ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี สมทบทุนสร้างพระมหารัตนเจดีย์ ณ วัดเขาแก้ว (ถ้ำแก้วสวรรค์)

1. ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี สมทบทุนสร้างพระมหารัตนเจดีย์ ณ วัดเขาแก้ว (ถ้ำแก้วสวรรค์) หมู่ที่ 4 ตำบลหนองตาคง อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ภาพการดำเนินการก่อสร้างพระมหารัตนเจดีย์

2. ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี สมทบทุนสร้างพระมหารัตนเจดีย์ ณ วัดเขาแก้ว (ถ้ำแก้วสวรรค์) หมู่ที่ 4 ตำบลหนองตาคง อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ****************** เนื่องด้วยในขณะนี้ วัดเขาแก้ว (ถ้ำแก้วสวรรค์) พร้อมทั้งกรรมการ และผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายได้ร่วมกันดำเนินการก่อสร้างพระมหารัตนเจดีย์เพื่อครอบพระพุทธรูปหินหยกที่ได้อัญเชิญขึ้นโดยเครื่องบิน (เฮลิคอปเตอร์ ชินุค) ที่ได้ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาแก้วแล้ว และเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วประมาณ 60– 70 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการสร้างมหารัตนเจดีย์แล้วเสร็จไปด้วยดี จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายได้ร่วมสละจตุปัจจัย เพื่อสร้างมหารัตนเจดีย์ตามกำลังศรัทธาของท่านทั้งหลาย และขอเชิญร่วมอนุโมทนาในการสร้างมหารัตนเจดีย์ในครั้งนี้ด้วยกันทุกคน ท้ายนี้ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงมาเป็นตบะ เดชะ พลวปัจจัย คุ้มครองปกปักรักษาท่านทั้งหลาย ให้มีความสุข ความเจริญในชาติปัจจุบันนี้ และเป็นปัจจัย ให้ได้ถึงซึ่งพระนิพพานโดยฉับพลันทันทีด้วยเทอญ

3. ติดต่อร่วมบุญสอบถามรายละเอียดที่ พระอธิการประสิทธิ์ สุจิณโณ (สุจิณโณภิกขุ) เจ้าอาวาสวัดเขาแก้ว (ถ้ำแก้วสวรรค์) โทรศัพท์หมายเลข 0 81 – 0798858 หรือไวยาวัจกร คุณสมบุญ อุ่นหลง โทรศัพท์ 0 86144 6319

4. ผลบุญจากการสร้างมหาเจดีย์ผลบุญจากการสร้างมหาเจดีย์ จากเรื่องราวที่ปรากฏจากพระธัมมปทัฏฐกถา ภาค 5 เรื่องที่ 8 นายพรานกุกกุฎมิตร ผู้ที่ได้รับผลบุญอันเกิดจากการสร้างมหาเจดีย์ โดยในสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ พระนามว่า กัสสปะ เมื่อเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานลง ประชาชนได้ร่วมใจสร้างพระเจดีย์ใหม่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ในครั้งนั้นมีเศรษฐีในเมืองคนหนึ่งกับเศรษฐีบ้านนอกคนหนึ่งร่วมในงานนั้นด้วย เศรษฐีทั้งคู่แข่งกันทำบุญด้วยเงินจำนวนมาก ยังไม่มีใครแพ้ใครชนะ เศรษฐีบ้านนอกเกิดในใจว่า ถ้าแข่งกัน ดังนี้ เรื่อยไป ตนอาจเป็นฝ่ายแพ้จึงตัดสินใจทำบุญใหญ่ด้วยการพาตนเองและครอบครัว มีภรรยา และบุตรชายอีก 7 คน บุตรสะใภ้อีก 7 คน รวมเป็น 16 คน ไปสมัครเป็นทาสพระเจดีย์ คือ เป็นคนรักษาดูแลพระเจดีย์ เศรษฐีในเมืองทำไม่ได้ ปวงชนทั้งหลายจึงตัดสินใจยกย่องให้เศรษฐีบ้านนอกเป็นฝ่ายชนะ ต่อมาภายหลัง แม้ว่าประชาชนจะพร้อมใจกันอนุญาตให้ครอบครัวเศรษฐีบ้านนอก เลิกเป็นทาสพระมหาเจดีย์ได้แล้ว แต่คนทั้ง 16 คนเหล่านั้น ก็ไม่ยินยอมคงพร้อมใจเป็นทาสรับใช้ดูแลองค์พระเจดีย์ จนสิ้นชีวิต ด้วยบุญกุศลที่กระทำไว้ ทำให้ตายแล้วพากันไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์จนสิ้นเวลาหนึ่งพุทธันดร คือ ยุคสมัยของพระพุทธเจ้า 1 พระองค์

5. จุติจากสวรรค์ ลงมาเกิดในสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคดมในครั้งพุทธกาล ภรรยาเกิดมาเป็นธิดาของเศรษฐี บิดาพาไปฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย บรรลุเป็นพระโสดาบันตั้งแต่เป็นเด็กเล็ก ๆ ส่วนสามีมีบาปกรรมเก่าเหลืออยู่ ส่งผลให้ไปเกิดในสกุลพรานป่าต้องฆ่าเนื้อสัตว์เอาเนื้อไปขายในเมือง เมื่อทั้งคู่เป็นหนุ่มสาว ด้วยบุญที่เคยทำมาร่วมกันแต่ปางก่อน ทำให้ได้มาเป็นสามีภรรยากันอีก ฝ่ายหญิงได้จากบ้านตามมาเป็นภรรยาของฝ่ายชายอยู่ในป่า กระทั่งมีลูกชาย 7 คน ลูกสะใภ้ 7 คน ซึ่งเป็นลูกชายลูกสะใภ้ในอดีตชาติตามมาเกิดอยู่ร่วมกัน วันหนึ่งนายพรานออกไปล่าสัตว์ ได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้า คิดผิดว่าเป็นผู้มาปล่อยสัตว์ที่ตนดักไว้ จึงเงื้อธนูขึ้นจะยิง ด้วยพุทธานุภาพบันดาลให้ยกมือค้างอยู่ ยิงธนูไม่ออก ลูกชายทั้ง 7 เห็นบิดาหายไปนานผิดสังเกต ก็พากันออกตามหา เมื่อเห็นอาการของผู้เป็นพ่อ ก็เข้าใจผิดคิดว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นศัตรู จึงยกธนูขึ้นทำท่ายิ่งพร้อมกัน แต่ก็ยกค้างเหมือนพ่อ

6. ฝ่ายผู้เป็นแม่กับสะใภ้ทั้งหมดเห็นบิดาและสามีไปนานนัก ก็ออกติดตาม เมื่อพบกันเข้าผู้เป็นแม่ตกใจมาก ร้องเสียงดังลั่นว่า อย่ายิงพ่อของฉัน อย่ายิงพ่อของฉัน พ่อและลูกชายได้ยินถ้อยคำดังนั้น ก็คิดว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นพ่อตาเป็นตาของพวกตนก็ตกใจ มีจิตใจอ่อนโยน ไม่คิดฆ่าอีกต่อไป จึงสามารถลดมือลงมือลงได้เป็นปกติ ทั้งหมดพากันเข้าเฝ้าทำความเคารพพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ฟังธรรม จนได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันกันทุกคน เรื่องนี้มีหลักฐานยืนยันว่า นายพรานที่ชื่อ กุกกุฎมิตรพร้อมด้วยครอบครัว มีบุญใหญ่จากการสร้างและดูแลพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทำให้ท้ายที่สุดได้มีอานิสงส์เป็น พระอริยบุคคลขั้นต้นทีเดียว