760 likes | 1.05k Views
การประกันภัยความรับผิด Liability Insurance. โดย เลิศชาย ประภาศิริรัตน์. 14/03/2553. Liability Insurance.
E N D
การประกันภัยความรับผิดการประกันภัยความรับผิด Liability Insurance โดย เลิศชาย ประภาศิริรัตน์ 14/03/2553
Liability Insurance จะเป็นกรมธรรม์ที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดตามกฎหมายของผู้เอาประกันภัยต่อผู้อื่น เป็นเหตุให้บุคคลภายนอกเสียชีวิต บาดเจ็บ และความเสียหายต่อทรัพย์สิน ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่าย และค่าธรรมเนียนในการต่อสู้คดีความต่าง ๆ ในทางแพ่ง
ข้อกฎหมายเกี่ยวกับความรับผิดจากการละเมิดข้อกฎหมายเกี่ยวกับความรับผิดจากการละเมิด มาตรา 420 ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิ อย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น มาตรา 421 การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่นนั้น ท่านว่าเป็นการอันมิชอบด้วยกฎหมาย
ความประมาทเลินเล่อ (Negligence) ประมาทเลินเล่อคือ การกระทำโดยไม่จงใจแต่ไม่ใช้ความระมัดระวังตามสมควรที่จะกระทำ การกระทำโดยประมาท ได้แก่ การกระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา แต่กระทำโดยปราศจากความระมักระวัง เช่นว่าบุคคลในภาวะเช่นนี้จำต้องมีวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้เพียงพอไม่ การกระทำประมาทเลินเล่อ(Negligence Act) คือ การกระทำผิดวิสัยของวิญญูชน ที่ปรกติของวิญญูชนที่ใช้ความระมัดระวังในพฤติการณ์ วิชาชีพ กิจการ คุณวุฒิ วัยวุฒิ พึงกระทำ วิสัยวิญญูชน คือ การที่บุคคลที่อยู่มลภาวะนั้นๆ ควรจะมีความระมัดระวังระดับใด
ละเมิด (Tort) การกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้เขา (ผู้ถูกกระทำ) เสียหายแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี กฎหมายถือว่าผู้นั้นทำละเมิดจะต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการละเมิดนั้น
ละเมิดต้องประกอบด้วยหลัก 3 ประการ 1 กระทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย ซึ่งหมายถึงการประทุษกรรม กระทำต่อบุคคลโดยผิดกฎหมาย ด้วยอาการฝ่าฝืนต่อกฎหมายที่ห้ามไว้ หรือละเว้นไม่กระทำในสิ่งที่กฎหมายบัญญัติให้กระทำหรือตนมีหน้าที่ตามกฎหมายจะต้องกระทำโดยจงใจหรือประเมินเลินเล่อ เป็นต้นว่า ฆ่าเขาตาย, ทำร้ายร่างเขา, ขับรถโดยประมาท ชนคนตายและทรัพย์สินของเขาเสียหาย ฯลฯ 2 กระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ กระทำโดยจงใจ คือการกระทำโดยรู้สำนึกและในขณะเดียวกันก็รู้ว่าจะทำให้เขาเสียหาย เช่น เจตนาฆ่าเขา หรือเจตนาทำร้ายเขา ฯลฯ 3 ทำให้บุคคลอื่นเสียหาย โดยปกติผู้กระทำย่อมต้องรับผิดชอบเฉพาะการกระทำของตน แต่อย่างไรก็ดีในเรื่องละเมิดถ้าได้มีการกระทำละเมิดร่วมกัน หรือแม้มิได้ร่วมแต่เป็นผู้ยุยงส่งเสริมหรือช่วยเหลือในการกระทำละเมิด ดังนี้ บุคคลเหล่านั้นจะต้องร่วมกันรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น
อายุความ • ต้องใช้สิทธิเรียกร้องภายใน ๑ ปี นับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้ถึง การละเมิด และรู้ตัวผู้จะพึงใช้ค่าสินไหมทดแทน 2. อย่างไรก็ตามห้ามเกิน ๑๐ ปี นับแต่วันทำละเมิด
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การประกันภัยค้ำจุน เป็นวินาศภัยอย่างหนึ่ง ซึ่งมิได้มีวัตถุแห่งการประกันภัยเป็นตัวทรัพย์สินโดยตรง แต่เป็นความรับผิด ซึ่งผู้เอาประกันภัยต้องชำระหนี้แก่ผู้อื่น ซึ่งเป็นความเสียหายที่สามารถประมาณเป็นเงินได้ ภายใต้ การประกันภัยค้ำจุน นั้นจะมีข้อบังคับบัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๘๘๗ และ ๘๘๘
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตามมาตรา ๘๘๗ บัญญัติว่า “ อันว่าประกันภัยค้ำจุนนั้นคือสัญญาประกันภัยซึ่งผู้รับประกันภัยตกลงว่าจะใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของผู้เอาประกันภัย เพื่อความวินาศภัยอันเกิดขึ้นแก่บุคคลอีกคนหนึ่งและซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบ บุคคลผู้ต้องเสียหายชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนตามที่ตนควรจะได้รับนั้นจากผู้รับประกันภัยโดยตรง แต่ค่าสินไหมทดแทนเช่นว่านี้หาอาจจะคิดเกินไปกว่าจำนวนเงินอันผู้รับประกันภัยจะพึงต้องใช้ตามสัญญานั้นได้ไม่ นคดีระหว่างผู้เสียหายกับผู้รับประกันภัยนั้น ท่านให้ผู้ต้องเสียหายเรียกตัวผู้เอาประกันภัยเข้ามาในคดีด้วย อนึ่ง ผู้รับประกันภัย แม้จะได้ส่งเงินค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยแล้ว ก็ยังหาหลุดพ้นจากความรับผิดต่อบุคคลผู้ต้องเสียหายนั้นไม่ เว้นแต่ตนจะพิสูจน์ได้ว่าค่าสินไหมทดแทนนั้นผู้เอาประกันภัยได้ใช้ให้แก่ผู้ต้องเสียหายแล้ว”
ตามมาตรา ๘๘๘ บัญญัติว่า “ถ้าค่าสินไหมทดแทนอันผู้รับประกันภัยได้ใช้ไปโดยคำพิพากษานั้นยังไม่คุ้มค่าวินาศภัยเต็มจำนวนไซร์ ท่านว่าผู้เอาประกันภัยก็ยังคงต้องรับใช้จำนวนที่ยังขาด เว้นแต่บุคคลผู้ต้องเสียหายจะได้ละเลยเสียไม่เรียกตัวผู้เอาประกันภัยเข้ามาสู่คดีด้วยดังกล่าวไว้ในมาตราก่อน” ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ภัยที่รับเสี่ยงภายใต้การประกันภัยค้ำจุนภัยที่รับเสี่ยงภายใต้การประกันภัยค้ำจุน ภัยที่ผู้รับประกันภัยรับเสี่ยงหรือเงื่อนไขแห่งหนี้ทางฝ่ายผู้รับประกันภัยคือความรับผิดที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบในวินาศภัยที่เกิดขึ้นแก่ผู้อื่น ซึ่งอาจเกิดขึ้นโดยมูลหนี้ใดๆ ตามกฎหมาย ได้แก่ • สัญญา (Contract) • บทกฎหมายบัญญัติ (Statute) • ละเมิด (Torts)
ละเมิด ในแง่ของกฎหมายแล้วละเมิดเป็น นิติเหตุ ที่ก่อให้ “สิทธิเกิดการเรียกร้อง” หรือ “หนี้” ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๔๒๐- มาตรา ๔๓๗ โดยในมาตรา ๔๒๐ ได้วางหลักเกณฑ์ละเมิดไว้ดังนี้ “ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ กระทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อานามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นกระทำผิด จำต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น”
สิทธิของผู้เสียหายภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งฯสิทธิของผู้เสียหายภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งฯ บุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายเพราะผู้เอาประกันภัยก่อวินาศภัยอันต้องรับผิดขึ้นนั้น ตามมาตรา ๘๘๗ วรรค ๒ บัญญัติว่า “ ชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนตามที่ตนควรจะได้รับนั้นจากผู้รับประกันภัยโดยตรง แต่ค่าสินไหมทดแทนเช่นว่านี้หาอาจจะคิดเกินไปกว่าจำนวนเงินอันผู้รับประกันภัยจะพึงต้องใช้ตามสัญญานั้นได้ไม่ นคดีระหว่างผู้เสียหายกับผู้รับประกันภัยนั้น ท่านให้ผู้ต้องเสียหายเรียกตัวผู้เอาประกันภัยเข้ามาในคดีด้วย อนึ่ง ผู้รับประกันภัย แม้จะได้ส่งเงินค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยแล้ว ก็ยังหาหลุดพ้นจากความรับผิดต่อบุคคลผู้ต้องเสียหายนั้นไม่ เว้นแต่ตนจะพิสูจน์ได้ว่าค่าสินไหมทดแทนนั้นผู้เอาประกันภัยได้ใช้ให้แก่ผู้ต้องเสียหายแล้ว”
การรับช่วงสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งฯการรับช่วงสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ ในการประกันภัยค้ำจุนผู้เอาประกันภัยเป็นผู้ก่อวินาศภัยขึ้น ฉะนั้นผู้รับประกันภัยจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ผู้เอาประกันภัยเองย่อมทำไม่ได้ แต่อาจมีกรณีที่ผู้รับประกันภัยซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนไปแล้ว อาจรับช่วงสิทธิของผู้รับประกันภัยได้เช่น กรณีที่คนใช้ของผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดต่อผู้เอาประกันภัย ผู้รับประกันภัยอาจไล่เบี้ยเอาจากคนใช้ของผู้เอาประกันภัยได้
การกำหนดเกณฑ์ชดใช้ความเสียหายการกำหนดเกณฑ์ชดใช้ความเสียหาย เกณฑ์ที่ใช้ในการชดใช้ ความเสียหายหมายความรวมถึงความเสียหายโดยตรง(Direct Loss) และความเสียหายต่อเนื่อง(Consequential Loss) สำหรับความเสียหายต่อร่างกาย(Bodily Injury หรือ B.I.) และทรัพย์สิน (Property Damage หรือ P.D.) ในทางปฏิบัติอาจแยกวงเงินของความรับผิด(Limit of Liability) ออกจากกัน หรืออาจกำหนดให้รวมอยู่ในวงเงินเดียวกันเรียกว่า Combined Single Limit หรือ CSL
ลักษณะสำคัญของกรมธรรม์ประเภท Claim Made การกำหนดขอบเขตของกรมธรรม์ว่า “ อุบัติเหตุจะต้องเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาเอาประกันภัยเราจะเรียกประเภทของกรมธรรม์ประเภทนี้ว่า เป็นแบบ Occurrence Policy หากกรมธรรม์ใดมีข้อกำหนดว่าจะต้องมีการแจ้ง Claim ก่อนกรมธรรม์จะมีผลบังคับ เราจะเรียกกรมธรรม์ประเภทนี้ว่าเป็นแบบ Claim Made Policy ลักษณะสำคัญของ Claim Made Policy ประกอบด้วย
ลักษณะสำคัญของกรมธรรม์ประเภท Claim Made • จะต้องมีการแจ้ง Claim ในระหว่างที่กรมธรรม์มีผลบังคับ ผู้ที่แจ้งอาจเป็นบุคคลภายนอกหรือผู้เอาประกันภัยก็ได้ • กรมธรรม์จะไม่มีผลบังคับ หากผู้เอาประกันภัยรู้ก่อนแล้วว่ามีเหตุการณ์ที่จะ Claim ก่อนที่กรมธรรม์จะมีผลบังคับ • กรมธรรม์ที่หมดอายุแล้วไม่มีประโยชน์เหมือนกรมธรรม์แบบ Occurrence เพราะกรมธรรม์ไม่คุ้มครองหากไม่ได้แจ้ง Claim ก่อนกรมธรรม์หมดอายุ
ประเภทของการประกันภัยความรับผิดประเภทของการประกันภัยความรับผิด • การประกันความรับผิดต่อสาธารณะชน(Public Liability Insurance หรือ Comprehensive General Liability Insurance) • การประกันภัยความรับผิดเนื่องจากวิชาชีพ(Professional Indemnity or Liability Insurance) • การประกันความรับผิดเนื่องจากผลิตภัณฑ์(Product Liability Insurance & Product Recall Insurance) • การประกันภัยความรับผิดต่อผลิตภัณฑ์ (Product Guarantee Insurance)
ประเภทของการประกันภัยความรับผิดประเภทของการประกันภัยความรับผิด 5. การประกันความรับผิดของกรรมการและผู้บริหาร (Directors’ and Officers’ Insurance) 6. การประกันภัยความรับผิดเนื่องจากมลภาวะ (Pollution Liability Insurance) • การประกันความรับผิดสำหรับเจ้าของเรือ (Protection and Indemnity Insurance) • การประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอกส่วนบุคคล (Personal Liability Insurance)
ประเภทของการประกันภัยความรับผิดประเภทของการประกันภัยความรับผิด 9. การประกันภัยความรับผิดของผู้ประกอบการขนส่ง (Carrier Liability Insurance) 10. การประกันภัยความรับผิดของผู้ประกอบการขนส่งต่อเนื่อง(Multimodal Transport Operator Liability Insurance) 11. การประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายอันเกิดจากการประกอบกิจการควบคุมประเภท 3 ตามพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง 12. การประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายจากการขนส่งวัตถุอันตรายทางบก
ประเภทของการประกันภัยความรับผิดประเภทของการประกันภัยความรับผิด 13. การประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายที่เกิดจากความบกพร่องในการ ปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานการตรวจสอบตามกฎหมายในฐานะผู้ตรวจสอบอาคาร 14. การประกันภัยความรับผิดตามกหมายที่กำหนดความคุ้มครองควบคู่กับการประกันภัยประเภทต่างๆ เช่น 14.1 กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ 14.2 กรมธรรม์ประกันภัยป้ายโฆษณาสินค้า 14.3 กรมธรรม์ประกันภัยหม้อกำเนิดไอน้ำและถังอัดความดัน 14.4 กรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัยทุกชนิด 14.5 Contract Work Insurance Policy
การประกันความรับผิดต่อสาธารณะชน (Public Liability Insurance) ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมายในหมวดของการประกันภัยค้ำจุน ได้กำหนดกรอบการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ในนามของผู้เอาประกันภัย หรือผู้แทนโยชอบด้วยกฎหมายของผู้เอาประกันภัยเฉพาะกรณีผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต (pay on behalf of ….) ซึ่งจะเป็นแบบ American Form ซึ่งหมายความว่าบริษัทประกันภัยจะจ่ายเงินค่าทดแทนให้กับบุคคลภายนอกในนามของผู้เอาประกันภัย ซึ่งจะแตกต่างกับระบบของประเทศอังกฤษที่จะใช้วิธีให้ผู้เอาประกันภัยจ่ายก่อนแล้วจึงมาเรียกร้องคืนจากบริษัทประกันภัยในภายหลังเราเรียกวิธีนี้ว่าเป็นแบบ Indemnity Form
ขอบเขตความรับผิดของกรมธรรม์ประกันภัยขอบเขตความรับผิดของกรมธรรม์ประกันภัย บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของผู้เอาประกันภัยสำหรับ • จำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดตามกฎหมายที่จะชดใช้เป็นค่าเสียหายสำหรับ 1.1.ความบาดเจ็บต่อร่างกาย หรือความเจ็บป่วยของบุคคลใดๆ 1.2.ความสูญเสียหรือเสียหายต่อทรัพย์สินใดๆ • จำนวนเงินอันเกี่ยวกับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ได้แก่ 2.1. ค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียมในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนซึ่งได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ 2.2. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ได้รับความยินยอมจากบริษัท
ความหมายของคำว่าบุคคลภายนอกความหมายของคำว่าบุคคลภายนอก สำหรับความหมายของคำว่าบุคคลภายนอกนั้นหมายถึง บุคคลใดๆ ซึ่งไม่รวมถึง • ผู้เอาประกันภัย • ลูกจ้างของผู้เอาประกันภัยขณะอยู่ในทางการที่จ้าง • บุคคลผู้ซึ่งในขณะเกิดเหตุอยู่ในระหว่างปฏิบัติงานให้ผู้เอาประกันภัยภายใต้สัญญาว่าจ้าง หรือฝึกงาน • บุคคลในครอบครัว หรือบุคคลที่อยู่ด้วยกันกับผู้เอาประกันภัยซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงหรือโดยอ้อมกับผู้เอาประกันภัย
การกำหนดจำนวนจำกัดความรับผิดของกรมธรรม์แบบ Single Limit ความรับผิดต่อความบาดเจ็บหรือเสียชีวิตสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาทต่อคนและ 5,000,000 บาทต่อเหตุการณ์ ความรับผิดต่อความสูญเสียหรือเสียหายของบุคคลภายนอกสูงสุดไม่เกิน 2,000,000 บาทต่อครั้ง ตลอดระยะเวลาประกันภัยสูงสุดไม่เกิน 10,000,000 บาท
การกำหนดจำนวนจำกัดความรับผิดของกรมธรรม์แบบ Combined Single Limit บริษัทจะรับผิดชดใช้ต่อความสูญเสียหรือเสียหายต่อบุคคลภายนอกในวงเงินจำกัดความรับผิดสูงสุดไม่เกิน 5,000,000 บาทต่อครั้งและตลอดระยะเวลาประกันภัยไม่เกิน 10,000,000 บาท
ขอบเขตความรับผิดตามกฎหมายขอบเขตความรับผิดตามกฎหมาย ภายใต้กรอบความรับผิดตามกฎหมายนั้นจะต้องเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุอันเกี่ยวกับกิจการ หรือธุรกิจของผู้เอาประกันภัยภายใต้ขอบเขตการเสี่ยงภัยที่ได้เอาประกันภัยไว้ และเกิดขึ้นในระยะเวลาประกันภัย ณ อาณาเขตการคุ้มครอง ซึ่งระบุไว้ในกรมธรรม์
อาณาเขตความคุ้มครอง ภายใต้เงื่อนไขแห่งกรมธรรม์จะกำหนดขอบเขตอำนาจการคุ้มครองเฉพาะภายในประเทศไทย หรือใช้อาณาเขตศาลไทย (Thailand Jurisdiction)
ข้อยกเว้นของกรมธรรม์ กรมธรรม์ประกันภัยนี้ไม่คุ้มครอง • ความรับผิดส่วนแรก(Deductible) • ความรับผิดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากคำพิพากษา หรือกระบวนการยุติธรรมที่มิใช่ศาลไทย หรือที่เกิดขึ้นหรือสืบเนื่องจากคำพิพากษาของศาลไทยเพื่อบังคับคดีให้ตัดสินนอกเขตราชอาณาจักรไทย • ความรับผิดซึ่งเกิดขึ้นจากการเป็นเจ้าของ การครอบครอง การดูแล การควบคุม การใช้ หรือการให้สัญญาหรือการชี้แนะโดยผู้เอาประกันภัย หรือในนามของผู้เอาประกันภัยสำหรับยานพาหนะทุกชนิดที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ (รวมทั้งเครื่องจักรหรือยานใดๆ ที่ดันหรือลากโดยเครื่องยนต์)
ข้อยกเว้นของกรมธรรม์ 4. ความรับผิดใดๆ ซึ่งเกิดจาก หรือสืบเนื่องจาก 4.1. การที่ผู้เอาประกันภัยเป็นเจ้าของ ครอบครอง หรือใช้ หรือบำรุงรักษา เครื่องชักรอก ปั้นจั่น ลิฟท์ บันไดเลื่อน หม้อน้ำที่ใช้กำลังไอน้ำ หรือภาชนะอัดความดันไอน้ำท่าเทียบเรือ สะพานเทียบเรือ เว้นแต่จะระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัยภายใต้หัวข้อ“เครื่องจักรกล” 4.2. งานก่อสร้าง งานต่อเติม หรืองานรื้อถอนอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ 4.3.สินค้าหรือสิ่งของใดๆ ซึ่งผลิต ขาย จัดหา ซ่อมแซม บริการ หรือดำเนินการโดยผู้เอาประกันภัยหรือผู้แทนของผู้เอาประกันภัย
ข้อยกเว้นของกรมธรรม์ • ความรับผิดไม่ว่าจะลักษณะใดๆ อันเกิดจาก หรือเป็นผลโดยตรงหรือโดยอ้อมจากกากเคมี ฝุ่น ควัน น้ำท่วม น้ำสกปรก ก๊าซพิษ ของเหลวหรือของแข็งที่เป็นพิษ มลพิษ หรือมลภาวะใดๆ • ความรับผิดใดๆ อันเกิดจากหรือสืบเนื่องจากหรือเป็นผลมาจากแผ่นดินทรุด ความสั่นสะเทือน หรือการเคลื่อนย้ายสิ่งค้ำจุนสิ่งค้ำจุนหรือทำให้สิ่งค้ำจุนอ่อนกำลัง(Vibration Removal Weakening of Support) • ความรับผิดซึ่งเกิดจากสัญญาที่ผู้เอาประกันภัยทำขึ้นซึ่งถ้าไม่มีสัญญาดังกล่าวความรับผิดของผู้เอาประกันภัยจะไม่เกิดขึ้น
ข้อยกเว้นของกรมธรรม์ 8. ความรับผิดอันเกิดจาก 8.1. คำแนะนำหรือบริการทางเทคนิค หรือวิชาชีพใดๆ โดยผู้เอาประกันภัย หรือผู้ที่ทำหน้าที่แทนผู้เอาประกันภัย 8.2. การที่ผู้เอาประกันภัยหรือผู้ที่ทำหน้าที่แทนผู้เอาประกันภัยให้การรักษา เว้นแต่การปฐมพยาบาล 9. การปรับทางแพ่ง อาญา หรือโดยสัญญา
ข้อยกเว้นของกรมธรรม์ 10. ความรับผิดไม่ว่าลักษณะใดๆ อันเกิดจาก หรือเกี่ยวเนื่องมาจาก หรือเป็นผลโดยตรงหรือโดยอ้อมจาก 10.1. สงคราม การรุกราน การกระทำที่มุ่งร้ายของศัตรูต่างชาติ หรือการกระทำที่มุ่งร้ายคล้ายสงคราม(ไม่ว่าจะมีการประกาศหรือไม่ก็ตาม) หรือสงครามกลางเมือง 10.2. การแข็งข้อ การกบฏ การจลาจล การนัดหยุดงาน การยึดอำนาจ การก่อความวุ่นวาย การกระทำของบวนการโจรก่อการร้าย การกระทำของผู้ก่อการร้าย การปฏิวัติ การประกาศกฎอัยการศึก หรือเหตุการณ์ใดๆ ซึ่งจะเป็นเหตุให้มีการประกาศหรือคงไว้ซึ่งกฎอัยการศึก
ข้อยกเว้นของกรมธรรม์ 10.3. การริบ ยึด เกณฑ์ ทำลาย หรือความเสียหายแก่ทรัพย์สินใดโดยคำสั่งของรัฐบาลโดยนิตินัย หรือโดยพฤตินัย หรือของเจ้าหน้าที่ราชการเทศบาล หรือเจ้าหน้าที่ประจำท้องถิ่นในราชอาณาจักรหรือในเขตที่ทรัพย์สินตั้งอยู่ 10.4. อาวุธนิวเคลียร์ 10.5. การแผ่รังสีหรือการแพร่กัมมันตภาพรังสีจากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใดๆ อันเนื่องมาจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ และจากกรรมวิธีใดๆ แห่งการแตกแยกตัวทางนิวเคลียร์ซึ่งดำเนินการติดต่อกันไปด้วยตนเอง
เงื่อนไขทั่วไป • สัญญาประกันภัย • เงื่อนไขบังคับก่อน • การระงับไปแห่งสัญญาตามกรมธรรม์ประกันภัย • การโอนสิทธิตามกรมธรรม์ประกันภัย • หน้าที่ของผู้เอาประกันภัยในการป้องกันภัย • หน้าที่ของผู้เอาประกันในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
เงื่อนไขทั่วไป • การรับช่วงสิทธิ • สิทธิของบริษัท • การจำกัดความรับผิดของบริษัท • การเฉลี่ยความรับผิด • การปรับปรุงเบี้ยประกันภัย • การเลิกสัญญาประกันภัย • การระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการ
สัญญาประกันภัย กรมธรรม์ประกันภัยนี้รวมทั้งตารางกรมธรรม์ประกันภัย ใบคำขอเอาประกันภัยและเอกสารแนบท้ายประกอบสัญญาประกันภัย คำหรือข้อความซึ่งมีความหมายเฉพาะในส่วนใดของสัญญาประกันภัย ให้มีความหมายเฉพาะนั้นโดยตลอด
เงื่อนไขบังคับก่อน บริษัทไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยนี้ เว้นแต่ผู้เอาประกันภัยได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาประกันภัยและเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์ประกันภัย
การระงับไปแห่งสัญญาตามกรมธรรม์ประกันภัยการระงับไปแห่งสัญญาตามกรมธรรม์ประกันภัย กรมธรรม์ประกันภัยนี้จะสิ้นผลบังคับทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ประกอบกิจการ กิจการหรืออาชีพที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย หรือมีการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญอื่นๆ ซึ่งทำให้การเสี่ยงภัยเพิ่มขึ้น เว้นแต่ผู้เอาประกันภัยจะได้แจ้งให้บริษัททราบ
การโอนสิทธิตามกรมธรรม์ประกันภัยการโอนสิทธิตามกรมธรรม์ประกันภัย สิทธิของผู้เอาประกันภัยตามสัญญาประกันภัยนี้ จะโอนได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท เว้นแต่การโอนโดยพินัยกรรมหรือโดยบทบัญญัติของกฎหมาย
หน้าที่ของผู้เอาประกันภัยในการป้องกันภัยหน้าที่ของผู้เอาประกันภัยในการป้องกันภัย ผู้เอาประกันภัยต้องป้องกันหรือจัดให้มีการป้องกันตามสมควร เพื่อมิให้เกิดอุบัติเหตุและต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมายและข้อบังคับของเจ้าหน้าที่ราชการ
หน้าที่ของผู้เอาประกันในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนหน้าที่ของผู้เอาประกันในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ในกรณีที่มีเหตุการณ์ซึ่งอาจก่อให้เกิดการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยนี้ผู้เอาประกันภัยต้อง • แจ้งให้บริษัททราบโดยไม่ชักช้า • ส่งต่อให้บริษัททันทีเมื่อได้รับหมายศาล หรือคำสั่งศาลหรือคำบังคับของศาล • ผู้เอาประกันภัยจะต้องไม่ตกลงยินยอมเสนอหรือสัญญาว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลใดๆโดยไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัท เว้นแต่บริษัทมิได้จัดการต่อการเรียกร้องนั้น • ส่งรายละเอียดและช่วยเหลือตามความจำเป็น เพื่อให้บริษัทตกลงชดใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือต่อสู้ข้อเรียกร้องใดๆ หรือฟ้องคดีได้
การรับช่วงสิทธิ บริษัทมีสิทธิเข้าดำเนินการต่อสู้คดี และมีสิทธิทำการประนีประนอมในนามของผู้เอาประกันภัยต่อการเรียกร้องใดๆ
สิทธิของบริษัท ความรับผิดของบริษัทภายใต้สัญญาประกันภัยนี้ จะไม่เกินจำกัดความรับผิดที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย
การจำกัดความรับผิดของบริษัทการจำกัดความรับผิดของบริษัท ความรับผิดของบริษัทภายใต้สัญญาประกันภัยนี้ จะไม่เกินจำนวนเงินจำกัดความรับผิดที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์
การเฉลี่ยความรับผิด ถ้าในขณะที่เกิดเหตุซึ่งเป็นผลให้มีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยนี้ มีการประกันภัยอื่นคุ้มครองความรับผิดอย่างเดียวกัน บริษัทจะรับผิดต่อค่าเสียหาย ค่าดำเนินคดี ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่เกินอัตราส่วนของบริษัท สำหรับจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเกี่ยวกับความรับผิดนั้น
การปรับปรุงเบี้ยประกันภัยการปรับปรุงเบี้ยประกันภัย ในกรณีที่เบี้ยประกันภัยได้คำนวณจากจำนวนประมาณการที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ ประกันภัยภายในหนึ่งเดือนนับจากวันสิ้นสุดระยะเวลาประกันภัย ผู้เอาประกันภัยต้องจัดส่งรายละเอียดและข้อเท็จจริงเพื่อคำนวณเบี้ยประกันภัยที่ถูกต้อง ถ้าปรากฏว่าจำนวนเบี้ยประกันภัยที่คำนวณได้ แตกต่างจากเบี้ยประกันภัยที่ชำระไว้ก่อนนั้น ผู้เอาประกันต้องชำระเบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมตามส่วนให้แก่บริษัทหรือบริษัทต้องคืนเบี้ยประกันภัยให้แล้วแต่กรณี
การเลิกสัญญาประกันภัยการเลิกสัญญาประกันภัย • บริษัทจะบอกเลิกสัญญาประกันภัยฉบับนี้ได้ด้วยการส่งหนังสือบอกกล่าวล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 15 วันโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนถึงผู้เอาประกันภัยภัยตามที่อยู่ครั้งสุดท้ายที่แจ้งให้บริษัททราบ ในกรณีนี้บริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัย โดยหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่สัญญาประกันภัยนี้ได้ใช้บังคับมาแล้วออกตามส่วน • ผู้เอาประกันภัยจะบอกเลิกสัญญาประกันภัยฉบับนี้ได้โดยแจ้งให้บริษัททราบเป็นหนังสือ และมีสิทธิได้รับเบี้ยประกันภัยคืนหลังจากหักเบี้ยประกันภัยคืนหลังจากหักเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ได้ใช้บังคับมาแล้วออกตามอัตราเบี้ยประกันภัยระยะสั้น
การระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการ ในกรณีที่มีข้อพิพาท ข้อขัดแย้ง หรือข้อเรียกร้องใดๆ ภายใต้ ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ ระหว่างผู้มีสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ตามกรมธรรม์ประกันภัยกับบริษัท และหากผู้มีสิทธิเรียกร้องประสงค์ และเห็นควรยุติข้อพิพาทนั้นโดยวิธีการอนุญาโตตุลาการ บริษัทตกลงยินยอมและให้ทำการวินิจฉัยชี้ขาดโดยอนุญาโตตุลาการตามข้อบังคับกรมการประกันภัยว่าด้วยอนุญาโตตุลาการ