1 / 29

หัวข้อการบรรยาย

นายเทพพยุง วงศ์สูง ตำแหน่ง นายช่างชลประทาน ชำนาญงาน ทำหน้าที่ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 โครงการชลประทานแพร่ ( รับผิดชอบ อ.เมือง อ.สูงเม่น และอ.เด่นชัย ) วุฒิการศึกษา - ป.การชลประทาน (ร.ร.การชลประทาน) - วศบ.ชลประทาน ( ม.เกษตรศาสตร์ ). หัวข้อการบรรยาย.

Download Presentation

หัวข้อการบรรยาย

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. นายเทพพยุง วงศ์สูงตำแหน่ง นายช่างชลประทาน ชำนาญงานทำหน้าที่ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 โครงการชลประทานแพร่ ( รับผิดชอบ อ.เมือง อ.สูงเม่น และอ.เด่นชัย )วุฒิการศึกษา- ป.การชลประทาน (ร.ร.การชลประทาน)- วศบ.ชลประทาน ( ม.เกษตรศาสตร์ )

  2. หัวข้อการบรรยาย • การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น - ขุดสระเก็บน้ำ และขุดลอกหนองน้ำ - ขุดลอกคลองธรรมชาติ - อ่างเก็บน้ำ และฝายทดน้ำ • อัตราราคางาน ( เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับงานชลประทาน )

  3. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • ขุดสระเก็บน้ำ และขุดลอกหนองน้ำ สิ่งที่ต้องคำนึงถึง( คำถามที่ต้องตอบให้ได้ ) - ประโยชน์ที่จะได้รับ เช่น อุปโภค-บริโภค เลี้ยงสัตว์ การเกษตร - สถานที่ดำเนินการ เช่น มีพื้นที่รับน้ำหรือไม่ หรือมีวิธีการผันน้ำเข้าสู่ ที่เก็บน้ำอย่างไร และวิธีการนำน้ำไปใช้ - ลักษณะของดิน เก็บกักน้ำได้หรือไม่ หรือมีวิธีการป้องกันการรั่วซึม อย่างไร - พื้นที่ทิ้งดิน ควรมีขนาดพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1.5เท่า (แนะนำ) - ความต้องการใช้น้ำ( เลือกขนาดที่เหมาะสม )

  4. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • ขุดสระเก็บน้ำ และขุดลอกหนองน้ำ (ต่อ) ความต้องการใช้น้ำ( ข้อมูลพื้นฐาน ) ๑. น้ำอุปโภค-บริโภค - คน ใช้ 200 ลิตร/วัน/คน - สัตว์ ใช้ 50 ลิตร/วัน/คน ๒. น้ำเพื่อการเกษตร - คิดฤดูฝน 1,500ลบ.ม./ไร่ ฤดูแล้ง 800 ลบ.ม./ไร่ ( ฤดูฝนปลูกข้าว ฤดูแล้งพืชไร่พืชผัก )

  5. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • ขุดสระเก็บน้ำ และขุดลอกหนองน้ำ (ต่อ) แนวทางออกแบบเบื้องต้น - นำความต้องการใช้น้ำมากำหนดขนาดของสระเก็บน้ำ - พิจารณาพื้นที่ทิ้งดิน เพื่อกำหนดปริมาณดินขุด - กำหนดความลาดเอียงของสระ เช่น ดินเหนียวใช้ 1:1 – 1:1.5 ดินร่วนดินปนทราย ใช้ 1:1.5 – 1:2 เป็นต้น -กำหนดความลึก เช่น เลี้ยงปลาไม่ควรเกิน 2.00-3.00 ม. เพื่อการเกษตรควรขุดลึกที่สุด ( น้ำจะเหยประมาณ 60 ซม./ 1 ปี )

  6. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • ขุดลอกคลองธรรมชาติ สิ่งที่ต้องคำนึงถึง( คำถามที่ต้องตอบให้ได้ ) - วัตถุประสงค์ เช่น เพื่อการระบาย หรือกักเก็บน้ำ - เมื่อดำเนินการแล้วจะส่งผลกระทบให้ดีขึ้น หรือแย่ลง - ปัญหาเรื่องที่ดินข้างเคียง ( ต้องได้รับการยินยอม ) - ปริมาณน้ำนองสูงสุด(คาบน้ำ) และอาคาร(เดิม)ที่อยู่ในคลอง - ต้องไม่กระทบต่อการใช้น้ำ หรือระบายน้ำ ของราษฎร

  7. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • ขุดลอกคลองธรรมชาติ แนวทางออกแบบเบื้องต้น กรณี เพื่อการระบาย - จะต้องพิจารณาออกแบบจากปลายน้ำมาก่อน ( ปลายน้ำ > ต้นน้ำ ) - กรณีมีอาคารที่ก่อสร้างในลำคลอง ต้องนำแบบอาคารดังกล่าวมาใช้ ประกอบในการออกแบบ (ถ้ามี) หรือถ้าไม่มั่นใจควรเว้นระยะหน้า ท้ายอาคารนั้น ในระยะพอสมควร(ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ออกแบบ) - ออกแบบคลอง ให้สามารถระบายน้ำได้ไม่น้อยกว่าปริมาณน้ำนอง สูงสุด(ให้ดูจากคาบน้ำที่เคยท่วมสูงสุด)

  8. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • ขุดลอกคลองธรรมชาติ แนวทางออกแบบเบื้องต้น ( ต่อ ) กรณี เพื่อการเก็บกัก - จะต้องมีอาคารบังคับน้ำ ( เพื่อใช้เก็บกักน้ำ ) และอาคารดังกล่าว จะต้องสามารถระบายน้ำได้ทันในช่วงฤดูน้ำหลาก ทั้งนี้: ไม่ว่าจะขุดลอกคลองเพื่อวัตถุประสงค์ เก็บกักน้ำ หรือระบายน้ำ สิ่งสำคัญจะต้องรู้ว่ามีปริมาณน้ำเท่าไร จึงจะสามารถดำเนินการให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้

  9. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • ขุดลอกคลองธรรมชาติ สูตรที่เกี่ยวข้อง ; Q คือ อัตราการไหลของน้ำ มีหน่วยเป็น ลบ.ม./วิ ; A คือ พื้นที่หน้าตัดลำน้ำ มีหน่วยเป็น ตร.ม. ; V คือ ความเร็วของน้ำ มีหน่วยเป็น ม./วิ ; n ( คลองดิน = 0.35 , คลองดาด = 0.025 ) ; S คือ ค่าความลาดของลำน้ำ ; R = ; P คือ เส้นขอบเปียก

  10. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • ขุดลอกคลองธรรมชาติ สูตรที่เกี่ยวข้อง ; Q คือ อัตราการไหลของน้ำ มีหน่วยเป็น ลบ.ม./วิ ; A คือ พื้นที่หน้าตัดลำน้ำ มีหน่วยเป็น ตร.ม. ; V คือ ความเร็วของน้ำ มีหน่วยเป็น ม./วิ ; C = ค่าสัมประสิทธิ์ความขรุขระ( 0.7 - 0.8 ) ; g คือ ค่าความโน้มถ่วง ( 9.81 ) ; H = ค่าความสูงต่างของระดับน้ำ

  11. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • ขุดลอกคลองธรรมชาติ สูตรที่เกี่ยวข้อง ; Q คือ อัตราการไหลของน้ำ มีหน่วยเป็น ลบ.ม./วิ ; W คือ ความกว้างของบาน มีหน่วยเป็น ม. ; D คือ ความสูงของน้ำ มีหน่วยเป็น ม. ; C = ค่าสัมประสิทธิ์ความขรุขระ( 0.65 ) ; g คือ ค่าความโน้มถ่วง ( 9.81 )

  12. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • ขุดลอกคลองธรรมชาติ ; V คือ ความเร็วของน้ำ มีหน่วยเป็น ม./วิ ; C = ค่าสัมประสิทธิ์ความขรุขระ ( 0.65 ) ; g คือ ค่าความโน้มถ่วง ( 9.81 ) ; H = ค่าความสูงต่างของระดับน้ำ

  13. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • อ่างเก็บน้ำ และฝายทดน้ำ - อ่างเก็บน้ำ มีหน้าที่ ในการเก็บกักน้ำ - ฝายทดน้ำ มีหน้าที่ ในการทดน้ำ(ยกระดับน้ำ) เข้าพื้นที่เพาะปลูก สิ่งที่ต้องคำนึงถึง( คำถามที่ต้องตอบให้ได้ ) - ประโยชน์ที่จะได้รับ เช่น อุปโภค-บริโภค เลี้ยงสัตว์ การเกษตร - มีจุดที่ตั้งที่เหมาะสมหรือไม่ - มีปัญหาเรื่องการใช้ที่ดินหรือไม่ - ควรพิจารณาเป็นอ่างเก็บน้ำ หรือฝายทดน้ำ

  14. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • อ่างเก็บน้ำ และฝายทดน้ำ ( ต่อ ) การพิจารณาโครงการเบื้องต้น - คำนวณหาความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ - กำหนดจุดที่ตั้งจากแผนที่ 1:50,000 - คำนวณน้ำท่าเฉลี่ยทั้งปี - คำนวณน้ำหลากสูงสุด

  15. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • อ่างเก็บน้ำ และฝายทดน้ำ ( ต่อ ) คำนวณน้ำท่าเฉลี่ยทั้งปี ( เป็นการคำนวณหาศักยภาพของลุ่มน้ำ นั้น ) - หาพื้นที่รับน้ำฝน ( คิดพื้นที่ลุ่มน้ำจากแผนที่ 1:50,000) - ฝนเฉลี่ยทั้งปี ( ข้อมูลจากอุตุนิยมวิทยา ) - สัมประสิทธิ์น้ำท่า ( ดูจากตาราง )

  16. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น - หาพื้นที่รับน้ำฝน ( คิดพื้นที่ลุ่มน้ำจากแผนที่ 1:50,000) ตัวอย่าง

  17. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น - สัมประสิทธิ์น้ำท่า ( ดูจากตาราง ) A – พื้นที่รับน้ำฝน ลาดชันมาก ต้นน้ำลำธาร B – พื้นที่รับน้ำฝน ลาดชันปานกลางถึงมาก ป่าค่อนข้างสมบูรณ์ C – พื้นที่รับน้ำฝน ค่อนข้างราบ ป่า-ต้นไม้น้อย ดินปนทราย

  18. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น คำนวณน้ำท่าเฉลี่ยทั้งปี จากตัวอย่าง มีพื้นที่รับน้ำฝน 13 ตร.กม.(วัดพื้นที่ลุ่มน้ำจากแผนที่ 1:50,000) ฝนเฉลี่ยทั้งปี 1,200 ม.ม.(ข้อมูลจากอุตุนิยมวิทยา)สัมประสิทธิ์น้ำท่า 30 % ( ดูจากตารางใช้ A ) สูตร น้ำท่าเฉลี่ยทั้งปี = สัมประสิทธิ์น้ำท่า x ฝนเฉลี่ย x พื้นที่ลุ่มน้ำ หรือ Q=CIA = 30 x 1,200 x13 x 1,000,000 1,000 100 = 4,680,000 ลบ.ม.

  19. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • อ่างเก็บน้ำ และฝายทดน้ำ ( ต่อ ) คำนวณปริมาณน้ำหลากสูงสุด ( ใช้ประกอบการคำนวณขนาดความยาวของสันฝาย และอาคารระบายน้ำล้น ) สมการ รีเกรชชั่น ( regression equation ) ; A คือ พื้นที่ลุ่มน้ำ มีหน่วยเป็น ตารางกิโลเมตร หมายเหตุ : เป็นค่าที่ได้จากผลการศึกษาลุ่มน้ำยม ( ลุ่มน้ำยมเท่านั้น )

  20. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น คำนวณปริมาณน้ำหลากสูงสุด ( ใช้ประกอบการคำนวณขนาดความยาวของสันฝาย และอาคารระบายน้ำล้น ) จากตัวอย่าง มีพื้นที่รับน้ำฝน 13 ตร.กม.(วัดพื้นที่ลุ่มน้ำจากแผนที่ 1:50,000) ใช้รอบเกิดซ้ำ 50 ปี ได้ค่าจากตารางคือ k = 38.764 , n = 0.4608แทนค่าในสูตร

  21. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • อ่างเก็บน้ำ และฝายทดน้ำ ( ต่อ ) กรณี พิจารณาก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ การเลือกสถานที่สร้างอ่างเก็บน้ำ 1. มีเนินเขาสูงขนาบสองข้าง ( สำหรับก่อสร้างตัวเขื่อน ) 2. มีพื้นที่รับน้ำฝน (พื้นที่ลุ่มน้ำ) มาก 3. มีพื้นที่สำหรับเก็บกักน้ำ(พื้นที่ของอ่างเก็บน้ำ) มาก 4. ไม่มีปัญหาเรื่องการใช้ที่ดิน

  22. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • อ่างเก็บน้ำ และฝายทดน้ำ ( ต่อ ) กรณี พิจารณาก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ การกำหนดขนาดของอ่างเก็บน้ำ 1. ถ้าความต้องการใช้น้ำ น้อยกว่า ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยทั้งปี - กำหนดขนาดอ่างเก็บน้ำ เท่ากับ ปริมาณความต้องการใช้น้ำ 2. ถ้าความต้องการใช้น้ำ มากกว่า ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยทั้งปี 2.1 กำหนดขนาดอ่างเก็บน้ำ เท่ากับ ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยทั้งปี( เมื่อเขื่อนสูงไม่มาก ) 2.2 กำหนดขนาดอ่างเก็บน้ำ เท่ากับ 0.8 x ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยทั้งปี( เขื่อนมีความสูงมาก ) 2.3 กำหนดขนาดอ่างเก็บน้ำ เท่ากับ 1.3 x ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยทั้งปี( เพื่อบรรเทาอุทกภัยด้วย )

  23. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • อ่างเก็บน้ำ และฝายทดน้ำ ( ต่อ ) กรณี พิจารณาก่อสร้างฝายทดน้ำ การเลือกสถานที่สร้างฝายทดน้ำ 1. สร้างในบริเวณที่สามารถทดน้ำเข้าสู่พื้นที่เป้าหมายได้ 2. ลำน้ำบริเวณสร้างฝายควรมีแนวตรง 3. ควรสร้างฝายในบริเวณพื้นลำน้ำที่เป็นหินพืดหรือดิน ไม่ควรสร้างบริเวณ พื้นลำน้ำที่เป็นหินก้อน

  24. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • อ่างเก็บน้ำ และฝายทดน้ำ ( ต่อ ) กรณี พิจารณาก่อสร้างฝายทดน้ำ การกำหนดขนาดของฝายทดน้ำ 1. ระดับของสันฝายต้องสามารถทดน้ำเข้าสู่พื้นที่เป้าหมายได้ และควรต่ำกว่า ระดับตลิ่งไม่น้อยกว่า 0.50 ม. ทั้งนี้ ไม่ควรก่อสร้างฝายสูงมากกว่า 2.00 ม. หากสูงเกินกว่า 2.00 ม. ควรมอบให้วิศวกรซึ่งมีความชำนาญเป็นผู้ออกแบบ และควบคุมการก่อสร้าง 2. การกำหนดความยาวของสันฝาย ขึ้นอยู่ระดับสันฝายว่าอยู่ต่ำกว่าระดับตลิ่ง เท่าไหร่ และมีปริมาณน้ำนองสูงสุดเท่าใด

  25. การพิจารณา(แหล่งน้ำ) และแนวทางออกแบบเบื้องต้น • อ่างเก็บน้ำ และฝายทดน้ำ ( ต่อ ) สูตรที่ใช้ในการกำหนดขนาดความยาวของฝายทดน้ำ ; Qmax คือ ค่าปริมาณน้ำหลากสูงสุด ( k A n ) ; C คือ ค่าสัมประสิทธิ์ ใช้ 1.57 – 1.82 ( ฝายสันกว้าง ) ; L คือ ความยาวสันฝาย ; H คือ กำหนดค่าความสูงของน้ำเหนือสันฝาย ( ไม่สูงกว่าค่าต่างระหว่างระดับสันฝายกับตลิ่ง )

  26. อัตราราคางาน ( เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับงานชลประทาน ) • ในส่วนที่กรมชลประทาน ถ่ายโอนให้ อปท. - งานซ่อมแซม และบำรุงรักษาโครงการชลประทานขนาดเล็ก - งานดูแลรักษาทางน้ำ - งานดูแล รักษา ปรับปรุง โครงการชลประทานระบบท่อ - งานบำรุงรักษาทางชลประทาน - โครงการขุดลอกหนองน้ำและคลองธรรมชาติ - การสูบน้ำนอกเขตชลประทาน - โครงการถ่ายโอนการสูบน้ำด้วยพลังไฟฟ้า

  27. อัตราราคางาน ( เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับงานชลประทาน ) จำแนกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ • งานก่อสร้าง ( ซ่อมแซม ปรับปรุงอาคารชลประทาน งานขุดลอก ) คิดคำนวณตามแบบ และใช้อัตราราคางาน ตามแนวทางการคำนวณราคากลาง ของสำนักงบประมาณ 2. งานบำรุงรักษา ( บำรุงรักษาหัวงาน คลองชลประทาน ทางชลประทาน งานกำจัดวัชพืช ) ใช้อัตราราคางานที่กรมชลประทานได้ทำข้อตกลงกับสำนักงบประมาณ

  28. อัตราราคางาน ( เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับงานชลประทาน ) อัตราราคางานบำรุงรักษา งานบำรุงรักษาหัวงาน ไร่ละ 1,800.- บาท งานบำรุงรักษาคลองชลประทาน ก.ม.ละ 6,010.- บาท งานบำรุงรักษาทางชลประทาน - F4 (ลาดยางบนหินคลุก หนา 0.15 ม. กว้าง 5.50 ม. ไหล่ทาง 1.25 ม.) กม.ละ 100,700.- บาท - F5 (ทางลำเลียงใหญ่ ลูกรัง หนา 0.40 ม. กว้าง 7.00 ม. ไหล่ทาง 1.00 ม.) กม.ละ 126,830.- บาท - F6 (ทางลำเลียงย่อย ลูกรัง หนา 0.25 ม. กว้าง 6.00 ม. ไม่มีไหล่ทาง) กม.ละ 79,360.- บาท - ทางต่ำกว่ามาตรฐาน กม.ละ 43,720.- บาท งานกำจัดวัชพืช ไร่ละ 2,580.- บาท

  29. ขอบคุณครับ มีปัญหา หรือ ต้องการคำแนะนำ โทร 081-8876552 โทรสาร 054-530792

More Related