2.75k likes | 3.68k Views
งานปฏิบัติการกลางและชันสูตรโรค โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. เคมีคลินิก CLINICAL CHEMISTRY. Topic. ที่มาและความหมายของเคมีคลินิก ความสำคัญของการตรวจวิเคราะห์ทางเคมีคลินิก ประเภทของการตรวจวิเคราะห์ทางเคมีคลินิก. What is clinical chemistry ???.
E N D
งานปฏิบัติการกลางและชันสูตรโรคงานปฏิบัติการกลางและชันสูตรโรค โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เคมีคลินิกCLINICAL CHEMISTRY
Topic • ที่มาและความหมายของเคมีคลินิก • ความสำคัญของการตรวจวิเคราะห์ทางเคมีคลินิก • ประเภทของการตรวจวิเคราะห์ทางเคมีคลินิก
คือ การตรวจหาสารต่างๆที่อยู่ในเลือด ปัสสาวะ และสารน้ำต่างๆที่มาจากร่างกายของคนเราโดยใช้วิธีทางเคมี Clinical chemistry เคมีคลินิก
ความเป็นมาของเคมีคลินิกความเป็นมาของเคมีคลินิก • สมัยก่อน - การตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการใช้วิธี manual เช่น การตรวจหาน้ำตาลในเลือด ใช้วิธีต้ม การตรวจหาสารบางชนิด เช่น เอนไซม์ ใช้วิธีวัดค่าการดูดกลืนแสง โดยใช้ เครื่องวัดการดูดกลืนแสง (spectrophotometer)
ความเป็นมาของเคมีคลินิกความเป็นมาของเคมีคลินิก • สมัยก่อน
ความเป็นมาของเคมีคลินิกความเป็นมาของเคมีคลินิก • ข้อดีของวิธี manual - ต้นทุนต่ำ - ปัจจุบันยังคงใช้ในบางโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลชุมชน
ความเป็นมาของเคมีคลินิกความเป็นมาของเคมีคลินิก • ข้อเสียของวิธี manual - ใช้เวลาในการตรวจวิเคราะห์นานทำให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้ล่าช้า - มีความเสี่ยงสูงต่อบุคลากร - ระยะเวลาจำกัด จำนวนจำกัด
ความเป็นมาของเคมีคลินิกความเป็นมาของเคมีคลินิก • ปัจจุบัน - การตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ - อ้างอิงจากหลักการของวิธี manual - เครื่องมือที่ใช้ในการตรวจวิเคราะห์เป็นเครื่องวิเคราะห์อัตโนมัติ
ความเป็นมาของเคมีคลินิกความเป็นมาของเคมีคลินิก
ความเป็นมาของเคมีคลินิกความเป็นมาของเคมีคลินิก • ข้อดีของเครื่องวิเคราะห์อัตโนมัติ - ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้เร็วขึ้น - ทำได้หลายการทดสอบพร้อมๆกัน ครั้งละมากๆ - ลดความเสี่ยงของบุคลากร
ความเป็นมาของเคมีคลินิกความเป็นมาของเคมีคลินิก • ข้อเสียของเครื่องวิเคราะห์อัตโนมัติ - ต้นทุนสูง - ต้องมีการบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพที่พร้อม ใช้งานเสมอ
ความสำคัญของการตรวจวิเคราะห์ทางเคมีคลินิกความสำคัญของการตรวจวิเคราะห์ทางเคมีคลินิก • เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรค • เพื่อช่วยในการติดตามผลการรักษา • เพื่อตรวจกรองในกลุ่มประชากรที่ไม่มีอาการ • เพื่อการพยากรณ์โรค • เพื่อการวิจัยทางการแพทย์ • เพื่อตรวจสุขภาพร่างกาย
สาระน่ารู้ทางเคมี • หน่วยที่ใช้รายงานผล • ค่าปกติ(Normal Range)และค่าวิกฤต (Critical Value)
หน่วยที่ใช้รายงานผล • หน่วยมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลกคือ ระบบเมตริกที่มีชื่อว่า The International System of Units หรือ SI Unit
หน่วยที่ใช้รายงานผล • หลักเกณฑ์โดยย่อสำหรับการรายงานค่าของสารเคมีในเลือดโดยใช้ระบบ SI มีดังนี้ 1. ปริมาตรให้รายงานเป็นลิตร (L) เช่น ปัสสาวะ 3 L หมายถึง ปัสสาวะจำนวน 3 ลิตร
หน่วยที่ใช้รายงานผล 2. ความเข้มข้นของสารให้รายงานดังนี้ 2.1 น้ำหนักหรือมวลต่อลิตรเช่น g/l = กรัมต่อลิตร mg/l = มิลลิกรัมต่อลิตร g/l = ไมโครกรัมต่อลิตร mg/dl = มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
หน่วยที่ใช้รายงานผล 2.2 จำนวนสารต่อลิตรเช่น mol/l = โมลต่อลิตร mmol/l = มิลลิโมลต่อลิตร mol/l = ไมโครโมลต่อลิตร mEq/l = มิลลิอิควิวาเลนซ์ต่อลิตร
หน่วยที่ใช้รายงานผล 3. หน่วยอื่นๆ เช่น U/L =ยูนิตต่อลิตร ตัวอย่าง - กลูโคส 89 mg/dl อ่านว่า??? - โซเดียม 145 mmol/l อ่านว่า??? - แมกนีเซียม 1.89 mEq/l อ่านว่า?? - เอนไซม์อะไมเลส150 U/L อ่านว่า??
ค่าปกติ(Normal Range)และค่าวิกฤต(Critical Value) • ค่าปกติ (Normal Range)หรือค่าอ้างอิง (Reference Value) คืออะไร?? คือค่าของผลการทดสอบที่ได้จากลุ่มประชากรที่มีสุขภาพดีได้เป็นช่วงค่าปกติ • ค่าวิกฤต(Critical Value)คืออะไร?? คือค่าผลการทดสอบที่ผิดปกติของผู้ป่วย ที่ต้องรีบแจ้งแก่แพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อให้วางแผนการรักษาได้ทันท่วงที
ความสำคัญของค่าปกติและค่าวิกฤตความสำคัญของค่าปกติและค่าวิกฤต • ค่าปกติ (Reference Value) - ใช้ตัดสินเบื้องต้นว่าปกติหรือผิดปกติ - ช่วยในการวินิจฉัยโรค - เพื่อการวิจัยทางการแพทย์ • ค่าวิกฤต (Critical Value) - เพื่อให้แพทย์วางแผนการรักษาได้ทันท่วงที
ค่าวิกฤต(Critical Value) ทางเคมีคลินิก • ค่าวิกฤต (Critical value) เป็นผลการตรวจวิเคราะห์ที่มีค่าสูงหรือต่ำกว่าที่อ้างอิงในระดับที่มีผลกระทบต่อผู้ป่วยจนเป็นอันตรายได้ • กำหนดโดยแพทย์ร่วมกับห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง • ต้องรีบแจ้งแพทย์โดยด่วน
การตรวจวิเคราะห์ทางเคมีคลินิกการตรวจวิเคราะห์ทางเคมีคลินิก
การตรวจวิเคราะห์ทางเคมีคลินิกการตรวจวิเคราะห์ทางเคมีคลินิก • การตรวจน้ำตาลในเลือด (Fasting blood sugar,FBS) • การตรวจการทำงานของไต (Kidney function test) • การตรวจหาความผิดปกติของเกลือแร่และสมดุลกรด-ด่าง (Electrolyte and Elements) • การตรวจการทำงานของตับ (Liver function test,LFT)
การตรวจวิเคราะห์ทางเคมีคลินิกการตรวจวิเคราะห์ทางเคมีคลินิก • การตรวจหาความผิดปกติของไขมันในเลือด (Lipid profile) • การประเมินภาวะโรคหัวใจ (Cardiac marker) • การตรวจภาวะโรคเกาต์ (Gout) • การตรวจวิเคราะห์เหล็กที่สะสมในร่างกาย (Iron) • การตรวจวิเคราะห์อื่นๆ
น้ำตาลในเลือด (Blood sugar) • น้ำตาลในเลือด = น้ำตาลกลูโคส (glucose) • กลูโคสเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญที่สุดในการดำรงชีวิต • กลูโคสในเลือดได้มาจากอาหารและจากการเปลี่ยนจากคาร์โบไฮเดรตที่สะสมไว้ที่ตับ(ไกลโคเจน)
น้ำตาลในเลือด (Blood sugar) • มีฮอร์โมนสำคัญที่ควบคุมระดับกลูโคสในเลือด คือ อินซูลิน • น้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลงตามเวลาหลังรับประทานอาหาร
การตรวจน้ำตาล(กลูโคส)ในเลือดการตรวจน้ำตาล(กลูโคส)ในเลือด • การย่อยสลายกลูโคส เลือด (กลูโคส) ตับ (ไกลโคเจน)
การตรวจน้ำตาลในเลือด • ดูความผิดปกติของกลไกการจัดการกับกลูโคสในเลือดที่เกิดจาก • ตับอ่อนสร้างอินซูลินไม่พอ • ลำไส้ดูดซึมกลูโคสไม่ดี • ตับสะสมและสลายกลูโคสออกมาใช้งานได้ไม่ดี • ทุกๆกรณีที่น้ำตาลในเลือด กว่าปกติ = เบาหวาน
การตรวจน้ำตาลในเลือด • ค่าปกติ Glucose = 70 – 110 mg/dl • ค่าวิกฤต Glucose < 40 mg/dl > 450 mg/dl
การตรวจน้ำตาลในเลือด • ศัพท์ที่ควรรู้ - Blood Sugar =ระดับน้ำตาลในเลือด - Fasting Blood Sugar (FBS) = ระดับน้ำตาลในเลือดหลังจากงดอาหารอย่างน้อย 6-8ชั่วโมง
การตรวจน้ำตาลในเลือด • เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรคเบาหวาน • ติดตามผลการรักษาโรคเบาหวาน • ภาวะอ่อนเพลีย เป็นลม เนื่องจากขาดน้ำตาล
การตรวจน้ำตาล(กลูโคส)ในปัสสาวะการตรวจน้ำตาล(กลูโคส)ในปัสสาวะ • เพื่อให้เรารู้คร่าว ๆ ว่าสามารถควบคุมโรคเบาหวานได้ดีเพียงใด • ในคนปกติจะไม่พบน้ำตาลในปัสสาวะ • คำศัพท์ที่ควรรู้ - Urine glucose = การตรวจน้ำตาลในปัสสาวะ
การตรวจน้ำตาล(กลูโคส)ในปัสสาวะการตรวจน้ำตาล(กลูโคส)ในปัสสาวะ • ทำไมปัสสาวะแล้วมดตอม ??? • เกิดความผิดปกติกับไตซึ่งปล่อยให้น้ำตาลออกมาพร้อมกับปัสสาวะ • มักพบในผู้ป่วยเบาหวานและผู้ป่วยโรคไต
ไต(Kidney) • ไตมี 2 อันลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว • ขนาดประมาณกำปั้น • อยู่ข้างกระดูกสันหลังบริเวณบั้นเอว
หน้าที่ของไต(kidney function) • กรองเลือดที่ผ่านไต โดยไม่ให้สารโมเลกุลใหญ่ผ่านออกมากับน้ำกรอง • ดูดกลับสารต่างๆที่ร่างกายต้องการและขับของเสียออกรวมกับน้ำในรูปของปัสสาวะ • ควบคุมสมดุลกรดด่างและเกลือแร่ในร่างกาย
หน้าที่ของไต(kidney function) • กรองเลือด - ไม่ยอมให้สารในโมเลกุลใหญ่ผ่านออกไปเช่น เซลล์ต่างๆ โปรตีนโมเลกุลใหญ่ - ยอมให้สารโมเลกุลเล็กๆผ่านออกไปพร้อมกับน้ำเช่นพวกเกลือแร่ต่างๆยูเรีย(urea)
การตรวจการทำงานของไต (Kidney function test) • กรองโปรตีน : พบโปรตีนในปัสสาวะ
การตรวจการทำงานของไต (Kidney function test) • Urine protein • โปรตีนในปัสสาวะ • ปกติพบโปรตีนในปัสสาวะได้เล็กน้อย คือ น้อยกว่า 10 mg/dlหรือ น้อยกว่า 150 mg/24hrs. • ภาวะที่มีโปรตีนในปัสสาวะมากกว่า 150 mg/24hrs. เรียกว่า Proteinuria
การตรวจการทำงานของไต (Kidney function test) Testที่ใช้ตรวจคือ • Urine protein - Random urine - 24 hrs. urine • Urine microalbumin - Microalbumin = mAlb
การตรวจการทำงานของไต (Kidney function test) • Urine protein • โปรตีนในปัสสาวะ • การตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะอาจเกิดจาก • 1.สาเหตุที่ไม่เกี่ยวข้องกับไต ได้แก่ การออกกำลังกายมาก ผู้ที่เป็นไข้ ผู้ป่วยที่มีเนื้องอกในช่องท้อง เป็นต้น • 2.สาเหตุจากพยาธิสภาพภายในไตโดยตรง
การตรวจการทำงานของไต (Kidney function test) • Urine protein - Random urine - 24 hrs. urine
การตรวจการทำงานของไต (Kidney function test) • Urine microalbumin หมายถึง ระดับอัลบูมินที่มากกว่า ปกติเล็กน้อยออกมาในปัสสาวะ แต่ยังตรวจไม่พบโดยวิธีLabstix หรือ Dipstick
การตรวจการทำงานของไต(Kidney function test) • ความสำคัญของการตรวจ Urine microalbumin - ประเมินสภาพทางไตและติดตามการรักษาผู้ป่วย โรคเบาหวาน- ประเมินสภาพทางไตและติดตามการรักษาผู้ป่วยโรค ความดันโลหิตสูง
การตรวจการทำงานของไต(Kidney function test) • Urine microalbumin • 0-4 mg/dl (Random urine) • 0-30 mg/24hrs. (Urine 24hrs.)
การตรวจการทำงานของไต (Kidney function test) • การดูดกลับและการขับของเสีย • ของเสียที่ไตขับออกมาที่สำคัญ คือ ยูเรีย(urea) ครีเอตินีน(creatinine) และกรดยูริค (uric acid)