1 / 52

วิภาวี ชอบดี ฐิติมา คุรุพงศ์ ปริณยะศักดิ์ สังกะเพศ

ปัญหาสุขภาพ พฤติกรรมดูแลสุขภาพ และการใช้บริการสุขภาพของแรงงาน ในโรงงานวงษ์พาณิชย์ จำกัด สาขาท่าทอง จังหวัดพิษณุโลก. วิภาวี ชอบดี ฐิติมา คุรุพงศ์ ปริณยะศักดิ์ สังกะเพศ. หลักการและเหตุผล.

Download Presentation

วิภาวี ชอบดี ฐิติมา คุรุพงศ์ ปริณยะศักดิ์ สังกะเพศ

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. ปัญหาสุขภาพ พฤติกรรมดูแลสุขภาพและการใช้บริการสุขภาพของแรงงานในโรงงานวงษ์พาณิชย์ จำกัด สาขาท่าทองจังหวัดพิษณุโลก วิภาวีชอบดี ฐิติมาคุรุพงศ์ ปริณยะศักดิ์สังกะเพศ

  2. หลักการและเหตุผล • ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มุ่งเน้นการพัฒนาประเทศไปในด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยแรงงานที่ทำงานในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เป็นแรงงานจากภาคเกษตรกรรม ปัญหาการเจ็บป่วยและสุขภาพอนามัยของแรงงาน จึงเป็นประเด็นที่น่าสนใจที่ได้มีการศึกษาวิจัยกันเรื่อยมา ว่าคนงานที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรมมีลักษณะการเจ็บป่วยและสภาวะสุขภาพอนามัยเป็นอย่างไร ดังนั้นการศึกษาวิจัยทั้งในเรื่องปัญหาการเจ็บป่วย สุขภาพอนามัย และการส่งเสริมสุขภาพอนามัย รวมทั้งบทบาทของแรงงานในการแก้ปัญหาและส่งเสริมสุขภาพ เพื่อว่าความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวจะได้นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อคนงาน นายจ้าง และรัฐบาล ในการที่จะหาแนวทางป้องกันและแก้ไขภัยอันตรายที่อาจจะมีผลต่อสุขภาพอนามัยของคนงาน เพื่อสนับสนุนให้ประสิทธิภาพในการทำงานของแรงงานสูงขึ้น และเป็นการเสริมสร้างโอกาสในการทำงานของแรงงาน อันจะเป็นผลให้มีบทบาทและสถานภาพในการทำงานสูงขึ้นด้วย

  3. วัตถุประสงค์ • เพื่อทราบถึงปัญหาสุขภาพที่พบในแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม • เพื่อศึกษาพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมเมื่อเกิดภาวะการเจ็บป่วยขึ้น • เพื่อทราบถึงปัจจัยหรือเงื่อนไขอื่นๆ เช่น สภาวะเศรษฐกิจ และการดูแลของครอบครัว ซึ่งมีผลต่อการกำหนดพฤติกรรมการดูแลตนเองและการเข้ารับบริการในสถานบริการทางสาธารณสุข

  4. รูปแบบการวิจัย • Qualitative study : Focus group discussion. In-depth Interview.

  5. วิธีดำเนินการวิจัย • สัมภาษณ์เก็บข้อมูลเบื้องต้น โดยทางโรงงานวงษ์พาณิชย์เป็นผู้เลือกผู้เข้าร่วมการวิจัย 20 คน เนื่องจากเพื่อมิให้กระทบกระเทือนระบบการทำงาน จากนั้น คัดเลือกผู้ที่เข้า Inclusion criteria ทำการเก็บข้อมูลแบบ Focus group discussion แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 5 - 7 คน และเลือกทำ In-depth Interview ในรายที่น่าสนใจ 3 ราย คือ • รายที่ไม่เคยลางานเลย • รายที่เป็นผู้ป่วยเรื้อรัง ใช้บริการสุขภาพหลากหลายและมีสุขภาพดีขึ้น หลังจากทำงานในโรงงาน • รายที่มีทัศนคติที่ดีต่อโรงพยาบาล • โดยจะมีการขออนุญาตบันทึกเทปและจะเก็บข้อมูลเป็นความลับ และทำการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล

  6. ทบทวนวรรณกรรม • ส่วนข้อมูลข่าวสารสาธารณสุข สำนักนโยบายและแผนสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปี 2537 เรื่อง “สถิติสาธารณสุข พ.ศ.2537“

  7. ตารางที่ 1 :จำนวนผู้ป่วยนอกตามกลุ่มสาเหตุ ( 6 กลุ่มโรค ) จากสถานบริการสาธารณสุขของกระทรวงสาธารณสุข ภาคเหนือ กับอัตราป่วยต่อประชากร 100 คน พ.ศ. 2537

  8. ทบทวนวรรณกรรม(ต่อ) • การศึกษาของนสพ.ธีราภา ชาญกูลและคณะปี 2545 ในเรื่อง “พฤติกรรมดูแลสุขภาพและการเข้ารับการรักษาของผู้ประกอบอาชีพสามล้อถีบ” เป็นการศึกษาแบบ Qualitative Descriptive Study ใช้แบบสัมภาษณ์ในการเก็บข้อมูลเบื้องต้นเพื่อทำความรู้จักและคัดเลือกผู้ร่วมสนทนากลุ่ม ( Focus group discussion ) และ In-depth Interview กับผู้ประกอบอาชีพสามล้อถีบในเขตอำเภอเมืองพิษณุโลก ที่มีภาวะเจ็บป่วยในช่วง 1ปีที่ผ่านมา (2545) จำนวน 17 คน • ประเด็นเรื่องของปัญหาสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพเมื่อยามเจ็บป่วย ได้ข้อสรุป คือ ภาวะความเจ็บป่วยที่พบมักเป็นความเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามารถดูแลรักษาได้ด้วยตนเอง และโดยส่วนใหญ่จะเลือกใช้วิธีการซื้อยามารับประทานเองจากร้านขายยา ร้านค้าในตลาด ในส่วนของการรับรู้ข้อมูลทางสุขภาพ ส่วนใหญ่ก็รับรู้จากโฆษณาทางโทรทัศน์ ผู้ขายยาโดยตรง ประสบการณ์การใช้ยาดังกล่าวมาก่อน สำหรับเหตุผลที่เลือกใช้เป็นเรื่องของความสะดวก ไม่เสียเวลา ไม่แพง

  9. ทบทวนวรรณกรรม(ต่อ) • ประเด็นพฤติกรรมการใช้บริการทางสถานบริการสาธารณสุขเมื่อเจ็บป่วย คือเมื่อเจ็บป่วยถึงกับช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จึงมาทำการรักษา ซึ่งเหตุผลก็เป็นเรื่องของเศรษฐกิจ • ความต้องการต่อบริการสาธารณสุขในเพศหญิงแตกต่างจากเพศชายคือ ต้องการเน้นถึงแพทย์ผู้รักษาเป็นพิเศษ ซึ่งควรมีความเข้าใจผู้ป่วยมาก ควรมีจิตวิทยาในการคุยกับคนไข้ เมื่อจะบอกความจริงเกี่ยวกับโรคร้ายแรงที่ผู้ป่วยเป็นอยู่ โดยไม่เน้นถึงบุคลากรอื่น ๆ มากนักเมื่อเทียบกับความต้องการของสามล้อถีบเพศชาย

  10. ทบทวนวรรณกรรม(ต่อ) • วรวิทย์ เจริญเลิศ และนภาพร อติวานิชพงศ์ ปี 2545 โครงการวิจัยเรื่อง “ การพัฒนาระบบสวัสดิการสำหรับคนงาน” วิเคราะห์ข้อมูลภาพรวมของลูกจ้างในภาคอุตสาหกรรมประเภทต่างๆทั่วประเทศ โดยจำแนกเป็น 4 กลุ่ม คือลูกจ้างในภาคธุรกิจที่เป็นทางการ ลูกจ้างนอกภาคธุรกิจที่เป็นทางการ แรงงานต่างด้าวและแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศ • พบว่า การขาดหลักประกันด้านสุขภาพและความปลอดภัยในการทำงานเป็นสาเหตุที่สำคัญอีกประการหนึ่งของความจนและความด้อยโอกาสนอกเหนือจากสาเหตุด้านรายได้และความมั่นคง • การที่รัฐบาลไม่มีมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการบังคับใช้กฎหมายด้านความปลอดภัยในสถานประกอบการ : กรณีไฟไหม้โรงงานเคเดอร์อินดัสเทรียล จังหวัดนครปฐม (10 พ.ค. 2536) มีคนงานเสียชีวิต 188 ราย บาดเจ็บ 481 ราย, โรงงานอบลำไยแห้งที่จังหวัดเชียงใหม่ (19 ก.ย.2542) มีคนงานเสียชีวิต 36 ราย • สภาพแวดล้อมที่ไม่ได้มาตรฐาน,การขาดแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านโรคที่เกิดจากการทำงาน ทำให้ผู้ป่วยด้วยโรคจากการทำงานไม่ได้รับการรักษาถูกต้องตั้งแต่แรก : กรณีคนงานป่วยด้วยโรคปอดอักเสบจากฝุ่นฝ้าย โรงงานทอผ้ากรุงเทพ ซึ่งต่อสู้โดยผ่านกระบวนการทางศาลเพื่อให้ได้สิทธในการเข้าถึงสวัสดิการจากกองทุนเงินทดแทน ,กรณีคนงานเสียชีวิตจากสารพิษตะกั่วในเขตนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำพูน

  11. ทบทวนวรรณกรรม(ต่อ) • กุศล สุนทรธาดา และสุรีย์พร พันพึ่ง ปี 2530 ในโครงการวิจัยเรื่อง “ การวางแผนครอบครัวและสุขภาพอนามัยของสตรีโรงงาน ” แบบ Descriptive เป็นการศึกษาแบบภาคตัดขวาง เก็บข้อมูลจากแรงงานสตรีในโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ จำนวน 906 ราย ส่วนใหญ่อายุ 20 – 29 ปี มาจากชนบท การศึกษาชั้น ป.4 รายได้เฉลี่ย 2500 – 3000 บาท/เดือน ส่วนใหญ่ ( 60 % ) ทำงานมานานกว่า 5 ปี ร้อยละ 54.2 ไม่เคยเปลี่ยนหน้าที่การทำงานเลย • การเจ็บป่วยที่พบนั้นมักจะเป็นอาการของโรคหลายๆโรคในเวลาเดียวกัน

  12. ทบทวนวรรณกรรม(ต่อ) • อาการเจ็บป่วยที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมในการทำงาน เช่น เสียง ฝุ่น และแสง ก่อให้เกิดอาการ เช่น สมรรถภาพการได้ยินลดลง อาการเจ็บป่วยเกี่ยวกับทางเดินหายใจ อาการทางตา มีสัดส่วนสูงขึ้นเมื่อทำงานในโรงงานนานขึ้น • คนงานเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่แสดงทัศนคติว่าสิ่งแวดล้อมต่างๆมีผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ดังนั้นส่วนใหญ่จึงไม่ใส่ใจในการป้องกัน • แรงงานกลุ่มนี้ต้องการมีบุตร 2 – 3 คน แต่มีบุตรเฉลี่ยไม่ถึง 2 คน ทั้งนี้เนื่องจากสภาพจำยอมจากสภาพการทำงาน และนิยมคุมกำเนิดโดยวิธีชั่วคราว รองลงมาคือ ทำหมันหญิงซึ่งนิยมในคนที่มีอายุมากและไม่ต้องการมีบุตรอีก

  13. ตารางที่ 2 : ร้อยละของการเจ็บป่วยทั่วไปของแรงงานสตรี

  14. ตารางที่ 3 : ร้อยละของผลการประเมินสุขภาพของแรงงานสตรี A1 : ปกติ A2 : เสื่อมสมรรถภาพเล็กน้อย A3 : เสื่อมสมรรถภาพปานกลาง A4 : เสื่อมสมรรถภาพมาก

  15. จากการทบทวนวรรณกรรม.............จากการทบทวนวรรณกรรม............. • อาชีพเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพและการเข้ารับการบริการทางสาธารณสุข กลุ่มแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมมีทัศนคติและพฤติกรรมสุขภาพต่างจากกลุ่มอาชีพอื่นอย่างไร • แรงงานในปัจจุบันมีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพและการเข้ารับการบริการทางสาธารณสุขเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างเมื่อเวลาผ่านไป กว่า 15ปีและมีการรณรงค์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และสิทธิของแรงงานมากขึ้น เพียงพอกับความต้องการหรือไม่

  16. คำถามการวิจัย • คำถามหลัก : ปัญหาสุขภาพ พฤติกรรมการดูแลสุขภาพ และการใช้บริการสุขภาพของแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นอย่างไร เมื่อเกิดภาวะการเจ็บป่วยขึ้น • คำถามรอง : • ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยหรือเงื่อนไขอื่นๆ เช่น สภาวะเศรษฐกิจและการดูแลของครอบ ครัวแรงงานสตรีในโรงงานอุตสาหกรรม กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพเป็นอย่างไร

  17. ผลที่คาดว่าจะได้รับ • ทราบปัญหาสุขภาพ พฤติกรรมการดูแลตนเองของแรงงานในโรงงาน ช่วยในการปรับปรุงแก้ไข พัฒนาพฤติกรรม นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดี • เพื่อนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม สถานบริการสาธารณสุข นายจ้าง และรัฐบาลในการที่จะหาแนวทางป้องกันและแก้ไขภัยอันตรายที่อาจจะมีต่อสุขภาพอนามัยของแรงงาน • เพื่อส่งเสริมให้ประสิทธิภาพในการทำงานของแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมสูงขึ้น

  18. Host :อายุ,เพศ,อาชีพ,สถานภาพสมรส,จำนวนบุตร,เศรษฐกิจภายในครอบครัว,ประวัติความเจ็บป่วยของบุคคลนั้นและครอบครัว,การรับรู้,ความรู้สึกต่อปัญหาสุขภาพของบุคคลนั้น,การดูแลสุขภาพก่อนป่วยเช่นอาหาร, การออกกำลังกาย,ความเครียด,ความวิตกกังวล Agent : Biological Physiological Chemical Environment : แสง ฝุ่น ความร้อน เสียงเครื่องจักรกล ภาวะเจ็บป่วย ปัญหาสุขภาพ พฤติกรรม การดูแลสุขภาพ Self care สถานบริการ ทางด้านสาธารณสุข การรับรู้,ความรู้สึก,ความต้องการและปัญหาที่พบในแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมเมื่อเกิดความเจ็บป่วยที่ต้องมารับการรักษาในสถานบริการทางด้านสาธารณสุข ผลการรักษา

  19. Inclusion criteria : แรงงานในโรงงานวงพาณิชย์ จำกัด สาขาท่าทอง จังหวัดพิษณุโลก ที่มีภาวะการเจ็บป่วยในช่วง วันที่ 1 มกราคม 2545 ถึง 31 ธันวาคม 2545 Exclusion criteria : แรงงานในโรงงานวงพาณิชย์ จำกัด สาขาท่าทอง จังหวัดพิษณุโลก ที่ไม่เคยมีภาวะการเจ็บป่วยในช่วง วันที่ 1มกราคม 2545 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2545 ระเบียบวิธีวิจัย กลุ่มประชากร

  20. Variable • Independent variable : ทัศนคติและวัฒนธรรมเกี่ยวกับพฤติกรรมการดู แลสุขภาพ • Dependent variable :พฤติกรรมการดูแลสุขภาพ การเลือกสถานบริการทางสาธารณสุข • Confounding variable :อายุ, underlying disease ฐานะทางเศรษฐกิจ , การศึกษา

  21. คำนิยาม • แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม หมายถึง บุคคลที่ทำงานร่วมกับเครื่องจักรกลในโรงงานอุตสาหรรม ที่มีระบบงานกะ และงานล่วงเวลา โดยได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือนจากนายจ้างเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมนั้น • สุขภาพ หมายถึง การมีสุขภาพกาย ใจ จิตวิญญาณ สังคม และเศรษฐกิจดี จนทำให้ชีวิตมีคุณภาพ • พฤติกรรมการดูแลสุขภาพ หมายถึง การที่บุคคลแสดงพฤติกรรมออกมาให้เห็นว่าถูกต้องตามหลักสุขภาพ มีผลทำให้บุคคลนั้นมีสุขภาพอนามัยดี ไม่เป็นโรค และป้องกันมิให้เกิดโรค หรือไม่อยู่ในสภาวะที่เป็นโรคได้ง่าย มีความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติตนทางอนามัยดีและถูกต้อง

  22. คำนิยาม(ต่อ) • ภาวะความเจ็บป่วย หมายถึง ความเจ็บป่วยที่ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ หรือความเจ็บป่วยที่ต้อง 1) ทำงานตามปกติไม่ได้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง 2) รับประทานอาหารตามปกติไม่ได้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง และ 3) ต้องนอนพักอย่างน้อย 24 ชั่วโมง • การใช้บริการสุขภาพ หมายถึง การไปรักษาทั้งแผนปัจจุบัน , แผนโบราณ , การซื้อยากินเอง และรับข้อมูลจากร้านขายยา

  23. Sample size • แรงงานในโรงงานวงษ์พาณิชย์ จำกัด สาขาท่าทอง จังหวัดพิษณุโลก ที่มีภาวะการเจ็บป่วยในช่วง วันที่ 1 มกราคม 2545 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2545 จำนวน 20 คน

  24. Bias • Selective bias : Choice of sampling frame • Information bias : Omission/ Imprecision recording data • Confounding bias : Age , Underlying disease

  25. ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนาใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา การวิเคราะห์ข้อมูล ระยะเวลาการวิจัย • 2 สัปดาห์

  26. RESULT

  27. เพศ

  28. อายุ

  29. สถานภาพสมรส

  30. อาชีพรอง

  31. รายรับ - รายจ่าย

  32. สภาวะเศรษฐกิจ

  33. การสูบบุหรี่ - การดื่มสุรา

  34. การพักผ่อน - การออกกำลังกาย

  35. การเจ็บป่วย

  36. ปัญหาสุขภาพ หรือภาวะความเจ็บป่วยที่พบในแรงงานในโรงงาน • ส่วนใหญ่มักเป็นปัญหาความเจ็บป่วย เล็กๆน้อยๆ ที่สามารถดูแลรักษาได้ด้วยตนเองก่อนมาพบแพทย์ เช่น ไข้หวัด ปวดศีรษะ ปวดท้อง ปวดเมื่อยทั่วไป • แต่บางส่วนเคยมีปัญหาความเจ็บป่วยในอดีต ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เช่น เป็นไข้มาลาเรีย เป็นไทรอยด์เป็นพิษ • ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า จะต้องรุนแรงถึงขั้นไม่สามารถปฏิบัติภารกิจต่อไปได้ หรือรบกวนประสิทธิภาพการทำงานจึงมารักษาที่โรงพยาบาล • ส่วนเรื่องการดื่มสุราไม่ค่อยเป็นปัญหาสุขภาพมากนักเนื่องจากดื่มไม่บ่อย ดื่มตามเทศกาล

  37. อภิปรายผล :ปัญหาสุขภาพ ปัญหา • ส่วนมากปัญหาสุขภาพเล็กๆน้อยๆ เช่น ปวดศรีษะ เป็นไข้ ที่สามารถหาทางป้องกันได้ ส่วนโรคร้ายแรงมักไม่ค่อยเกิด ซึ่งจะเห็นว่าแรงงานในโรงงานมีสุขภาพแข็งแรง โดยสภาพแวดล้อมที่ทำงานมีผลต่อความเจ็บป่วยน้อยมา • แต่การเจ็บป่วยในระบบทางเดินหายใจนั้น เมื่อคิดแล้วเป็น 70 % ซึ่งมากกว่าตัวเลขสถิติของกระทรวงสาธารณสุข เกือบ 2 เท่า ( 33.05%) นั้นอาจจะเป็นเพราะอคติในการวิจัยที่สืบเนื่องมาจากการเลือกกลุ่มตัวอย่าง

  38. อภิปรายผล :ปัญหาสุขภาพ(ต่อ) แนวทางแก้ปัญหา • รักษาสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้สบาย • กระตุ้นให้รับรู้และเข้าใจผลการทำงานและสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพอนามัยและการเจ็บป่วย เพื่อจะได้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการป้องกันพิษจากการทำงาน มีความกระตือรือร้นที่จะทำการป้องกันและทำอย่างต่อเนื่อง

  39. พฤติกรรมการดูแลสุขภาพพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ • พฤติกรรมการดูแลสุขภาพของแรงงานในโรงงาน โดยส่วนใหญเมื่อเกิดภาวะความเจ็บป่วยขึ้นมาหากเป็นความเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆที่พอจะดูแลตนเองได้ จะขอยาที่ออฟฟิศและสถานีอนามัยมารับประทานเอง ซึ่งหากรุนแรงมากขึ้นชนิดกินแล้วไม่หาย ก็จะไปโรงพยาบาล มีส่วนน้อยที่จะไปคลินิก โดยส่วนมากแล้วจะตระหนักที่จะดูแลตัวเองเมื่อมีความเจ็บป่วย • แรงงานทุกคนมีความตระหนักในการสวมผ้าปิดจมูก ถุงมือ ทุกคนเชื่อว่าสามารถป้องกันการเจ็บป่วยจากการทำงานได้

  40. อภิปรายผล : พฤติกรรมสุขภาพ ปัญหา • ด้านการรักษา : พฤติกรรมการดูแลตนเองเมื่อเจ็บป่วย เช่น การซื้อยามารับประทานเอง • ด้านการส่งเสริมสุขภาพ : พฤติกรรมการออกกำลังกาย แนวทางแก้ปัญหา • ควรส่งเสริมให้แรงงานในโรงงานออกกำลังกายโดยวิธีอื่น ชี้ให้เห็นประโยชน์มากมายจากการออกกำลังกายซึ่งส่งผลดีทั้งต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ อาจชักชวนให้ลูกหลาน คนใกล้ชิดร่วมออกกำลังกาย เป็นการเชื่อมสัมพันธภาพภายในครอบครัวได้

  41. การรับรู้ ความรู้สึก ความต้องการ และปัญหาที่พบในการใช้บริการสุขภาพ • ส่วนใหญ่จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั้งของรัฐ ก็ต่อเมื่อความเจ็บป่วยมาก รุนแรงพอที่จะทำให้ไม่สามารถจะประกอบอาชีพได้ตามปกติ • สาเหตุของการไม่มารักษาในระยะเริ่มแรก เนื่องมาจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ เป็นหลัก ทำให้ต้องขาดงานขาดรายได้ • บางท่าน มีเจตคติในด้านลบต่อ โรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งเป็นผลจากประสบการณ์โดยตรง • ในเรื่องของความรู้สึกต่อการบริการ ส่วนใหญ่รู้สึกพอใจว่าแพทย์พูดดีกับคนไข้ มีส่วนน้อยที่ดุคนไข้

  42. การรับรู้ ความรู้สึก ความต้องการ และปัญหาที่พบในการใช้บริการสุขภาพ(ต่อ) • มีความต้องการให้แพทย์เข้าใจคนไข้มากขึ้น ยิ้มแย้ม เปิดโอกาสให้ผู้รับบริการได้รับรู้ ซักถามสิ่งที่ข้องใจ โดยไม่ถูกตำหนิด้วยวาจา หรือท่าทีที่ไม่เหมาะสม • ทางโรงงานแจกผ้าปิดจมูก ถุงมือ ผ้าคลุมศีรษะ หมวก ให้แก่คนงานทุกคน • คนงานทุกคนมีประกันสังคม แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้สิทธิ์นั้น เนื่องจากต้องเสียเวลาไปโรงพยาบาล และมีการเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

  43. อภิปรายผล : การรับรู้ ความรู้สึก ความต้องการ ข้อเสนอแนะ • ควรมีการประชาสัมพันธ์ในส่วนของนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า อาศัยหลายๆหน่วยงานเข้ามามีส่วนร่วม และอาศัยสื่อต่างๆ เช่น รายการวิทยุ รายการโทรทัศน์ เชิญวิทยากรที่มีความรู้ในเรื่องหลักประกันสุขภาพ มาตอบปัญหาและข้อข้องใจของประชาชน เปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็น • ปรับปรุงและพัฒนาระบบการบริการของสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐานสามารถ รองรับประชากรในพื้นที่ เน้นเชิงรุกมากขึ้น และเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนในการแสดงความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะ หลังการได้รับบริการทุกครั้งอาจเป็นตู้รับความคิดเห็น

  44. อภิปรายผล : การรับรู้ ความรู้สึก ความต้องการ(ต่อ) • ควรมีการทบทวนระบบประกันสังคมให้เหมาะสมกับคนงาน เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่ได้ไปใช้บริการแต่ต้องถูกหักค่าจ้างส่วนหนึ่งในการทำประกันสังคม • การที่โรงงานมีระบบป้องกันสุขภาพของแรงงานที่ดี มีการตรวจสุขภาพประจำปี ทำให้แรงงานมีสุขภาพดี และก่อให้เกิดแรงจูงใจในการทำงาน • การที่แรงงานในโรงงานมีสุขภาพดีนั้นอาจมาจาก การมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ร่วมงานด้วยกัน นายจ้าง ทำให้สุขภาพจิตดีนำไปสู่สุขภาพร่างกายที่ดีได้

  45. ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพ • ปัญหาเศรษฐกิจ : เป็นปัญหาแรกสุดที่มีผลต่อการมารับการรักษาในโรงพยาบาล จึงทำให้แรงงานในโรงงานเลือกที่จะดูแลตนเองก่อน เนื่องจากการมาโรงพยาบาลหมายถึงรายได้ที่ขาดไป เพราะการมาโรงพยาบาลจะเสียเวลาในการมารอตรวจเกือบทั้งวัน • ทัศนคติ : เป็นความคิด ความเชื่อ ความรู้สึกที่มีอยู่เดิม หรือประสบการณ์ที่ได้รับ ซึ่งมีผลต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของแต่ละคน • ความสะดวก รวดเร็ว : เป็นปัจจัยหนึ่งในการเลือกแหล่งพึ่งพิงทางสุขภาพ เช่น ร้านขายยา ร้านค้า คลินิกใกล้บ้าน

  46. อภิปรายผล :ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพ • หน่วยบริการสาธารณสุขควรเน้นในเรื่องของการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม ทั้งยามปกติและเจ็บป่วย ควรเน้น 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องพฤติกรรมการรักษาตนเองเมื่อเจ็บป่วยและพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรงในยามปกติ เช่น การออกกำลังกาย • ขั้นตอน คือ บุคลากรสาธารณสุขให้คำปรึกษา ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เสนอทางเลือก ให้ตระหนักในปัญหาของตนเองก่อนต้องการที่จะแก้ปัญหา และพยายามค้นหาศักยภาพที่ทำให้เขาสามารถมีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมต่อไป

  47. ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัยประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัย • ทราบปัญหาสุขภาพ พฤติกรรมการดูแลตนเองของแรงงานในโรงงาน ช่วยในการปรับปรุงแก้ไข พัฒนาพฤติกรรม นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดี • เพื่อนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม สถานบริการสาธารณสุข นายจ้าง และรัฐบาลในการที่จะหาแนวทางป้องกันและแก้ไขภัยอันตรายที่อาจจะมีต่อสุขภาพอนามัยของแรงงาน • เพื่อส่งเสริมให้ประสิทธิภาพในการทำงานของแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมสูงขึ้น

  48. อุปสรรคและข้อเสนอแนะ • ผู้เป็น modulator ขาดประสบการณ์และความสามารถในการดึงสมาชิกผู้ร่วมสนทนาให้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นโต้ตอบ จึงทำให้การสนทนากลุ่มค่อนข้างเป็นไปในเชิงซักถาม ข้อมูลที่ได้อาจขาดข้อมูลบางส่วนที่เกิดจากการสนทนากลุ่มร่วมกัน • ระยะเวลาในการทำงานวิจัยไม่เหมาะสม ผู้ทำการวิจัยต้องรีบเร่ง รวบรวม อภิปราย และวิเคราะห์ข้อมูล จึงควรเพิ่มระยะเวลาในการทำงานวิจัยให้เหมาะสม • ในการสัมภาษณ์ ใช้สถานที่บริเวณลานในโรงงาน ทำให้มีเสียงดังรบกวนการสัมภาษณ์ตลอดเวลา จึงควรจัดสถานที่สำหรับสัมภาษณ์ให้เป็นสัดส่วน หลีกเลี่ยงจากปัจจัยอื่นที่มารบกวน

  49. เอกสารอ้างอิง • กุศล สุนทรธาดา , สุรีย์พร พันพึ่ง. การวางแผนครอบครัวและสุขภาพอนามัยของสตรีโรงงาน ใน ทวีทอง หงษ์วิวัฒน์ , เพ็ญจันทร์ ประดับมุข , จริยา สุทธิสุคนธ์ , บรรณาธิการ. พฤติกรรมสุขภาพ,พิมพ์ครั้ง ที่ 1 .โครงการข่ายงานวิจัยพฤติกรรมสุขภาพ ศูนย์ประสานงานทางการแพทย์และสาธารณสุขกระทรวงสาธารณสุข , 2533 . 240 – 273 • กลุ่มงานอาชีวอนามัย ศูนย์อนามัยสิ่งแวดล้อมเขต 9 พิษณุโลก. คู่มือปฏิบัติงานอาชีวอนามัยสำหรับเจ้าหน้าที่สาธาณสุข , พิมพ์ครั้งที่ 1 .2540 • ธีราภา ชาญกูล และคณะ . รายงานการวิจัยเรื่อง พฤติกรรมดูแลสุขภาพและการเข้ารับการักษาของผู้ประกอบอาชีพสามล้อถีบ 2545.

  50. เอกสารอ้างอิง(ต่อ) • ฝ่ายการศึกษาพยาบาลและผดุงครรภ์ กองอนามัยครอบครัว กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข . รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาพฤติกรรมสุขภาพของสตรีวัยก่อนและหลังหมดระดู ในจังหวัดสระบุรี, นครสวรรค์ นครราชสีมา และนครศรีธรรมราช 2537. • ภิรมย์ กมลรัตนกุล , มนต์ชัย ชาลาประวรรตน์ , ทวีสิน ตันประยูร . หลักการทำวิจัยให้สำเร็จ , พิมพ์ครั้งที่ 2 . บริษัท เท็กซ์ แอนด์ เจอร์นัล พับลิเคชั่น จำกัด , 2542. • ลือชัย ศรีเงินยวง , ทวีทอง หงษ์วิวัฒน์ , บรรณาธิการ . ยุทธศาสตร์เพื่อการดูแลสุขภาพตนเอง ,พิมพ์ครั้งที่ 1 .ศูนย์ศึกษานโยบายสาธารณสุข คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล , 2533 .

More Related