1 / 31

การประมาณการทรัพยากรของกิจกรรม

การประมาณการทรัพยากรของกิจกรรม. เป็นการประมาณการปริมาณทรัพยากร (เช่น คน เครื่องมือ วัตถุดิบฯ) ที่ต้องใช้ในกิจกรรม ผลลัพธ์ คือ ความต้องการทรัพยากรของกิจกรรม โครงสร้างจำแนกทรัพยากร และคุณลักษณะของกิจกรรมและปฏิทินทรัพยากรที่ได้รับการปรับปรุง

danyl
Download Presentation

การประมาณการทรัพยากรของกิจกรรม

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การประมาณการทรัพยากรของกิจกรรมการประมาณการทรัพยากรของกิจกรรม • เป็นการประมาณการปริมาณทรัพยากร (เช่น คน เครื่องมือ วัตถุดิบฯ) ที่ต้องใช้ในกิจกรรม • ผลลัพธ์ คือ ความต้องการทรัพยากรของกิจกรรม โครงสร้างจำแนกทรัพยากร และคุณลักษณะของกิจกรรมและปฏิทินทรัพยากรที่ได้รับการปรับปรุง • ข้อมูลสำคัญที่ใช้ประมาณการ คือ รายการกิจกรรม คุณลักษณะของกิจกรรม แผนการบริหารโครงการ ปัจจัยเชิงสภาพแวดล้อม ทรัพยากรที่มีให้ใช้ • ทรัพยากรที่สำคัญในโครงการสารสนเทศส่วนใหญ่ คือ พนักงาน

  2. การประมาณการระยะเวลากิจกรรมการประมาณการระยะเวลากิจกรรม • เป็นการประมาณการเวลาการทำงานในแต่ละกิจกรรม • ผลลัพธ์ คือ ประมาณการระยะเวลากิจกรรม และคุณลักษณะของกิจกรรมที่ได้รับการปรับปรุง • ข้อมูลที่ต้องใช้ในการประมาณระยะเวลากิจกรรม เช่น ข้อกำหนดขอบเขตโครงการ รายการกิจกรรม คุณลักษณะกิจกรรม ความต้องการทรัพยากรของกิจกรรม ปฏิทินทรัพยากร และแผนการบริหารโครงการ

  3. การประมาณการระยะเวลากิจกรรม (ต่อ) • ระยะเวลาที่ประมาณการเป็นตัวเลขจำนวนเต็ม เช่น 4 อาทิตย์ หรืออาจเป็นช่วง เช่น 3-5 อาทิตย์ • คนทั่วไปสับสนระหว่างระยะเวลากับแรงงาน • แรงงาน คือ จำนวนวันทำงาน หรือชั่วโมงการทำงานที่ต้องใช้เพื่อทำงานให้สมบูรณ์ แต่ไม่ใช่ระยะเวลา เช่น สมมติงานหนึ่งใช้เวลา 5 วัน และกำหนดว่า 1 วันทำงานได้ 8 ชม. ดังนั้นแรงงานที่ใช้ทำงานจึงเท่ากับ 40 ชม. ส่วนระยะเวลา คือ 5 วัน เป็นต้น • บางครั้งต้องมีการเผื่อเวลาในการประมาณการระยะเวลากิจกรรม

  4. การพัฒนาตารางเวลา • เป็นการวิเคราะห์ลำดับของกิจกรรม ประมาณการทรัพยากรกิจกรรม และประมาณระยะเวลาของกิจกรรม เพื่อสร้างตารางการทำงาน • ผลลัพธ์ คือ ตารางเวลาโครงการ บรรทัดฐานตารางเวลา และการเปลี่ยนแปลงที่ได้ร้องขอ • ใช้ผลลัพธ์จากกระบวนการทั้งหลายก่อนหน้านี้เพื่อกำหนดวันเริ่มต้น และวันสิ้นสุดโครงการ • เป้าหมาย คือ สร้างตารางโครงการที่เป็นจริง

  5. การพัฒนาตารางเวลา (ต่อ) • เทคนิคและเครื่องมือที่ช่วยในการพัฒนาตารางเวลา • แผนภูมิแกนต์ (Grantt chart) • ระเบียบวิธีวิกฤต (Critical Path Method : CPM) • เทคนิคการประเมินผลและทบทวนโครงการ (Program Evaluation and Review Technique : PERT)

  6. การควบคุมตารางเวลา • เป็นการควบคุมและจัดการการเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อตารางเวลาโครงการ รวมทั้งปรับปรุงบรรทัดฐานโครงการ รายการกิจกรรมและคุณลักษณะกิจกรรม รวมถึงแผนการบริหารโครงการ • ผลลัพธ์ คือ การวัดผลการดำเนินงาน การเปลี่ยนแปลงที่ร้องขอ และคำแนะนำเพื่อแก้ไขปัญหา • เป้าหมาย คือ เพื่อให้โครงการแล้วเสร็จตามกำหนดเวลา • ข้อมูลหลักที่ใช้ในการควบคุมตารางเวลา คือ บรรทัดฐานตารางเวลา รายงานประสิทธิภาพการทำงาน คำร้องขอเปลี่ยนแปลงที่ได้รับอนุมัติ และแผนการบริหารตารางเวลา

  7. คำถามท้ายบท • เพราะเหตุใดการกำหนดกิจกรรมจึงเป็นกระบวนการแรกในกระบวนการบริหารเวลาโครงการ • เพราะเหตุใดการเรียงลำดับกิจกรรมของโครงการจึงมีความสำคัญ

  8. แผนภูมิแกนต์ (Grantt chart)

  9. PERT และ CPM • ทั้ง PERT และ CPM เริ่มต้นด้วยการการแจกแจงของกิจกรรมต่างๆ ที่จำเป็นต้องทำในโครงการทั้งหมดว่า มีกิจกรรมอะไรบ้างที่ต้องทำ กิจกรรมต่างๆ มีความสัมพันธ์กันอย่างไร กิจกรรมใดต้องทำก่อน กิจกรรมใดต้องทำหลัง แล้วนำมาเขียนเป็นผังเครือข่าย • สิ่งที่แตกต่างกัน คือ CMP จะมีการประมาณเวลาของกิจกรรมเพียงค่าเดียว แต่ PERT จะประมาณเวลาที่น่าจะเป็น 3 ค่า คือ • ระยะเวลาที่คาดคะเนในแง่ดี (optimistic) • ระยะเวลาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้มากที่สุด (most likely) • ระยะเวลาที่คาดคะเนในแง่ร้าย (pessimistic)

  10. PERT และ CPM (ต่อ) • PERT นำไปใช้มากในโครงการเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนา เนื่องจากเป็นโครงการที่มีความไม่แน่นอนในด้านระยะเวลาดำเนินการ • CPM นำไปใช้ในโครงการก่อสร้าง โครงการซ่อมบำรุงเครื่องจักร์ เป็นต้น เพราะเน้นด้านควบคุมค่าใช้จ่ายและวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างเวลาและค่าใช้จ่าย

  11. โจทย์:หาเส้นทางวิกฤตและเวลาที่ต้องใช้โจทย์:หาเส้นทางวิกฤตและเวลาที่ต้องใช้

  12. ผังเครือข่ายที่เขียนได้ผังเครือข่ายที่เขียนได้ A C F E H เริ่ม B D G

  13. ข้อมูลในแต่ละโหนด เวลาเสร็จเร็วที่สุด (Earliest Finish) เวลาเริ่มเร็วที่สุด (Earliest Start) ชื่อของกิจกรรม (Name) ES EF LS ระยะเวลาที่ต้องใช้ ในการทำกิจกรรม (Time) LF เวลาเสร็จช้าที่สุด (Latest Finish) เวลาเริ่มช้าที่สุด (Latest Start)

  14. เวลาเริ่มเร็วที่สุด (earliest start, ES) หมายถึง เวลาเร็วที่สุดที่กิจกรรมจะสามารถเริ่มต้นทำได้ • เวลาเสร็จเร็วที่สุด (earliest finish, EF) หมายถึง เวลาเร็วที่สุดที่กิจกรรมสามารถทำเสร็จได้ • เวลาเริ่มช้าที่สุด (Latest start, LS) หมายถึง เวลาช้าที่สุดที่กิจกรรมจะสามารถเริ่มต้นได้ โดยไม่ทำให้เวลาแล้วเสร็จของโครงการล่าช้าไปกว่าที่วางแผนไว้ • เวลาเสร็จช้าที่สุด (Latest finish, LF) หมายถึง เวลาช้าที่สุดที่กิจกรรมจะสามารถทำเสร็จได้ โดยไม่ทำให้เวลาแล้วเสร็จของโครงการล่าช้าไปกว่าที่วางแผนไว้

  15. เพื่อความสะดวกในการเขียนปรับมาเขียนในรูปแบบดังนี้เพื่อความสะดวกในการเขียนปรับมาเขียนในรูปแบบดังนี้ Name | ES EF ------------------- Time | LS LF

  16. S F B A C D E G H 3 2 3 2 4 4 0 5 2

  17. เวลาเริ่มเร็วที่สุด = ค่าสูงสุดของเวลาเสร็จเร็วที่สุดของทุกงานย่อยที่ต้องทำก่อนหน้านี้ เขียนสูตรได้ว่า ES = max(EF ก่อนหน้า) • เวลาเสร็จเร็วที่สุด = เวลาเริ่มเร็วสุด + เวลาที่ใช้ทำงาน เขียนสูตรได้ว่า EF = ES + Time

  18. S E C F D B A H G 13 2 0 4 3 8 4 0 0 15 3 8 2 7 0 13 7 4 3 3 2 5 4 2 0 2 4

  19. เวลาเสร็จช้าที่สุด = ค่าต่ำสุดของเวลาเริ่มช้าที่สุดของงานที่ทำหลังงานปัจจุบัน เขียนสูตรได้ว่า LF = min(LS หลัง) • เวลาเริ่มช้าที่สุด = เวลาเสร็จช้าที่สุด - เวลาที่ใช้ทำงาน เขียนสูตรได้ว่า LS = LF - Time

  20. 2 13 4 10 0 2 0 0 15 13 8 4 C D B A H E F G S 13 0 8 2 4 0 3 4 0 15 2 13 3 7 7 8 4 0 4 13 8 1 8 4 2 2 3 2 5 4 0 3 4

  21. การหาเส้นทางวิกฤต • เวลายืดหยุ่น (Slack Time) หมายถึง เวลาเผื่อเหลือเผื่อขาดที่กิจกรรมสามารถล่าช้า โดยไม่ทำให้โครงการล่าช้าตามไปด้วย • ST = LS –ES หรือ LF – EF • เส้นทางวิกฤต คือ เส้นทางที่ผ่านงานย่อยซึ่งเวลายืดหยุ่นเป็น 0 • เส้นทางวิกฤตอาจมีได้หลายเส้นทาง • ผู้จัดการโครงการควรติดตามงานที่อยู่บนเส้นทางวิกฤตอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการล่าช้าของโครงการ

  22. 2 13 4 10 0 2 ST = 6 ST = 0 ST = 0 0 0 15 13 8 4 ST = 0 ST = 0 ST = 0 H G F S D E A B C 13 2 0 4 0 8 3 0 4 15 0 3 2 13 8 7 4 7 4 13 8 1 8 4 0 3 2 2 3 2 4 4 5 ST = 1 ST = 1 ST = 0

  23. การหาเส้นทางวิกฤต • เส้นทางวิกฤต คือ เส้นทางที่ผ่านงานย่อยซึ่งเวลายืดหยุ่นเป็น 0 • เส้นทางวิกฤตอาจมีได้หลายเส้นทาง • ผู้จัดการโครงการควรติดตามงานที่อยู่บนเส้นทางวิกฤตอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการล่าช้าของโครงการ

  24. 2 13 4 10 0 2 ST = 6 ST = 0 ST = 0 0 0 15 13 8 4 ST = 0 ST = 0 ST = 0 H G F S D E A B C 13 2 0 4 0 8 3 0 4 15 0 3 2 13 8 7 4 7 4 13 8 1 8 4 0 3 2 2 3 2 4 4 5 ST = 1 ST = 1 ST = 0

  25. การเร่งรัดเวลา • เป็นเทคนิคช่วยลดระยะเวลาของเส้นทางวิกฤตให้สั้นลง • ขั้นที่ 1 คำนวณต้นทุนเร่งรัดต่อ 1 หน่วยเวลา = (ต้นทุนเร่งรัด-ต้นทุนปกติ) / (เวลาปกติ-เวลาเร่งรัด) • ถ้ามีเส้นทางวิกฤตเส้นเดียว ให้เลือกกิจกรรมบนเส้นทางวิกฤตที่ทำให้เส้นทางสั้นลงได้ โดยเลือกจากต้นทุนเร่งรัดเวลาต่ำสุดก่อน • ถ้ามีเส้นทางวิกฤตมากกว่า 1 ให้เลือกในทำนองเดียวกัน และหากเป็นไปได้ให้เลือกกิจกรรมที่อยู่บนเส้นทางวิกฤตมากกว่า 1 เส้นทาง

  26. เส้นทางวิกฤตหลังเร่งรัดกิจกรรม A 1 12 3 9 0 1 ST = 6 ST = 0 ST = 0 0 0 14 12 7 3 ST = 0 ST = 0 ST = 0 D S E A F B C G H 12 3 3 3 7 0 0 0 1 14 3 7 0 3 6 7 1 12 3 12 7 0 7 3 1 3 2 4 5 0 4 3 2 ST = 0 ST = 0 ST = 0

  27. เทคนิค PERT • ระยะเวลาที่คาดคะเนในแง่ดี (optimistic) = a • ระยะเวลาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้มากที่สุด (most likely) = b • ระยะเวลาที่คาดคะเนในแง่ร้าย (pessimistic) = c • ระยะเวลาคาดหวังที่กิจกรรมจะแล้วเสร็จ (Te) Te = (a+4b+c) / 6 หรือ • ความแปรปรวน (v) v = ((c-a)/6)2 หรือ

  28. ระยะเวลาคาดหวังของโครงการ = ระยะเวลาของเส้นทางวิกฤติ = 15 ความแปรปรวนของโครงการ = 0.11+0.11+1.00+1.78+0.11=3.11 • เอาค่าที่ได้คำนวณหาค่าตัวแปรสุ่มแบบปกติมาตรฐาน (Z value) เทียบกับตารางปกติมาตรฐาน หรือ • Ts คือ ระยะเวลาที่โครงการแล้วเสร็จตามเป้าหมายที่กำหนด • Te คือ ระยะเวลาคาดหวังของกิจกรรม • ∑Te คือ ระยะเวลาคาดหวังของโครงการ

  29. ตัวอย่าง ให้หาความน่าจะเป็นที่โครงการจะเสร็จภายใน 16 หน่วยเวลา = 0.57 นำค่า Z ที่ได้ไปเปิดตารางปกติมาตรฐาน (normal table) จะได้ความน่าจะเป็น 0.7157 นั่นคือ 71.57 เปอร์เซ็นต์

More Related