1 / 70

WEEK 2

WEEK 2. แนวความคิดและหลักการการควบคุมคุณภาพ. ความหมายของการควบคุมคุณภาพ. พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ควบคุม หมายถึง ดูแล กำกับดูแล ดังนั้นการควบคุมคุณภาพจึงหมายถึง การกำกับดูแลเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณภาพ

cahil
Download Presentation

WEEK 2

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. WEEK 2 แนวความคิดและหลักการการควบคุมคุณภาพ

  2. ความหมายของการควบคุมคุณภาพความหมายของการควบคุมคุณภาพ • พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ควบคุม หมายถึง ดูแล กำกับดูแล • ดังนั้นการควบคุมคุณภาพจึงหมายถึง การกำกับดูแลเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณภาพ • ISO 8402: 1994 คือ กิจกรรมและเทคนิคเชิงปฏิบัติการที่ใช้เพื่อให้บรรลุผลตามความต้องการด้านคุณภาพ • สมาคมคุณภาพแห่งอเมริกา ASQ 1996 คือ กิจกรรมและเทคนิคเชิงปฏิบัติการที่ทำให้ได้มาซึ่งคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือการบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการที่กำหนด โดยรวมถึงการใช้กิจกรรมและเทคนิคดังกล่าวด้วย

  3. ความหมายของการควบคุมคุณภาพความหมายของการควบคุมคุณภาพ • สำนักงานมาตรฐานแห่งประเทศญี่ปุ่น JISZ 8101-1981 คือ ระบบที่ประกอบด้วยวิถีทางทั้งหมดที่ใช้เพื่อการผลิตผลิตภัณฑ์อย่างคุ้มค่าเพื่อให้ตรงกับความต้องการด้านคุณภาพของผู้ซื้อ อย่างไรก็ตาม JIS Z 8101 ได้เพิ่มบทขยายในส่วนนิยามการควบคุมคุณภาพโดยเน้นความร่วมมือและมีส่วนร่วมจากบุคคลากรทั้งหมดในองค์กร CWQC (company – wide quality control) or TQC (total quality control)

  4. ลักษณะสำคัญของการควบคุมคุณภาพลักษณะสำคัญของการควบคุมคุณภาพ • การกำหนดความต้องการด้านคุณภาพของลูกค้า ซึ่งต้องเริ่มต้นจากลูกค้าภายนอกก่อนแล้วแปรให้เป็นความต้องการของลูกค้าภายใน • การกำหนดตัววัดหรือจุดประสงค์ของการควบคุมคุณภาพ ที่เน้นความมีประสิทธิผลทางเศรษฐศาสตร์ ดังนั้น การควบคุมคุณภาพจึงเป็นการตอบสนองต่อความต้องการด้านคุณภาพของลูกค้าอย่างคุ้มค่ามากที่สุด • การกำหนดกิจกรรมและเทคนิคการควบคุมคุณภาพ ดังนั้น การควบคุมคุณภาพจึงเป็น กระบวนการที่ดำเนินการทั้งในส่วนกระบวนการหลักของกระบวนการทางธุรกิจ และในส่วนของกระบวนการสนับสนุนกระบวนการดังกล่าว

  5. ประเด็นที่แตกต่างของนิยามประเด็นที่แตกต่างของนิยาม • ในนิยามของทางตะวันตก : การควบคุมคุณภาพเป็นการมองคุณภาพในมุมมองของลูกค้า ที่มุ่งเน้นแต่ข้อกำหนดของลูกค้า ทางตะวันตกเน้นในวงแคบ Little q • ในนิยามของทางญี่ปุ่น : ได้มุ่งเน้นที่การผลิตอย่างคุ้มค่า คือ การสร้างความพึ่งพอใจจะอยู่บนพื้นฐานของความคุ้มค่าทางธุรกิจ ทางญี่ปุ่นเน้นในวงกว้าง Big Q

  6. สรุป การควบคุมคุณภาพ • การควบคุมคุณภาพ คือ กระบวนการในการรักษาไว้ซึ่งความพึงพอใจของลูกค้า • กระบวนการของการควบคุมคุณภาพ จะประกอบด้วยกระบวนการรักษาไว้ และกระบวนการปรับปรุง

  7. วิวัฒนาการของการควบคุมคุณภาพวิวัฒนาการของการควบคุมคุณภาพ

  8. การควบคุมคุณภาพเชิงการจัดการการควบคุมคุณภาพเชิงการจัดการ จากกรณีข้าวต้มปลา ทำอย่างไรจึงจะสามารถทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในรสชาติ แม้ว่าเถ้าแก่เฮงจะมิได้ปรุงรสด้วยตนเอง ดังนั้นเถ้าแก่ต้องเริ่มต้นจากการสร้างมาตรฐานการทำงาน S– Standard การให้ปฏิบัติตามมาตรฐาน D – do การตรวจสอบผลงานกับมาตรฐาน C – Check และการปฏิบัติการแก้ไข A - Action

  9. การควบคุมคุณภาพเชิงการจัดการการควบคุมคุณภาพเชิงการจัดการ และเมื่อสามารถทำให้กระบวนการเป็นมาตรฐานแล้วเถ้าแก่เฮงจะต้องมีความรับผิดชอบในด้านการจัดการ มากกว่าการผลิต ดังนั้นเถ้าแก่ต้องเป็นผู้วางแผน P– Plan การนำแผนไปปฏิบัติ D – do การตรวจสอบผลงานกับแผน C – Check และการปฏิบัติการแก้ไข A – Action การปรับปรุงนี้จะเกิดขึ้นไม่รู้จบ เพราะสามารถทบทวนมาตรฐานงานได้ตลอดเวลา

  10. การควบคุมคุณภาพเชิงการจัดการการควบคุมคุณภาพเชิงการจัดการ คุณภาพ เวลา

  11. การควบคุมคุณภาพเชิงการจัดการการควบคุมคุณภาพเชิงการจัดการ การวางแผนคุณภาพคือ การดำเนินกิจกรรมวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาเรื้อรังสำหรับสมรรถนะที่เกิดขึ้นจริงเพื่อมุ่งสู่สมรรถนะใหม่ที่สูงขึ้น และอาจจะเรียกว่า การวิเคราะห์เพื่อการวางแผนเชิงกลยุทธ์ การปรับปรุง การรักษาไว้

  12. กิจกรรมข้อเสนอแนะ • กิจกรรมข้อเสนอแนะเป็นเทคนิคการบริหารงานที่มุ่งส่งเสริมให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ โดยพนักงานจะเป็นผู้ค้นหาปัญหาต่างๆรวมถึงวิธีการแก้ไข เพื่อเสนอต่อฝ่ายบริหาร พิจารณาเพื่อผลประโยชน์ต่อหน่วยงานและตัวพนักงาน

  13. กิจกรรมข้อเสนอแนะ • แนวคิดเกี่ยวกับกิจกรรมข้อเสนอแนะ • ทำกิจกรรมข้อเสนอแนะให้เป็นกิจกรรมเพื่อตนเอง • สร้างคุณค่าชีวิตเพื่อความปลื้มปิติ • เป็นที่ยอมรับของผู้บังคับบัญชา • สร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับชีวิต

  14. กิจกรรมข้อเสนอแนะ • มาเริ่มจากสิ่งง่ายๆ กันเถิด • ลองคิดจากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวก่อน • ขจัดมูริ (ความไม่สมเหตุสมผลในงาน) มูดะ (ความสิ้นเปลือง) และ มูระดับนัยสำคัญ (ความไม่สม่ำเสมอในการทำงาน) • รวบรวมเป็นข้อเสนอแนะสำหรับการปรับปรุงการทำงาน

  15. กิจกรรมข้อเสนอแนะ • เคล็ดลับในการเพิ่มจำนวนข้อเสนอแนะ • ปลูกฝังความคิดว่า การเสนอข้อเสนอแนะเป็นเรื่องง่าย • สร้างนิสัยให้คิดทบทวน • ควรมุ่งที่ปริมาณก่อน • แบ่งเวลาคิดทุกๆ วัน

  16. กิจกรรมข้อเสนอแนะ

  17. กิจกรรมข้อเสนอแนะ • วิธีเขียนข้อเสนอแนะ • แบบฟอร์มเป็นสิ่งที่คู่กับกิจกรรมข้อเสนอแนะ • เริ่มต้นด้วยแบบฟอร์มง่ายๆ • เริ่มจากเนื้อหาใจความก่อน

  18. ตัวอย่างแบบฟอร์มข้อเสนอแนะที่ละเอียดขึ้นตัวอย่างแบบฟอร์มข้อเสนอแนะที่ละเอียดขึ้น ในการทำกิจกรรมนี้ควรมีการให้รางวัลเพื่อเป็นการจูงใจพนักงานในการทำกิจกรรม $ $ $

  19. 5 ส. • กิจกรรม 5 ส เนื่องจากเป็นกิจกรรมหนึ่งที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพ • ประสิทธิภาพ หมายถึง ความสามารถในการใช้ทรัพยากรน้อยที่สุดในการดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ เช่น การใช้เวลาในการค้นหาเอกสารน้อยลง ก็ถือได้ว่ามีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อทำงานได้โดยมีประสิทธิภาพขึ้นแล้ว องค์กรและผู้ปฏิบัติงานก็จะได้รับผลประโยชน์ กล่าวคือ องค์กรจะมีประสิทธิภาพที่ดี สามารถสร้างผลผลิตและบริการที่มี คุณภาพ ก่อให้เกิดการทำงานเป็นทีม และมีความสามัคคีในหน่วยงาน

  20. 5 ส. • 5ส คือ อะไร? • 5 ส คือ เทคนิคการจัดระบบ ระเบียบ สถานที่ ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในการทำงาน • 5 ส ประกอบด้วย สะสางสะดวกสะอาดสุขลักษณะสร้างนิสัยเป็นกระบวนการ ที่ต้องปฏิบัติอยู่อย่างสม่ำเสมอ ประโยชน์ที่ได้รับจะช่วยสร้างความรวดเร็วเป็นระบบมากขึ้น

  21. ประโยชน์ของกิจกรรม 5 ส พนักงาน บรรยากาศการทำงานดีจิตใจ แจ่มใส ทำงานสะดวก รวดเร็ว และง่ายขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน มีส่วนร่วมในการปรับปรุง สถานที่ทำงานเป็นระเบียบ เรียบร้อย วางรากฐานการพัฒนาตนเอง หน่วยงานลดการสูญเสีย / สิ้นเปลือง มีพื้นที่ใช้มากขึ้น ได้รับการชื่นชม และ เชื่อถือจากผู้รับบริการ สามารถนำเทคโนโลยีระดับสูงมาปรับใช้ได้ง่าย

  22. 5 ส มีอะไรบ้าง ส สะสางหมายถึง การแยกของที่ไม่จำเป็นในการทำงานออกจากของที่จำเป็นในการทำงาน เนื่องจาก การเก็บของมากเกินความจำเป็นทำให้การทำงานล่าช้าและขาดประสิทธิภาพ ส สะดวกหมายถึง การจัดวางของที่ใช้งานให้เกิด ความสะดวกแก่ผู้ใช้มากที่สุด ส สะอาดหมายถึง เมื่อขจัดของที่ไม่จำเป็นออก และจัดของที่จำเป็น ให้เกิดความสะดวกในการใช้แล้วให้ ทำความสะอาดบริเวณต่างๆ เพื่อไม่ให้เลอะเทอะ และสกปรกบริเวณที่ตนรับผิดชอบ ส สุขลักษณะหมายถึง จัดสถานที่ทำงานให้ผู้ปฏิบัติงานมี สุขภาพอนามัยที่ดี และความปลอดภัย ส สร้างนิสัยหมายถึง การกระตุ้นและติดตามให้ทุกคนปฏิบัติ ตาม 4 ส อย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นนิสัยและเป็นส่วนในการปฏิบัติงาน

  23. 5 ส

  24. 5 ส

  25. 5 ส. • ส. 3 : สะอาด 1. กำหนดการทำความสะอาดสถานที่ทำงาน เป็นประจำอย่างชัดเจน  ทุกวัน (Daily) ประมาณ10 นาที  ทุกเดือน (Monthly) ประมาณ 30 - 60 นาที ทุกปี (Yearly) 2. กำหนดแบ่งเขตพื้นที่ให้มีผู้ดูแลรับผิดชอบโดยตรง 3. ขจัดสาเหตุอันเป็นต้นตอของขยะ ความสกปรก เลอะเทอะ4. ระหว่างการทำความสะอาดก็ต้องมีการตรวจเช็ค (Inspection) ไปด้วย พร้อมกับการกำจัดแหล่งกำเนิดของความสกปรก เช่น ตรวจเช็คเครื่องใช้ อุปกรณ์ด้วยการทำความสะอาด 5. จัดระเบียบการปฎิบัติ ส.สะอาด (SEISO RULE) ติดไว้ในที่ที่ทุกคนสามารถมองเห็นได้ง่ายและต้องอธิบายรายละเอียดให้พนักงานทุกคนเข้าใจและเห็นชอบร่วมกัน

  26. 5 ส. • ส. 4 : สุขลักษณะ 1. ขจัดมลภาวะซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพร่างกายสุขภาพจิตของพนักงาน เช่น อากาศเป็นพิษ เสียงดังเกินไป แสงสว่างไม่เพียงพอ ควันและเขม่าฟุ้งกระจายทั่วไป เป็นต้น 2. ปรุงแต่งสถานที่ทำงานให้เป็นระเบียบ สะอาดหมดจดยิ่งขึ้น มีบรรยากาศร่มรื่น น่าทำงาน เปรียบเสมือนที่พักผ่อน 3. พนักงานแต่งกายให้ถูกระเบียบ สะอาด หมดจด

  27. 5 ส. • ส. 5 : สร้างนิสัย • การรักษาและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ 4 ส. จนเป็นนิสัย และมีวินัยในการทำงาน วิธีการ ฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ ความเข้าใจ ต่อกฎระเบียบ มาตรฐานการทำงานต่าง ๆ เพื่อให้สามารถปฏิบัติจนเป็นนิสัย โดยการตอกย้ำเรื่องนี้อย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่องเป็นประจำ

  28. กลุ่มสร้างคุณภาพ QCC • ระบบ QCC หรือ กลุ่มควบคุมคุณภาพ สามารถที่จะกล่าวได้ว่าเป็นระบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานที่ได้รับความสนใจ และมีการพัฒนาที่จะนำระบบ QCC ไปประยุกต์ใช้กันอย่างแพร่หลายในทุกวงการทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตัวอย่างเช่น บริษัทขนาดใหญ่ต่างๆ สถาบันการเงินการธนาคาร วงการธุรกิจอุตสาหกรรม สถาบันทหาร สถาบันการศึกษา หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นๆ อีกมากมาย

  29. ฐานคติหรือข้อตกลงเบื้องต้นของระบบ QCC ในระบบ QCC มีข้อตกลงที่ว่า • พนักงานทุกคนมีความรับผิดชอบ • พนักงานทุกคนจะต้องมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ • พนักงานทุกคนไม่ใช้เป็นเพียงผู้ทำงาน แต่เขาจะช่วยคิดค้นหาวิธีการเพื่อแก้ไขปัญหาในการปรับปรุงคุณภาพสินค้าหรือบริการ ฯลฯ และเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรให้สูงขึ้น • ระบบ QCC ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของสินค้าและบริการเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับอีกหลายๆ อย่างในการทำงานรวมทั้งกับ “คุณภาพชีวิตในการทำงานของทุกคนในองค์กร” ที่ดีด้วย

  30. ฐานคติหรือข้อตกลงเบื้องต้นของระบบ QCC • ระบบ QCC เป็นปรัชญาอย่างหนึ่งของการบริหารที่ต้องการเวลา และความพยายามในการเสริมสร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้นทั่วทั้งองค์กร • กุญแจที่ไขไปสู่ความสำเร็จ อยู่ที่พนักงานมีความผูกพันกับองค์กร การมีส่วนร่วมในการบริหาร และการได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายจัดการ • แรงจูงใจมีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากประสิทธิภาพ

  31. หัวใจสำคัญของระบบ QCC • ปรัชญาสำคัญคือ ทุกๆ คนมีส่วนร่วม • เป็นไปด้วยความสมัครใจภายใต้การชักนำของผู้บังคับบัญชา • สมาชิกจะต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการพัฒนาระบบ QCC • จะต้องระลึกอยู่เสมอว่าโครงการที่จัดทำขึ้นเป็นความร่วมมือของกลุ่ม • ต้องจัดการฝึกอบรมให้ทั้งพนักงานและฝ่ายจัดการ • ส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ • ระบบ QCC จะต้องเป็นความสัมพันธ์กันระหว่างสมาชิกกับสมาชิก • จะต้องได้รับการสนับสนุนอย่างจริงใจจากฝ่ายจัดการ • ขจัดความคิดที่ว่า “อันนี้ของเรา อันนั้นของเขา”

  32. ขั้นตอนดำเนินการแก้ปัญหาด้วยระบบ QCC จัดตั้งกลุ่ม เลือกงานที่จะปรับปรุง เก็บข้อมูลเพื่อคุณภาพเดิมของงาน ตั้งเป้าหมาย มองปัญหาให้ถูกจุด จัดมาตรฐาน ระดมความคิดหาสาเหตุ วางแผนแก้ไข ดำเนินการแก้ไข ปฏิบัติตามมาตรฐาน โดยเคร่งครัด แก้ไขปรับปรุง เปรียบเทียบผลกับเป้าหมาย เปรียบเทียบผลกับเป้าหมาย จัดมาตรฐาน

  33. เครื่องมือการวิเคราะห์สำหรับระบบ QCC QC 7 Tools • Check Sheets • Pareto • Histogram ,and Stem and Leaf • ScatterDiagram • CauseandEffectDiagram • Graph • ControlCharts

  34. เลือกงานที่จะปรับปรุงเลือกงานที่จะปรับปรุง Pareto Graph ระดมสมอง

  35. เก็บข้อมูลเพื่อคุณภาพเดิมของงานเก็บข้อมูลเพื่อคุณภาพเดิมของงาน Check Sheets Graph Histogram ,and Stem and Leaf ScatterDiagram ControlCharts

  36. ตั้งเป้าหมาย ? ลดของเสียจากการขนส่งลงจากเดิม 20% ระดมสมอง มองปัญหาให้ถูกจุด

  37. ระดมความคิดหาสาเหตุ CauseandEffectDiagram วางแผนแก้ไข กลุ่ม หัวหน้างาน  พนักงาน ดำเนินการแก้ไข

  38. เก็บข้อมูลเพื่อคุณภาพใหม่ของงานเก็บข้อมูลเพื่อคุณภาพใหม่ของงาน Check Sheets Graph ScatterDiagram ControlCharts

  39. เปรียบเทียบผลกับเป้าหมายเปรียบเทียบผลกับเป้าหมาย Pareto Graph จัดมาตรฐาน กลุ่ม หัวหน้างาน  พนักงาน ปฏิบัติตามมาตรฐาน โดยเคร่งครัด

  40. TQM • TQM เป็นวัฒนธรรมขององค์การที่สมาชิกทุกคนต่างให้ความสำคัญ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาการดำเนินงานขององค์การอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งที่จะตอบสนองความต้องการ และสร้างความพอใจให้แก่ลูกค้า ซึ่งจะสร้างโอกาสทางธุรกิจ ความได้เปรียบในการแข่งขันและพัฒนาการที่ยั่งยืนขององค์การ ซึ่งเราสามารถอธิบายได้ดังแบบจำลองต่อไปนี้

  41. TQM แบบจำลองความสัมพันธ์ของ TQM

  42. TQM • เราจะเห็นว่า TQM ไม่ใช่เพียงแค่เทคนิคการจัดการคุณภาพในความหมายที่แคบอย่างที่เราเคยรู้จักกัน แต่ TQM จะเป็นทั้งปรัชญา กรอบความคิด และวิธีการบริหารเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ความคล่องตัว และความสามารถในการแข่งขันของทั้งองค์การ ซึ่งจะต้องสร้างความเป็นเอกภาพและความคล่องตัวของระบบ โดยเราสามารถประยุกต์ TQM ได้กับทั้งธุรกิจการผลิตและบริการ หน่วยราชการ และองค์การไม่หวังกำไร เพื่อหล่อหลอมสมาชิกให้ร่วมกัน ไปสู่เป้าหมายหรือวิสัยทัศน์ของธุรกิจ ซึ่ง TQM จะมีความแตกต่างจากการจัดการหรือควบคุมคุณภาพทั่วไปดังนี้

  43. TQM กับการบริหารคุณภาพแบบเดิม

  44. TQM • วัตถุประสงค์ของ TQM เราจะเห็นว่า TQM เป็นความพยายามของผู้บริหารที่จะเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ วิธีการคิด และการปฏิบัติงานของธุรกิจ โดยดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เป็นระบบ และให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการแก้ปัญหา พัฒนากระบวนการและดำเนินการต่าง ๆ เพื่อสร้างคุณภาพให้แก่สินค้าและบริการ โดยที่ TQM วัตถุประสงค์ • สำคัญ คือ

  45. TQM • การลดต้นทุนและการพัฒนาคุณภาพสินค้าหรือบริการ • สร้างความพอใจและความซื้อสัตย์ของลูกค้า • สร้างความพึงพอใจในงาน • ประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการเจริญเติบโตในอนาคต

  46. TQM โดยสรุป • การจัดการคุณภาพโดยรวม หรือ TQM หมายถึง วัฒนธรรมขององค์การที่สมาชิกทุกคนต่างให้ความสำคัญ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาการดำเนินงานขององค์การอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งที่จะตอบสนองความต้องการและสร้างความพอใจให้แก่ลูกค้า โดย TQM จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากแนวคิดการบริหารงานอื่น ซึ่งเราสามารถกล่าวได้ว่า TQM จะมีส่วนประกอบที่สำคัญ 3 ประการคือ ให้ความสำคัญกับลูกค้า การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และสมาชิกทุกคนมีส่วนร่วม

  47. TQM โดยสรุป • TQM จะแตกต่างจากการจัดการและการควบคุมคุณภาพแบบเดิมที่ดำเนินงานเชิงป้องกัน และติดตามแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ขณะที่ TQM จะดำเนินงานในเชิงรุกที่มุ่งแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ และดำเนินงานครอบคลุมทุกขั้นตอนของธุรกิจ ที่ต้องดำเนินงานด้วยความเข้าใจ และฝังรากลึกลงไปในวัฒนธรรมองค์การ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน สร้างความพอใจให้ลูกค้า ความพอใจในการทำงาน และผลักดันให้องค์การดำเนินไปสู่การเป็นองค์การเรียนรู้อย่างสมบูรณ์แบบ

  48. สาเหตุที่การประยุกต์ TQM ล้มเหลว • TQM ไม่ใช่แค่เทคนิคการจัดการคุณภาพหรือการสร้างประสิทธิภาพในการทำงานเท่านั้นแต่เป็นปรัญญาในการบริหารงานสมัยใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive Advantage) ผ่านคุณภาพและความเข้าใจของลูกค้าซึ่งต้องแทรกตัวเข้าไปในวัฒนธรรมขององค์การโดยให้ความสำคัญกับลูกค้าและสร้างเสริมพนักงานให้มีสำนึกรับผิดชอบและมีส่วนร่วมต่ออนาคตขององค์การผ่านการหาแนวทางปฏิบัติให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป เพราะการทำงานที่ดีที่สุดในวันนี้ยังไม่เพียงพอต่อการอยู่รอดและอนาคตของธุรกิจ

  49. สาเหตุที่การประยุกต์ TQM ล้มเหลว • แต่ผู้บริหารในทุกธุรกิจจะต้องมั่นใจว่าองค์การของเราสามารถทำงานให้ดีขึ้นในทุก ๆ วันและมีพัฒนาการต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้งเพราะธุรกิจจะต้องแข่งขันกับตนเองและคู่แข่งขันภายนอกอยู่เสมอแต่การนำ TQM มาประยุกต์ในองค์การต่าง ๆ ในประเทศไทยมีโอกาสที่จะประสบความล้มเหลวสูงซึ่งปัญหามาจากหลายสาเหตุไม่ใช่เฉพาะนิสัยที่ว่า “ทำอะไรตามใจคือไทยแท้” “มือไม่พายแต่ชอบเอาเท้าราน้ำ” หรือ “เบื่อง่ายและใจร้อนแบบคนไทย”เท่านั้นจากการสังเกตความล้ม-เหลวจากการทำ TQM ขององค์การต่าง ๆ เราอาจจะสรุปได้ว่า ความบกพร่องมักเกิดขึ้นจากสาเหตุสำคัญ ได้แก่

More Related