1 / 16

เทคนิคการออกแบบและคำนวนแอดเดรส

เทคนิคการออกแบบและคำนวนแอดเดรส. IP Address. มาตรฐานของ IP Address ปัจจุบันเป็นมาตรฐานเวอร์ชัน 4.0 IP Address มีทั้งหมด 32 bit หรือ 4 byte แต่ละไบต์จะถูกคั่นด้วยจุด (.) เช่น 168.108.2.12 ภายในหมายเลขถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเรียกว่า หมายเลข Network Address หรือ Subnet Address

eagan-flowers
Download Presentation

เทคนิคการออกแบบและคำนวนแอดเดรส

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript

  1. เทคนิคการออกแบบและคำนวนแอดเดรสเทคนิคการออกแบบและคำนวนแอดเดรส

  2. IP Address • มาตรฐานของ IP Address ปัจจุบันเป็นมาตรฐานเวอร์ชัน 4.0 • IP Address มีทั้งหมด 32 bit หรือ 4byte • แต่ละไบต์จะถูกคั่นด้วยจุด(.) เช่น 168.108.2.12 • ภายในหมายเลขถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน • ส่วนแรกเรียกว่า หมายเลข Network Address หรือ Subnet Address • ส่วนที่สองหรือเรียกว่า หมายเลข Host Address

  3. Subnet Mask • ช่วยในการแยกแยะว่าส่วนใดภายในหมายเลข IP Address เป็น Network Address และส่วนใดเป็นหมายเลข Host Address • เมื่อระบุหมายเลข IP Address ให้กับเครื่อง จำเป็นต้องระบุ Subnet Mask กำกับลงไปด้วยทุกครั้ง • วิธีคำนวณ Network Address จาก Subnet Mask • เขียนหมายเลข IP Address ออกมาให้อยู่ในรูปแบบของเลขฐานสอง(binary) • เขียนหมายเลข Subnet Mask ออกมาให้อยู่ในรูปแบบของเลขฐานสองเช่นกัน • Logical AND ระหว่าง IP Address กับ Subnet Mask ผลลัพท์จะได้ Network Address

  4. ข้อสังเกตเกี่ยวกับการ AND เลขฐานสอง • IP Address หมายเลข 168.108.2.1 และ Subnet Mask เป็น 255.255.0.0 • Network Address หรือ Network ID จะเท่ากับผลลัพท์ระหว่าง 168 108 2 1 AND 255 255 0 0 Network Address 168 108 0 0 • เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่ออยู่ใน Network Segmentเดียวกันจะต้องมีหมายเลข Network Address เหมือนกัน

  5. IP Address ในคลาสต่างๆ

  6. Default Subnet Mask ของแต่ละคลาส • IP Address แต่ละคลาสจะมีค่า Subnet Mask ดังนี้ • คลาส A มี Subnet Mask เป็น 255.0.0.0 • คลาส B มี Subnet Mask เป็น 255.255.0.0 • คลาส C มี Subnet Mask เป็น 255.255.255.0

  7. Subnet Mask Bits Use contiguous subnet mask 128 64 32 16 8 4 2 1 1 0 0 0 0 0 0 0 = 128 1 1 0 0 0 0 0 0 = 192 1 1 1 0 0 0 0 0 = 224 1 1 1 1 0 0 0 0 = 240 1 1 1 1 1 0 0 0 = 248 1 1 1 1 1 1 0 0 = 252 1 1 1 1 1 1 1 0 = 254 1 1 1 1 1 1 1 1 = 255

  8. Subnet Mask ที่ไม่ตรงกับ Default Subnet Mask ของ IP Address • IP Address 10.1.1.1 Subnet Mask 255.255.0.0 (Default Subnet Class A 255.0.0.0 ) • IP Address 158.108.2.71 Subnet Mask 255.255.240.0 (Default Subnet Class B 255.255.0.0 ) • Subneting เป็นการขอยืมเอาบิตที่ถูกกันไว้เป็น Host Address มาใช้งานเป็น SubNetwork Address

  9. Subnet Class C Example • 255.255.255.0 ( 0000 0000) • 0 subnets with 254 hosts (default subnet) • 255.255.255.192 (1100 0000) • 2 subnets with 62 hosts • 255.255.255.224 (1110 0000) • 6 subnets with 30 hosts • 255.255.255.240 (1111 0000) • 14 subnets with 14 hosts

  10. Prefix In Class C Prefix Number Of Subnet Host in Sebnet Subnetmask /24 0 254 255.255.255.0 /25 ไม่อนญาตให้ใช้ /26 2 62 255.255.255.192 /27 6 30 255.255.255.224 /28 14 14 255.255.255.240 /29 30 6 255.255.255.248 /30 62 2 255.255.255.252 /31 ไม่อนญาตให้ใช้

  11. ตัวอย่างการทำ Subnet • ได้รับหมายเลขเครือข่าย 194.1.1.0 ต้องการแบ่งซับเน็ตมีโฮสประมาณ 25 host ต่อ subnet 1. กำหนดค่า subnet mask 194.1.1.0 -> 194.1.1. 0 0 0 0 0 0 0 0 255.255.255.224 -> 255.255.255. 1 1 1 0 0 0 0 0 • มีเลข Host 8 bit ในการทำ Subnet • ต้องการ Host 25 host ต่อ 1subnet จำนวน bit ที่จะใช้ 5 bit 2 -2 = 30 SubNetid Hostid Netid 5

  12. ตัวอย่างการทำ Subnet 194.1.1.0 -> 194.1.1. 0 0 0 0 0 0 0 0 255.255.255.224 -> 255.255.255. 1 1 1 0 0 0 0 0 2. หาเลขเครือข่ายประจำ Subnet • นำ SubnetID มาคิดจำนวน Subnet -> 2 = 8 subnet • โดยปรับเปลี่ยนเลขซับเน็ต 3 บิต จาก 000 – 111 ดังนี้ 3 SubNetid Hostid Netid Subnet #0 : 000 00000 194.1.1.0 (ไม่อนุญาตให้ใหใช้) Subnet #1 : 001 00000 194.1.1.32 Subnet #2 : 010 00000 194.1.1.64 Subnet #3 : 011 00000 194.1.1.96 Subnet #4 : 100 00000 194.1.1.128 Subnet #5 : 101 00000 194.1.1.160 Subnet #6 : 110 00000 194.1.1.192 Subnet #7 : 111 00000 194.1.1.224 (ไม่อนุญาตให้ใหใช้)

  13. ตัวอย่างการทำ Subnet 194.1.1.0 -> 194.1.1. 0 0 0 0 0 0 0 0 255.255.255.224 -> 255.255.255. 1 1 1 0 0 0 0 0 2. หาเลขเครือข่ายประจำแต่ละซับเน็ต • หา Address ในแต่ละ Subnet โดยเปลี่ยนเลข host 5 bit ในแต่ละ Subnet • 00000 – 11111 ยกตัวอย่าง Subnet #1 ดังนี้ 3 SubNetid Hostid Netid Subnet #1 : 001 00000 194.1.1.32 host #1 : 001 00001 194.1.1.33 host #2 : 001 00010 194.1.1.34 host #3 : 001 00011 194.1.1.35 ….. host #29 : 001 11101 194.1.1.61 host #30 : 001 11110 194.1.1.62 Broadcast #1 : 001 11111 194.1.1.63

  14. ตัวอย่างการทำ Subnet 3. สร้างตารางสรุป

  15. Design Network • Packet Tracer • http://www.mynetworkinglabs.com/2012/11/packet-tracer-533-review-and-free.html

  16. EX • องค์กรหนึ่งได้รับการกำหนดให้ใช้แอดแดรส 192.1.2.0 โดยต้องการจัดแบ่งให้มีซับเน็ตจำนวน 6 ซับเน็ต ให้คำนวณหา • ค่ามาสค์ที่ใช้ • แอดแดรสเครือข่ายของแต่ละซับเน็ต • แอดแดรสโฮสแรกและสุดท้ายที่ใช้งานได้ในแต่ละซับเน็ต • แอดแดรสบรอดคาสต์ประจำซับเน็ต • ตารางสรุป

More Related