240 likes | 553 Views
ความรู้และพฤติกรรมการใช้สารเคมีกำจัด ศัตรูพืชในเกษตรกร ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก. นสพ.แดน ศรีณรงค์ นสพ.ลัดดา สามล นสพ.ละออ ชมพักตร์. ทบทวนวรรณกรรม. 1. นพ.กาญจนศักดิ์ ผลบูรณ์ ศึกษาเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อมในระบบสุขภาพ ปี 2543
E N D
ความรู้และพฤติกรรมการใช้สารเคมีกำจัดความรู้และพฤติกรรมการใช้สารเคมีกำจัด ศัตรูพืชในเกษตรกร ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก นสพ.แดน ศรีณรงค์ นสพ.ลัดดา สามล นสพ.ละออ ชมพักตร์
ทบทวนวรรณกรรม 1. นพ.กาญจนศักดิ์ ผลบูรณ์ ศึกษาเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อมในระบบสุขภาพ ปี 2543 จำนวนผู้ป่วยจากพิษของสารเคมีเพิ่มขึ้นจาก 3,297 ราย ในปี 2540 เป็น 4,398 ราย ในปี 2541 จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการใช้สารเคมีทางการเกษตรในภาคเหนือและภาคกลาง ในภาคเหนือเพิ่มขึ้นในจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร อุทัยธานี และนครสวรรค์
2. บุรินทร์ พิมลลิขิต และคณะ ศึกษาความรู้และพฤติกรรมการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกรต.บางพลับ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรีในปี 2539 มีการใช้สารเคมีกำจัดแมลงมากที่สุด คิดเป็น 71% ส่วนใหญ่มีความรู้และการปฏิบัติในการใช้สารเคมีในระดับปานกลาง ปัญหาของเกษตรกรในการใช้สารเคมี คือ การขาดความรู้เรื่องการผสมสารเคมี การฉีดพ่นสารเคมีและการปฏิบัติตนไม่ถูกต้องเมื่อสัมผัสสารเคมี และการใช้เครื่องป้องกันอันตราย
คำถามหลัก: ความรู้และพฤติกรรมการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในเกษตรกร ต.ท่าโพธิ์ เป็นอย่างไร คำถามรอง: 1. ชนิด ปริมาณ และความถี่ในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกรเป็นอย่างไร 2. ผลกระทบต่อสุขภาพของเกษตรกรผู้ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเป็นอย่างไ ร 3. ความเสี่ยงของการได้รับพิษจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกรเป็นอย่างไร
วัตถุประสงค์ 1. ศึกษาความรู้และพฤติกรรมของการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกร 2. ศึกษาเกี่ยวกับ ชนิด ปริมาณ และความถี่ของการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกร 3. ศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพของเกษตรกรที่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช 4. ศึกษาความเสี่ยงของการได้รับพิษจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกร
วิธีการศึกษา เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา แบบภาคตัดขวางระหว่างวันที่ 16 - 20 ตุลาคม 2543 สุ่มตัวอย่างจากประชากรใน ต.ท่าโพธิ์ 10 หมู่บ้านโดยวิธี simple random sampling จำนวน 300 ราย เครื่องมือสำหรับการวิจัย 1. แบบสอบถาม 2 . ผลการตรวจระดับ enzyme cholinesterase ในเลือดของเกษตรกรในปี 2542 การวิเคราะห์เชิงสถิติ ; ใช้สถิติเชิงพรรณนา
แหล่งข้อมูล แบบสอบถาม 300 ชุด ผล ChE ทั้งหมด 300 ราย ได้คืน 249 ชุด เกษตรกร 244 ราย ไม่ใช่เกษตรกร 5 ราย มีผล ChE 103 ราย ไม่มีผล ChE 141 ราย
ผลการศึกษา ข้อมูลด้านประชากร เพศชาย 137 ราย ( 56.1% ) เพศหญิง 107 ราย( 43.9% ) ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 41-60 ปี ( 51.5%) การศึกษาระดับประถมศึกษา (88.7%) อาชีพ ทำนา (80.4%) และทำปีละ 2 ครั้ง (91.8%) พื้นที่ทำการเกษตรอยู่ในช่วง 1-30ไร่ (83.2%) รายได้เฉลี่ย 10,000-20,000 บาท/ปี (31.5%)
ข้อมูลพฤติกรรมการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชข้อมูลพฤติกรรมการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เกษตรกรส่วนใหญ่ใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช 98.4 % , สารสกัดจากธรรมชาติ 1.6 % ระยะเวลาที่ใช้สารเคมี อยู่ในช่วง 1-10 ปี (65.4%) ส่วนใหญ่ใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด คือ ยาฆ่าแมลง , ยาฆ่าหญ้า และยากำจัดเชื้อ รา (85.4%) ยาฆ่าแมลงส่วนใหญ่ที่ใช้เป็นกลุ่ม organophosphate ( 73.7% ) , Carbamate ( 26.3% ) ยากำจัดวัชพืชส่วนใหญ่ที่ใช้เป็นกลุ่มไกลโฟเสท 48.9% , paraquat 33.7%
ตารางแสดงวัตถุประสงค์ ปริมาณ และความถี่ของการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช
กราฟแสดงอัตราส่วนของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่ใช้กราฟแสดงอัตราส่วนของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่ใช้
กราฟวงกลมแสดงวิธีการใช้สารเคมีที่ไม่ถูกต้องกราฟวงกลมแสดงวิธีการใช้สารเคมีที่ไม่ถูกต้อง 41.6% 22.6% 30.3% วิธีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช - ใช้ถูกต้อง 13.8% , ไม่ถูกต้อง 86.2%
การปฏิบัติตนเกี่ยวกับการใช้ สารเคมีกำจัดศัตรูพืช 1. เกษตรกรส่วนใหญ่มีการป้องกันตนเองไม่ครบถ้วนขณะมีการใช้สารเคมี ( 66.5% ) , ครบถ้วน 33.5% 2. หลังใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช 97.9% ของเกษตรกรมีการอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที , 2.1% ทำความสะอาดแต่ไม่ครบถ้วน
การเลือกซื้อ ค่าใช้จ่าย และแหล่งข้อมูล เกี่ยวกับ สารเคมีกำจัดศัตรูพืช 1. มีการเลือกซื้อตามความเหมาะสมในการใช้ 85.6% 2. ค่าใช้จ่ายในการซื้อสารเคมีแต่ละครั้งของการทำเกษตรกรรมน้อยกว่า 2,000 บาท ( 48.3% ) 3. ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สารเคมีส่วนใหญ่ได้มาจากฉลากสารเคมี ( 46.2% ) จากเกษตรตำบล 20.6%
กราฟแสดงอาการที่เกิดขณะหรือหลังใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชกราฟแสดงอาการที่เกิดขณะหรือหลังใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เกษตรกรที่มีอาการ 71.5% ,ไม่มีอาการ 28.5%
ผลการตรวจ cholinesterase ในเลือดของเกษตรกร
สรุปและวิจารณ์ผล 1. เกษตรกรส่วนใหญ่มีความรู้ในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอยู่ในเกณฑ์ดี แต่วิธีการใช้ยังไม่ถูกต้อง คือ ผสมสารเคมีหลายชนิด 2.ผลกระทบของสารเคมีต่อสุขภาพ พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่เคยมีอาการจากการได้รับพิษจากสารเคมีกำจัดแมลงและจากผล cholinesterase พบว่าอยู่ในระดับที่มีความเสี่ยงถึง 21.3% และระดับไม่ปลอดภัย 6.7% เนื่องมาจาก
การป้องกันขณะฉีดสารเคมีไม่ครบถ้วน เกษตรกรบางส่วนใช้สารเคมีที่เข้มข้นกว่า , ปริมาณมากกว่าที่ฉลากระบุ และใช้บ่อยครั้งเกินจำเป็น ยังมีเกษตรกรอีก 2.1% ที่ปฏิบัติตนไม่ถูกต้องหลังจากสัมผัสกับสารเคมี 3. ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างระดับ ChE ใน serum กับ ความรู้ ,การป้องกันขณะใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และอาการที่เกิดขึ้นจากการใช้สารเคมี ( p > 0.05 )
4. พบว่าเกษตรกรที่ใช้สารเคมีเข้มข้นกว่าฉลากระบุจะมีอัตราเสี่ยงในการเกิดอาการมากกว่าเกษตรกรที่ใช้สารเคมีเข้มข้นปกติ 1.34 เท่า ( p < 0.05, 95%CI = 1.17 - 1.55 )
ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีการให้ความรู้และสอนวิธีการใช้สารเคมีที่ถูกต้องให้กับเกษตรกร 2. ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชหมุนเวียน หรือลดจำนวนครั้งของการทำการเกษตรลงในแต่ละปี 3. ควรมีการตรวจหาระดับ cholinesterase เป็นระยะ ๆ โดยให้ อสม. เป็นผู้ดำเนินการ 4. ส่งเสริมให้มีการดำเนินการตามโรงเรียนเกษตรกรในพระราชดำริ