920 likes | 1.08k Views
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน. Acts กิจการ 18 Paul in Corinth, Ephesus, and Antioch เปาโลที่เมืองโครินธ์เอเฟซัสแล่นออกจากเมืองเอเฟซัส .
E N D
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridgeสวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน
Acts กิจการ18 Paul in Corinth, Ephesus, and Antioch เปาโลที่เมืองโครินธ์เอเฟซัสแล่นออกจากเมืองเอเฟซัส
Paul meets tentmakers in Corinth verses 1-3 เปาโลพบสองฝ่ายเป็นช่างทำเต็นท์ด้วยกันข้อที่ 1-3
1After this Paul left Athens and went to Corinth. 1หลังจากนั้น เปาโลจึงออกจากกรุงเอเธนส์ไปยังเมืองโครินธ์
2And he found a Jew named Aquila, a native of Pontus, recently come from Italy with his wife Priscilla, because Claudius had commanded all the Jews to leave Rome. And he went to see them,
2ท่านได้พบยิวคนหนึ่งที่นั่นชื่ออาควิลลา ซึ่งเกิดในแคว้นปอนทัส แต่พึ่งมาจากประเทศอิตาลีกับภรรยาชื่อ ปริสสิลลา เพราะจักรพรรดิคลาวดิอัสมีรับสั่งให้พวกยิวทั้งปวง ออกไปจากกรุงโรม เปาโลจึงไปหาคนทั้งสองนั้น
3and because he was of the same trade he stayed with them and worked, for they were tentmakers by trade. 3และได้อาศัยทำการอยู่กับเขา เพราะว่าทั้งสองฝ่ายเป็นช่างทำเต็นท์ด้วยกัน
I Corinthians 1 โครินธ์9:4-144Do we not have the right to eat and drink? 4เราไม่มีสิทธิ์ที่จะกินและดื่มหรือ
5Do we not have the right to take along a believing wife, as do the other apostles and the brothers of the Lord and Cephas? 5เราไม่มีสิทธิ์ที่จะพาพี่น้องซึ่งเป็นภรรยาไปไหนๆด้วยกันเหมือนอย่างพวกอัครทูตอื่นๆ และน้องๆขององค์พระผู้เป็นเจ้า และเคฟาสหรือ
6Or is it only Barnabas and I who have no right to refrain from working for a living? 6เฉพาะข้าพเจ้าและบารนาบัสเท่านั้นหรือ ที่ไม่มีสิทธิ์ที่จะเลิกทำงานหาเลี้ยงชีพ
7Who serves as a soldier at his own expense? Who plants a vineyard without eating any of its fruit? Or who tends a flock without getting some of the milk?
7ใครบ้างที่เป็นทหารไปในการศึกสงคราม และต้องกินเสบียงของตัวเอง หรือใครบ้างที่ทำสวนปลูกต้นองุ่น และมิได้กินผลองุ่นในสวนนั้น หรือใครบ้างที่เลี้ยงสัตว์ และมิได้กินน้ำนมของฝูงสัตว์นั้น
8Do I say these things on human authority? Does not the Law say the same? 8ข้าพเจ้ากล่าวอย่างนี้ตามวิสัยของมนุษย์หรือ ธรรมบัญญัติมิได้กล่าวอย่างนี้เหมือนกันหรือ
9For it is written in the Law of Moses, “You shall not muzzle an ox when it treads out the grain.” Is it for oxen that God is concerned? 9เพราะว่าในธรรมบัญญัติของโมเสสเขียนไว้ว่า อย่าเอาตะกร้าครอบปากวัวเมื่อมันกำลังนวดข้าวอยู่ พระเจ้าทรงเป็นห่วงวัวหรือ
10Does he not speak entirely for our sake? It was written for our sake, because the plowman should plow in hope and the thresher thresh in hope of sharing in the crop.
10พระองค์ไม่ได้ตรัสเพื่อประโยชน์ของพวกเราโดยเฉพาะดอกหรือ ข้อความนั้นเขียนไว้เพื่อประโยชน์ของเราทั้งหลาย แสดงว่าคนที่ไถนาควรไถด้วยความหวังใจ และคนที่นวดข้าวควรนวดด้วยความหวังใจว่า จะได้ประโยชน์
11If we have sown spiritual things among you, is it too much if we reap material things from you? 11ถ้าเราได้หว่านปัจจัยสำหรับวิญญาณให้แก่ท่าน แล้วจะมากไปหรือที่เราจะเกี่ยวของสำหรับเนื้อหนังจากท่าน
12If others share this rightful claim on you, do not we even more? Nevertheless, we have not made use of this right, but we endure anything rather than put an obstacle in the way of the gospel of Christ.
12ถ้าคนอื่นมีสิทธิ์ที่จะได้รับประโยชน์จากท่าน เราไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับยิ่งกว่าเขาอีกหรือ แต่ถึงกระนั้น เราก็มิได้ใช้สิทธิ์นี้เลย เรายอมทนทุกข์ยากสารพัด เพื่อเราจะไม่เป็นอุปสรรคขัดขวางข่าวประเสริฐเรื่องพระคริสต์
13Do you not know that those who are employed in the temple service get their food from the temple, and those who serve at the altar share in the sacrificial offerings?
13ท่านไม่รู้หรือว่าคนที่ปรนนิบัติในโบสถ์ก็กินอาหารของโบสถ์ และคนปรนนิบัติที่แท่นบูชาก็รับส่วนแบ่งจากเครื่องบูชานั้น
14In the same way, the Lord commanded that those who proclaim the gospel should get their living by the gospel. 14ทำนองเดียวกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงบัญชาไว้ว่า คนที่ประกาศข่าวประเสริฐควรได้รับการเลี้ยงชีพด้วยข่าวประเสริฐนั้น
II Corinthians 2 โครินธ์11:3-77Or did I commit a sin in humbling myself so that you might be exalted, because I preached God's gospel to you free of charge?
7ข้าพเจ้าได้กระทำผิดหรือ ในการที่ข้าพเจ้าได้ถ่อมใจลงเพื่อยกชูท่านขึ้น เพราะข้าพเจ้าได้ประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้าแก่พวกท่าน โดยไม่ได้คิดเงิน
8I robbed other churches by accepting support from them in order to serve you. 8ข้าพเจ้าปล้นคริสตจักรอื่น ด้วยการรับเงินบำรุงจากเขา เพื่อจะได้ปรนนิบัติพวกท่าน
9And when I was with you and was in need, I did not burden anyone, for the brothers who came from Macedonia supplied my need. So I refrained and will refrain from burdening you in any way.
9และเมื่อข้าพเจ้าอยู่กับพวกท่าน และกำลังขาดแคลนนั้น ข้าพเจ้าก็มิได้เป็นภาระแก่ผู้ใด เพราะว่าพี่น้องที่มาจากแคว้นมาซิโดเนีย ได้เจือจานให้พอแก่ความต้องการของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าระวังตัวไม่ให้เป็นภาระแก่พวกท่านในทางหนึ่งทางใด และข้าพเจ้าจะระวังตัวเช่นนั้นต่อไป
Romans 16:3-5 3Greet Prisca and Aquila, my fellow workers in Christ Jesus, 3ขอฝากความคิดถึงมายังปริสคาและอาควิลลา ผู้ร่วมงานกับข้าพเจ้าในพระราชกิจของพระเยซูคริสต์
4who risked their necks for my life, to whom not only I give thanks but all the churches of the Gentiles give thanks as well. 4ซึ่งได้เสี่ยงชีวิตของเขา เพื่อป้องกันชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอขอบคุณเขาทั้งสอง และมิใช่ข้าพเจ้าคนเดียว แต่คริสตจักรทุกแห่งของพวกต่างชาติก็ขอบคุณเขาด้วย
5Greet also the church in their house. Greet my beloved Epaenetus, who was the first convert to Christ in Asia. 5และขอฝากความคิดถึงมายังคริสตจักรที่อยู่ในบ้านเขาด้วย ขอฝากความคิดถึงมายังเอเปเนทัสที่รักของข้าพเจ้า ผู้เป็นคนแรกที่เข้ามาเชื่อในพระคริสต์ในแคว้นเอเชีย
I Corinthians 16:19 The churches of Asia send you greetings. Aquila and Prisca, together with the church in their house, send you hearty greetings in the Lord.
1 โครินธ์16:19 คริสตจักรทั้งหลายในแคว้นเอเชียฝากความคิดถึงมากมายังท่านทั้งหลาย อาควิลลาและปริสคากับคริสตจักรที่อยู่ในบ้านของเขา ฝากความคิดถึงในองค์พระผู้เป็นเจ้ามายังท่านทั้งหลาย
The ministry in Corinth verses 4-18 เปาโลที่เมืองโครินธ์ข้อที่ 4-18
4And he reasoned in the synagogue every Sabbath, and tried to persuade Jews and Greeks. 4เปาโลได้สนทนาธรรมในธรรมศาลาทุกวันสะบาโต ได้ชักชวนทั้งพวกยิวและพวกกรีกให้เชื่อ
5When Silas and Timothy arrived from Macedonia, Paul was occupied with the word, testifying to the Jews that the Christ was Jesus. 5พอสิลาสกับทิโมธีมาจากแคว้นมาซิโดเนีย เปาโลก็เริ่มฝักใฝ่ในการประกาศพระวจนะ และเป็นพยานแก่พวกยิวว่า พระคริสต์นั้นคือพระเยซู
6And when they opposed and reviled him, he shook out his garments and said to them, “Your blood be on your own heads! I am innocent. From now on I will go to the Gentiles.”
6แต่เมื่อพวกเหล่านั้นขัดขวาง กล่าวคำหยาบช้า เปาโลจึงได้สะบัดเสื้อผ้า กล่าวแก่เขาว่า “โทษที่ท่านทั้งหลายต้องตายนั้น ท่านเองต้องรับผิดชอบ ข้าพเจ้าไม่มีโทษแล้ว ตั้งแต่นี้ไปข้าพเจ้าจะไปหาคนต่างชาติ”
7And he left there and went to the house of a man named Titius Justus, a worshiper of God. His house was next door to the synagogue. 7ท่านจึงออกจากที่นั่น แล้วเข้าไปในบ้านของชายคนหนึ่งชื่อทิทิอัสยุสทัส ซึ่งเป็นคนถือพระเจ้า บ้านของเขาอยู่ติดกับธรรมศาลา
8Crispus, the ruler of the synagogue, believed in the Lord, together with his entire household. And many of the Corinthians hearing Paul believed and were baptized.
8ฝ่ายคริสปัสนายธรรมศาลา กับทั้งครัวเรือนของท่านได้เชื่อถือพระเจ้า และชาวโครินธ์หลายคนเมื่อได้ฟังเปาโลแล้ว ก็ได้เชื่อถือและรับบัพติศมา
9And the Lord said to Paul one night in a vision, “Do not be afraid, but go on speaking and do not be silent, 9และองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสกับเปาโลทางนิมิต ในคืนหนึ่งว่า “อย่ากลัวเลย แต่จงกล่าวต่อไป อย่านิ่งเสีย
10for I am with you, and no one will attack you to harm you, for I have many in this city who are my people.” 10เพราะว่าเราอยู่กับเจ้าและจะไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดอาจต่อสู้ทำร้ายเจ้า ด้วยว่าคนของเราในนครนี้มีมาก”
11And he stayed a year and six months, teaching the word of God among them. 11เปาโลจึงยับยั้งอยู่กับเขา และสั่งสอนพระวจนะของพระเจ้าตลอดปีหนึ่งกับหกเดือน
12But when Gallio was proconsul of Achaia, the Jews made a united attack on Paul and brought him before the tribunal, 12แต่คราวเมื่อกัลลิโอเป็นผู้สำเร็จราชการแคว้นอาคายา พวกยิวได้ฮือกันขึ้นต่อสู้เปาโล และพาท่านไปศาล
13saying, “This man is persuading people to worship God contrary to the law.” 13ฟ้องว่า “คนนี้ชักชวนคนทั้งหลายให้นมัสการพระเจ้าตามทางที่ผิดกฎหมาย”
14But when Paul was about to open his mouth, Gallio said to the Jews, “If it were a matter of wrongdoing or vicious crime, O Jews, I would have reason to accept your complaint.
14เมื่อเปาโลจะอ้าปากพูด กัลลิโอก็กล่าวแก่พวกยิวว่า “ดูก่อนพวกยิว ถ้าเป็นเรื่องการอธรรมหรือเป็นเรื่องอาชญากรรม สมควรเราจะฟังท่านทั้งหลาย
15But since it is a matter of questions about words and names and your own law, see to it yourselves. I refuse to be a judge of these things.”
15แต่เมื่อเป็นการโต้แย้งกันถึงเรื่องถ้อยคำกับชื่อ และธรรมบัญญัติของพวกท่านแล้ว ท่านทั้งหลายจงวินิจฉัยกันเอาเองเถิด เราไม่อยากเป็นผู้พิพากษาตัดสินข้อความเหล่านั้น”
16And he drove them from the tribunal. 16ท่านจึงไล่พวกนั้นไปจากศาล