ไม่เกิดพายุฝนดาวตกในปี 1899 ขณะเดียวกัน ปี พ.ศ. 2608 ระยะห่างของวงโคจรกลับลดลงมาอยู่ที่ 0.0146 หน่วยดาราศาสตร์
ลีโอนิดส์ในอนาคต • ซึ่งอาจทำให้ฝนดาวตกกลุ่มนี้กลับมาปรากฏอีกครั้งหนึ่งได้ กระทั่งปี พ.ศ. 2641 ระยะห่างลดลงมาที่ 0.0062 หน่วยดาราศาสตร์ และปี 2574 ที่ระยะ 0.0089 หน่วยดาราศาสตร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับจากปี ค.ศ. 1633 ที่วงโคจรของดาวหางอยู่ " ภายนอก" วงโคจรของโลก
ดูได้ที่ไหนเมื่อไหร่ ? • ข้อจำกัดที่เราไม่สามารถทำนายการเกิดได้อย่างแม่นยำคือเราไม่อาจรู้ถึงการเคลื่อนที่ของอนุภาคทุกชิ้นได้ การคำนวณกระทำได้เพียงคาดหมายและรอให้โชคมาถึง
ดูได้ที่ไหนเมื่อไหร่ ? • ฝนดาวตกลีโอนิดส์เกิดขึ้นทุก ๆ ช่วงวันที่ 14-21 พฤศจิกายนของทุกปี โดยมีมากที่สุดราววันที่ 17-18 ในเวลาหลังเที่ยงคืนนับจากกลุ่มดาวสิงโตขึ้นจากขอบฟ้าจนกระทั่งถึงรุ่งเช้า ซึ่งมันจะมาอยู่ถึงกลางฟ้าพอดี
ดูได้ที่ไหนเมื่อไหร่ ? • นับเป็นช่วงเวลาดีที่สุดที่จะสัมผัสกับปรากฏการณ์นี้ ายใต้ท้องฟ้าที่เปิดโล่งและมืดสนิท แม้ดาวตกจะมีทิศพุ่งมาจากกลุ่มดาวสิงโตจากจุดที่เรียกว่าเรเดียนต์ (radiant) ของฝนดาวตกแต่จะสามารถมองเห็นแนวทางของดาวตกได้ทุกทิศทุกทาง