การกำหนดค่าใช้จ่ายและการยื่นบัญชีรายรับ-รายจ่าย

1. การกำหนดค่าใช้จ่ายและการยื่นบัญชีรายรับ-รายจ่ายการกำหนดค่าใช้จ่ายและการยื่นบัญชีรายรับ-รายจ่าย ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดย ร.ต.อ.มนูญ วิเชียรนิตย์ รองผู้อำนวยการสำนัก สืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 4

2. กระบวนการเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (การกำหนดค่าใช้จ่ายและการยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้ง)

3. กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง 1. พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภา ท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 (มาตรา 54-56) 2. ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วย การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหาร ท้องถิ่น พ.ศ.2554 (ข้อ 102-111)

4. การกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายการกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่าย พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดประกาศกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัคร ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา(ม. 54 ว.1 ) ฯลฯ

5. การกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายการกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่าย เมื่อจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประเภทใดแล้ว ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดประกาศกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัครตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 29 และคำนึงถึงปัจจัยดังต่อไปนี้ (1) ขนาดพื้นที่ และลักษณะทางภูมิศาสตร์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (2) จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (3) จำนวนหน่วยเลือกตั้ง (4) ดัชนีราคาผู้บริโภคตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อประโยชน์ในการกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อพิจารณาให้ความเห็นก็ได้ (ข้อ 102)

6. การกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายการกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่าย เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดออกประกาศ กำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 29 แล้ว ให้ปิดประกาศไว้ ณ ศาลากลางจังหวัด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ที่ว่าการอำเภอและที่ทำการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการเลือกตั้งอย่างน้อยแห่งละหนึ่งชุดโดยเร็ว (ข้อ 105)

7. การใช้จ่ายในการเลือกตั้งการใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ห้ามมิให้ผู้สมัครใช้จ่ายในการเลือกตั้งเกินจำนวนเงินค่าใช้จ่ายที่กำหนด ตามวรรคหนึ่ง จำนวนเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้รวมถึงบรรดาเงินที่บุคคลอื่นได้จ่ายหรือรับว่าจะจ่ายแทน และทรัพย์สินที่บุคคลอื่นได้นำมาให้ใช้หรือยกให้โดยไม่คิดค่าตอบแทน ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครโดยผู้สมัครรับรู้หรือยินยอม ในกรณีที่นำทรัพย์สินมาให้ใช้ ให้คำนวณตามอัตราค่าเช่า หรือค่าตอบแทนตามปกติในท้องที่นั้น (มาตรา 54 ว.2)

8. การใช้จ่ายในการเลือกตั้งการใช้จ่ายในการเลือกตั้ง บรรดาเงินที่บุคคลอื่นได้ใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งให้ผู้สมัครและผู้สมัครได้รับทราบถึงการกระทำดังกล่าวแล้ว ให้ถือว่าเป็นจำนวนเงินค่าใช้จ่ายที่ผู้สมัครรับรู้หรือยินยอมตามวรรคสอง เว้นแต่ผู้สมัครจะได้แจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำหวัดว่าไม่ยินยอมให้มีการกระทำเช่นว่านั้นภายในสามวันนับแต่วันที่ได้รับทราบถึงการกระทำดังกล่าว ในการนี้ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดดำเนินการตามที่เห็นควรเพื่อมิให้มีการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งโดยบุคคลดังกล่าวอีกต่อไป (ม.54 ว.3)

9. กำหนดระยะเวลาในการยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายกำหนดระยะเวลาในการยื่นบัญชีรายรับและรายจ่าย ภายใน 90 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง ผู้สมัครต้องยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งซึ่งรับรองความถูกต้องพร้อมทั้งหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนตามความจริงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดได้รับบัญชีรายรับและรายจ่ายตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ปิดประกาศไว้ ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ที่ทำการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น และสถานที่อื่นที่เห็นสมควร (ม. 55)

10. กำหนดระยะเวลาในการยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายกำหนดระยะเวลาในการยื่นบัญชีรายรับและรายจ่าย รายละเอียดและวิธีการจัดทำและรับรองความถูกต้องของบัญชีรายรับและรายจ่ายตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

11. การนับรอบบัญชีค่าใช้จ่ายการนับรอบบัญชีค่าใช้จ่าย ผู้สมัครแต่ละคนต้องใช้จ่ายในการเลือกตั้งแต่ละครั้งไม่เกินจำนวนเงินที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกำหนด กรณีการเลือกตั้งอันเนื่องมาจากการครบวาระการดำรงตำแหน่งค่าใช้จ่ายของผู้สมัครให้คิดรวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นภายใน หกสิบวันก่อนวันครบวาระการดำรงตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง การเลือกตั้งกรณีอื่นนอกจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ค่าใช้จ่ายของผู้สมัครให้คิดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ประกาศให้มีการเลือกตั้งจนถึงวันเลือกตั้ง (ข้อ 103)

12. การนับรอบบัญชีค่าใช้จ่ายการนับรอบบัญชีค่าใช้จ่าย ประกาศกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายของผู้สมัครตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้ได้จนกว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดจะได้มีประกาศกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายขึ้นใหม่ และในกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดประกาศให้มีการเลือกตั้งและมีพฤติการณ์พิเศษต้องขยายระยะเวลาการจัดการเลือกตั้งออกไป ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดประกาศขยายจำนวนเงินค่าใช้จ่ายตามสัดส่วนจำนวนวันที่เพิ่มขึ้น กรณีที่มีการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ก่อนประกาศผลการเลือกตั้งและไม่มีการรับสมัครใหม่ผู้สมัครแต่ละคนจะต้องใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่ได้ไม่เกินหนึ่งในสามของจำนวนเงินตามวรรคหนึ่ง (ข้อ 103)

13. รายการค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งรายการค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ค่าใช้จ่ายตามข้อ 103 ให้จ่ายได้ตามรายการดังต่อไปนี้ (1) ค่าใช้จ่ายในการสมัครรับเลือกตั้ง (2) ค่าจ้างแรงงานทุกประเภทเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งต้องไม่ขัดกับสภาพ ความเป็นจริงตามสภาพของแต่ละท้องถิ่น (3) ค่าเช่าและค่าตกแต่งสถานที่ (4) ค่าเช่ายานพาหนะ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง (5) ค่าจัดซื้อหรือเช่าวัสดุอุปกรณ์สำหรับใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง (6) ค่าโฆษณาในสื่อต่าง ๆ (7) ค่าจัดทำป้าย เอกสาร สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการโฆษณาหาเสียง (8) ค่าสาธารณูปโภคและค่าไปรษณียากร (9) ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย หรือไม่เป็นเหตุให้การเลือกตั้งไม่สุจริต (ข้อ 104)

14. การจัดทำบัญชีรายรับและรายจ่ายการจัดทำบัญชีรายรับและรายจ่าย ให้ผู้สมัครจัดทำบัญชีและรายงานแสดงรายรับและรายจ่าย ในการเลือกตั้งตามแบบต่อท้าย ส.ถ./ผ.ถ. 30 โดยอนุโลม (ข้อ 106) การจัดทำบัญชีตามข้อ 106 สำหรับการเลือกตั้งอันเนื่องมาจากการครบวาระการดำรงตำแหน่ง ให้คิดค่าใช้จ่ายตั้งแต่วันที่มีรายการใช้จ่ายเกิดขึ้นภายในหกสิบวันก่อนวันครบวาระการดำรงตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง กรณีมีการเลือกตั้งเพราะเหตุอื่นนอกจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ค่าใช้จ่ายของผู้สมัครให้เริ่มตั้งแต่วันที่มีประกาศให้มีการเลือกตั้งจนถึงวันเลือกตั้ง (ข้อ 107)

15. การจัดทำบัญชีรายรับและรายจ่ายการจัดทำบัญชีรายรับและรายจ่าย ในการจัดทำบัญชี ให้บันทึกรายการรับและรายจ่ายตามที่มีรายการเกิดขึ้นจริงและทุกรายการจะต้องมีเอกสารหลักฐานที่เป็นใบเสร็จรับเงิน หรือใบสำคัญรับเงิน หรือใบรับรองการจ่ายเงินหรือเอกสารหลักฐานแห่งหนี้ประกอบการบันทึกบัญชี กรณีเอกสารหลักฐานที่เป็นใบเสร็จรับเงิน หรือใบสำคัญรับเงิน หรือเอกสารหลักฐานแห่งหนี้อย่างน้อยต้องมีรายการดังนี้ วัน เดือน ปี ชื่อตัว ชื่อสกุลที่อยู่ของผู้รับเงินรายการรับเงิน จำนวนเงินและลายมือชื่อของผู้รับเงินและผู้จ่ายเงิน กรณีเอกสารหลักฐานที่เป็นใบรับรองการจ่ายเงินอย่างน้อยต้องมีรายการดังนี้ วัน เดือน ปี ชื่อตัว ชื่อสกุล ที่อยู่ของผู้จ่ายเงิน รายการจ่ายเงิน จำนวนเงิน และลายมือชื่อของผู้จ่ายเงิน (ข้อ 108)

16. ใบเสร็จรับเงินออกให้เป็นกลุ่มใบเสร็จรับเงินออกให้เป็นกลุ่ม

17. การประกาศรายการค่าใช้จ่ายของผู้สมัครการประกาศรายการค่าใช้จ่ายของผู้สมัคร ให้ผู้สมัครยื่นบัญชีและรายงานแสดงรายรับและรายจ่ายตามข้อ 106 ซึ่งรับรองความถูกต้องพร้อมทั้งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนตามความจริงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภายในเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง (ข้อ 109) เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดได้รับบัญชีและรายงานแสดงรายรับและรายจ่ายตามข้อ 109 แล้วให้จัดทำประกาศรายการค่าใช้จ่ายของผู้สมัครตามแบบส.ถ./ผ.ถ. 30และให้ปิดประกาศ ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ที่ทำการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการเลือกตั้ง และที่อื่นที่เห็นสมควรอย่างน้อยแห่งละหนึ่งชุด และเก็บไว้เป็นหลักฐาน ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดหนึ่งชุด (ข้อ 110)

18. การดำเนินการกรณีพบผู้สมัครใช้จ่ายเกินการดำเนินการกรณีพบผู้สมัครใช้จ่ายเกิน ภายใน 180 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมีเหตุอันควรสงสัยหรือได้รับแจ้งโดยมีหลักฐานอันสมควรว่าผู้สมัครผู้ใดใช้จ่ายในการเลือกตั้งเกินจำนวนเงินค่าใช้จ่ายที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดประกาศกำหนด ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทำการสอบหาข้อเท็จจริงโดยเร็ว ถ้าคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเห็นว่าผู้สมัครผู้นั้นใช้จ่ายในการเลือกตั้งเกินจำนวนเงินค่าใช้จ่ายที่กำหนดดังกล่าว ให้แจ้งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งรายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง และถ้าผู้สมัครผู้ใดได้รับเลือกตั้ง หากคณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นด้วยกับความเห็นดังกล่าว ให้มีคำสั่งเพิกถอนผลการเลือกตั้งของผู้ได้รับการเลือกตั้งผู้นั้น และให้ดำเนินการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่สำหรับตำแหน่งที่ว่าง แต่ทั้งนี้ไม่กระทบกระเทือนกิจการที่ผู้นั้นได้กระทำไปในหน้าที่ก่อนวันประกาศให้มีการ เลือกตั้งใหม่ (มาตรา 56)

19. การดำเนินการกรณีพบผู้สมัครไม่ยื่นค่าใช้จ่ายการดำเนินการกรณีพบผู้สมัครไม่ยื่นค่าใช้จ่าย ในกรณีที่ผู้สมัครผู้ใด ไม่ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายตามมาตรา 55 วรรคหนึ่ง เป็นผู้ได้รับเลือกตั้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีคำสั่งเพิกถอนผลการเลือกตั้งของผู้ได้รับเลือกตั้งผู้นั้นและให้ดำเนินการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่สำหรับตำแหน่งที่ว่าง กรณีผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอมีเหตุอันควรสงสัยและมีหลักฐานที่น่าเชื่อได้ว่าผู้สมัครผู้ใดใช้จ่ายในการเลือกตั้งเกินจำนวนเงินค่าใช้จ่ายที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดประกาศกำหนด ให้แจ้งคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเพื่อดำเนินการตามวรรคหนึ่งต่อไป

20. การดำเนินการกรณีพบผู้สมัครใช้จ่ายเกินการดำเนินการกรณีพบผู้สมัครใช้จ่ายเกิน กรณีที่มีเหตุผลอันควรสงสัยและมีหลักฐานที่น่าเชื่อได้ว่าผู้สมัครใช้จ่ายในการเลือกตั้งเกินจำนวนเงินที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดประกาศกำหนด ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสอบหาข้อเท็จจริงและพิจารณาดำเนินการโดยเร็วตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด (ข้อ 111)

21. สรุปหน้าที่ของผู้สมัครเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสรุปหน้าที่ของผู้สมัครเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย 1.ต้องทราบว่า กกต.จว.กำหนดค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งไว้จำนวนเท่าใด 2. ต้องทราบว่าภายหลังประกาศผลการเลือกตั้งตนเองมีหน้าที่ในการยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้ง ภายใน 90 วัน 3.หากวันสุดท้ายตรงกับวันหยุดให้ยื่นวันแรกของวันทำการ 4.มอบอำนาจให้ผู้อื่นไปยื่นแทนได้ 5.ส่งทางไปรษณีย์ได้ (ถือวันประทับตรา)

22. การประทับตราของไปรษณีย์การประทับตราของไปรษณีย์

23. สรุปหน้าที่ของผู้สมัครเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสรุปหน้าที่ของผู้สมัครเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย 6.รอบบัญชี 6.1 กรณีครบวาระ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นก่อนครบวาระ 60 วันจนถึงวันเลือกตั้ง 6.2 กรณีอื่น นับแต่วันประกาศให้มีการเลือกตั้งจนถึงวันเลือกตั้ง 7. สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ก่อนการประกาศผล ทำ 2 ชุด - ชุดแรกนับ 60 วันก่อนวันครบวาระจนถึงวันเลือกตั้ง - ชุดที่ 2นับแต่วันประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่จนถึงวันเลือกตั้ง (ค่าใช้จ่าย 1/3)

24. สรุปหน้าที่ของผู้สมัครเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสรุปหน้าที่ของผู้สมัครเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย 8. กรณีที่มีการขยายวันเลือกตั้ง รอบบัญชีจะขยายเพิ่มเติมตามจำนวนวันที่ขยายระยะเวลาจนถึงวันเลือกตั้ง (กรณีนี้ กกต.จังหวัด จะขยายเพิ่มเติมจำนวนเงินตามสัดส่วนจำนวนวันที่ขยาย)

25. ประกาศผลการเลือกตั้งหลายครั้งประกาศผลการเลือกตั้งหลายครั้ง การเริ่มนับระยะเวลา 90 วัน ในการยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้ง ให้เริ่มนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง สำหรับผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งแต่ละครั้งในเขตเลือกตั้งนั้น ผู้ที่ไม่ได้รับเลือกตั้งให้เริ่มนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้งครั้งสุดท้ายที่สมาชิกครบจำนวนเป็นวันเริ่มต้น (หนังสือ ด่วนที่สุด ที่ ลต (กกต) 0401/ว 22 ลง 12 ม.ค.2549)

26. ยื่นก่อนประกาศผลการเลือกตั้งยื่นก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง มติ กกต. ครั้งที่ 27/2550 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2550 เห็นว่ามาตรา 55 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 ได้กำหนดกรอบระยะเวลาให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องถือปฏิบัติ ซึ่งต้องยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งซึ่งรับรองความถูกต้อง ภายใน 90 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง หมายเหตุ หนังสือที่ ลต (กกต.) 0401/ว 119 ลงวันที่ 9 เมษายน 2550

27. ยื่นภายในกำหนดเวลาเอกสารไม่ครบถ้วนยื่นภายในกำหนดเวลาเอกสารไม่ครบถ้วน เมื่อพิจารณาจากสำนวนการร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีการไม่ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด พบว่าหลายครั้งพนักงานของสำนักงาน กกต.จว.ปฏิเสธการรับยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มายื่นบัญชีและมีเอกสารไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องทั้งที่มายื่นภายในกำหนดเวลา ทำให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งกลับมายื่นใหม่อีกครั้งหนึ่งเกินกำหนดเวลาในการยื่นบัญชีตามกฎหมาย เพื่อป้องกันมิให้เกิดกรณีดังกล่าว พนักงานของสำนักงาน กกต.จว. ต้องรับการยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัครที่มายื่นบัญชีภายในกำหนดเวลา ถึงแม้ว่าเอกสารจะไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง เมื่อรับการยื่นบัญชีแล้วให้ตรวจสอบและแจ้งให้ผู้สมัครดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง หมายเหตุ หนังสือที่ ลต (กกต.) 0401/ว 409 ลงวันที่ 5 มิถุนายน 2550

28. ความรับผิดต่อค่าเสียหาย ม.99 ในกรณีที่ กกต. มีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามมาตรา 56 ให้ผู้ซึ่งกระทำการฝ่าฝืนมาตรา 56 ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามจำนวนที่ กกต.กำหนดซึ่งต้องไม่เกินค่าใช้จ่ายในการให้มีการเลือกตั้งใหม่

29. บทกำหนดโทษ ม.116 ผู้สมัครผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 54 วรรคสอง (เกิน) ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาทหรือปรับเป็นจำนวนสามเท่าของจำนวนเงินที่เกินจำนวนที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกำหนด แล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่ากัน หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดห้าปี

30. บทกำหนดโทษ ม.117 ผู้สมัครผู้ใดไม่ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือยื่นหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนตามความจริงตามมาตรา 55 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดห้าปี ถ้าข้อความในบัญชีรายรับและรายจ่ายที่ได้ยื่นไว้ตามมาตรา 55 วรรคหนึ่งเป็นเท็จ ผู้ได้รับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดห้าปี

31. สวัสดี The end