1 / 33

Web Content Accessibility Guidelines 2.0 (WCAG 2.0) & TWCAG 2008

Web Content Accessibility Guidelines 2.0 (WCAG 2.0) & TWCAG 2008. โดยสว่าง ศรีสม องค์การคนพิการสากลประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก. Background of WCAG 2.0. ตุลาคม พ.ศ. 2537 ทิม เบอร์เนอร์ ก่อตั้งองค์การ World Wide Web Consortium (W3C)

helena
Download Presentation

Web Content Accessibility Guidelines 2.0 (WCAG 2.0) & TWCAG 2008

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Web Content Accessibility Guidelines 2.0 (WCAG 2.0)&TWCAG 2008 โดยสว่าง ศรีสม องค์การคนพิการสากลประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

  2. Background of WCAG 2.0 • ตุลาคม พ.ศ. 2537 ทิม เบอร์เนอร์ก่อตั้งองค์การWorld Wide Web Consortium (W3C) • พ.ศ. 2540W3C ออกแนวทางการทำเว็บที่ทุกคนเข้าถึง หรือ Web Accessibility Initiative (WAI) • พ.ศ. 2541 W3C ออกมาตรฐานการทำเว็บที่ทุกคนเข้าถึงได้ หรือ Web Content Accessibility Guidelines Version 1.0 (WCAG 1.0) • พ.ศ.2548 W3C ระดมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก รวมทั้งคนพิการที่ทำงานเกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงแนวทางและมาตรฐาน WCAG 1.0 จนกระทั่งเป็น WCAG 2.0 ในปัจจุบัน

  3. TWCAG 2008 • พ.ศ.2550 กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาสังคมแห่งความเท่าเทียมด้วย ICT พ.ศ.2551-2553 • มาตรฐาน TWCAG 2008 (Thai Web Content Accessibility Guide 2008) เป็นมาตรฐานที่กำหนดแนวทางการพัฒนาหน้าเว็บไซต์ที่ทุกคนเข้าถึง อ้างอิงจากมาตรฐานสากล WCAG 2.0

  4. หลักการของ TWCAG 2008 • สามารถรับรู้ได้ ผู้ใช้สามารถรับรู้เนื้อหาและชิ้นส่วนหน้าจอได้ • สามารถใช้งานได้ ผู้ใช้สามารถใช้งานชิ้นส่วนหน้าจอที่ควบคุมการทำงานเพื่อเข้าถึงเนื้อหาและหน้าเว็บไซต์ได้ • สามารถเข้าใจได้ ผู้ใช้เข้าใจความหมาย วัตถุประสงค์และหน้าที่ของชิ้นส่วนหน้าเว็บไซต์ได้ • รองรับเทคโนโลยี รองรับกับเทคโนโลยีทั่วไป เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและอื่น ๆ ได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

  5. หลักการของ TWCAG 2008 • สามารถรับรู้ได้ ผู้ใช้สามารถรับรู้เนื้อหาและชิ้นส่วนหน้าจอได้ • สามารถใช้งานได้ ผู้ใช้สามารถใช้งานชิ้นส่วนหน้าจอที่ควบคุมการทำงานเพื่อเข้าถึงเนื้อหาและหน้าเว็บไซต์ได้ • สามารถเข้าใจได้ ผู้ใช้เข้าใจความหมาย วัตถุประสงค์และหน้าที่ของชิ้นส่วนหน้าเว็บไซต์ได้ • รองรับเทคโนโลยี รองรับกับเทคโนโลยีทั่วไป เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและอื่น ๆ ได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

  6. เกณฑ์ความสำเร็จ (Success Criteria) • ระดับ A ต้องสามารถทำได้ตามเกณฑ์ความสำเร็จในระดับ A ทุกข้อ • ระดับ AA ต้องสามารถทำได้ตามเกณฑ์ความสำเร็จในระดับ A ทุกข้อ ต้องสามารถทำได้ตามเกณฑ์ความสำเร็จในระดับ AA ทุกข้อ • ระดับ AAA ต้องสามารถทำได้ตามเกณฑ์ความสำเร็จในระดับ A ทุกข้อ ต้องสามารถทำได้ตามเกณฑ์ความสำเร็จในระดับ AA ทุกข้อ ต้องสามารถทำได้ตามเกณฑ์ความสำเร็จในระดับ AAA ทุกข้อ

  7. ความหมายของเกณฑ์ความสำเร็จความหมายของเกณฑ์ความสำเร็จ • ระดับ A เป็นเกณฑ์ที่ผู้พัฒนาเว็บไซต์ ต้อง ปฏิบัติตามเพื่อให้คนพิการเข้าถึงเว็บไซต์ได้ • ระดับ AA เป็นเกณฑ์ระดับสำคัญรองลงมาที่ผู้พัฒนาเว็บไซต์ ควรจะ ปฏิบัติตามเพื่อให้คนพิการเข้าถึงเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น • ระดับ AAA เป็นเกณฑ์ที่ผู้พัฒนาเว็บไซต์ อาจจะ ปฏิบัติตามเพื่อให้คนพิการเข้าถึงเว็บไซต์ได้ง่ายที่สุด

  8. หลักการของ TWCAG 2008 หลักการที่ 1 – ผู้อ่านต้องสามารถรับรู้เนื้อหาได้ • แนวทางที่ 1.1 - จัดเตรียมข้อมูลที่เป็นข้อความ (Text) แทน เนื้อหาที่มีรูปแบบเป็นอื่น • แนวทางที่ 1.2 - จัดเตรียมข้อความบรรยายที่ตรงกับเหตุการณ์ในสื่อมัลติมีเดีย • แนวทางที่ 1.3 - การออกแบบโครงสร้าง และเนื้อหา ต้องสามารถทำงานเป็นอิสระจากกันและกัน • แนวทางที่ 1.4 – ต้องมั่นใจได้ว่าพื้นหน้าและพื้นหลัง (สีและเสียง) ต้องมีความแตกต่างกันมากพอที่ผู้ใช้จะสามารถแยกแยะได้

  9. หลักการของ TWCAG 2008 หลักการที่ 2 - องค์ประกอบต่าง ๆ ของการอินเตอร์เฟสกับเนื้อหาจะต้องใช้งานได้ • แนวทางที่ 2.1 - การทำงานทุกอย่างต้องรองรับการใช้งานจากคีย์บอร์ดได้ • แนวทางที่ 2.2 - จัดเตรียมเวลาให้เพียงพอในการอ่าน หรือการกระทำใดๆ ของข้อมูล สำหรับผู้ใช้ • แนวทางที่ 2.3 - ไม่สร้างเนื้อหาที่อาจเป็นสาเหตุของอาการลมชัก • แนวทางที่ 2.4 - จัดเตรียมทางช่วยเหลือสำหรับผู้ใช้ในการสืบค้นเนื้อหา รู้ว่าตัวเองอยู่ในตำแหน่งใดในเนื้อหา และท่องไปในเนื้อหานั้นได้

  10. หลักการของ TWCAG 2008 หลักการที่ 3 - ผู้ใช้สามารถเข้าใจเนื้อหา และส่วนควบคุมการทำงานต่างๆ ได้ • แนวทางที่ 3.1 - สร้างเนื้อหาให้สามารถอ่านและเข้าใจได้ • แนวทางที่ 3.2 - การทำงานของระบบต่างๆ หรือการแสดงผลบนหน้าเว็บ ต้องเป็นสิ่งที่ผู้ใช้สามารถคาดเดาได้ • แนวทางที่ 3.3 - จัดเตรียมส่วนการช่วยเหลือให้ผู้ใช้ให้สามารถกรอกข้อมูลได้ถูกต้อง

  11. หลักการของ TWCAG 2008 หลักการที่ 4 - เนื้อหาต้องมีความยืดหยุ่นที่จะทำงานกับเทคโนโลยีเว็บในปัจจุบันและอนาคตได้ (รวมถึงเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก) • แนวทางที่ 4.1 - รองรับการใช้งานร่วมกับ User Agent ได้ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต (รวมถึงเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก)

  12. แนวทางที่ 1.1 - จัดเตรียมข้อมูลที่เป็นข้อความ (Text) แทน เนื้อหาที่มีรูปแบบเป็นอื่น รูปภาพ: รูปภาพต้องมีคำอธิบายภาพ (alternative text) ตัวอย่างที่ผิด <p><img src=“somewhere/dog.jpg” width=“200” />…</p> ตัวอย่างที่ถูก <p><img src=“somewhere/dog.jpg” alt=“หมาน้อยสีขาวน่ารัก” />…</p>

  13. แนวทางที่ 1.1 - จัดเตรียมข้อมูลที่เป็นข้อความ (Text) แทน เนื้อหาที่มีรูปแบบเป็นอื่น - ต่อ Controls, Input: ฟอร์มอินพุทต่าง ๆ ต้องใช้ชื่อที่สื่อความหมายและวัตถุประสงค์ ตัวอย่างที่ผิด <p><label for=“input1”>การศึกษา</label> <input type=“text” name=“input1” id=“input1” /></p> ตัวอย่างที่ถูก <p><label for=“education”>การศึกษา</label> <input type=“text” name=“education” id=“education” /></p>

  14. แนวทางที่ 1.1 - จัดเตรียมข้อมูลที่เป็นข้อความ (Text) แทน เนื้อหาที่มีรูปแบบเป็นอื่น - ต่อ CAPTCHA: ภาพอักขระเพื่อยืนยันว่าการดำเนินกิจกรรมบางอย่างบนหน้าเว็บเป็นการกระทำโดยมนุษย์ ไม่ใช่โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ตัวอย่าง จาก http://www.captcha.net/

  15. แนวทางที่ 1.3 - การออกแบบโครงสร้าง และเนื้อหา ต้องสามารถทำงานเป็นอิสระจากกันและกัน Decoration, Formatting, Invisible: วัตถุที่ใช้ในการตกแต่ง ไม่มีความหมายเชิงโครงสร้างหรือเชิงวลีในเอกสาร ตัวอย่างที่ผิด <p><img src=“somewhere/bg_top_coner.jpg” alt=“ภาพพื้นหลังมุมบน” />…</p> ตัวอย่างที่ถูก <p><img src=“somewhere/bg_top_coner.jpg” alt=“” />…</p>

  16. แนวทางที่ 1.3 - การออกแบบโครงสร้าง และเนื้อหา ต้องสามารถทำงานเป็นอิสระจากกันและกัน - ต่อ ใช้ CSS

  17. แนวทางที่ 1.3 - การออกแบบโครงสร้าง และเนื้อหา ต้องสามารถทำงานเป็นอิสระจากกันและกัน - ต่อ ไม่ใช้ CSS

  18. แนวทางที่ 1.4 – ต้องมั่นใจได้ว่าพื้นหน้าและพื้นหลัง (สีและเสียง) ต้องมีความแตกต่างกันมากพอที่ผู้ใช้จะสามารถแยกแยะได้ ตัวอย่างที่ผิด

  19. แนวทางที่ 2.1 - การทำงานทุกอย่างต้องรองรับการใช้งานจากคีย์บอร์ดได้ ตัวอย่างที่ผิด จาก http://www.adobe.com/

  20. แนวทางที่ 2.2 - จัดเตรียมเวลาให้เพียงพอในการอ่าน หรือการกระทำใดๆ ของข้อมูล สำหรับผู้ใช้ ตัวอย่างที่ผิด <meta http-equiv="refresh" content=“20;url=http://www.somewhere.com“/>

  21. แนวทางที่ 2.3 – ไม่สร้างเนื้อหาที่อาจเป็นสาเหตุของอาการลมชัก ตัวอย่างที่ผิด จาก https://www.flashingblinkylights.com/

  22. แนวทางที่ 2.4 - จัดเตรียมทางช่วยเหลือสำหรับผู้ใช้ในการสืบค้นเนื้อหา รู้ว่าตัวเองอยู่ในตำแหน่งใดในเนื้อหา และท่องไปในเนื้อหานั้นได้ ตัวอย่าง จาก http://www.washington.edu/webguides/guidelines/breadcrumbs.html

  23. แนวทางที่ 3.1 - สร้างเนื้อหาให้สามารถอ่านและเข้าใจได้ ภาษามนุษย์หลักของหน้าเอกสาร: <?xml version="1.0" encoding="tis-620"?> <!DOCTYPE html PUBLIC "-//W3C//DTD XHTML 1.0 Strict//EN" "http://www.w3.org/TR/xhtml1/DTD/xhtml1-strict.dtd"> <html xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml" xml:lang="th"> <head> <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=tis-620" /> <meta http-equiv="Content-Style-Type" content="text/css; charset=tis-620" /> … </head>

  24. แนวทางที่ 3.1 - สร้างเนื้อหาให้สามารถอ่านและเข้าใจได้ คำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย:

  25. แนวทางที่ 3.1 - สร้างเนื้อหาให้สามารถอ่านและเข้าใจได้ คำย่อ: ตัวอย่าง <acronym title=“Hyper Text Markup Language”>HTML</acronym> <abbr title=“World Wide Web Consortium”>W3C</abbr>

  26. แนวทางที่ 3.2 - การทำงานของระบบต่างๆ หรือการแสดงผลบนหน้าเว็บ ต้องเป็นสิ่งที่ผู้ใช้สามารถคาดเดาได้ ตัวอย่างที่ผิด จาก https://www.cia.gov/library/publications/the-world-factbook/

  27. แนวทางที่ 3.3 - จัดเตรียมส่วนการช่วยเหลือให้ผู้ใช้ให้สามารถกรอกข้อมูลได้ถูกต้อง ตัวอย่างที่ดี จาก http://www.tddf.or.th

  28. แนวทางที่ 4.1 - รองรับการใช้งานร่วมกับ User Agent ได้ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต (รวมถึงเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวก) การแจงส่วน (Parsing): ตัวอย่างที่ผิด <p>This paragraph is very <strong>important.<p> <p>Please remember</strong> to not overlap tags.</p> ตัวอย่างที่ถูก <p>This paragraph is very <strong>important</strong>.<p> <p><strong>Please remember</strong> to not overlap tags.</p>

  29. 10 วิธีทำเว็บให้ทุกคนเข้าถึง • ภาพและแอนนิเมชั่น: ใช้ alt แอตทริบิวต์อธิบายความหมายหรือหน้าที่เสมอ • Image maps:ใช้ client-side mapและข้อความอธิบายสำหรับแต่ละจุดเชื่อมโยง • สื่อมัลติมีเดีย: ใส่คำบรรยายใต้ภาพและมีข้อความทดแทนส่วนที่เป็นไฟล์เสียง • ไฮเปอร์ลิงค์: ใช้ข้อความลิงค์ที่สื่อความหมาย ไม่ใช่ข้อความอย่างเช่น “คลิกที่นี่” หรือ “อ่านต่อ” ทำเป็นข้อความลิงค์ • โครงสร้างเอกสาร: ใช้หัวเรื่อง ลิสต์ และจัดทำโครงสร้างที่สม่ำเสมอ ใช้ CSS ในการตกแต่งเอกสาร

  30. 10 วิธีทำเว็บให้ทุกคนเข้าถึง - ต่อ • กราฟและแผนผัง: อธิบายกราฟหรือแผนผังโดยการใช้ longdesc แอตทริบิวต์ สำหรับภาพ (<img src=“orgchart.jpg” longdesc=“http://www.mysite.com/desc.html” /> • Scripts, applets และ plug-ins:ใส่เนื้อหาทดแทนหากบราวเซอร์หรือซอฟท์แวร์ท่องเว็บไม่รองรับการทำงาน • Frames: ใช้แท็ก noframe เพื่อทดแทนกรณีที่ไม่สามารถแสดงผลเฟรมได้ และต้องใช้ title แอตทริบิวต์ที่เหมาะสมด้วย • ตาราง: ไม่ใช่ตารางในการวางเลย์เอาท์ ควรใช้ตารางกับข้อมูลเชิงตารางเท่านั้น • ตรวจสอบงาน: ตรวจสอบความถูกต้อง (validation) ได้ที่http://validator.w3.org

  31. มาตรฐานอื่น ๆ ของ W3C ด้าน Accessibility • XHTML – eXtensible Hypertext Markup Language - สำหรับจัดทำข้อมูลหน้าเว็บ • CSS – Cascading Style Sheets - สำหรับตกแต่งเอกสารเว็บ • Authoring Tool Accessibility Guidelines (ATAG) Overview, ATAG 1.0- สำหรับเป็นแนวทางในการออกแบบโปรแกรมเว็บที่ทุกคนเข้าถึง • User Agent Accessibility Guidelines (UAAG) Overview, UAAG 1.0- สำหรับเป็นแนวทางในการออกแบบโปรแกรมท่องเว็บที่ทุกคนเข้าถึง • Accessible Rich Internet Applications (WAI-ARIA) Suite Overview– สำหรับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นอินเตอร์เน็ต เช่น AJAX, DHTML ที่ทุกคนเข้าถึง • SVG, SMIL, MathML, ฯลฯ

  32. สรุป WCAG 2.0/TWCAG 2008 • เป็นแนวทางการทำเว็บเพื่อให้คนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ โดยคำนึงถึงหลักของการออกแบบที่เป็นสากล (Universal Design) ที่ต้องการตอบสนองต่อความหลากหลายของมนุษย์ (Human Diversity) • ขจัดแนวปฏิบัติการทำเนื้อหาเว็บไซต์แบบเดิม เน้นการนำเสนอโครงสร้าง เนื้อหาและการใช้ประโยชน์ได้จริง • ไม่เป็นมาตรฐานโดด ๆ ที่ W3C ทำออกมาให้คนพิการโดยเฉพาะ แต่สามารถทำงานร่วมกับมาตรฐานอื่น ๆ ของ W3C ได้ • ช่วยให้พัฒนาเว็บไซต์สะดวกขึ้น ใช้เวลาน้อยลง และทำงานกับเทคโนโลยีที่หลากหลายทั้งในปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งยังสามารถทำงานข้ามระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกันได้

  33. END

More Related