250 likes | 367 Views
วิชาถ่ายภาพ. แสง ( Visible Light ). เดินทางเป็นเส้นตรง เมื่อกระทบวัตถุ มันจะเกิดปรากฏการณ์ 3 แบบ 1. สะท้อนกลับ 2. ส่องทะลุผ่านไป 3. ถูกดูดซับไว้ในวัตถุนั้น (แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน) แสงอาทิตย์ มีสีแฝงอยู่ภายใน หรือเรียกว่า spectrum
E N D
แสง ( Visible Light ) • เดินทางเป็นเส้นตรง • เมื่อกระทบวัตถุ มันจะเกิดปรากฏการณ์ 3 แบบ1. สะท้อนกลับ2. ส่องทะลุผ่านไป3. ถูกดูดซับไว้ในวัตถุนั้น (แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน) • แสงอาทิตย์ มีสีแฝงอยู่ภายใน หรือเรียกว่า spectrum • เราเห็นวัตถุมีสีต่าง เพราะวัตถุนั้น ทำ 1. กับบางสีที่เราเห็น และทำ 2. หรือ 3. กับบางสีที่เหลือ
แสง ( Visible Light )การมองเห็นวัตถุเป็นสีต่างๆ
แสง ( Visible Light )การมองเห็นวัตถุเป็นสีต่างๆ
อุณหภูมิสี Color Temperature • มีหน่วยวัดเป็นเคลวิน °K= องศาเซลเซียส + 273 • เผาโลหะดำ ให้ร้อน 3000 องศาเซลเซียสจะได้อุณหภูมิสีที่ 3273 เคลวิน
สีของแสงแบบต่างๆ • Auto White Balance ( AWB ) = ปรับอัตโนมัติ • Day Light / Outdoor = แสงแดดตอนกลางวัน • Shade = ถ่ายในร่มไม้ หรือร่มเงาชายคา ตอนกลางวัน • Tungsten / Incandescent = แสงหลอดไส้ • Cloudy = แสงตอนกลางวันแต่เป็นวันที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน • Fluorescent = แสงหลอดฟลูโอเรสเซนท์ • Flash = แสงจากไฟแฟลช 6
กล้องยอดนิยม SLR • กล้องสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยว SLR (Single Lens Reflex) เวลาดูภาพ บันทึกภาพลงฟิล์ม
30 15 8 4 212 4 8 15 30 60 125 250 500 1000 วินาที 30 15 8 4 212 4 8 15 3060125 250 500 1000 วินาที 30 1584 21 2 4 8 15 30 60 125 250 500 1000 วินาที ความเร็วชัตเตอร์ (ShutterSpeed) 1 STOP = 1 ขั้น 1/
ความเร็วชัตเตอร์ (ShutterSpeed) • ความเร็วชัตเตอร์ Shutter Speed จะเห็นผลแตกต่างชัดเจน กับวัตถุที่เคลื่อนที่ 1/30 วินาที 1/1000 วินาที
การทำงานของรูรับแสง (Aperture) • ภายในตัวเลนส์ จะมีส่วนที่เป็น “ไดอะแฟรม”(Diaphragm) มีลักษณะเป็นคลีบหลายอันซ้อนทับกัน แต่จะเปิดเป็นรู (เกือบจะเป็นวงกลม) ตรงกลางให้แสงผ่านไปได้ เราเรียกว่า “รูรับแสง” หรือ “ช่องรับแสง”(Aperture) ซึ่งสามารถปรับขยายขนาดของรูนี้ ให้ใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงก็ได้ คล้ายกับม่านตาของคนเรา
การทำงานของรูรับแสง (Aperture) • f-stop= f / d= 50 / 50 = 1 Diameter ( d ) Focal Length ( f ) 50mm. 50mm. f/1คือรูรับแสงที่ d= f
การทำงานของรูรับแสง (Aperture) • f-stop= f / d1= 50 / 50 = 1f-stop= f / d2= 50 / 25 = 2 Diameter ( d1 ) Diameter ( d2 ) 50mm. 25 mm. f/2= ¼ ของ f/1
F 16 F 2.8 ชัดลึก .... ชัดตื้น ... 13
ความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วชัตเตอร์กับรูรับแสงความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วชัตเตอร์กับรูรับแสง 14
ความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วชัตเตอร์กับรูรับแสงความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วชัตเตอร์กับรูรับแสง A B C D
การสะท้อนแสงของวัตถุ และการวัดแสง • การสะท้อนแสงของวัตถุต่างๆ • กระดาษสีเทามาตรฐาน (Gray card)18% สะท้อนแสง99% สะท้อนแสง18% สะท้อนแสง1% สีขาว สีเทากลาง สีดำ ค่ากลางในการอ้างอิง เพื่อการวัดแสง
โหมดหลักFull Auto โหมดอย่างง่าย P = Program Tv = Time Value = Shutter Priority = S ของ Nikon Av = Aperture Value = Aperture Priority = A ของ Nikon M = Manual 18
Mode ที่แนะนำ Av หรือ Aเมื่อถ่ายภาพต่อไปนี้ • ภาพบุคคล โดย เลือกรูรับแสงกว้างที่สุด (Fน้อยสุด) • ภาพวิวทิวทัศน์ โดย เลือกรูรับแสงแคบ (Fมาก) • ภาพดอกไม้ โดย เลือกรูรับแสงแคบ (Fมาก) • Mode ที่แนะนำ Tv หรือ Sเมื่อถ่ายภาพต่อไปนี้ • ภาพกีฬา หรือ ภาพเด็ก โดย เลือกความเร็วชัตเตอร์ค่อนข้างสูง • ภาพน้ำตก โดย เลือกความเร็วชัตเตอร์ค่อนข้างต่ำ และใช้ขาตั้งกล้อง • ภาพตอนกลางคืน ใช้แฟลช ใช้ความเร็วชัตเตอร์ ปานกลาง ( 1/30 วินาที ) • ภาพวิวตอนกลางคืน ไม่ใช้แฟลช ใช้ความเร็วชัตเตอร์ ต่ำ และใช้ขาตั้งกล้อง
Mode ที่แนะนำ Pเมื่อถ่ายภาพต่อไปนี้ • ภาพแบบต้องรีบๆถ่าย เช่น เหตุการณ์เฉพาะหน้า ไม่มีเวลาปรับอะไรมาก • Mode ที่แนะนำ Mเมื่อถ่ายภาพต่อไปนี้ • ภาพย้อนแสง หรือมีส่วนที่สว่าง และมืด อยู่ในภาพเดียวกัน ต้องคำนวณแสงเอง • ภาพดาว หรือ ภาพพลุ ซึ่งไม่สามารถวัดแสงได้ ต้อง ประมาณค่าแสงเอาเอง
การจัดองค์ประกอบภาพ • กฏสามส่วน (rule of third) • ลากเส้นสมมติแบ่งพื้นที่ออกเป็นด้านละ 3 ส่วนเท่าๆกันก็จะได้เป็นช่องต่างๆ 9 ช่องแต่ให้สังเกต จุดตัด 4 จุดเป็นจุดที่เราจะวาง “จุดเด่น” ของภาพไว้ในตำแหน่งดังกล่าว