190 likes | 278 Views
เสียงสะท้อน จากคนไทย คนหนึ่ง เพื่อก่อให้เกิดการปฏิรูปประเทศไทย. ความแตกต่างระหว่าง ประเทศที่พัฒนาแล้ว กับ ประ เทศ ด้อย พัฒ นา. ไม่ได้อยู่ที่ การไม่เคยเสียเอกราชให้ใคร. สามารถดูได้จากประเทศ ญี่ปุ่น เยอรมัน แม้จะแพ้สงครามโลก แต่ก็กลับมายิ่งใหญ่ในเศรษฐกิจโลก. ไม่ได้อยู่ที่
E N D
เสียงสะท้อน จากคนไทย คนหนึ่ง เพื่อก่อให้เกิดการปฏิรูปประเทศไทย
ความแตกต่างระหว่าง ประเทศที่พัฒนาแล้ว กับ ประเทศด้อยพัฒนา
ไม่ได้อยู่ที่ การไม่เคยเสียเอกราชให้ใคร
สามารถดูได้จากประเทศ ญี่ปุ่นเยอรมัน แม้จะแพ้สงครามโลก แต่ก็กลับมายิ่งใหญ่ในเศรษฐกิจโลก
ไม่ได้อยู่ที่ • ความเก่าแก่ของอารยธรรมของประเทศนั้นๆ
สามารถดูได้จากประเทศ อินเดียอียิปต์ ซึ่งมีอารยธรรม มานานกว่า 3,000 ปี แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังยากจน
ในขณะที่ประเทศเกิดใหม่ เช่น สิงคโปร์ ออสเตรเลียนิวซีแลนด์ ที่เป็นประเทศเล็กๆ ไม่มีศักยภาพอะไรเลย เมื่อ 100 ปีที่แล้ว แต่วันนี้กลับพัฒนาจนกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ที่ร่ำรวยได้
และความแตกต่างระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้ว กับประเทศด้อยพัฒนา ก็ไม่ได้อยู่ที่ทรัพยากรของประเทศอีกนั่นล่ะ
ญี่ปุ่น ที่มีพื้นที่เกษตรกรรมน้อยมาก 80% ของพื้นที่เป็นภูเขา ไม่เหมาะในการทำเกษตรกรรม แต่ญี่ปุ่นกลับเป็นประเทศที่ส่งออกอาหาร และ สินค้าเกษตรที่สำคัญของโลก
สวิสเซอร์แลนด์ อากาศหนาวจัดจนใน 1 ปี ทำการเกษตรได้เพียง 4 เดือนและ ไม่มีการทำไร่โกโก้เลย แต่กลับทำช็อคโกแลตส่งออกรายใหญ่ของโลก และยังนำเอาความซื่อสัตย์ ความตรงเวลา ความมีระเบียบของคน มาใช้ประโยชน์ จนได้รับการยอมรับให้เป็นธนาคารของโลก
สีผิว และ เผ่าพันธุ์ก็ไม่ใช่เหตุผลอีกแหละ เพราะเมื่อแรงงานที่เคยขี้เกียจในประเทศของตนย้ายไปอยู่และหากินในประเทศที่เจริญแล้วกลับกลายเป็นแรงงานที่ขยันด้วยซ้ำไป
แล้วอะไร ที่ทำให้แตกต่าง ?
สิ่งที่แตกต่าง คือ ทัศนคติที่ฝังรากลึกมานานปี ผ่านระบบการศึกษา และ การอบรมปลูกฝัง
จากการวิเคราะห์พฤติกรรมของคนในประเทศที่พัฒนาแล้ว พบว่าคนส่วนใหญ่ดำเนินชีวิตอยู่บนหลักปรัชญา ได้แก่
ใช้จริยธรรมนำทางชีวิต (Ethicsas the basic principle) • ความซื่อสัตย์ (Integrity) • ความรักในงาน (Work Loving) • ความรับผิดชอบในหน้าที่ (Responsibility) • จิตใจมุ่งมั่น สู่ความเป็นที่หนึ่ง ( Will of super action) • การเคารพต่อกฏระเบียบ (Respect to the law and rules) • การเคารพต่อสิทธิของผู้อื่น (Respect to the rights of other citizens) • การตรงต่อเวลา (Punctuality) • การออมและความสนใจในการลงทุน (Strive for saving and investment)
แต่น่าเสียดายที่ ในประเทศด้อยพัฒนา มีคนเพียงจำนวนน้อยที่ใช้หลักปรัชญาเหล่านี้ในการดำเนินชีวิต
ประเทศไทยของเรายังเป็นประเทศด้อยพัฒนา ไม่ใช่เพราะเราขาดทรัพยากร หรือมีภัยธรรมชาติเป็นปัญหา แต่เพราะเราขาดทัศนคติและแรงผลักดันที่สอดคล้องไปตามหลักปรัชญาการดำเนินชีวิตที่กล่าวมา
ปรมาจารย์ ขงจื๊อ (551-479 ปีก่อนปีคริสตกาล)สอนไว้ว่า • หากเจ้าวางแผนไว้ 1 ปี .............. จงปลูกข้าว • หากเจ้าวางแผนไว้ 10 ปี .............. จงปลูกต้นไม้ • หากเจ้าวางแผนไว้ 100 ปี ............... จงให้ความรู้ แก่บุตรหลาน
แต่ถ้าคุณรักประเทศไทย และอยากเห็นประเทศไทยของเราเปลี่ยนเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว • ขอให้เริ่มจากตัวคุณเอง พัฒนาสังคมใกล้ตัวคุณ จากที่บ้าน ที่ทำงาน • และอย่าลืมช่วยกันส่งข้อความนี้ต่อให้คนรอบข้างคุณให้มากที่สุด • หวังว่าจะได้เป็นส่วนช่วยผลักดันให้คนไทยได้คิด วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา เพื่อนำประเทศไทยไปสู่ การปฏิรูปประเทศไทย ให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในอนาคต