1 / 58

การประเมินผลนโยบาย

การประเมินผลนโยบาย. โดย ผศ. ดร. สุภาวดี มิตรสมหวัง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. มโนทัศน์การประเมิน. Assessment: กระบวนการต่าง ๆ ของการสังเคราะห์ข่าวสารเกี่ยวกับ บุคคล ซึ่งนำไปสู่ การประเมินคุณค่า ตามสภาพการณ์ของบุคคลนั้น ๆ เพื่อให้สามารถอธิบายและเข้าใจบุคคลนั้น ( Brown, 1983:15)

Download Presentation

การประเมินผลนโยบาย

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การประเมินผลนโยบาย โดย ผศ. ดร. สุภาวดี มิตรสมหวัง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

  2. มโนทัศน์การประเมิน • Assessment: กระบวนการต่าง ๆ ของการสังเคราะห์ข่าวสารเกี่ยวกับบุคคลซึ่งนำไปสู่การประเมินคุณค่าตามสภาพการณ์ของบุคคลนั้น ๆ เพื่อให้สามารถอธิบายและเข้าใจบุคคลนั้น (Brown, 1983:15) • Evaluation:กระบวนการค้นหาหรือตัดสินคุณค่าหรือจำนวนของบางสิ่งบางอย่าง โดยใช้มาตรฐานของการประเมิน รวมทั้งการตัดสินโดยอาศัยเกณฑ์ภายในและ/หรือเกณฑ์ภายนอก(Good, 1973: 220)

  3. การประเมินผลในฐานะที่เป็นงานวิจัยการประเมินผลในฐานะที่เป็นงานวิจัย • Suchman ได้พัฒนาการประเมินให้มีความเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น โดยการนำเอาระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์เข้ามาประยุกต์ใช้สำหรับการประเมินนโยบายและแผนงานทางด้านสาธารณะสุข • แม้จะมีการนำเอาวิธีการวิจัยมาใช้ในการประเมิน แต่การวิจัยประเมินและการประเมินไม่เหมือนกัน เนื่องจากการวิจัยประเมินไม่มีการตัดสินให้คุณค่าโดยบุคคลของผู้ประเมิน

  4. การประเมินในฐานะที่เป็นงานวิจัยการประเมินในฐานะที่เป็นงานวิจัย • Evaluation เป็นคำที่ใช้ในการอธิบายและตัดสินคุณสมบัติบางอย่างของบุคคลหรือกลุ่มบุคคล รวมทั้งกระบวนการและโครงการต่างๆ ว่ามีความเหมาะสม เป็นที่ยอมรับได้ในระดับสากลหรือไม่ • กระบวนการประเมินผลประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คือ - การเลือกสิ่งที่ต้องการประเมิน - การพัฒนาและการใช้กระบวนการเพื่ออธิบายสิ่งที่ต้องการประเมินนั้นอย่างถูกต้องแม่นยำ - การสังเคราะห์หลักฐานที่เป็นผลจากกระบวนการเหล่านี้ไปสู่การตัดสินใจขั้นสุดท้าย

  5. ความหมายของการประเมินนโยบายความหมายของการประเมินนโยบาย • การประเมินนโยบาย คือ ขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการนโยบาย ซึ่งจะให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินการตามนโยบาย หรือ ผลการดำเนินการตามนโยบายว่า ตอบสนองความต้องการ หรือ มีคุณค่าหรือไม่เพียงใด

  6. การประเมินผลนโยบาย • Andersons กล่าวว่า การประเมินผลนโยบาย หมายถึง กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประมาณการณ์ การเปรียบเทียบผลของการนำนโยบายไปปฏิบัติกับสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้น กิจกรรมเหล่านี้เป็นกิจกรรมทีกระทำอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา • Dye กล่าวว่า การประเมินนโยบาย หมายถึง การเรียนรู้เกี่ยวกับผลที่เกิดขึ้นเนื่องจากนโยบายสาธารณะ

  7. ความสัมพันธ์ระหว่าง นโยบาย แผนงานและโครงการ • โดยปกติ นโยบาย แผนงาน และโครงการจะมีความสัมพันธ์กัน 3ลักษณะคือ - ความสัมพันธ์ด้านโครงสร้าง - ความสัมพันธ์ด้านวัตถุประสงค์และผลงาน และ - ความสัมพันธ์ด้านบริหาร

  8. ความสัมพันธ์ระหว่าง นโยบาย แผนงานและโครงการ • ความสัมพันธ์ด้านโครงสร้าง - นโยบายใดจะสามารถปฏิบัติได้ จำเป็นต้องมีแผนงานและโครงการเป็นตัวรองรับ ตัวแผนงานจะเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างนโยบายกับการนำไปปฏิบัติให้เห็นเป็นรูปธรรม และ เมื่อมีแผนงานก็ต้องมีกิจกรรมและการดำเนินการตามกิจกรรมที่กำหนดขึ้น ซึ่งส่วนมากต้องอาศัย งบประมาณ กำลังคน และเครื่องมือในการดำเนินการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ในวัตถุประสงค์ นโยบายที่ดีต้องมีแผนงานและโครงการที่สอดรับกันรองรับ นโยบายจึงจะบรรลุเป้าหมายและเกิดเป็นผลงานที่ชัดเจน

  9. ความสัมพันธ์ระหว่าง นโยบาย แผนงานและโครงการ • ความสัมพันธ์ด้านวัตถุประสงค์และผลงาน - ตามปกติเมื่อนโยบายถูกแปลงเป็นแผนงานและโครงการ จะมีการกำหนดวัตถุประสงค์หลักและวัตถุประสงค์รองในแต่ละแผนงาน และโครงการด้วย เพื่อให้ผู้ปฏิบัติมีทิศทางของการปฏิบัติตามนโยบายที่ชัดเจน สิ่งที่ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งคือ วัตถุประสงค์ทั้งระดับแผนงานและโครงการต้องมีความสอดคล้องและสนับสนุนซึ่งกันและกัน

  10. ความสัมพันธ์ระหว่าง นโยบาย แผนงานและโครงการ • ความสัมพันธ์ด้านการบริหาร - นโยบายจะบรรลุผล ต้องมีกระบวนการบริหารแผนงานและโครงการที่ดี ปรากฏในรูปของการวางระบบงานที่ชัดเจน จัดเตรียมบุคลากรให้เหมาะสม ดูความสอดคล้องของเวลาที่มีและปริมาณแผนงาน/โครงการที่ต้องดำเนินการ รวมตลอดจนการจัดเตรียมทรัพยากรสำหรับการดำเนินการตามแผนด้วย

  11. ความจำเป็นที่ต้องประเมินนโยบายความจำเป็นที่ต้องประเมินนโยบาย • เพื่อให้ทราบว่า แผนงาน มาตรการและโครงการสอดรับกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และ ยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้หรือไม่ • เพื่อตรวจสอบว่าสิ่งที่องค์กรทำเกิดผลที่ต้องการ • เพื่อให้ทราบว่าสิ่งที่ดำเนินการบรรลุเป้าประสงค์ที่กำหนดไว้ (ผลลัพธ์) • เพื่อประมวลบทเรียนที่ดีที่เกิดขึ้นกับการดำเนินการตามนโยบาย • เพื่อนำจุดบกพร่องกลับมาแก้ไขในขณะที่ดำเนินนโยบายได้ทันท่วงที • เพื่อพัฒนานโยบายใหม่ให้ครอบคลุมผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders)ที่มากขึ้น

  12. พัฒนาการของการประเมินพัฒนาการของการประเมิน มี 7ยุค คือ • ยุครุ่งอรุณแห่งความเรืองปัญญา (คศ. 1600-1800) - William Petty & Thomas Hobbsพัฒนาความคิดคณิตศาสตร์การเมือง โดยใช้ข้อมูลตัวเลขเป็นมาตรวัดการประเมินเงื่อนไขปัญหาทางสังคม เป็นจุดกำเนิดของการใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ ตัวอย่างข้อมูลที่ใช้ได้แก่ ตัวเลขอัตราการเกิดอัตราการตาย อัตราการเจ็บป่วย การย้ายถิ่น เป็นต้น

  13. พัฒนาการของการประเมินพัฒนาการของการประเมิน มี 7ยุค คือ • ยุคการสร้างแนวคิดการวัดและการประเมิน (ค.ศ. 1801-1900) ราชสำนักแต่งตั้งคณะบุคคลติดตามงานด้านการศึกษาของประเทศ หลังจากนั้นเริ่มมีการเก็บข้อมูลติดตามวิเคราะห์ปัญหาสังคมและรายงานผลอย่างตรงไปตรงมา เป็นต้นกำเนิดของการรวบรวมข้อมูลเพื่อติดตามการทำงานโครงการต่าง ๆ ของราชสำนัก ในสหรัฐอเมริกาได้นำมาใช้เช่นกัน เป็นผู้ตรวจสอบภายนอกของรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อติดตาม ควบคุม ตรวจสอบโครงการ ต่าง ๆที่ใช้เงินของรัฐ

  14. พัฒนาการของการประเมินพัฒนาการของการประเมิน มี 7ยุค คือ • ยุคการสร้างแนวคิดการวัดและการประเมิน (ค.ศ. 1801-1900) - ในยุคนี้เริ่มมีการสร้างแนวคิดเรื่องการวัดผลทางการศึกษา เพื่อวิเคราะห์ผลสำเร็จของโครงการ คนริเริ่มคือ Joseph M. Rice เป็นคนแรกที่สร้างระบบการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเด็กที่เข้าโครงการโปรแกรมการสอนวิธีสะกดคำของโรงเรียนต่าง ๆ โดยใช้คะแนนสอบเป็นเกณฑ์วัดการสอน สิ่งที่พบคือ ช่วงเวลาสอนไม่ได้ทำให้เด็กสะกดได้ดีขึ้น แสดงว่า โรงเรียนใช้เวลาไม่มีประสิทธิภาพ

  15. พัฒนาการของการประเมินพัฒนาการของการประเมิน มี 7ยุค คือ • ยุคการวัดและการประเมินประสิทธิภาพ (ค.ศ. 1901-1930) เป็นยุคที่มีการปฏิรูปการบริหารการศึกษา จึงจำเป็นต้องสร้างเครื่องมือในการประเมินประสิทธิภาพของครูและโรงเรียน มีการสร้างเครื่องมือในการวัดคุณภาพการสอนมาตรฐาน เครื่องมือวัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษามาตรฐาน งานที่มีชื่อเสียงคือ งานของ Robert Thorndike ซึ่งถือเป็นบิดาของการทดสอบ

  16. พัฒนาการของการประเมินพัฒนาการของการประเมิน มี 7ยุค คือ • ยุคการวัดและการประเมินประสิทธิภาพ (ค.ศ. 1901-1930) - หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 มีความก้าวหน้าในด้านการพัฒนาแบบทดสอบมาตรฐาน ทำให้เกิดศูนย์ศึกษาการประเมินในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย • ยุคประเมินอิงวัตถุประสงค์ (ค.ศ. 1931-1945) เป็นยุคของการปฏิรูปการศึกษา มีโครงการเกิดขึ้นมากมาย จึงจำเป็นต้องประเมินว่าโครงการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่ บุคคลที่มีบทบาทสำคัญ คือ Ralph W. Tylor

  17. พัฒนาการของการประเมินพัฒนาการของการประเมิน มี 7ยุค คือ • ยุคการประเมินโดยใช้แบบสอบมาตรฐาน (ค.ศ. 1946-1957) - มีความเชื่อว่า การศึกษาที่ดีต้องมีเกณฑ์มาตรฐานที่ชัดเจน มีการพัฒนาระบบการจำแนกวัตถุประสงค์ในการเรียนรู้ของเด็กให้ชัดเจน ในด้านโครงการทางสังคมก็มีการสร้างระบบตรวจสอบและควบคุมการใช้เงินภาษีอากรเพื่อจัดทำโครงการสังคมสงเคราะห์ต่าง ๆ เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจ

  18. พัฒนาการของการประเมินพัฒนาการของการประเมิน มี 7ยุค คือ • ยุคการขยายตัวของทฤษฎีการประเมิน (ค.ศ. 1958-1972) ความสำเร็จของรัสเซียในการยิงจรวดสปุกท์นิคขึ้นสู่อวกาศ ทำให้สหรัฐอเมริการเริ่มหันมาปฏิรูปการศึกษาในประเทศ มีการพัฒนาหลักสูตรใหม่ ๆ ขึ้นใช้ในโรงเรียนทั่วประเทศ ทำให้ต้องมีการประเมินหลักสูตร และประเมินการใช้เงินเพื่อการปฏิรูปการศึกษา รัฐบาลสมัย John F. Kennedy กำหนดให้มีการประเมินผลการใช้เงิน จึงมีการกำหนดมโนทัศน์การประเมินเป็นครั้งแรก แต่ขาดตัวแบบที่ดีสำหรับการประเมิน

  19. พัฒนาการของการประเมินพัฒนาการของการประเมิน มี 7ยุค คือ • ยุคการขยายตัวของทฤษฎีการประเมิน (ค.ศ. 1972-1983) - นักการศึกษาจึงได้พยายามเสนอแนวคิดสำหรับการประเมิน เช่น Scriven เสนอการประเมินแบบ Formative กับ Summative, Stufflebeam เสนอ CIPP Model, Provus เสนอการวิเคราะห์ความสอดคล้องและความไม่สอดคล้องระหว่างผลลัพธ์ของโครงการและมาตรฐานที่กำหนด

  20. พัฒนาการของการประเมินพัฒนาการของการประเมิน มี 7ยุค คือ • ยุคเป็นวิชาชีพ (ค.ศ. 1983-ปัจจุบัน) - เป็นยุคของการสร้างมาตรฐานการประเมิน การกำหนดแนวทางการประเมินที่เป็นวิชาชีพ ทำให้มีการสร้างกรอบการประเมิน และกำหนดจริยธรรมในการทำงานที่ชัดเจน มีการสอนและการวิจัยอย่างแพร่หลาย มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านวารสารทางวิชาการเป็นจำนวนมาก

  21. ประเภทของการประเมินผลนโยบายประเภทของการประเมินผลนโยบาย • ประเภทการประเมินผลนโยบาย ตามกรอบที่นากามูระและสมอล (Nagamura & Small)นำเสนอในปี 1980 การกำหนดประเภทการประเมินผลนโยบายของนากามูระและสมอลจะเน้นที่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายเป็นสำคัญ ซึ่งประกอบด้วย

  22. ประเภทของการประเมินผลนโยบายประเภทของการประเมินผลนโยบาย - การประเมินผลโดยอาศัยหลักเกณฑ์ทางการเมือง ผู้ประเมินมักเป็นนักการเมืองที่กำหนดนโยบาย และผู้ที่ได้รับมอบให้นำนโยบายไปปฏิบัติ - การประเมินผลโดยอาศัยคนกลางภายนอก ส่วนมากจะว่าจ้างนักวิชาการเป็นผู้ติดตามและประเมินผลนโยบาย การประเมินแบบนี้ต้องคำนึงถึงหลักดังนี้

  23. หลักของการประเมินผลนโยบายหลักของการประเมินผลนโยบาย - การมีเป้าหมายของการดำเนินนโยบายที่ชัดเจน - การจัดลำดับความสำเร็จของโครงการเชิงปริมาณ - ประกอบด้วยข้อสรุปที่เชื่อมโยงเป้าหมายของผู้กำหนดนโยบาย และผลสำเร็จของโครงการที่ชัดเจน

  24. โมเดลการประเมิน • ทฤษฎีจุดมุ่งหมายของการประเมิน - การประเมินแบบอิงเป้าหมาย (Goal-based Evaluation) - การประเมินแบบไม่อิงเป้าหมาย (Goal-free Evaluation) - การประเมินก่อนดำเนินงาน (Formative Evaluation) และ การประเมินหลังเสร็จสิ้นการดำเนินงาน (Summative Evaluation)

  25. โมเดลการประเมิน • ทฤษฎีการกำหนดคุณค่า - ทุกสิ่งมีคุณค่า คุณค่าที่มีของสิ่งต่าง ๆ ในโลกมี 2 แบบ คือ คุณค่าในตัวเอง (Internal Value)กับคุณค่าภายนอก (External Value) - การที่จะประเมินคุณค่าภายในของอะไรก็ตามได้ต้องมีเกณฑ์และตัวชี้วัดที่กำหนดคุณค่าของสิ่งที่ประเมินไว้ก่อน จึงจะเทียบเคียงได้ว่ามีคุณค่าตามที่กำหนดหรือไม่ เกณฑ์ที่เปรียบเทียบเป็นเกณฑ์ Absolute - การประเมินคุณค่าภายนอกของอะไรก็ตาม ต้องสัมพันธ์กับบริบทภายนอกซึ่งมีส่วนในการให้ค่าของสิ่งที่ทำการประเมิน คุณค่าแบบนี้เป็นเรื่องความรู้สึกมากกว่ามีเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนมากวัดในรูปผลกระทบ เกณฑ์ที่เปรียบเทียบเป็นเกณฑ์สัมพัทธ์ (Relative)

  26. โมเดลการประเมิน • ทฤษฎีการกำหนดเกณฑ์ - การประเมินตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ หรือหากไม่มีก็สร้างเกณฑ์ขึ้นมาเพื่อใช้ในการประเมิน - เกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินมี 2 แบบ คือ เกณฑ์สัมพัทธ์ (Relative Criteria) เป็นเกณฑ์เปรียบเทียบกับสิ่งที่เคยประเมินมาก่อน และเกณฑ์สัมบูรณ์ (Absolute Criteria) เป็นเกณฑ์ที่พัฒนามาจากหลักการและเหตุผลของมาตรฐานของสิ่งที่ประเมิน หรือความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่เป็นที่ยอมรับทางวิชาชีพ

  27. เกณฑ์ที่นิยมใช้ในการประเมินนโยบายเกณฑ์ที่นิยมใช้ในการประเมินนโยบาย • ตัวชี้วัดในการประเมินของดันน์ (ต่อ) - ความเป็นธรรม (Equity) - การตอบสนองต่อกลุ่มเป้าหมาย (Responsiveness) - ความเหมาะสม (Appropriateness)

  28. เกณฑ์ที่นิยมใช้ในการประเมินนโยบายเกณฑ์ที่นิยมใช้ในการประเมินนโยบาย เกณฑ์การประเมินที่นำเสนอโดย OE CD/DAC ของธนาคารโลก - ประสิทธิภาพ (Efficiency) - ประสิทธิผล (Effectiveness) - ความเกี่ยวข้องระหว่างโครงการ แผนงานและนโยบาย (Relevence) - ผลกระทบ (Impact) - ความยั่งยืน (Sustainability)

  29. เกณฑ์ที่นิยมใช้ในการประเมินนโยบายเกณฑ์ที่นิยมใช้ในการประเมินนโยบาย เกณฑ์ที่นำเสนอโดย Harward Business School - Balance Scored Card หรือ BSC ซึ่งมีประเด็นที่ต้องประเมิน เมื่อนำนโยบายไปปฏิบัติ เป็นแผนงาน และโครงการ ปัจจุบันหน่วยราชการไทยจะใช้กรอบนี้เป็นแนวทางในการกำหนดตัวชี้วัดในการประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงาน

  30. เกณฑ์ที่นิยมใช้ในการประเมินนโยบายเกณฑ์ที่นิยมใช้ในการประเมินนโยบาย มิติที่ประเมินใน Balance Scorecard - มิติทางด้านการเงิน - มิติด้านการบริหารงานภายใน - มิติด้านความพึงพอใจของลูกค้า - มิติด้านการส่งเสริมการเรียนรู้ภายในองค์กรและการสร้างนวัตกรรมใหม่

  31. ข้อควรพิจารณาในการประเมินผลนโยบายข้อควรพิจารณาในการประเมินผลนโยบาย • เงื่อนไขที่จะทำให้การประเมินผลนโยบาย ประสบความสำเร็จ - ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน - ต้องดำเนินกิจกรรมตามแผนงาน - มีการกำหนดเกณฑ์การวัดที่ชัดเจน (KPI) - มีการเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในการประเมินครบถ้วน ถูกต้อง

  32. โมเดลการประเมิน • ทฤษฎีรูปแบบการประเมิน - การประเมินในปัจจุบันมีรูปแบบหลักอยู่ 2 ประเภท คือ มิติวัตถุประสงค์กับมิติวิธีการ - พวกเน้นวัตถุประสงค์ จะเน้นการออกแบบการประเมินให้สามารถตอบโจทย์ของการบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ แผนงานและนโยบายต่าง ๆ บทบาทของนักประเมินอยู่ที่การตัดสินคุณค่าว่าสิ่งที่ประเมินสอดคล้องกับสิ่งที่วางแผนไว้หรือไม่ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่วางไว้หรือไม่

  33. โมเดลการประเมิน • ทฤษฎีรูปแบบการประเมิน - พวกเน้นวิธีการ จะใช้ความสำคัญกับกระบวนการได้มาซึ่งข้อมูลเพื่อการตัดสินคุณค่า วิธีการเข้าถึงข้อมูลเพื่อการตัดสินคุณค่ามี 2 แบบ คือ วิธีการเชิงระบบและวิธีการธรรมชาติ - วิธีการเชิงระบบ เน้นการเข้าถึงข้อมูลเพื่อการตัดสินคุณค่าแบบปรนัย (Objective) เน้นความเป็นกลางของข้อมูล ใช้เครื่องมือมาตรฐาน ให้คุณค่าเชิงเดียว ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ

  34. โมเดลการประเมิน • ทฤษฎีรูปแบบการประเมิน แนวคิดการประเมินที่เน้นวิธีระบบ มีดังนี้ • System Analysis: เน้นการประเมินปัจจัยนำเข้า กระบวนการและผลผลิต • Cost-related Analysis : เน้นการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณทุกขั้นตอนของการทำงาน • Goal-based Approach: เน้นการประเมินโดยอิงวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม

  35. โมเดลการประเมิน • ทฤษฎีรูปแบบการประเมิน แนวคิดการประเมินที่เน้นวิธีระบบ มีดังนี้ • Discrepancy Approach: ตรวจสอบความสอดคล้องของการทำงานตั้งแต่เริ่มวางแผน การดำเนินการ การเสร็จสิ้นโครงการ ว่า เป็นไปตามสิ่งที่คาดหวังหรือไม่ • PERT : ตรวจสอบการใช้ทรัพยากรตามแผนงานว่าเป็นไปตามที่กำหนดไว้หรือไม่ มีจุดบกพร่องอะไรบ้างที่ต้องแก้ไข • CIPP : เน้นประเมิน บริบท ปัจจัยนำเข้า กระบวนการ และผลกระทบ

  36. โมเดลการประเมิน • ทฤษฎีรูปแบบการประเมิน - วิธีเชิงธรรมชาติ เป็นวิธีการเข้าถึงข้อมูลเพื่อการตัดสินคุณค่าโดยวิธีการธรรมชาติ ไม่มีการสร้างกรอบแนวคิด หรือกำหนดเกณฑ์การให้คุณค่าล่วงหน้า เน้นการเก็บข้อมูลโดยการสังเกต ตีความข้อมูลโดยการเชื่อมโยงเหตุผล การสังเกตและการวิเคราะห์เบื้องต้นกับการเก็บข้อมูลเชิงลึก จนได้ข้อสรุปเกี่ยวกับสิ่งที่ให้คุณค่าหลายมิติ

  37. โมเดลการประเมิน • ทฤษฎีรูปแบบการประเมิน แนวคิดที่ใช้วิธีการประเมินธรรมชาติ • การประเมินแบบมีส่วนร่วม : เน้นการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายในการกำหนดเกณฑ์การประเมิน การหาข้อมูลเพื่อการตัดสินใจที่ลึกและหลากหลาย ให้โอกาสทุกฝ่ายนำเสนอมุมมองการทำงานและการให้คุณค่าสิ่งที่ดำเนินการได้ที่แตกต่างกัน ไม่ปิดกั้นด้วยข้อมูลที่นักประเมินกำหนดมาก่อน

  38. โมเดลการประเมิน • ทฤษฎีการประเมินการดำเนินงาน (Performance Evaluation) - ตัดสินคุณค่าของการดำเนินงาน เพื่อพัฒนาให้ดีขึ้น - ต้องศึกษาวิสัยทัศน์ พันธกิจและจุดมุ่งหมายขององค์กร วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของกระบวนการดำเนินงาน เพื่อเทียบกับมาตรฐานที่กำหนดไว้ หรือ ผลการดำเนินงานที่คาดหวัง - ตัวอย่างที่ดีข้อการที่หน่วยราชการไปทำความตกลงกับ กพร. ว่าจะทำอะไรบ้าง แล้วกำหนดเกณฑ์ความสำเร็จเอาไว้ (Pulbic Agreement)

  39. โมเดลการประเมิน • ทฤษฎีการประเมินการดำเนินงาน (Performance Evaluation) - เวลาประเมินต้องเปรียบเทียบผลผลิต/ ผลลัพธ์ที่ตั้งไว้ กับความสามารถดำเนินการกิจกรรมต่าง ๆ ให้ได้ผลผลิต/ผลลัพธ์ที่ทำความตกลงไว้ - ต้องมีการกำหนดปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จในการดำเนินการกิจกรรมตามที่กำหนดไว้ด้วย เพื่อสร้างเงื่อนไขของการดำเนินงาน หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ก็จะได้มีเหตุผลสนับสนุนพอเพียง

  40. ประเภทของการประเมินผลนโยบายประเภทของการประเมินผลนโยบาย • ฮาวเร็ตและราเมศ (Howlett และ Ramesh) ได้แบ่งประเภทการประเมินผลนโยบายเป็น 3 ประเภท - การประเมินโดยฝ่ายตุลาการ - การประเมินด้านการบริหาร - การประเมินโดยประชาชนและระบบย่อยทางการเมือง

  41. ประเภทของการประเมินผลนโยบายประเภทของการประเมินผลนโยบาย • การประเมินด้านการบริหาร เน้นการประเมินด้านการบริหารงานตามแผนงาน/โครงการ เป็นการประเมินเชิงระบบ ซึ่งมักจะประกอบด้วยการประเมินปัจจัยนำเข้า ผลผลิต ความพอเพียงของผลงานหรือประสิทธิผล การประเมินประสิทธิภาพ และ การประเมินกระบวนการดำเนินการ

  42. ประเภทของการประเมินผลนโยบายประเภทของการประเมินผลนโยบาย • การประเมินโดยฝ่ายตุลาการ เป็นการประเมินที่เน้นเรื่องความถูกต้องของข้อกฎหมายที่มีความสัมพันธ์กับนโยบายสาธารณะที่เกิดขึ้น เช่น การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ที่มีการกำหนดกฎหมายกำกับ ต้องดูว่า นโยบายการแปรรูปฯดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ มีกฎกระทรวงรองรับนโยบายหรือไม่ ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ (เช่น นโยบายการปราบผู้มีอิทธิพล อาจจะขัดกับสิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรองรับก็ได้)

  43. ประเภทของการประเมินผลนโยบายประเภทของการประเมินผลนโยบาย • การประเมินโดยประชาชนและระบบย่อยทางการเมือง - เน้นการประเมินทัศนคติของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการใช้นโยบายของรัฐ ตัวอย่างเช่น การประเมินความพึงพอใจของประชาชนต่อการนำนโยบายสามสิบบาทรักษาทุกโรค เป็นต้น

  44. ขั้นตอนการประเมิน • กาว (Gow) ได้สรุปขั้นตอนการประเมินผลเป็น 4 ขั้นตอนคือ - การกำหนดเป้าหมายและหลักเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจน - พัฒนาตัวแบบการวิจัยประเมินผลที่เหมาะสมกับเป้าหมายและเกณฑ์ดังกล่าว - สร้างมาตรวัด และเก็บรวบรวมข้อมูล - การวิเคราะห์ข้อมูล

  45. ขั้นตอนการประเมิน • เยาวดี วิบูลย์ศรี ได้กำหนดขั้นตอนในการติดตามและประเมินผลการนำนโยบายไปปฏิบัติในระดับโครงการไว้ในหนังสือ การประเมินโครงการ: แนวคิดและแนวทางปฏิบัติ (2544)ไว้ดังนี้ - การศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการ - การกำหนดวัตถุประสงค์การประเมิน

  46. ขั้นตอนการประเมิน (ต่อ) - การกำหนดขอบเขตการประเมิน - การพิจารณากำหนดตัวบ่งชี้และแหล่งข้อมูล - การวิเคราะห์ข้อมูล - การสรุปผลการประเมิน

  47. ขั้นตอนการประเมิน • สุวิมล ติรกานันท์ ได้กำหนดขั้นตอนในการติดตามและประเมินผลการนำนโยบายไปปฏิบัติในระดับโครงการไว้ในหนังสือ การประเมินโครงการ: แนวทางสู่การปฏิบัติ (2544)ไว้ดังนี้ - การศึกษารายละเอียดของสิ่งที่ถูกประเมินและการศึกษาความต้องการของผู้ใช้ ผลประเมิน - การกำหนดประเด็นในการประเมิน/การกำหนดตัวชี้วัดและการพัฒนาตัวชี้วัด - การออกแบบการประเมิน (การกำหนดกลุ่มตัวอย่าง วิธีวิเคราะห์ข้อมูลและ การเสนอรายงาน

  48. ขั้นตอนการประเมิน - การเก็บรวบรวมข้อมูล - การวิเคราะห์ข้อมูล - การสรุปผลการประเมิน - การเขียนรายงาน

  49. ขั้นตอนการติดตามและประเมินผลขั้นตอนการติดตามและประเมินผล แผนงาน Best Practices 1.ระบบการติดตาม ช่วงเวลา/ผลผลิต Milestone/Benchmarking Upgraded Performance โครงการ Data Variable Indicators Source & 2.ระบบประเมินผล วัตถุประสงค์ หลัก เกณฑ์-ผลลัพธ์ (Achievement) 3.กำหนดการ Who/How Report Timing จาก อุทิศ ขาวเธียร /มี.ค./2544

  50. ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการประเมินนโยบายปัญหาที่เกิดขึ้นจากการประเมินนโยบาย ด้านผู้ประเมิน • ผู้ประเมินขาดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องที่ประเมิน • ผู้ประเมินขาดความเข้าใจในวัตถุประสงค์ของนโยบายที่ถูกต้อง • ผู้ประเมินวิเคราะห์ขอบเขต กรอบแนวคิด และตัวชี้วัดในการประเมินบกพร่อง

More Related