1 / 80

การแนะแนวการศึกษา

การแนะแนวการศึกษา. การเพิ่ม ขอลด และขอเพิกถอนวิชา การพ้นสภาพนักศึกษา การลงโทษนักศึกษาที่ทุจริตในการสอบ การย้ายคณะหรือเปลี่ยนสาขาวิชา การขอย้ายรอบการศึกษา. การลงทะเบียนเรียนข้ามภาค การลงทะเบียนเรียนเพื่อปรับคะแนน เฉลี่ยสะสม การสำเร็จการศึกษา การให้ทุนการศึกษา.

heller
Download Presentation

การแนะแนวการศึกษา

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การแนะแนวการศึกษา

  2. การเพิ่ม ขอลด และขอเพิกถอนวิชา • การพ้นสภาพนักศึกษา • การลงโทษนักศึกษาที่ทุจริตในการสอบ • การย้ายคณะหรือเปลี่ยนสาขาวิชา • การขอย้ายรอบการศึกษา

  3. การลงทะเบียนเรียนข้ามภาค การลงทะเบียนเรียนข้ามภาค • การลงทะเบียนเรียนเพื่อปรับคะแนน เฉลี่ยสะสม • การสำเร็จการศึกษา • การให้ทุนการศึกษา

  4. การขอเพิ่มวิชา และการขอลดวิชา

  5. ให้กระทำได้ภายในสองสัปดาห์แรกนับจากวันเปิดภาคการศึกษาที่ 1 หรือภาคการศึกษาที่ 2 หรือภายในสัปดาห์แรกนับจากวันเปิดภาคการศึกษาภาคฤดูร้อน และการขอเพิ่มวิชาการขอลดวิชานั้น จะต้องไม่ขัดกับจำนวนหน่วยกิตที่มหาวิทยาลัยกำหนด สำหรับรายวิชาที่ขอลดนั้นจะไม่บันทึกในใบรายงานผลการศึกษา

  6. การขอเพิกถอนวิชา(Withdrawal) มหาวิทยาลัยได้พัฒนาระบบการเพิกถอนวิชาทางอินเตอร์เน็ตสำหรับนักศึกษาและได้เปิดให้บริการตั้งแต่ในภาคฤดูร้อน/2545 เป็นต้นไปโดยมีข้อตกลงดังนี้

  7. 1. การเพิกถอนวิชาทางอินเทอร์เน็ต สามารถ กระทำได้ ตั้งแต่วันแรกของกำหนดการ เพิกถอนวิชาที่มหาวิทยาลัยประกาศไว้ ในปฏิทินการศึกษาจนถึงวันสุดท้ายของ การเรียนในภาคการ ศึกษานั้น

  8. 2. นักศึกษาต้องเพิกถอนวิชาทางอินเตอร์เน็ต ด้วยตนเอง ไม่สามารถมอบหมายให้ผู้อื่น ทำแทนได้โดยใช้รหัสประจำตัวนักศึกษา และรหัสผ่าน และถือว่าการกระทำใด ๆ ที่ทำให้เกิดการเพิกถอนวิชาทาง อินเตอร์เน็ต เป็นการกระทำที่เกิดขึ้น โดยนักศึกษาเอง

  9. 3. นักศึกษาสามารถเพิกถอนวิชาที่ลงทะเบียนเรียนแต่ละภาคการศึกษาได้หลายครั้ง โดยต้อง เหลือไว้อย่างน้อย 1 วิชา(ในกรณีทีนักศึกษามีบางวิชาที่ระบุว่าห้ามเพิกถอน จะเพิกถอนไม่ได้ แต่สามารถเพิกถอนวิชาอื่นที่ไม่ได้ห้ามได้ทุกวิชา)

  10. 4. กรณีที่นักศึกษาต้องการเพิกถอนทุกวิชาที่ลงทะเบียนเรียนในภาคการศึกษาใดต้องติดต่อที่สำนักทะเบียนนักศึกษาเท่านั้น ยกเว้นการเพิกถอนทุกวิชาในภาคฤดูร้อนของนักศึกษาหลักสูตร 4 ปี ภาคปกติ

  11. 5. นักศึกษาต้องตรวจสอบรหัสและชื่อวิชา ที่ต้องการเพิกถอนให้ถูกต้อง เนื่องจาก ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลการเพิกถอนวิชา ทางอินเตอร์เน็ตได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ 6. นักศึกษาที่เพิกถอนวิชาใดทางอินเทอร์เน็ต สมบูรณ์แล้ว จะไม่มีสิทธิ์เข้าสอบวิชานั้น หากนักศึกษาฝ่าฝืน จะถือว่าการสอบวิชา นั้นเป็นโมฆะ

  12. 7. นักศึกษาที่ทำการเพิกถอนวิชาทาอินเตอร์เน็ตตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว มหาวิทยาลัยจะส่งข้อมูลกลับให้นักศึกษาทางอีเมล์เพื่อเป็นการยืนยันการเพิกถอนวิชา 8. กรณีที่นักศึกษาต้องการหลักฐานการเพิกถอนวิชา สามารถพิมพ์ได้เองทางอินเตอร์เน็ตที่หัวข้อ“ตรวจสอบวิชาที่เพิกถอน” หรือพิมพ์จากอีเมล์ ของนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยส่งข้อมูลตอบกลับ

  13. การเพิกถอนวิชากรณีพิเศษการเพิกถอนวิชากรณีพิเศษ ในกรณีที่นักศึกษาขาดสอบปลายภาควิชาใดต้องเขียนคำร้องขออนุมัติเพิกถอนวิชากรณีพิเศษที่สำนักทะเบียนนักศึกษาพร้อมแนบหลักฐานประกอบ ภายหลังจากวันที่ขาดสอบไม่เกิน 5 วันทำการของมหาวิทยาลัย มิฉะนั้น นักศึกษาจะได้เกรด F ในวิชาดังกล่าว โดยการเพิกถอนวิชากรณีพิเศษ สามารถทำได้ในกรณีที่นักศึกษาขาดสอบเนื่องจากเหตุผลจำเป็น ต่อไปนี้

  14. 1. เจ็บป่วยหนักหรือเข้ารับการผ่าตัดใน โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล โดย ต้องมีใบรับรองแพทย์ ระบุชัดเจนว่า ไม่สามารถมาสอบได้ 2. ประสบอุบัติเหตุทำให้ได้รับบาดเจ็บ หรือต้องอยู่ในที่เกิดเหตุเพื่อแก้ไขปัญหา

  15. 3. บิดา/มารดาหรือผู้ปกครอง เจ็บป่วยหนัก หรือประสบอุบัติเหตุร้ายแรงต้องนอน รักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต 4. เกิดภัยพิบัติแก่ทรัพย์สินของนักศึกษา หรือครอบครัว นอกเหนือจากเหตุผลข้างต้น ไม่อนุญาตให้ทำเรื่องขอเพิกถอนวิชากรณีพิเศษ

  16. การพ้นสภาพนักศึกษา

  17. 1. นักศึกษาหลักสูตรปริญญาตรีภาคปกติ ที่สอบได้ คะแนนเฉลี่ยสะสมต่ำกว่า 1.50 ยกเว้นนักศึกษา ชั้นปีที่ 1 ภาคการศึกษาที่ 1 ซึ่งการพ้นสภาพ นักศึกษาจะกระทำเมื่อสิ้นภาคการศึกษาฤดูร้อน (ถ้าลงทะเบียนเรียนในภาคฤดูร้อน) ของปีการ ศึกษาแรกที่เข้าศึกษา 2. นักศึกษารอพินิจที่สอบได้คะแนนเฉลี่ยสะสม ต่ำกว่า 1.75 เมื่อสิ้นภาคการศึกษาฤดูร้อนของ ปีการศึกษาที่มีสถานภาพรอพินิจ

  18. 3. นักศึกษาที่มีระยะเวลาการศึกษาครบตามที่ระเบียบ มหาวิทยาลัยกรุงเทพว่าด้วยการศึกษาขั้นปริญญาตรี คือ 3.1 นักศึกษาภาคปกติที่เรียนครบ 8 ปีการศึกษาแต่ สอบได้หน่วยกิตยังไม่ครบตามหลักสูตรคณะ ที่นักศึกษาสังกัด 3.2 นักศึกษาภาคค่ำที่เรียนครบ 10 ปีการศึกษาแต่ สอบได้หน่วยกิตยังไม่ครบตามหลักสูตรคณะ ที่นักศึกษาสังกัด

  19. 3.3 นักศึกษาภาคปกติ (หลักสูตรต่อเนื่อง) ที่เรียนครบ 4 ปีการศึกษา แต่สอบได้ หน่วยกิตยังไม่ครบตามหลักสูตรคณะ ที่ศึกษาสังกัด 3.4 นักศึกษาภาคค่ำ (หลักสูตรต่อเนื่อง) ที่เรียนครบ 6 ปีการศึกษา แต่สอบได้ หน่วยกิตยังไม่ครบตามหลักสูตรคณะ ที่นักศึกษาสังกัด

  20. 4. นักศึกษาที่ถูกตัดคะแนนความประพฤติ ครั้งเดียวหรือหลายครั้ง รวมกันเกิน 20 คะแนน 5. สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร 6. ตาย 7. ลาออก

  21. 8. ถูกจำหน่ายชื่อออก หรือถูกถอนสภาพนักศึกษา เพราะ - ใช้หลักฐานการศึกษาปลอมสมัครเข้าเป็นนักศึกษา - ประพฤติผิดระเบียบข้อบังคับของมหาวิทยาลัย อย่างร้ายแรง - ไม่ลงทะเบียนเรียนและไม่ได้ยื่นคำร้องขอลาพัก การศึกษาเพื่อรักษาสถานภาพนักศึกษาต่อสำนัก ทะเบียนนักศึกษา และไม่ชำระค่าธรรมเนียม ภายใน 30 วัน นับจากวันเปิดภาคการศึกษา

  22. การลงโทษนักศึกษาที่ทุจริตในการสอบการลงโทษนักศึกษาที่ทุจริตในการสอบ นักศึกษาที่กระทำการทุจริตในการสอบจะต้องได้รับโทษซึ่งคณะกรรมการวินิจฉัยความผิด ได้กำหนดโทษตามลักษณะของความผิด

  23. 1. คณะกรรมการวินิจฉัยความผิด การวินิจฉัยความผิดให้กระทำโดยคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วย - ประธานกรรมการสอบไล่ หรือ ผู้ที่ประธาน กรรมการสอบไล่มอบหมายทำหน้าที่เป็นประธาน - กรรมการคุมสอบตึก อย่างน้อย 3 ท่าน - ผู้แทนจากสำนักทะเบียนนักศึกษา - ผู้แทนจากฝ่ายบริการการศึกษาและสวัสดิการ มติของคณะกรรมการวินิจฉัยความผิดในการกำหนดโทษนักศึกษาที่กระทำ หรือพยายามกระทำทุจริตให้ถือเป็นที่สุด

  24. 2. ลักษณะความผิดและบทลงโทษจะขึ้นอยู่กับลักษณะของการกระทำความผิด ดังต่อไปนี้ 2.1 ความผิดลักษณะที่หนึ่ง เป็นการกระทำโดย (1) นำเอกสารหรือสิ่งใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิชานั้นเข้าไปในห้องสอบโดยที่ผู้ออกข้อสอบไม่ได้อนุญาตไว้ในข้อสอบ หรือเข้าลักษณะตระเตรียมกระทำทุจริต

  25. (2) ส่งคำตอบให้ผู้อื่นลอก หรือกำลังลอกหรือจะลอกคำตอบจากผู้อื่น ซึ่งส่งให้โดยวิธีส่งเอกสาร หรือมีการส่ง หรือรับข้อความโดยวิธีอื่นให้แก่กัน และมีหลักฐานอย่างเด่นชัด (3) สอบแทนกันในวิชาที่มีหรือไม่มีการบันทึกหน่วยกิต

  26. นักศึกษาจะถูกลงโทษดังนี้นักศึกษาจะถูกลงโทษดังนี้ - ได้ F เฉพาะวิชาที่ทุจริตนั้น และได้ W ในวิชาอื่นที่ได้ลงทะเบียนไว้ในภาคการศึกษานั้นทุกวิชา และ - ถูกพักการเรียนหนึ่งปีการศึกษา (สองภาคการศึกษาปกติและหนึ่งภาคการศึกษาฤดูร้อน) โดยให้เริ่มพักการเรียนในภาคการศึกษาถัดไป ถ้าการกระทำความผิดนั้นมีบุคคลภายนอกร่วมด้วยมหาวิทยาลัยจะแจ้งให้สถาบันที่บุคคลนั้นสังกัดทราบเพื่อพิจารณาโทษต่อไป

  27. 2.2 ความผิดลักษณะที่สอง เป็นการกระทำความผิดโดยการลอกหรือพยายามลอกผู้อื่น หรือยินยอมให้ผู้อื่นลอกโดยมิได้ส่งเอกสารหรือข้อความให้แก่กัน โดยมีกรรมการคุมสอบอย่างน้อยสองคนเห็นพฤติกรรมดังกล่าวอย่างแน่ชัด โทษความผิดในลักษณะดังกล่าวนักศึกษาจะได้ F เฉพาะวิชาที่ทุจริตนั้น

  28. 2.3 ความผิดลักษณะที่สาม เป็นการกระทำความผิดโดยมีเอกสารหรือสิ่งใด ๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับวิชานั้นไว้ในครอบครองเวลาสอบโดยพฤติกรรมที่ส่อว่า มีไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการกระทำทุจริตไม่ชัดเจนโทษความผิดลักษณะดังกล่าว นักศึกษาจะถูกลงโทษอย่างใดอย่างหนี่งหรือหลายอย่างดังนี้

  29. - ปรับตกในวิชาที่กระทำนั้น - เพิกถอนวิชาที่กระทำนั้น - ทำทัณฑ์บน - ตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร

  30. 2.4 ความผิดลักษณะที่สี่ ผู้ใดกระทำตามลักษณะที่หนึ่งถึงสามในการทดสอบย่อยหรือเก็บคะแนนระหว่างภาคการศึกษา ให้กรรมการวิชาการของแต่ละคณะเป็นผู้พิจารณาลงโทษอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างดังนี้

  31. - ปรับตกในวิชาที่กระทำนั้น - เพิกถอนในวิชาที่กระทำนั้น - ได้คะแนน “ 0 ” ในการสอบย่อยหรือ เก็บคะแนน ครั้งนั้น - ทำทัณฑ์บน - ตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร

  32. 2.5 ความผิดลักษณะที่ห้า ในกรณีเกิดการกระทำทุจริตในการสอบอื่น นอกจากที่ระบุไว้แล้วหรือมีการกล่าวหาในภายหลังการสอบได้เสร็จสิ้นไปแล้วว่า ได้เกิดการกระทำทุจริตขึ้นในการสอบครั้งใด ให้คณะกรรมการวินิจฉัยความผิดพิจารณากำหนดโทษนักศึกษาที่กระทำหรือพยายามกระทำทุจริตได้ตามความร้ายแรงแล้วแต่กรณี

  33. การย้ายคณะหรือเปลี่ยนสาขาวิชาการย้ายคณะหรือเปลี่ยนสาขาวิชา นักศึกษาที่มีความประสงค์จะขอย้ายคณะหรือเปลี่ยนสาขาวิชาสามารถทำคำร้องขอย้ายคณะหรือสาขาวิชาได้ที่ สำนักทะเบียนนักศึกษาโดยมีหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

  34. โดยปกติจะไม่อนุมัติให้ย้ายคณะจากคณะอื่นเข้าคณะนิเทศศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ และคณะมนุษยศาสตร์สาขาวิชาการท่องเที่ยวและการโรงแรม

  35. 1. นักศึกษาภาคปกติ หลักสูตร 4 ปี จะต้องศึกษาอยู่ในคณะหรือสาขาวิชาเดิม ไม่น้อยกว่า 2 ภาคการศึกษา ทั้งนี้ไม่นับภาคการศึกษาที่ลาพักหรือให้พักการศึกษา 2. ในการยื่นคำร้องขอย้ายคณะหรือสาขาวิชานักศึกษาจะต้องแสดงเหตุผลประกอบการอนุมัติหรือให้อยู่ในดุลยพินิจของคณบดีที่เกี่ยวข้อง

  36. 3. การย้ายคณะหรือสาขาวิชาสามารถกระทำได้ไม่เกินสองครั้งตลอดการมีสถานสภาพเป็นนักศึกษา โดยยื่นคำร้องขออนุมัติจากคณบดีที่เกี่ยวข้อง และต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนการลงทะเบียนเรียนประจำภาคการศึกษานั้น ๆ

  37. 4. เมื่อได้รับอนุมัติให้ย้ายคณะหรือสาขาวิชาใหม่แล้ว นักศึกษาจะต้องแสดงความจำนงว่าวิชาต่าง ๆ ที่ได้ศึกษามาแล้ววิชาใดจะนำมาคำนวณเพื่อหาคะแนนเฉลี่ยสะสมโดยผ่านการอนุมัติจากคณบดีที่นักศึกษาขอย้ายเข้าสังกัดใหม่ และการคำนวณคะแนนเฉลี่ยสะสมใหม่ จะคำนวณเมื่อคะแนนของคณะหรือสาขาวิชาใหม่ได้แสดงผลการเรียนแล้ว

  38. 5. นักศึกษาที่ย้ายคณะหรือสาขาวิชาจะต้องชำระค่าธรรมเนียมตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด

  39. การขอย้ายรอบการศึกษา นักศึกษาขอย้ายรอบจากภาคปกติไปเรียนภาคค่ำ หรือจากภาคค่ำไปเรียนภาคปกติ โดยมีหลักเกณฑ์ ดังนี้

  40. 1. ลงทะเบียนเรียนมาแล้วไม่น้อยกว่า 18 หน่วยกิต ไม่นับวิชาที่ขอเพิกถอน “ W ” 2. สอบได้คะแนนเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ 2.00 ขึ้นไป 3. เมื่อได้รับอนุมัติให้ย้ายรอบแล้วจะต้องมีวิชา ที่เหลือลงทะเบียนต่อไปอีกอย่างน้อย 1 ปี การศึกษาตามหลักสูตรคณะที่นักศึกษาสังกัด

  41. 4. คณบดีคณะวิชาที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้พิจารณา อนุมัติการขอย้ายรอบของนักศึกษา 5. การขอย้ายรอบจะย้ายได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อได้รับอนุมัติ ให้ย้ายแล้ว จะขอย้ายกลับไม่ได้ โดยเด็ดขาด 6. นักศึกษาชายที่ได้รับอนุมัติให้ย้ายรอบจะไม่มี สิทธิเรียนวิชาทหาร

  42. 7. นักศึกษาขอย้ายรอบที่มีผลการเรียนดี เมื่อ สำเร็จการศึกษาสอบได้คะแนนเฉลี่ยสะสม ตั้งแต่ 3.25 ขึ้นไป มีสิทธิได้รับปริญญา เกียรตินิยมตามระเบียบที่กำหนดไว้ 8. ผู้ที่ประสงค์ขอย้ายรอบต้องติดต่อที่ สำนัก ทะเบียนนักศึกษา ตามระยะเวลาที่กำหนด ไว้ในคู่มือลงทะเบียน

  43. การลงทะเบียนข้ามภาค นักศึกษาภาคปกติและภาคค่ำที่ลงทะเบียนเรียนครบตามหลักสูตรปริญญาตรีที่คณะวิชากำหนดไว้แต่ยังไม่สำเร็จการศึกษา สามารถลงทะเบียนข้ามภาคในวิชาต่าง ๆ ที่เปิดสอนตามหลักสูตรภาคปกติหรือภาคค่ำได้ตามระเบียบมหาวิทยาลัยกรุงเทพว่าด้วยการศึกษาขั้นปริญญาตรีพุทธศักราช 2538โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้

  44. 1. การลงทะเบียนข้ามภาค หมายถึง นักศึกษา ภาคปกติจะลงทะเบียนเรียนวิชาที่เปิดสอน ในภาคค่ำ หรือนักศึกษาภาคค่ำจะลงทะเบียน เรียนวิชาที่เปิดสอนในภาคปกติ

  45. 2. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิลงทะเบียนเรียนข้ามภาค 2.1 เป็นนักศึกษาที่ยังไม่สำเร็จการศึกษาเมื่อพ้นภาคการศึกษาสุดท้ายที่ควรจะสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรที่นักศึกษาสังกัด 2.2 เป็นนักศึกษาที่ลงทะเบียนในภาคการศึกษานั้น เป็นภาคสุดท้ายที่จะสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรที่นักศึกษาสังกัด

  46. 3. ถ้ามีวิชาใดที่เปิดสอนวิชาเดียวกันทั้งภาคปกติ และภาคค่ำ นักศึกษาจะลงทะเบียนเรียนวิชานั้น พร้อมกันทั้งภาคปกติและภาคค่ำไม่ได้ 4. ในกรณีที่มีการเปิดสอนวิชาเดียวกันทั้งภาคปกติ และภาคค่ำ นักศึกษาจะลงทะเบียนเรียนวิชาที่ เปิดสอนในภาคที่ตนสังกัดอยู่ เว้นแต่มีเหตุจำเป็น อันสมควรซึ่งอยู่ในดุลยพินิจของคณบดีคณะที่ นักศึกษาสังกัด

  47. 5. การลงทะเบียนเรียนข้ามภาค นักศึกษาภาคปกติ ลงทะเบียนทุกวิชารวมกันแล้วต้อง - ไม่เกิน 22 หน่วยกิต ในภาคปกติ หรือ - ไม่เกิน 10 หน่วยกิต ในภาคฤดูร้อน นักศึกษาภาคค่ำ ลงทะเบียนทุกวิชารวมกันแล้วต้อง - ไม่เกิน 18 หน่วยกิต ในภาคปกติ หรือ - ไม่เกิน 10 หน่วยกิต ในภาคฤดูร้อน

  48. ยกเว้นกรณีที่เป็นการลงทะเบียนภาคสุดท้ายที่คาดว่าจะสำเร็จการศึกษาเท่านั้นนักศึกษาอาจลงทะเบียนมากกว่านั้นได้ตามระเบียบว่าด้วยการศึกษาขั้นปริญญาตรีพุทธศักราช 2538

  49. 6. นักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนข้ามภาค จะลงทะเบียน เรียนวิชาต่าง ๆ ได้เฉพาะวิชาที่มหาวิทยาลัย ประกาศเปิดสอนในภาคการศึกษาเท่านั้น 7. นักศึกษาที่มีคุณสมบัติเรียนข้ามภาคได้ และประสงค์ จะใช้สิทธิดังกล่าวนี้ ต้องขออนุมัติลงทะเบียนเรียน ข้ามภาคจากคณบดีที่นักศึกษาสังกัด และต้องติดต่อ ร้องขอลงทะเบียนเรียนข้ามภาคที่สำนักทะเบียน นักศึกษาภายในระยะเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด

  50. 8. การลงทะเบียนเรียนข้ามภาคทุกกรณี ต้องได้ รับอนุมัติจากคณบดีที่นักศึกษาสังกัด 9. วิชาที่นักศึกษาขอลงทะเบียนเรียนข้ามภาค จะ ถือเป็นโมฆะในกรณี ดังต่อไปนี้ 9.1 มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามประกาศนี้ 9.2 ลงทะเบียนเรียนโดยไม่ยื่นคำร้องขอ ลงทะเบียนข้ามภาคที่สำนักทะเบียนนักศึกษา

More Related