160 likes | 315 Views
N. S. MD SAYS. NEWS UPDATE. แวดวงนำเข้า. Smart EXIM. SNP HEALTH CORNER. Customs Clinic. SNP JOKE. SNP ฟันเฟิร์ม. ข่าวสาร SNP ฉบับที่ 132 WWW.SNP.CO.TH. S. S. S. อากรศูนย์. N. N. N.
E N D
N S MD SAYS NEWS UPDATE แวดวงนำเข้า Smart EXIM SNP HEALTH CORNER Customs Clinic SNP JOKE SNP ฟันเฟิร์ม ข่าวสาร SNP ฉบับที่ 132 WWW.SNP.CO.TH
S S S อากรศูนย์ N N N ปัจจุบัน อัตราอากรสำหรับสินค้านำเข้าลดลงเหลือต่ำมาก ๆ อันเป็นผลมาจากวิวัฒนาการและข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศในหลายปีที่ผ่านมา ทำให้สินค้าบางพิกัดมีอัตราลดลงเหลือ 0% ด้วยซ้ำไป แต่อัตราอากรไม่ได้ลดลงต่ำทุกพิกัด และไม่ได้ลดลงเหลือ 0% ทุกพิกัด ส่วนใหญ่แล้วสินค้าที่ลดอัตราอากรเหลือ 0% หรือยกเว้นภาษีอากรตามข้อตกลงการค้าเสรี FTA กลับมีพิกัดข้างเคียง หรือพิกัดที่ใกล้เคียงกันแต่ไม่ได้ลดอัตราอากรต่ำลงไปด้วย ไม่ได้ลดลงเหลือ 0% ไปด้วย หรือไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีตามข้อตกลงไปด้วยพิกัดสินค้าข้างเคียงเหล่านี้ คือตัวปัญหาของการลดหย่อนภาษี หรือการลดภาษีให้เหลือ 0% ทั้งนี้เพราะความที่เป็นพิกัดข้างเคียงกัน มีรายละเอียดของสินค้าคล้ายกัน จะต่างกันก็เพียงเล็กน้อย ย่อมเป็นเหตุให้ผู้นำเข้าเลือกใช้พิกัดภาษีที่ต่ำหรือเหลือ 0% ไว้ก่อน ในขณะที่ด้านศุลกากรซึ่งมีข้อมูลของพิกัดข้างเคียงอยู่ในมือ แต่ไม่เคยเห็นสินค้าจริง ไม่เคยเห็นการทำงานจริง ย่อมเกิดข้อสงสัยว่า พิกัดสินค้าที่มีอัตราภาษีต่ำหรือ 0% ตามที่ผู้นำเข้าสำแดง กับพิกัดข้างเคียงที่อัตราภาษีสูงกว่านั้น พิกัดใดถูกต้องกันแน่ ข้อสงสัยเพียงเท่านี้ หากท่านผู้นำเข้าทำหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานศุลกากร ผมขอย้ำนะครับ หากท่านเป็นศุลกากร ท่านจะทำอย่างไร ? P P P ต่อหน้า 2
แน่นอน ท่านต้องหาทางพิสูจน์เพื่อคลายความสงสัยของท่านให้ได้ ท่านอาจเรียกดูรายละเอียดของสินค้าเพิ่มเติม เพื่อชี้ขาดให้ได้ว่า มันควรเข้าพิกัดข้างเคียงหรือไม่ ? ท่านอาจปล่อยของไปก่อนและตามไปขอดูการทำงานของสินค้าจริง หรือท่านอาจไม่ยอมรับการสำแดงในพิกัดที่ต่ำหรือ 0% เลยก็ได้ ประเด็นเดียวที่ไม่น่าเป็นไปได้ หากท่านผู้นำเข้าเป็นศุลกากรคือ การปล่อยสินค้าที่มีข้อสงสัยในพิกัดข้างเคียงไปโดยไม่สืบค้นใด ๆ เลย ใช่ไหมครับ ? ผมยกประเด็นเรื่องภาษีอากรที่ลดต่ำลงหรือเหลือ 0% ขึ้นมากล่าวในที่นี้ เพราะขณะนี้ มีผู้นำเข้าหลายรายดีใจเพราะได้ประโยชน์จากภาษีที่ต่ำลงจนเหลือ 0% แต่ขณะเดียวกัน ท่านก็กำลังขมขื่นกับพิกัดข้างเคียงที่เจ้าพนักงานศุลกากรหยิบยกขึ้นมาขณะที่ท่านกำลังทำเรื่องปล่อยสินค้า หรือภายหลังจากที่ท่านปล่อยสินค้าออกมาแล้วจนท่านต้องชำระค่าภาษีเพิ่มขึ้นและมีค่าปรับตามมาอย่างคาดไม่ถึง วิธีเดียวที่ท่านผู้นำเข้าจะปลอดภัยจากความขมขื่นนี้ไปได้ก็คือ ท่านผู้นำเข้าหรือตัวแทนของท่านต้องทำความรู้จักกับพิกัดข้างเคียงกับสินค้าของท่านให้ได้ก่อนนำเข้า ท่านต้องรู้ว่า ข้อแตกต่าง ข้อปลีกย่อยของ 2 พิกัดหรือมากกว่า 2 พิกัดนี้ มีอะไรบ้าง ? จากนั้นท่านก็รวบรวมข้อมูล หลักฐาน ข้อพิสูจน์ ไปประกอบกับการผ่านพิธีการนำเข้าเพื่อเป็นข้อยุติว่า สินค้าของท่านเข้าพิกัดภาษีที่ต่ำหรือ 0% ได้จริง ๆ แต่หากท่านหาข้อมูล หลักฐาน หรือข้อพิสูจน์ไม่ได้ หรือหาได้แต่ไม่ชัดเจน ท่านก็ยังมีทางเลือกอีก 2 ทาง ครับ หนึ่งคือ เสี่ยงใช้พิกัดภาษีต่ำหรือ 0% ไปเลย แล้วไปวัดดวงเสี่ยงเอา ซึ่งท่านอาจพบความขมขื่นตามที่ผมแจ้งไว้ในตอนต้นก็ได้กับสอง ท่านหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเรื่องการสำแดงเท็จและมีค่าปรับโดยการยอมเสียภาษีในพิกัดข้างเคียงที่อาจมีอัตราภาษีสูงกว่าไปก่อน แล้วสงวนสิทธิ์พิสูจน์จากสินค้าจริงภายหลัง หากพิสูจน์ได้ ท่านย่อมได้คืนภาษีที่ชำระเกินไป แต่หากพิสูจน์ไม่ได้ ท่านได้เสียภาษีที่ถูกต้องไว้แล้ว ความขมขื่นก็ไม่เกิดแก่ท่าน ผมยกเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะนี่คือข้อเท็จจริงและเป็นแนวทางการทำงานเพื่อให้ท่านผู้นำเข้าได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงและหลีกเลี่ยงความขมขื่นที่ท่านอาจได้รับจากอัตราภาษีที่ต่ำหรือที่เหลือ 0% เท่านั้นครับ สิทธิชัย ชวรางกูร S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
NEWS UPDATE S โมฮั่น (MOHAN) ด่านทางบกติดต่อไทยกับประเทศจีน นับตั้งแต่เปิดการใช้เส้นทางถนนคุนหมิง-กรุงเทพฯ เมื่อปี 2008 เป็นต้นมา การค้าระหว่างประเทศไทยและมณฑลยูนนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเพิ่มขึ้นไม่มากนัก การใช้ถนนเพื่อการขนส่งสินค้านับเป็นมิติใหม่ทางด้านโลจิสติกส์ของการค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคนี้ ซึ่งเดิมการขนส่งจากประเทศสาธารณรัฐประชา ชนจีนมายังประเทศไทยจะใช้เส้นทางทางน้ำผ่านแม่น้ำโขงระหว่างเมืองจิ่งหง สิบสองปันนา มายังอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงรายของไทย (ระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร) ถนนคุนหมิง-กรุงเทพฯ มีระยะทางประมาณ 1,818 กิโลเมตร โดยมีเป้าหมายการสร้างถนนที่สำคัญก็เพื่อเป็นระเบียงเศรษฐกิจเหนือใต้ ระหว่างประเทศจีนกับประเทศในอาเซียน การใช้เส้นทางคุนหมิง-กรุงเทพฯ จากประเทศจีนจะผ่านด่านโมฮั่น ทางตอนใต้ของมณฑลยูนานเข้าทางด่านโมเต็นในส.ป.ป. ลาว ผ่านแขวงหลวงน้ำทา และบ่อแก้วในส.ป.ป.ลาว แต่จะมาสะดุดลงตรงแม่น้ำโขงซึ่งกั้นระหว่างส.ป.ป.ลาวกับประเทศไทยที่ยังมิได้สร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง (สถานะปัจจุบัน คือ ฝ่ายจีนและไทย ตกลงที่จะก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงโดยออกกค่าใช้จ่ายฝ่ายละครึ่ง) ดังนั้น การเดินทางทางรถยนต์ผ่านแม่น้ำโขงช่วงนี้จึงต้องใช้แพขนานยนต์เพื่อขนรถข้ามมแม่น้ำโขง และจะเข้าประเทศไทยด้านอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ในส่วนถนนและสะพานที่ยังไม่สมบูรณ์เป็นอุปสรรคต่อการขนส่งตามเส้นทางดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปี 2010 ที่ผ่านมาการค้าระหว่างประเทศไทยกับมณฑลยูนานเริ่มคึกคักมากขึ้น และมีการใช้ถนนคุนหมิง-กรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น จึงนับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ประเทศไทยสามารถเพิ่มช่องทางการขนส่งมายังประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยผ่านทางใต้ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนด้านด่านโมฮั่น เมืองสิบสองปันนา มณฑลยูนาน โดยในครึ่งปีแรกของปี 2010 สินค้านำเข้า-ส่งออกที่ด่านโมฮั่นมีปริมาณประมาณ 3.58 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 3.32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีประชาชนที่เดินทางผ่านด่านข้ามแดนประมาณ 3.52 แสนคน รถยนต์ผ่านด่านข้ามแดนจำนวน 79,829 คัน N P ต่อหน้า 2
การค้าระหว่างมณฑลยูนนานกับประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2010 มีมูลค่ารวมประมาณ 114.91 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 58.6 โดยมณฑลยูนานส่งออกไปประเทศไทยคิดเป็นมูลค่า 87.26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.5 และนำเข้าจากประเทศไทย 27.65 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 192 โดยประเทศไทยเป็นคู่ค้าลำดับที่ 5 ของมณฑลยูนาน (สำหรับประเทศในอาเซียน มณฑลยูนานมีการค้ากับประเทศพม่ามากที่สุด) S อาเซียนรุกหนักอินเดียเปิดเสรี นางอัญชนา วิทยาธรรมธัช รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทยในการจัดทำ ข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) อาเซียน-อินเดีย เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 12-16 ก.ค. ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้าอาเซียนอินเดีย ครั้งที่ 27 โดยประเด็นสำคัญที่จะหารือกันคือ การเปิดตลาดบริการ การลงทุน และกฎแหล่งกำเนิดสินค้าเฉพาะรายการโดยในประเด็นการเปิดเสรีการค้าบริการและการลงทุนนั้น อาเซียนจะเจรจาเพื่อหาข้อสรุปรูปแบบการเปิดตลาดบริการและการลงทุน และกติกาที่ใช้รองรับการเปิดตลาด เช่น คุณสมบัติของธุรกิจและคนที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดตลาด มาตรการปกป้องคุ้มครองการอำนวยความสะดวกในการลงทุนและนักลงทุน การส่งเงินทุนและผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนกลับประเทศได้ ส่วนประเด็นการจัดทำกฎแหล่งกำเนิดสินค้าเฉพาะรายการสินค้านั้น เป็นประเด็นสำคัญที่ไทยต้องการผลักดันให้เกิดผลสำเร็จ โดยอาเซียนเห็นตรงกันว่าเกณฑ์ดังกล่าวจะต้องง่ายกว่าเกณฑ์ที่กำหนดให้ใช้วัตถุดิบจากอาเซียนและอินเดีย 35% ผลิตสินค้าเพื่อส่งออกโดยใช้ประโยชน์จากเอฟทีเออาเซียน-อินเดีย ซึ่งเป็นเกณฑ์ทั่วไปที่ใช้อยู่ในการเปิดเสรีการค้าอาเซียน-อินเดีย และพร้อมที่จะยื่นรายการกฎแหล่งกำเนิดสินค้าเฉพาะให้อินเดียพิจารณากว่า 100 รายการ ซึ่งจะทำให้สินค้าไทยมีศักยภาพในการส่งออกมากขึ้น เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ ของทำด้วยไม้ ไม้อัด โทรทัศน์สี ไมโครเวฟ คอมเพรสเซอร์แอร์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น และมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มมากกว่า 10,000 ล้านบาท ตั้งเป้าจะจัดทำกฎเฉพาะสินค้ากลุ่มแรกให้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้. N P ต่อหน้า 3
นายกยืนยันไข่ถูกแน่! หลังเปิดนำเข้าไก่เสรี นายกรัฐมนตรี ยืนยันหลังจากมีการเปิดเสรีนำเข้าแม่พันธุ์ไก่ไข่ ปริมาณไข่ไก่จะเข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น โดยในแต่ละวันฟาร์มไก่ไข่ในประเทศสามารถ ผลิตไข่ได้ถึง 25 ล้านฟอง ราคาถูกลง... เมื่อวันที่ 18 ก.ค.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์"ว่า หลังจากมีการเปิดเสรีนำเข้าแม่พันธุ์ไก่ไข่ในเร็วๆ นี้ ราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มจะถูกลง จากปัจจุบันราคาขายหน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 2.80 บาท โดยในแต่ละวันฟาร์มไก่ไข่ในประเทศสามารถผลิตไข่ได้ถึง 25 ล้านฟอง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาไข่ไก่สูงขึ้นส่วนหนึ่งมาจากสภาพอากาศร้อน ประกอบกับโครงสร้างระบบการนำเข้าแม่พันธุ์ไก่ไข่เดิม มีการจำกัดปริมาณนำเข้าแม่พันธุ์ไก่ไข่ลดลงถึงร้อยละ 20 ทำให้การกระจายสู่เกษตรกรรายย่อยไม่เพียงพอ รัฐบาลจึงได้ปรับระบบบริหารจัดการแม่พันธุ์ไก่ไข่ใหม่ โดยเปิดเสรีการนำเข้าแม่พันธุ์ไก่ไข่เพื่อกระจายไปสู่เกษตรกรายย่อยให้มีโอกาสเลี้ยงไก่ไข่มากขึ้น โดยไม่ผูกขาดกับผู้เลี้ยงรายใหญ่ พร้อมออกมาตรการลดการส่งออกไข่ไก่ให้น้อยลง ยืดอายุของไก่ยืนกรงให้นานขึ้นเพื่อให้มีปริมาณไข่ไก่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น โดยเรื่องดังกล่าวได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปดูแลในเชิงโครงสร้าง รวมถึงการผลักดันให้นักเรียนกินไข่เหมือนเช่นโครงการนมโรงเรียน S N P ต่อหน้า 4
คาดสัปดาห์หน้า เงินบาทเคลื่อนไหวที่ 32.15-32.40 บาท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า เงินบาทในประเทศ (Onshore) สัปดาห์ที่ผ่านมา (12-16 ก.ค.) ขยับแข็งค่ารับวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น และคาดว่าสัปดาห์หน้าเงินบาทเคลื่อนไหวที่ 32.15-32.40 บาท เงินบาทปรับตัวในทิศทางที่แข็งค่าเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ในช่วงก่อนการประชุม และสามารถขยับแข็งค่าได้ต่อในช่วงหลังการประชุมที่ กนง.มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี 0.25% สู่ระดับ 1.50% ซึ่ง กนง. ได้ระบุถึงความชัดเจนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และแรงกดดันเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินบาทยังเกิดขึ้นท่ามกลางแรงเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จากธนาคารต่างชาติในระหว่างสัปดาห์ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลายตัวออกมาสร้างความผิดหวังให้กับตลาด สำหรับในวันศุกร์ เงินบาทถูกกดดันเล็กน้อยจากแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์สหรัฐของนักลงทุน ก่อนจะขยับขึ้นปิดตลาดปลายสัปดาห์ที่ระดับ 32.22 เทียบกับระดับ 32.34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (9 ก.ค.) ในสัปดาห์นี้ (19-23 ก.ค.) คาดว่าเงินบาทในประเทศอาจเคลื่อนไหวในกรอบประมาณ 32.15-32.40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ สัญญาณการเข้าดูแลเสถียรภาพค่าเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และทิศทางของสกุลเงิน ตลาดหุ้นในภูมิภาค ขณะที่ทิศทางของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อาจยังคงขึ้นอยู่กับประเด็นเกี่ยวเนื่องกับปัญหาทางด้านการคลังของประเทศในแถบยุโรป ผลการทดสอบภาวะวิกฤติของธนาคารในยุโรป รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ เช่น ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยของสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) เดือน ก.ค. ยอดขายบ้านมือสอง ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน และการอนุญาตก่อสร้างเดือน มิ.ย. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการแถลงนโยบายการเงินในรอบครึ่งปีของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ในวันที่ 21-22 ก.ค.อีกด้วย. ไทยรัฐออนไลน์ S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
แวดวงนำเข้า S SME กับ BOI การลงทุนสำหรับผู้ประกอบการขนาดย่อม BOI หรือ Board Of Investment เป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมการลงทุนด้านอุตสาหกรรมของประเทศไทย โดยเน้นที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่เป็นหลัก แต่จากความเป็นจริงของประเทศไทย กลุ่มที่มีผู้ประกอบการที่มีปริมาณมากที่สุดในประเทศไทย ก็ต้องขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญในการพัฒนาความก้าวหน้าทางระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย ทำให้มีการให้ความสำคัญในการสนับสนุนการลงทุนให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมด้วย SNP NEWS ฉบับนี้จะขอพูดถึงสิทธิประโยชน์ที่ SME จะได้รับในกรณีที่เข้าข่ายยื่นเรื่องพิจารณา เมื่อได้รับการอนุมัติ สามารถที่จะนำเข้าเครื่องจักรเพื่อใช้ในการผลิตโดยที่สามารถยกเว้นภาษีอากรขาเข้าได้ และยังได้รับสิทธิ์ในการงดเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้อีกเป็นเวลา 8 ปี และยังมีสิทธิพิเศษเพิ่มเติมสำหรับแต่ละเขตการลงทุนอีกด้วย ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนให้ธุรกิจ SME สามารถตั้งตัวเพื่อให้สามารถแข่งขันกับตลาดได้ง่ายขึ้นอีกด้วย โดยรายหลักเกณฑ์สามารถตรวจสอบได้ที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้ หรือจะสามารถติดต่อกับทาง SNP เพื่อให้ทาง SNP ตรวจสอบเงื่อนไขของการขอยื่นอนุมัติได้เช่นกัน N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
Smart EXIM S โอกาสทางการค้าและการลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา บริษัท SNP SHIPPING GROUP CO., LTD. ได้ส่งพนักงานไปสัมมนาเรื่อง “โอกาสทางการค้าและการลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย” ซึ่งมีข้อมูลทั่วไปที่ควรทราบและภาพรวมภาวการณ์ลงทุนในประเทศอินโดนีเซียที่น่าสนใจดังนี้ ประเทศอินโดนีเซียมีลักษณะเป็นเกาะ ที่มีหมู่เกาะมากมาย เมืองหลวงคือ Jakarta ซึ่งเมืองหลวงจะอยู่บนเกาะชวา ประชากร 60% ของประเทศอินโดนีเซียก็จะอยู่บนเกาะชวาแห่งนี้ จำนวนประชากรของอินโดนีเซียมีถึง 240 ล้านคน โดยจำนวนประชากรของอาเซียนทั้งหมด 540 ล้านคน ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งเป็นชาวอินโดนีเซีย อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อสูง กล้าที่จะจับจ่ายใช้สอยและซื้อของแพง สำหรับวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ผ่านมา อินโดนีเซียได้รับผลกระทบน้อยมากเพราะเป็นประเทศที่พึ่งพาเศรษฐกิจภายในเป็นส่วนมาก สินค้าไทยที่ส่งไปประเทศอินโดนีเซียอันดับ 1 ได้แก่อะไหล่รถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ อันดับสอง ได้แก่ น้ำตาล อันดับ 3 คือเครื่องจักร สินค้าที่นำเข้าจากอินโดนีเซียส่วนมากเป็นวัตถุดิบ เช่นน้ำมันดิบ ถ่านหิน เพราะอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีทรัพยากรมาก โดยประเทศอินโดนีเซียเคยเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปก แต่ปัจจุบันได้ลาออกแล้ว คงเพราะอินโดนีเซียเริ่มฉลาดที่จะปกป้องทรัพยากรของตนเอง หรือมองเห็นแล้วว่าประเทศมหาอำนาจคอยจ้องที่จะตักตวงผลประโยชน์จากทรัพยากรอันมหาศาล ประเทศอินโดนีเซียมองว่าสินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมาก โดยเฉพาะอาหารไทย ซึ่งเป็นที่นิยมมาก นับว่าเรามีชัยไปกว่าครึ่งที่อินโดนีเซียมองเราในด้านบวกเกี่ยวกับคุณภาพของสินค้า ชาวอินโดนีเซียที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจะเป็นชาวอินโดนีเซียเชื้อสายจีน ดังนั้นหากมีการติดต่อซื้อขายทางธุรกิจ ภาษาจีนจะเป็นภาษาสากลที่ใช้กันมาก N P ต่อหน้า 2
แต่ก็มีข้อพึงระวังในการติดต่อธุรกิจกับชาวอิเหนา เพื่อเป็นการป้องกันดังนี้ - ระบบโครงสร้างพื้นฐานไม่เพียงพอ และรถติดมากในกรุงจาการ์ต้า - กฎระเบียบเป็นอุปสรรคต่อการลงทุน เช่น การขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ มีขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อนและใช้เวลานาน - มีการกีดกันทางการค้า เช่น มาตรการห้ามนำเข้า เช่น ข้าว - มีการคอรัปชั่นในระบบราชการสูง - ธุรกิจในอินโดนีเซียส่วนใหญ่เป็นระบบปิดและเน้นเรื่องความสัมพันธ์ ระบบราชการของแดนอิเหนาค่อนข้างช้า เรียกว่าถ้าเอกสารผิด สำแดงไม่กระจ่าง จะต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะกันหน้ามืดเลยทีเดียว จึงต้องมีความระเอียดรอบคอบในเรื่องเอกสารเป็นพิเศษ แต่ข้อพึงระวังดังกล่าวก็เป็นเรื่องธรรมดาของการทำธุรกิจที่จะต้องมีความเสี่ยงบ้าง จึงได้มีข้อแนะนำดังนี้ - ให้ศึกษาข้อมูลกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ดีก่อนการลงทุน - ควรสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับนักธุรกิจในประเทศอินโดนีเซีย - ควรใช้ความระมัดระวังในการเลือกพันธมิตรทางธุรกิจ - ควรสร้างความพันธ์ที่ดีกับหน่วยงานราชการในอินโดนีเซีย - ควรพิจารณาหาบริษัทที่ปรึกษา เพื่อช่วยเหลือในการติดต่อหน่วยราชการ และในเดือนนี้ บริษัท เอส เอ็น พี ก็มีโปรโมชั่นดี ๆ ในการส่งออกไปประเทศอินโดนีเซีย ตามไฟล์ที่แนบ โซดาน้ำ S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
Customs Clinic S 1. ถามกรณีสั่งสินค้าจากประเทศ สิงคโปร์ เข้ามาในประเทศไทย และทำการขายต่อไปยังประเทศอื่น (ซื้อมา-ขายไป) ควรใช้วิธีการหรือพิธีการทางศุลกากรใดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกรณีนี้ ตอบมีหลายวิธีให้เลือกขึ้นอยู่กับความต้องการของเราคืออะไร 1. ไม่ปกปิดข้อมูลใดๆ ตัวแทนเรือทำแทนได้ ใช้วิธีผ่านพิธีการศุลกากรแบบสินค้าถ่ายลำ (Transhipment) เพราะ ไม่ต้องเสียอากรขาเข้า 2. ถ้าต้องการปกปิดข้อมูล แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ใช้วิธี Re-export ในอารักขา 3. ถ้าต้องการปกปิดข้อมูล แต่มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่น เปลี่ยนหีบห่อ ใช้วิธี Re-export 1นอก อารักขา 2. ถาม เกณฑ์การเปรียบเทียบระงับคดีตามกฎหมายศุลกากร ในความผิดฐานสำแดงเท็จหลีกเลี่ยงอากรใช้หลักเกณฑ์ใด ตอบ ปรับสองเท่าของอากรที่ขาด และให้ชำระอากรที่ขาดให้ครบถ้วนพร้อมเบี้ยปรับหนึ่งเท่าของภาษีมูลค่า เพิ่ม ภาษีสรรพสามิต และภาษีเพื่อมหาดไทยที่ขาดและภาษีอื่นๆ (ถ้ามี) N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
SNP JOKE S “แบงค์ย่อย” ผู้หญิงคนหนึ่งทำกระเป๋าถือหล่นหายในห้างสรรพสินค้า โชคดีที่มีเด็กคนนึงเก็บได้ และเขาก็เอามาคืนเธอ เมื่อเธอเปิดกระเป๋าออกดูหลังจากได้รับแล้ว เธอก็ต้องแปลกใจ "เอ๊ะ...ชั้นจำได้ว่ามีแบงค์ห้าร้อยในกระเป๋าอยู่ใบนึงนี่นา ทำไมมันกลายเป็นแบงค์ย่อยหมดเลยล่ะ "ไอ้หนูรีบตอบอย่างรวดเร็ว "คือว่านะคับ ครั้งที่แล้วผมเก็บกระเป๋าตังค์ได้ เจ้าของเค้าไม่มีแบงค์ย่อยผมเลยอดรางวัลเลยคับ" อ้างอิงจาก : http://atcloud.com/stories/23271 N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
SNP ฟันเฟิร์ม “รสกาแฟบอกนิสัย” ** ชอบกาแฟขมๆ **คน ที่ชอบกาแฟรสเข้มจัดนั้น จะเป็นคนเอาการเอางาน ช่างคิด ช่างวางแผน มีหัวทางธุรกิจ และชอบการทำงานที่ท้าทาย แต่ก็มักเป็นคนที่มีความเครียดเสมอๆ เพราะเฝ้าครุ่นคิดแต่หนทางที่จะประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตัวเองหวัง ** ชอบกาแฟรสชาติหวานมัน **คน ที่ชอบกาแฟรสชาติเข้มข้น ทั้งหวานและมันถึงใจ แสดงว่าเป็นคนที่เปิดเผย ใจกว้าง ชอบความสนุกสนานในชีวิต เป็นคนร่าเริง ช่างกระเซ้าเย้าแหย่ นอกจากนั้นยังเป็นคนรักความยุติธรรม ไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบ และจะรักษาสิทธิของตัวเองเสมอ** ชอบกาแฟที่กลิ่นหอมแรง **ส่วน คนที่ชอบกาแฟที่มีกลิ่นหอมแรงๆ เข้มข้น รู้มั๊ยว่าตัวเองเป็นแคนที่ช่างเลือก ชอบแต่สิ่งที่ดีที่สุด มักพิถีพิถันต่อข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว เป็นคนรักเพื่อน มีทัศนะที่ชัดเจนต่อสิ่งต่างๆและชอบการอยู่ในสังคมที่มีแต่คนทัศนะตรงกัน** ชอบกาแฟรสอ่อนๆ **คน ที่ชอบกาแฟรสชาติอ่อนๆ ขอให้มีกลิ่นกาแฟก็เป็นอันใช้ได้นั้น แสดงว่าเป็นคนที่ชอบความสงบ สุขภาพ รักความสะอาด และความปลอดโปร่ง สบายกาย สบายใจ นอกจากนั้นยังเป็นคนเคารพความเห็นของผู้อื่น ไม่ชอบโต้แย้งกับใครโดยไม่จำเป็น S N P ต่อหน้า 2
** ชอบกาแฟหวานจัด **คน ที่ชอบกาแฟหวานมากๆ เรียกว่าหวานนำรสอื่นๆ มาเลยนั้น แสดงว่าเป็นคนที่มีอารมณ์เปราะบาง ปรวนแปรง่าย เป็นคนที่มีความใฝ่ฝันเกี่ยวกับชีวิตตัวเองที่เป็นอยู่ ใฝ่ฝันอยากมีชีวิตที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก และอยากเป็นคนพิเศษของใครสักคน อ้างอิงจาก : http://www.zazana.com/horo/id6121.aspx S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
SNP HEALTH CORNER S “กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ่อยเสี่ยงโรคความดันสูง” กระทรวงสาธารณสุขเผย กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ่อยๆ เสี่ยงโรคอ้วน ขาดสารอาหาร โรคความดันสูง ทำสุขภาพแย่ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กวัยรุ่นและกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งโดยปกติกลุ่มคน เหล่านี้จะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ่อยมาก มักจะกินแบบง่ายคือกินบะหมี่อย่างเดียว โดยไม่ได้เติมผักและเนื้อสัตว์เพิ่มด้วย การกินแบบนี้บ่อยๆ จะนำไปสู่ภาวะเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารหรือไม่ก็อ้วนฉุ ซ้ำร้ายอาจได้เกลือโซเดียมเกินความต้องการของร่างกาย จากการสำรวจของสำนักงานวิจัยธุรกิจ ธนาคารกรุงไทย คนไทยกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปีละมากกว่า 2,000 ล้านซอง เฉลี่ยประมาณวันละ 8 ล้านซอง คิดเป็นมูลค่าเกือบหมื่นล้านบาทต่อปี สะท้อนให้เห็นว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารยอดฮิตของคนไทยที่ต้องการช่วย กันใส่ใจ แนะนำการกินให้ถูก กินให้เป็น โดยเฉพาะในช่วงขึ้นราคาต้องกินให้คุ้มค่า จากการศึกษาของสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าส่วนประกอบของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปส่วนใหญ่ร้อยละ 60 - 70 เป็นแป้งสาลี รองลงมาเป็นไขมันในเครื่องปรุง ร้อยละ 15 - 20 ที่เหลือร้อยละ 5 - 6 เป็นเกลือและผงชูรส ซึ่งจัดเป็นเกลือโซเดียมอยู่ในเครื่องปรุง โดยหากกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากกว่า 1 ซองหรือ 1 ถ้วยต่อวัน จะทำให้ร่างกายได้ปริมาณโซเดียมเกินความต้องการของร่างกายต่อวัน ร้อยละ 50 - 100 ซึ่งจะส่งผลต่อระบบการทำงานของไต และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตสูงได้ ในยุคเร่งรีบรวมทั้งผู้ที่มีรายได้น้อย การกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถ้ากินเป็น กินถูก ก็จะเกิดประโยชน์ได้ โดยก่อนซื้อทุกครั้งต้องอ่านฉลาก ควรเลือกซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่บนฉลากระบุว่าเติมสารไอโอดีน ธาตุเหล็ก และวิตามินเอ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ส่งเสริมให้เติมลงไปในเครื่องปรุง และไม่ควรกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบดิบๆ เพราะเส้นบะหมี่จะพองตัวในกระเพาะเกิดการจุกแน่นท้องได้ N P ต่อหน้า 2
และที่สำคัญคือเพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน ควรเติมไข่หรือเนื้อสัตว์ และผักลงไปทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับโซเดียมและไขมันเกิน อาจเติมเครื่องปรุงเพียงครึ่งซองหรือน้อยกว่านั้นก็ได้ ทางที่ดีไม่ควรกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปติดต่อกันเป็นประจำนานๆ ซึ่งถือว่ากินซ้ำซาก จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนหรือได้รับอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกิน ไป มีอาหารไทยที่เป็นอาหารจานด่วนและมีสารอาหารครบ 5 หมู่ สามารถกินทดแทนและกินสลับกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เช่น ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ ขนมจีน ข้าวผัด แม้จะแพงกว่าเล็กน้อยแต่เพื่อสุขภาพที่ดีก็ต้องทำ อ้างอิงจาก : http://www.detox4myhealth.com/content/view/286/44/ S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก