1 / 25

บทที่ 2: บทบาทของภาคเกษตรในการพัฒนาประเทศ

ขาดดุล. Q a. P a. Y. $. บทที่ 2: บทบาทของภาคเกษตรในการพัฒนาประเทศ. ทำไมการพัฒนาประเทศ ต้องพัฒนาทางด้านการเกษตรควบคู่ไปกับการพัฒนาทางด้านอื่นๆด้วย. ตัวอย่างการพัฒนาที่ละทิ้งภาคการเกษตร. การพัฒนาประเทศนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิต.

dean-parker
Download Presentation

บทที่ 2: บทบาทของภาคเกษตรในการพัฒนาประเทศ

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ขาดดุล Qa Pa Y $ • บทที่ 2: บทบาทของภาคเกษตรในการพัฒนาประเทศ • ทำไมการพัฒนาประเทศ ต้องพัฒนาทางด้านการเกษตรควบคู่ไปกับการพัฒนาทางด้านอื่นๆด้วย ตัวอย่างการพัฒนาที่ละทิ้งภาคการเกษตร

  2. การพัฒนาประเทศนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตการพัฒนาประเทศนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิต ภาคเกษตรมีขนาดเล็กลง เมื่อเทียบกับภาคการผลิตอื่น อาจเนื่องมาจากสาเหตุ 2 ประการ คือ • ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อรายได้ของสินค้าประเภทอาหาร มีค่า <1 และจะมีค่าลดลงเรื่อยๆ เมื่อมีรายได้มากขึ้น • ภาคการเกษตรมีความสามารถที่จะขยายการผลิตด้วยกำลังแรงงานที่คงที่หรือลดลง

  3. df = p + .y 2.1 บทบาทในการผลิตอาหารแก่ประชากรในประเทศ • แหล่งอาหารแก่ประชากรและแหล่งวัตถุดิบให้ภาคอุตสาหกรรม • df = อัตราการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ของสินค้าอาหาร • p= อัตราการเพิ่มขึ้นของประชากร • = ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อรายได้ สำหรับสินค้าอาหาร y = อัตราการเพิ่มขึ้นของรายได้ ถ้าหากภาคเกษตรไม่สามารถผลิตอาหารได้อย่างเพียงพอ หรือ การเพิ่มขึ้นของอุปทานมีน้อยกว่าอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น จะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาและส่งผลกระทบต่อความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ

  4. 2.1 บทบาทในการผลิตอาหารแก่ประชากรในประเทศ(ต่อ) • ช่วยรักษาระดับราคาสินค้าเกษตรให้อยู่ในระดับไม่สูงเกินไป • ไม่ต้องสูญเสียเงินตราต่างประเทศในการซื้ออาหาร สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาด้านอื่นๆ • ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบเกษตรไม่สูงเกินไป แข่งขันกับต่างประเทศได้

  5. 2.2 บทบาทในการให้แรงงานแก่ภาคอุตสาหกรรม • การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ทำให้ใช้แรงงานลดลง มีการโยกย้ายไปสู่ภาคอุตสาหกรรม • เป็นแหล่งแรงงานค่าแรงต่ำของภาคอุตสาหกรรม ง่ายต่อการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม ประเด็นสำคัญ คือ ถ้าหากภาคเกษตรไม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้ หรือ อุปทานมีน้อยกว่าอุปสงค์ จะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา

  6. 2.3 บทบาทในการให้เงินตราต่างประเทศจากการส่งออก • ในบางประเทศที่มีผลผลิตส่วนเกินทางการเกษตร การส่งออกสินค้าเกษตรจะเป็นแหล่งรายได้เข้าประเทศที่สำคัญ ได้เงินตรามาพัฒนาประเทศ • การส่งออกต้องแข่งขันกับต่างประเทศ ทำให้ต้องมีการพัฒนาการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ประเด็นสำคัญ คือ ถ้าสินค้ามีการแข่งขันกันสูง อาจก่อให้เกิดสภาวะตลาดแปรปรวนง่าย การพึ่งพาเศรษฐกิจโลก ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

  7. ราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น(P)ราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น(P) ภ า ค อุ ต ส า ห ก ร ร ม ค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น(W) วัตถุดิบราคาเพิ่มขึ้น(P) ต้นทุนเพิ่มขึ้น(Ci) Import ราคาสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น(Pi) Export  เงินตราต่างประเทศ  บทบาทของภาคเกษตรในการพัฒนาอุตสาหกรรม ประสิทธิภาพทางการผลิต/ผลผลิตทางการเกษตรลดลง(Q)

  8. 2.4 บทบาทในการให้เงินออมและเงินลงทุนในการพัฒนาประเทศ • ภาคการเกษตรส่งเสริมการสะสมทุนได้หลายทาง • ส่งเสริมการสะสมทุนในภาคเกษตรเอง จากรายได้ส่วนที่เหลือจากการบริโภค • ส่งเสริมการสะสมทุนในภาครัฐบาล โดยผ่านการเก็บภาษีอากร • ส่งเสริมการสะสมทุนในระบบเศรษฐกิจส่วนรวม จากราคาสินค้าเกษตรที่ต่ำ ทำให้รายได้ที่แท้จริงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การออมภาคบังคับผ่านการเก็บภาษีมีผลกระทบต่อปัญหาทางสวัสดิการ รัฐต้องระมัดระวังการใช้เงินออมส่วนนี้ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดและส่งผลต่อการพัฒนาในระยะยาวมากที่สุด

  9. 2.5 บทบาทในการเป็นตลาดผลผลิตให้สินค้าอุตสาหกรรม • สินค้าอุตสาหกรรม ต้องมีแหล่งซื้อที่มากพอ จึงจะพัฒนาหรือขยายตัวแข่งขันกับต่างประเทศได้ (Economies of scale) • ประชากรส่วนใหญ่อยู่ในภาคการเกษตร เป็นแหล่งซื้อขนาดใหญ่ ประเด็น คือ ถ้าเกษตรกรส่วนใหญ่มีความยากจน ก็ไม่สามารถซื้อผลผลิตภาคอุตสาหกรรมได้ ฉะนั้นต้องมีการพัฒนาภาคการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย

  10. 2.6 กรณีศึกษาการพัฒนาประเทศเอเชียบางประเทศ 2.6.1 การพัฒนาประเทศญี่ปุ่น:บทบาทของภาคเกษตรกรรมต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมในญี่ปุ่น 2.6.2 การพัฒนาประเทศอินเดียในอดีต 2.6.3 สาระสำคัญของแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 1-9ผลสำเร็จหรือความล้มเหลว

  11. 2.6.1 กรณีศึกษา: การพัฒนาประเทศญี่ปุ่น การกระจายตัวของ GDP ตามสาขา และการจ้างงานในและนอกภาคเกษตรในประเทศญี่ปุ่น (%) Source: Ohkawa and Shinohara (1979) and MAFF Abstract (1996) cited by Francks,P., Boestel,J. and Kim,C.H. (1999) Agriculture and Economic Development in East Asia.

  12. 2.6.1 กรณีศึกษา: การพัฒนาประเทศญี่ปุ่น(ต่อ) • ภาคเกษตรกรรมของญี่ปุ่นมีบทบาทอย่างไรในการพัฒนาประเทศให้เป็นประเทศอุตสาหกรรม? • ประวัติการพัฒนาเศรษฐกิจญี่ปุ่น • ระบบศักดินา ในสมัยโตกุงาวะ (ค.ศ.1603-1867) ไดเมียว โชกุน จักรพรรดิ (เจ้าครองแคว้น) ไดเมียวถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินและเก็บภาษีจากชาวนา(ภาษีข้าว)

  13. 2.6.1 กรณีศึกษา: การพัฒนาประเทศญี่ปุ่น(ต่อ) • สมัยเมจิ (ค.ศ.1867-1912) มีการปฏิรูปสังคมและการเมือง ยกเลิกระบบศักดินา มีนโยบายในการพัฒนาประเทศให้ทันสมัย - วางรากฐานระบบเงินตรา => ระบบเงินเยน ตั้งระบบธนาคาร - ส่งเสริมอุตสาหกรรม => อุตสาหกรรมสิ่งทอ น้ำตาล - การสื่อสารคมนาคม => รถไฟ การเดินเรือ ไปรษณีย์ โทรศัพท์

  14. สมัยเมจิ (ค.ศ.1867-1912) (ต่อ) ภาคเกษตรยังเป็นสาขาผลิตที่สำคัญ:ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้น จากพันธุ์ข้าวใหม่ การผลิตไหมดิบมีเพิ่มขึ้น 2.6.1 กรณีศึกษา: การพัฒนาประเทศญี่ปุ่น(ต่อ) • สมัยเศรษฐกิจรุ่งเรือง (ค.ศ.1913-1936) อุตสาหกรรมเบาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การส่งออกเพิ่มขึ้น ปี 1914-18 สงครามโลกครั้งที่ 1 นำความรุ่งเรืองมาสู่ญี่ปุ่น อุตสาหกรรมหนักเพิ่มความสำคัญขึ้น เช่น อุตสาหกรรม เหล็กกล้า การต่อเรือ อาวุธ

  15. 2.6.1 กรณีศึกษา: การพัฒนาประเทศญี่ปุ่น(ต่อ) • ความก้าวหน้าทางการเกษตรของญี่ปุ่น เกิดจาก • 1. มีการวิจัยทางการเกษตร: ตั้งสถาบันวิจัยข้าว ปรับปรุงพันธุ์ • 2. มีการใช้ปุ๋ยในการเกษตรเพิ่มขึ้น • 3. การส่งเสริมการผลิตและปรับปรุงเทคนิคการผลิตเช่น • การควบคุมการให้น้ำ • การส่งเสริมให้มีการกำจัดศัตรูพืช • การปรับปรุงพื้นที่เพาะปลูกให้ผลิตพืชได้ตลอดปี • ภาษีที่ดินร้อยละ 60เป็นแหล่งเงินทุนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมและพัฒนาประเทศญี่ปุ่น

  16. 2.6.1 กรณีศึกษา: การพัฒนาประเทศญี่ปุ่น(ต่อ) • สรุป: ภาคเกษตรกรรมมีส่วนในการพัฒนาประเทศญี่ปุ่น ดังนี้ • การเพิ่มขึ้นของผลผลิตทางการเกษตร ลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ลดปัญหาการใช้เงินตราต่างประเทศ • การเพิ่มผลิตภาพทางการเกษตร  ผลผลิตมีเพียงพอ  ราคาคงที่ ลดความกดดันในการขึ้นค่าจ้างแรงงาน รักษาต้นทุนการผลิตที่ต่ำ  ส่งออกแข่งขันกับต่างประเทศได้ • 3. ประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มขึ้น  มีแรงงานส่วนเกินจากภาคเกษตรเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม

  17. การนำเข้าและส่งออกสิ่งทอในประเทศญี่ปุ่น ปี ค.ศ.1877-1936 % Source: Francks,P., Boestel,J. and Kim,C.H. (1999) Agriculture and Economic Development in East Asia. back

  18. การเคลื่อนย้ายของแรงงานเกษตรเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นการเคลื่อนย้ายของแรงงานเกษตรเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น Source: Ohkawa and Shimohara (1979) cited by Francks,P., Boestel,J. and Kim,C.H. (1999) Agriculture and Economic Development in East Asia. back

  19. 2.6.2 กรณีศึกษา: การพัฒนาประเทศอินเดียในอดีต แตกต่างจากญี่ปุ่น => ประชากรมากกว่า พื้นที่มากกว่า เหมือนกับญี่ปุ่น => การแบ่งชนชั้นวรรณะ • แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 1 (ค.ศ.1951-56) • เน้นการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรม • ยังคงให้ความสำคัญทางการเกษตรอยู่

  20. ผลผลิตทางการเกษตร  ในขณะที่ประชากร  เกิดการขาดแคลนอาหารภายในประเทศ นำเข้าอาหาร สูญเสียเงินตราต่างประเทศ ขาดดุลการชำระเงิน 2.6.2 กรณีศึกษา: การพัฒนาประเทศอินเดียในอดีต (ต่อ) • แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 2 (ค.ศ.1956-61) • เน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมหนักและคมนาคม • ลดความสำคัญของการปรับปรุงการเกษตรลงอย่างมาก

  21. 2.6.2 กรณีศึกษา: การพัฒนาประเทศอินเดียในอดีต (ต่อ) • แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 3 (ค.ศ.1961-66) • เน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมหนักอย่างต่อเนื่อง • เชื่อในทฤษฎีการผลักดันขนาดใหญ่ของภาคอุตสาหกรรม(Theory of the Big Push) หลักการ: “การลงทุนในอุตสาหกรรม ต้องมีขนาดใหญ่เพียงพอเพื่อที่จะขจัดปัญหาการแบ่งแยกไม่ได้ให้หมดไป (Indivisibilities)” • ใช้เงินลงทุนมากในภาคอุตสาหกรรมและการคมนาคม

  22. การจัดการ การบริหาร สภาพทางสังคม และการขาดแคลนอาหาร 2.6.2 กรณีศึกษา: การพัฒนาประเทศอินเดียในอดีต (ต่อ) ทำไมอินเดียไม่ประสบผลสำเร็จ ? • เนื่องจาก ขาดปัจจัยสนับสนุนในการผลักดัน • เชื่อในทฤษฎีการค้ารปท. =>Comparative Advantage โดยเชื่อว่าอินเดียควรส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมและนำเข้าอาหาร

  23. การแบ่งแยกไม่ได้ (Indivisibility) มี 3 ชนิด • การแบ่งแยกไม่ได้ทางสมการการผลิตหรือด้านอุปทานการผลิต (Indivisibility in Production Function) • เช่น กิจการสาธารณูปโภค: ถนน เขื่อน ไฟฟ้า รถไฟ • เนื่องจาก: 1. เวลา • 2. อุปกรณ์และเครื่องจักร มีราคาแพง • 3. กิจกรรมเหล่านี้ต้องมีให้ครบชุดโดยพร้อมกัน

  24. การจ้างงานเพิ่มขึ้น ประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้น กำลังซื้อ/ตลาดขยายตัว รองรับภาคอุตสาหกรรม การแบ่งแยกไม่ได้ (Indivisibility) มี 3 ชนิด (ต่อ) 2. การแบ่งแยกไม่ได้ทางด้านอุปสงค์ (Indivisibility in Demand) เนื่องจาก: ตลาดสินค้าแคบ (ในประเทศกำลังพัฒนา) การลงทุนกิจการเดี่ยวๆ จะทำให้มีความเสี่ยงสูง การลงทุนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

  25. การลงทุนต่ำ ผลิตภาพต่ำ การออมต่ำ รายได้ต่ำ การแบ่งแยกไม่ได้ (Indivisibility) มี 3 ชนิด (ต่อ) 3. การแบ่งแยกไม่ได้ทางด้านอุปทานในการออม (Indivisibility in the Supply of Savings) Savings = Investment ต้องลงทุนสูงในช่วงแรกๆ เพื่อให้มีการออมเพิ่มขึ้น Back

More Related