1 / 50

สอบกลางภาค

สอบกลางภาค. วันพุธที่ 3 สิงหาคม 2548 เวลา 8.00-11.00 น. หัวข้อที่จะเรียนในวันนี้. ความหมายของตลาด ความสำคัญของตลาด หน้าที่ของตลาด ช่องทางการตลาด ลักษณะของตลาด แหล่งหาข้อมูลด้านการตลาด เขตการค้าเสรี. 1.3 ตลาดในเศรษฐกิจโลก. ตลาดคืออะไร.

Download Presentation

สอบกลางภาค

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. สอบกลางภาค วันพุธที่ 3 สิงหาคม 2548 เวลา 8.00-11.00 น.

  2. หัวข้อที่จะเรียนในวันนี้หัวข้อที่จะเรียนในวันนี้ • ความหมายของตลาด • ความสำคัญของตลาด • หน้าที่ของตลาด • ช่องทางการตลาด • ลักษณะของตลาด • แหล่งหาข้อมูลด้านการตลาด • เขตการค้าเสรี

  3. 1.3 ตลาดในเศรษฐกิจโลก ตลาดคืออะไร ในทางเศรษฐศาสตร์: การตกลงแลกเปลี่ยน ซื้อขายสินค้า ความหมายทั่วไป : สถานที่ผู้ซื้อและผู้ขายมีทางติดต่อกันได้โดยสะดวก จนสามารถทำการแลกเปลี่ยน ซื้อขายสินค้ากันได้

  4. 1.3 ตลาดในเศรษฐกิจโลก ตลาดคืออะไร การตลาด:การประกอบกิจกรรมต่างๆ ที่จะนำเอาสินค้าและบริการจากแหล่งผลิต ไปถึงมือผู้บริโภคใน เวลาสถานที่ รูปลักษณะ และใน จำนวน ที่ต้องการ หน้าที่ตลาด : อำนวยความสะดวกให้ฝ่ายผู้ขายและผู้ซื้อได้ทำการแลกเปลี่ยน

  5. ความสำคัญของการตลาด • ช่วยทำให้ผู้ผลิตทำการผลิตสินค้าได้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค • ให้ผู้บริโภคมีสินค้าไว้กิน ไว้ใช้ตลอดเวลา • เพื่อนำสินค้าไปขายถึงถิ่นที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค • เพื่อให้ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าได้ตามลักษณะต้องการ • ให้ผู้บริโภคมีการกินดีอยู่ดีขึ้น • ช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวสูงขึ้น

  6. หน้าที่ของการตลาด: อำนวยความสะดวกให้ฝ่ายผู้ขายและผู้ซื้อได้ทำการแลกเปลี่ยน • จัดหาสินค้า • เก็บรักษาสินค้า • ขายสินค้าและบริการ • กำหนดมาตรฐานสินค้า • ขนส่ง • การป้องกันการเสี่ยงภัย • การเงิน

  7. ความเชื่อมโยงของหน่วยเศรษฐกิจในระบบเศรษฐกิจความเชื่อมโยงของหน่วยเศรษฐกิจในระบบเศรษฐกิจ ราคา/มูลค่าสินค้าและบริการ สินค้าและบริการ หน่วยธุรกิจ/ผลิต ครัวเรือน/บริโภค ปัจจัยการผลิต: ที่ดิน แรงงาน ทุน ผู้ประกอบการ ค่าตอบแทน: ค่าเช่า ค่าจ้าง ดอกเบี้ย และกำไร คนกลาง ตลาดผลผลิต S D การแลกเปลี่ยน คนกลาง S D ตลาดปัจจัยการผลิต หน่วย ศก. อย่างง่าย

  8. คนกลาง • การแปรรูป-เก็บรักษา • ลักษณะ • เวลา ช่องทางการตลาด การเคลื่อนย้ายของสินค้าจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภค ตัวแทนจำหน่าย ผู้ผลิต ผู้บริโภค พ่อค้าส่ง พ่อค้าปลีก

  9. ลักษณะของตลาด • ตลาดที่มีการแข่งขันอย่างสมบูรณ์ (perfect competition) • ตลาดที่มีการแข่งขันอย่างไม่สมบูรณ์ • 2.1 ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด (monopolistic competition) • 2.2 ตลาดที่มีผู้ขายน้อยราย (oligopoly) • 2.3 ตลาดที่มีผู้ขายเพียง 2 ราย (duopoly) • 2.4 ตลาดผูกขาด (monopoly)

  10. ตัวแปรสำคัญในการแบ่งประเภทตลาดตัวแปรสำคัญในการแบ่งประเภทตลาด • จำนวนผู้ผลิต/ผู้ขาย • ความยากง่ายในการหาสินค้าอื่นมาทดแทน • ความยากง่ายในการเข้าหรือออกตลาด

  11. จุดมุ่งหมายในการจำแนกตลาดจุดมุ่งหมายในการจำแนกตลาด • ศึกษาเปรียบเทียบความแตกต่างของตลาดประเภทต่างๆ • ราคา • ปริมาณการผลิต • หลักเกณฑ์ในการกำหนดราคา • ลักษณะของกำไร/ขาดทุนในระยะสั้นและระยะยาว ** ใช้ได้กับทั้ง ตลาดผลผลิต ปัจจัยการผลิต และการเงิน**

  12. ตลาดที่มีการแข่งขันอย่างสมบูรณ์ (เสรี) • มีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก • สินค้าที่ซื้อขายมีลักษณะอย่างเดียวกัน • ผู้ซื้อ ผู้ขาย มีความรอบรู้เรื่องตลาดอย่างสมบูรณ์ • การติดต่อซื้อขายสามารถกระทำได้อย่างสะดวก • หน่วยธุรกิจสามารถเข้าหรือออกจากธุรกิจได้อย่างเสรี

  13. ตลาดที่มีการแข่งขันอย่างสมบูรณ์ (เสรี) (ต่อ) • หน่วยธุรกิจสามารถเข้าหรือออกจากธุรกิจได้อย่างเสรี • แต่ละธุรกิจมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับตลาด • ไม่มีอิทธิพลต่อราคา ราคา เกิดจากอุปสงค์อุปทานอย่างแท้จริง • ยอมรับราคา • สุดขั้ว

  14. ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาดตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด • มีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก • ผู้ซื้อ ผู้ขายแต่ละรายมีอิสระในการวางนโยบายการซื้อ การขายของตนโดยไม่กระทบกระเทือนคนอื่น • สินค้าที่ซื้อขาย มีลักษณะหรือมาตรฐานแตกต่างกัน

  15. ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด (ต่อ) • สินค้าเดียวกัน มีหลายตรา หลายยี่ห้อ การบรรจุหีบห่อ การโฆษณาแตกต่างกัน • ผู้ขายสามารถกำหนดราคาสินค้าของตนได้  ผู้ซื้อพึงพอใจใน ตราหรือยี่ห้อที่แตกต่างกัน • ยังมีการแข่งขันกันระหว่างผู้ขาย

  16. ตลาดที่มีผู้ขายน้อย • มีผู้ขายจำนวนไม่กี่ราย • ผู้ขายแต่ละรายขายสินค้าเป็นจำนวนมาก เมื่อเทียบกับปริมาณสินค้าทั้งหมดในตลาด • การเปลี่ยนราคา หรือนโยบายของผู้ผลิต/ผู้ขายแต่ละราย มีผลกระทบต่อรายอื่นๆ

  17. ตลาดที่มีผู้ขายน้อย (ต่อ) • สินค้าที่ซื้อขาย มีลักษณะหรือมาตรฐานแตกต่างกัน • ผู้ขายทุกคนมีอิทธิพลต่อการกำหนดราคา และปริมาณสินค้าในตลาด • ยังมีการแข่งขันกันระหว่างผู้ขาย

  18. ตลาดที่มีผู้ขาย 2 ราย • คล้ายกับตลาดผู้ขายน้อยราย • มีผู้ขาย 2 ราย • สินค้าที่ซื้อขาย มีลักษณะคล้ายกันมากหรือแตกต่างกันเพียงส่วนน้อย • ผู้ขายทุกคนมีอิทธิพลต่อการกำหนดราคา และปริมาณสินค้าในตลาด • ยังมีการแข่งขันกันระหว่างผู้ขาย

  19. ตลาดผูกขาด • มีเพียงธุรกิจเดียวในตลาด • ธุรกิจใหม่เข้ามาในตลาดได้ยากมาก • มีอิทธิพลต่อการกำหนดราคา และปริมาณสินค้าในตลาดอย่างสมบูรณ์  กำหนดราคาตลาด • สุดขั้ว

  20. ทำไมเป็นตลาดผูกขาด • เนื่องจากต้นทุนคงที่สูง • การกีดขวางธุรกิจใหม่ • กฎระเบียบของรัฐบาล • การได้รับสิทธิแต่ผู้เดียว • การประหยัดต่อขนาด • การเป็นเจ้าของทรัพยากรขาดแคลน

  21. การจำแนกตลาดโดยทั่วไปการจำแนกตลาดโดยทั่วไป • จำแนกตามภูมิศาสตร์ • ตลาดท้องถิ่น • ตลาดภายในประเทศ • ตลาดต่างประเทศ และตลาดโลก • จำแนกตามสิ่งที่ซื้อขาย • ตลาดผลผลิต เช่น ตลาดซื้อขายรถยนต์มือสอง • ตลาดปัจจัยการผลิต เช่น ตลาดแรงงาน ตลาดที่ดิน

  22. การจำแนกตลาดโดยทั่วไป (ต่อ) • จำแนกตามสภาพหรือลักษณะของการซื้อขาย • ตลาดกลาง • ตลาดขายส่งและขายปลีก • ตลาดค้าปลีก • ตลาดอื่นๆ • ตลาดการเงิน • ตลาดทุน • ตลาดเงินตราต่างประเทศ • ตลาดซื้อขายล่วงหน้า

  23. Website ที่มีข้อมูลด้าน ตลาด ส/ค เกษตร ในเศรษฐกิจโลก

  24. http://www.fao.org

  25. http://www.dft.moc.go.th

  26. http://www.bot.or.th

  27. www.oae.go.th

  28. www.custom.go.th

  29. มูลค่าการส่งออกจำแนกตามหมวดสินค้ามูลค่าการส่งออกจำแนกตามหมวดสินค้า ที่มา กรมศุลกากร

  30. การส่งออก • ปี 2500 ไทยส่งออกสินค้าสำคัญ ๆ เพียง 3-4 ชนิด :- ข้าว ยางพารา และไม้สัก (ที่เหลือจากการใช้ในประเทศ) • ต่อมา มีการสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกพืชมากชนิดขึ้น และเริ่มส่งออกสินค้าเกษตรหลากหลาย • ปี 2544-2547: สินค้าเกษตรส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว ยางพาราและผลิตภัณฑ์ น้ำตาลทราย และข้าวโพด

  31. มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตร ที่มา กรมศุลกากร

  32. มูลค่าการส่งออกจำแนกตามประเภทสินค้ามูลค่าการส่งออกจำแนกตามประเภทสินค้า มูลค่าส่งออกจำแนกตามชนิดสินค้า • มูลค่าส่งออกจำแนกตามสินค้า

  33. ประมาณการเบื้องต้นเกี่ยวกับข้าวโลก 47/48คาดคะเน ณ 8 เมษายน 2548 • ผลผลิตข้าวโลก 401 ตันข้าวสาร • ใช้ในประเทศ (ทั่วโลก)413 ล้านตันข้าวสาร • การค้าโลก ประมาณ 25ล้านตันข้าวสาร • สต๊อกปลายปี 47 74 ล้านตันข้าวสาร • ปริมาณ-มูลค่าส่งออก ข้าวของไทยปี 2547 ปริมาณ 10 ล้านตันมูลค่า 108 พันล้านบาท ที่มา วารสารข่าวเศรษฐกิจการเกษตร สนง. ศก.การเกษตร (พ.ค. 48)

  34. การเกษตรของประเทศไทย ลักษณะการประกอบการเกษตรในประเทศไทย • เกษตรกรมีจำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อย (90% ของเกษตรกรทั้งประเทศ) • ขนาดไร่นาของเกษตรกรโดยเฉลี่ย 23.17 ไร่/ครัวเรือน

  35. ขนาดพื้นที่ทำกินของเกษตรกรขนาดพื้นที่ทำกินของเกษตรกร ไร่/ครัวเรือน ที่มา : สถิติการเกษตรของประเทศไทย ปีการเพาะปลูก 2532/33 และ 2544/45

  36. สนง เศรษฐกิจการเกษตร

  37. เปรียบเทียบผลผลิตต่อไร่ของสินค้าเกษตรบางชนิดในประเทศต่าง ๆ ปี 2544 หน่วย : กก. /ไร่ สนง เศรษฐกิจการเกษตร

  38. ผลผลิตรวมและผลผลิตเฉลี่ยของพืชเศรษฐกิจบางชนิด ปีเพาะปลูก 2535/36-2544/45 สนง เศรษฐกิจการเกษตร

  39. มูลค่าของผลิตผลตามราคาฟาร์มของสินค้าเกษตรบางประเภท ปี 2544/45 สนง เศรษฐกิจการเกษตร

  40. ผลผลิตเกษตรบางชนิดแยกรายภาค ปี 2544/45 หน่วย : พันตัน

  41. FTA คืออะไร (FTA : Free Trade Agreements) เป็นความตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ อาจเป็นความตกลงสองฝ่ายหรือหลายฝ่าย อาจเป็นความตกลงทางการค้าเฉพาะสินค้าหรือรวมบริการด้วย มีเป้าหมายเพื่อขจัดอุปสรรคทางการค้า มุ่งเน้นที่จะลดปัญหาทางด้านภาษีและไม่ใช่ภาษี

  42. FTAต่างกับ WTO • WTO • เป็นความตกลงเปิดกว้าง(สมาชิกมาก) • มีกฎกติกาเป็นระบบและครอบคลุมทุกเรื่อง • มีองค์กรบริหาร • องค์กรกลางตัดสินข้อขัดแย้ง FTA • เป็นความตกลงเฉพาะกลุ่มหรือ ประเทศคู่ค้า (สมาชิกน้อย) • ใช้กฎกติกาเฉพาะเรื่อง • ไม่มีองค์กรบริหาร • คู่สัญญาหรือผู้มีส่วนได้เสียตกลงกันเอง

  43. ลักษณะโดยทั่วไปของเขตการค้าเสรีลักษณะโดยทั่วไปของเขตการค้าเสรี 1) ดำเนินการผลิตตามหลักการแบ่งงานกันทำ 2) ไม่มีการเก็บภาษีคุ้มกัน (Protective Duty) เพื่อคุ้มครองช่วยเหลืออุตสาหกรรมในประเทศ เก็บแต่ภาษีศุลกากรเพื่อเป็นรายได้ของรัฐ 3) ไม่ให้สิทธิพิเศษ หรือกีดกันสินค้าของประเทศใดประเทศหนึ่ง เก็บภาษีอัตราเดียว และให้ความเป็นธรรมแก่สินค้าของทุกประเทศเท่าๆ กัน 4) ไม่มีข้อจำกัดทางการค้า (Trade Restriction) ยกเว้น สินค้าบางอย่างที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อนามัย ศีลธรรมจรรยาหรือความมั่นคงของรัฐ

  44. ผลดีของการทำเขตการค้าเสรีผลดีของการทำเขตการค้าเสรี 1) ก่อให้เกิดความมีประสิทธิภาพตามหลักการได้เปรียบโดยเปรียบเทียบ การแบ่งงานกันทำ และการประหยัดต่อขนาด สามารถผลิตได้จำนวนมากขึ้น ต้นทุนต่ำลง 2) ทำให้ตลาดกว้างขึ้น เกิดการค้าระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น มีการกระจายของแหล่งวัตถุดิบมากขึ้น 3) ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ 4) กระตุ้นการแข่งขันและพัฒนาการทางเทคโนโลยี 5) เป็นการเปิดเสรีอย่างค่อยเป็นค่อยไป ก่อนที่จะเปิดเสรีกับคู่แข่งทั่วโลก (ช่วยให้ผู้ประกอบการ สามารถปรับตัวได้ง่ายขึ้น)

  45. ผลเสียของการทำเขตการค้าเสรีผลเสียของการทำเขตการค้าเสรี 1) กระทบต่ออุตสาหกรรมใหม่ ที่ยังไม่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ 2) หากประเทศคู่ค้ามีโครงสร้างการผลิตเหมือนกัน จะทำให้เกิดการแข่งขันกันไม่เกื้อหนุนกัน เกิดกรณีสินค้าประเภทเดียวกันเข้ามาตีตลาด 3) เป็นการทำลายระบบ WTO ว่าด้วยการไม่ให้เลือกปฏิบัติระหว่างประเทศคู่ค้า 4) การจัดทำเขตการค้าเสรีคู่หนึ่ง จะกระตุ้นให้ประเทศอื่น จัดทำเขตการค้าเสรีด้วย นำไปสู่ความขัดแย้งทางการค้ามากขึ้น เนื่องจากประเทศนอกเขตการค้าเสรีนั้นจะถูกกีดกันทางการค้า

  46. ผลเสียของการทำเขตการค้าเสรี (ต่อ) 5) ส่วนมากประเทศใหญ่มักได้เปรียบประเทศเล็ก ในด้าน อำนาจการเจรจาต่อรอง 6) การจัดทำเขตการค้าเสรีอาจจะทำให้ประเทศหนึ่งเข้าสู่สภาวะการพึ่งพาทางเศรษฐกิจประเทศหนึ่งมากเกินไป (Over Dependency) 7) เกิดการเบี่ยงเบนทิศทางการค้า (Trade Diversion) 8) ประเทศนอกกลุ่มจะพยายามส่งสินค้าเข้าทางประเทศในเขตการค้าที่มีภาษีต่ำ ไปสู่ประเทศในเขตการค้าที่มีภาษีสูง

  47. ตารางมูลค่าการค้ารวมของประเทศจีนกับไทยตารางมูลค่าการค้ารวมของประเทศจีนกับไทย

  48. สรุปหัวข้อที่เรียนในวันนี้สรุปหัวข้อที่เรียนในวันนี้ • ความหมายของตลาด • ความสำคัญของตลาด • หน้าที่ของตลาด • ช่องทางการตลาด • ลักษณะของตลาด • แหล่งหาข้อมูลด้านการตลาด • เขตการค้าเสรี

More Related