210 likes | 333 Views
พระวาจา ทรง ชีวิต. กรกฎาคม 2010. “ อาณาจักรสวรรค์ยังเปรียบได้อีกกับพ่อค้าที่แสวงหาไข่มุกเม็ดงาม เมื่อได้พบไข่มุกมีค่าสูง เขาจะไปขายทุกสิ่งที่มี นำเงินมาซื้อไข่มุกเม็ดนั้น ” ( มธ . 13,45-46 ).
E N D
พระวาจาทรง ชีวิต กรกฎาคม 2010
“อาณาจักรสวรรค์ยังเปรียบได้อีกกับพ่อค้าที่แสวงหาไข่มุกเม็ดงาม เมื่อได้พบไข่มุกมีค่าสูง เขาจะไปขายทุกสิ่งที่มี นำเงินมาซื้อไข่มุกเม็ดนั้น” (มธ. 13,45-46)
ด้วยนิทานเปรียบเทียบเรื่องสั้นๆนี้ พระเยซูเจ้าทรงต้องการดึงความสนใจของผู้ฟัง เพราะทุกคนรู้ดีว่าไข่มุกมีค่าสูง ซึ่งเหมือนๆกับทอง มันเป็นสิ่งมีค่า ที่ใครๆก็อยากได้
ในทำนองเดียวกัน ในพระคัมภีร์ก็มีกล่าวถึงปรีชาญาณ ซึ่งก็คือความรู้เกี่ยวกับพระเจ้า ว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสูงสูด มีคุณค่ามากกว่าเพชรพลอยใดๆทั้งสิ้น
แต่สิ่งที่นิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้ต้องการบอกเราก็คือ เหตุการณ์ไม่คาดฝันที่พ่อค้าคนหนึ่งได้ไปพบไข่มุกราคาแพง อาจเป็นที่ตลาดนัด และด้วยสายตาอันคมกริบของเขา เขารู้ทันทีว่าไข่มุกเม็ดนั้นมีราคาสูงมาก และเขาจะทำกำไรได้อย่างมากทีเดียว
ดังนั้น หลังจากคำนวณดูแล้ว เขาเห็นว่าจะคุ้มค่ามากทีเดียวถ้าเขาจะขาย ข้าวของทั้งหมดที่มี และนำเงินมาซื้อมุกเม็ดนั้น ใครบ้างหากอยู่ในสภาพเช่นเขาจะไม่ทำอย่างเดียวกัน
นี่คือความหมายของนิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้ การได้พบกับพระเยซูเจ้า การได้พบกับพระอาณาจักรพระเจ้าท่ามกลางเรา ก็คือการได้พบไข่มุก นี่เป็นโอกาสเดียวที่เราจะต้องรีบตะครุบ เราจะต้องออกแรง เราจะต้องลงทุนด้วยข้าวของที่เรามี
“อาณาจักรสวรรค์ยังเปรียบได้อีกกับพ่อค้าที่แสวงหาไข่มุกเม็ดงาม เมื่อได้พบไข่มุกมีค่าสูง เขาจะไปขายทุกสิ่งที่มี นำเงินมาซื้อไข่มุกเม็ดนั้น” (มธ. 13,45-46)
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ศิษย์ของพระเยซูเจ้าจะต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ พวกเขาได้ทิ้งทุกสิ่งเพื่อติดตามพระเยซูเจ้าแล้ว ทุกสิ่งที่มีคุณค่าต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นความรักความผูกพันในครอบครัว ความมั่นคงทางการเงิน อนาคต
แต่พระเยซูเจ้าก็ทรงเสนอจะให้สิ่งที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง ไม่ใช่ความเพ้อฝัน เพราะว่า “แต่ละอย่าง”ที่เราได้เสียสละ เราก็จะได้ “ทุกอย่าง” ซึ่งมีคุณค่ามากกว่ากันอย่างเทียบไม่ได้ ทุกครั้งที่พระเยซูเจ้าทรงขออะไรจากคุณ พระองค์ก็ทรงสัญญาจะให้สิ่งที่มีคุณค่ามากกว่ามากนัก
นิทานเรื่องนี้ พระเยซูเจ้าทรงต้องการให้เรามั่นใจว่า เราจะได้รับทรัพย์ที่จะทำให้เราร่ำรวยตลอดไป และถ้าคุณคิดว่า ไม่น่าจะถูกต้องเลยที่เราจะละทิ้งสิ่งที่เรามีอยู่ในมือแน่นอนแล้วเพื่อแลกกับของที่ไม่แน่นอน หรือเพื่อแลกกับคำมั่นสัญญา เราก็จงคิดถึงพ่อค้าคนนั้น เขารู้ดีว่าไข่มุกเม็ดนั้นมีค่าสูง และเขามั่นใจว่าเขาจะทำกำไรได้มากอย่างแน่นอน
เช่นเดียวกัน คนที่ติดตามพระเยซูเจ้าก็รู้ดี เพราะว่าด้วยสายตาแห่งความเชื่อ เขารู้ดีว่าเขาจะได้กำไรอะไร เมื่อเขาจะร่วมเป็นทายาทกับพระเยซูเจ้าในพระอาณาจักร หากเขาจะละทิ้งทุกสิ่ง อย่างน้อยทางฝ่ายจิต เพื่อติดตามพระองค์
พระเจ้าทรงเสนอโอกาสเช่นนี้ให้กับเราทั้งชายและหญิงพระเจ้าทรงเสนอโอกาสเช่นนี้ให้กับเราทั้งชายและหญิง
“อาณาจักรสวรรค์ยังเปรียบได้อีกกับพ่อค้าที่แสวงหาไข่มุกเม็ดงาม เมื่อได้พบไข่มุกมีค่าสูง เขาจะไปขายทุกสิ่งที่มี นำเงินมาซื้อไข่มุกเม็ดนั้น” (มธ. 13,45-46)
นี่เป็นการเชื้อเชิญให้เราสละทิ้งทุกสิ่งที่อาจแทนที่พระเจ้าในหัวใจของเรา เช่น อาชีพการงาน ครอบครัว การศึกษา บ้านหลังสวย การกีฬา หรือสิ่งบันเทิง
พระองค์ทรงเชิญชวนเราให้ยึดพระเจ้าเป็นบุคคลแรกในหัวใจของเรา เพื่อว่าทุกสิ่งในชีวิตของเราจะมุ่งไปที่พระองค์ และจะกลับมาหาเราก็จากพระองค์
หากเราทำได้อย่างนี้ หากเรา “แสวงหาพระอาณาจักร” ตามที่พระวรสารให้สัญญา เราก็จะได้รับสิ่งอื่นเป็นของแถมแน่นอน (ลูกา 12,31) หากเราทิ้งทุกสิ่งเพื่อพระอาณาจักรของพระเจ้า เราก็จะได้รับร้อยเท่า ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน พี่น้องชายหญิง พ่อ แม่ (มัทธิว 19,29) และพระวรสารหมายความอย่างนั้นจริงๆ พระเยซูเจ้าทรงเป็นทั้งพระเจ้าและมนุษย์ ซึ่งนอกจากพระองค์จะพูดเรื่องฝ่ายจิตแล้ว พระองค์ก็สัญญาว่าจะให้อาหาร ที่อยู่ เสื้อผ้า ครอบครัว และสิ่งอื่นๆกับเราด้วย
บางทีเราอาจต้องรู้จักเป็น “ผู้ต่ำต้อย” ที่วางใจในพระญาณสอดส่องของพระบิดา พระองค์ทรงตอบแทนอย่างแน่นอนกับผู้ที่รู้จักให้แม้สิ่งเล็กน้อยที่มีด้วยความรัก
ไม่กี่เดือนก่อน กลุ่มเยาวชนกลุ่มหนึ่งในประเทศคองโก ได้ริเริ่มทำบัตรอวยพรที่ทำมาจากเปลือกกล้วย และบัตรอวยพรที่พวกเขาทำ ได้ถูกส่งไปขายที่ประเทศเยอรมนี ตอนแรกพวกเขาต้องการเก็บรายได้ทั้งหมดไว้เอง เพราะบางคนในพวกเขายังยากจน ต้องช่วยเหลือครอบครัว แต่ต่อมาพวกเขาตกลงใจแบ่งผลกำไรครึ่งหนึ่งช่วยเหลือเยาวชนอื่นๆที่ตกงานสามสิบห้าคน
เรื่องนี้เป็นที่กล่าวขานกันในระแวกบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่ เจ้าของร้านค้าบางคนที่ต้องการคนงานได้ยินเรื่องนี้ จึงเสนอให้งานประจำกับเยาวชนสิบเอ็ดคนในกลุ่มนั้น เห็นไหมว่า พระเจ้าไม่เคยทรงยอมแพ้เราในเรื่องความใจกว้าง
“อาณาจักรสวรรค์ยังเปรียบได้อีกกับพ่อค้าที่แสวงหาไข่มุกเม็ดงาม เมื่อได้พบไข่มุกมีค่าสูง เขาจะไปขายทุกสิ่งที่มี นำเงินมาซื้อไข่มุกเม็ดนั้น” (มธ. 13,45-46) “พระวาจาทรงชีวิต”ประจำเดือนจัดพิมพ์โดยคณะโฟโคลาเร เนื้อหา: เคียร่า ลูบิคตีพิมพ์เมื่อเดือนกรกฎาคม 1999 กราฟฟิกAnna Lolloร่วมกับคุณพ่อPlacido D’Omina (ซิซิลี อิตาลี)คำอธิบายพระวาจาทรงชีวิตนี้แปลเป็นภาษาต่างๆถึง 90 ภาษา และภาษาท้องถิ่นต่างๆด้วย พระวาจานี้ไปถึงผู้คนกว่าล้านคนทั่วโลก ผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ และอินเตอร์เน็ต ข้อมูลเพิ่มเติมwww.focolare.orgพาวเวอร์พอยทพระวาจาทรงชีวิตจัดทำหลายภาษาพบได้ที่ www.santuariosancalogero.org