120 likes | 203 Views
N. S. P. MD SAYS “ สองมาตรฐาน ”. ขายทองคำกระตุ้นไตรมาส. ข้อแนะนำการทำ Survey. ทำไมราคาน้ำมันจึงสูงขึ้น ?. โครงการส่วนลดทางภาษีในจีน. ข้าวหอมมะลิไทยยังคงคุณภาพดีที่สุดในโลก. แจ้งให้ทราบ. S. สองมาตรฐาน
E N D
N S P MD SAYS “สองมาตรฐาน” ขายทองคำกระตุ้นไตรมาส ข้อแนะนำการทำ Survey ทำไมราคาน้ำมันจึงสูงขึ้น ? โครงการส่วนลดทางภาษีในจีน ข้าวหอมมะลิไทยยังคงคุณภาพดีที่สุดในโลก แจ้งให้ทราบ
S สองมาตรฐาน ผมรู้จักสาวน้อยน่ารักผู้หนึ่ง หลังจากจบการศึกษาจากต่างประเทศ เธอก็ทำงาน มีรถป้ายแดงขับ ตอนกลางวันวันหนึ่งเธอถูกตำรวจเรียกตรวจเอกสารประจำรถ ซึ่งพบว่าสมุดประจำรถที่ต้องใช้คู่กับป้ายแดงไม่ได้เขียนข้อมูลการใช้งานในวันที่เธอถูกตรวจ เธอนึกขึ้นได้ว่าตอนส่งรถเซลล์แมนเคยบอกให้กรอกรายละเอียดลงในสมุดนั้นในเวลาที่เธอว่าง แต่เธอไม่ได้ใส่ใจ คุณตำรวจแจ้งให้ทราบ เธอก็แสดงความพร้อมที่จะกรอกให้ครบถ้วน เพราะในความรู้สึกของเธอ ทุกอย่างพร้อมไม่น่าเป็นปัญหาใด ๆ แต่คุณตำรวจกลับยืนยันว่า นี่เป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว และเขียนใบสั่งให้เธอไปเสียค่าปรับที่โรงพักทันที แน่นอนเธอย่อมหงุดหงิดและอารมณ์เสียกับเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นเรื่อง เธอเดินทางไปเสียค่าปรับจำนวน 200 บาทในวันนั้นอันเป็นบทเรียนที่นับเป็นราคาถูกสำหรับเธอ เป็นบทเรียนที่เธอได้ทำหน้าที่พลเมืองดีตามกฎหมายอย่างไม่เต็มใจ หากเป็นต่างประเทศ ค่าปรับเพื่อให้เป็นพลเมืองดีของเธอคงสูงกว่านี้มาก ค่าปรับที่สูงจึงทำให้พลเมืองของประเทศเหล่านั้น กดตัวเองให้อยู่ในระเบียบวินัยได้อย่างดียิ่ง ในกรณีสาวน้อยของประเทศไทยจึงนับว่าโชคดีกว่ามาก ผมเปรียบเทียบเรื่องการจราจรที่ผมทำผิดในหลายปีที่ผ่านมากับเรื่องสาวน้อยผู้น่ารักได้ประสบ ผมขับรถเลี้ยวในที่ห้ามเลี้ยวบ่อยเพราะผมขับรถเองและไม่ชำนาญถนนใหม่และการเปลี่ยนแปลงที่เร็วมากในกรุงเทพฯ บ่อยครั้งผมจึงถูกคุณตำรวจเรียก ตรวจใบขับขี่ และแจ้งความผิดให้ทราบ N P ต่อหน้า 2
หน้า 2 ผมไม่อยู่ในวัยที่จะต่อล้อต่อเถียงกับคุณตำรวจแล้ว และมีความพร้อมต่อการเสียค่าปรับให้ถูกต้อง ดังนั้นทุกครั้งที่คุณตำรวจแจ้งข้อหาผมจบ ผมจะกล่าวกับคุณตำรวจเพียงประโยคสั้น ๆ ว่า “ผมไม่ทราบจริง ๆ ผมขอได้ไหม” และทุกครั้ง ผมยืนยันว่าทุกครั้งจริง ๆ คุณตำรวจจะตอบผมว่า “ได้ครับ” พร้อมคืนใบขับขี่ให้ผมโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ สิ่งที่ผมเปรียบเทียบกับสาวน้อยนั้นคือ ความผิดของผมมีอันตรายใหญ่หลวงกว่า มีสิทธิ์เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่า แต่สิ่งที่ผมได้รับการปฏิบัติจากคุณตำรวจช่างต่างจากสาวน้อยไร้เดียงสาอย่างสิ้นเชิง ประเทศไทยมี 2 มาตรฐาน เป็นคำที่ถูกยกขึ้นมาพูดคุยกันบ่อยในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ไม่เว้นแม้แต่การสนทนาที่ผมมีกับชาวต่างชาติในประเด็นที่ฝ่ายปกครองต้องพิจารณาเรื่องราวต่าง ๆ ให้กับฝ่ายถูกปกครองซึ่งก็คือนักธุรกิจทั้งหลาย เช่นการขอยกเว้นภาษีศุลกากรตามข้อตกลงเขตการค้าเสรี ทุกครั้งที่มีผู้ยกเรื่อง 2 มาตรฐานขึ้นมา ผมก็มักเลือกเพียงรับฟังเรื่องราวของผู้เล่าอย่างสงบ คิดให้เร็ว คิดให้ทัน และเสนอวิธีแก้ไขปัญหาให้เขา และทุกครั้งที่ผมวางแผนแก้ปัญหาให้เขาสำเร็จ ประเด็นประเทศไทยมี 2 มาตรฐานก็จะค่อย ๆ เบาลงไปโดยปริยาย แต่ในความเป็นจริงผมก็ไม่สามารถสร้างแผนงานแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด ดังนั้นทำอย่างไรประเด็น 2 มาตรฐานของไทยจึงจะเบาลง สมมุติที่ 1 ทุกครั้งที่เราทราบว่าทำผิดกฎกติกา แม้ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง เช่นทั้งกรณีของสาวน้อยและของผมที่ทำผิดกฎจราจร หากผมไม่กล่าวคำ “ผมขอได้ไหม” แล้วไปชำระค่าปรับเหมือนสาวน้อย ประเทศไทยย่อมมีมาตรฐานเดียว ซึ่งในโลกทุนนิยมคงมีคนทำตามกติกานี้ไม่มาก S N P ต่อหน้า 3
หน้า 3 สมมุติที่ 2 เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองมีวิจารณญาณที่ดี ใช้หลักธรรมมาภิบาลในการปฏิบัติหน้าที่ ดูหลักเจตนาโดยไม่ยึดหลักกฎหมายด้านเดียว ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นต่อผู้ถูกปกครอง อย่างนี้คำว่า 2 มาตรฐานก็น่าจะเบาลง ซึ่งในระบบราชการไทย ก็เริ่มทีบุคคลเช่นนี้มากขึ้นแต่ก็ยังไม่มากพอที่จะเปลี่ยนสังคมไทย สมมุติที่ 3ประชาชนและผู้ประกอบการต้องรู้ ต้องเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน หากไม่รู้ ไม่เข้าใจ ก็ให้กระทำการร่วมกับผู้รู้ เช่นก่อนจะสั่งซื้อสินค้า ก็ต้องรู้ว่าสินค้านั้นได้สิทธิ์ยกเว้นภาษีหรือไม่ และทำอย่างไรจึงจะได้สิทธิ์ยกเว้นภาษีนั้นมา จากนั้นก็ดำเนินการตามความถูกต้องนั้นไป ซึ่งปัจจุบันทั้งประชาชนและผู้ประกอบการฉลาดขึ้นและเลือกทางนี้มากขึ้น สมมุติที่ 4 ที่ผมหยิบขึ้นมา ดูเหมือนเป็นหนทางที่ง่ายและดีที่สุด ผู้ใดที่มีความรู้และความเข้าใจมาก เขาก็จะทราบเองว่า แท้จริงแล้วไม่ว่าประเทศไทยหรือที่ไหนในโลก ก็มี 2 มาตรฐานไม่ต่าง กัน ที่ต่างกันคือ ที่ใดมีคนรู้มาก ที่นั้นก็ป้องกันตัวเองได้มาก เลือกมาตรฐานที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองได้ดีกว่า อาการ 2 มาตรฐานก็จะถูกลืม ๆ ไป จนนึกว่า มันเป็นมาตรฐานเดียวกัน สุดท้ายอาการ 2 มาตรฐานก็จะเบาลงไปเอง S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า มูลค่าการส่งออกที่ค่อนข้างดีในไตรมาสที่ผ่านาเป็นผลของการส่งออกทองคำที่เพิ่มขึ้นถึง 1,451% ซึ่งหากไม่รวมการส่งออกทองคำ มูลค่าการส่งออกที่ขจัดผลของฤดูกาลกลับลดลงจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนทิศทางการขยายตัวที่ไม่ต่อเนื่อง และบ่งบอกนัยว่าการฟื้นตัวของการส่งออกอาจไม่รวดเร็วอย่างที่คาดหวังกันไว้ แม้มีโอกาสที่จะปรับตัวดีขึ้นจากผลของฐานเปรียบเทียบที่ต่ำในปีก่อนหน้า อาจส่งผลให้การขยายตัวของการส่งออกกลับมาเป็นบวกได้ในไตรมาส 4/52 ก็ตาม นอกจากนี้ ต้องจับตาปัจจัยที่อาจจะมีผลต่อการส่งออกสำคัญ ได้แก่ แนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาท สถานการณ์ในด้านสภาพคล่องของผู้ประกอบการส่งออก รวมทั้งภาวะตลาดแรงงาน ที่บางอุตสาหกรรมที่มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น แต่กลับมีปัญหารับแรงงานกลับเข้ามาได้ไม่ทันและการใช้มาตรการทางการค้าของประเทศคู่ค้า เช่น กรณีการใช้มาตรการทางการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน โดยสหรัฐฯ ได้ประกาศจัดเก็บภาษีนำเข้ายางรถยนต์จากจีนเพื่อปกป้องตลาดภายในประเทศ (Safeguard) ทำให้จีนเตรียมตอบโต้ด้วยการไต่สวนการนำเข้าผลิตภัณฑ์ไก่ และอาจรวมถึงรถยนต์นำเข้าจากสหรัฐฯ อีกทั้งยังมีกรณีที่บริษัทเหล็กเรียกร้องให้ปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าเหล็กบางประเภทจากจีนตามมาอีกระลอก โดยระบุว่าเพื่อเป็นการตอบโต้จีนทุ่มตลาดท่อเหล็ก ซึ่งท่าทีดังกล่าวอาจเป็นชนวนนำไปสู่การตอบโต้กันการค้า ซึ่งอาจจะทำลายบรรยากาศทางการค้า และบั่นทอนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกได้ S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
เกี่ยวกับการนำสินค้าเข้า มีสินค้าหลายประเภทที่นำเข้ามาและมีการตรวจนับ สินค้าบางประเภทนับได้ เช่น สินค้ามาเป็น Carton, Roll, Pallet สินค้าบางอย่างไม่สามารถตรวจนับได้ เช่น ไม้อัด, ทราย เป็นต้น แต่สินค้าที่นับไม่ได้สามารถทำการตรวจสอบได้จากน้ำหนัก บ่อยครั้งที่สินค้าที่นำเข้ามาแล้ว สินค้าขาดหาย หรือเสียหาย ในกรณีเช่นนี้ ทางผู้ทำการตรวจปล่อยจะทำการ Survey สินค้าไว้กับทาง Agent ที่นำสินค้าเข้ามาว่า มีจำนวนเท่าไหร่ ตรงตามเอกสารอ้างอิงหรือไม่ หรือขาดหายไปเท่าไหร่ เพื่อเป็นหลักฐาน ในการติดตามการ Claim ต่อไป แต่ทั้งนี้ มีบางกรณีเช่นกันที่เกิดเหตุการณ์สินค้าขาดหาย และได้ทำการ Survey ไว้แล้ว แต่ทาง Agent หรืออาจจะเป็นสายเรือผู้นำเข้ามีนโยบายที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการรักษาผลประโยชน์ของผู้นำเข้า คือไม่อนุญาตให้มอบเอกสารในการยืนยันการตรวจนับจำนวนสินค้าจากการ Survey ณ ขนาดตรวจปล่อย ทำให้ผู้นำเข้าไม่สามารถทำการ Claim กับทางต่างประเทศได้ ทำให้การดำเนินการไม่เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับบาง Agent และบางสายเรือเท่านั้น เมื่อเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ทำให้ผู้นำเข้าเสียประโยชน์ ไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้น ทางผู้นำเข้า จึงควรร่วมกันกับทาง ตัวแทนนำเข้าให้รอบคอบ ในการเรียกใช้บริการ ของบางสายเรือ และบาง Agent ว่ามีเงื่อนไขตามที่กล่าวข้างต้นหรือไม่ เพราะหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นจะทำให้เกิดความเสียหาย และผลประโยชน์ตามมา ซึ่งทางตัวแทนนำเข้าก็จำเป็นที่จะต้องตรวจสอบเงื่อนไขเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ดีด้วย เพื่อจะแนะนำให้กับทางผู้นำเข้าอย่างเหมาะสม หากท่านผู้นำเข้ามีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ คุณต้นวงศ์ หมั่นผจง โทรศัพท์ 02-333-1166 ต่อ 207 หรือ โทรสาร 02-333-0930 S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
S ทำไมราคาน้ำมันจึงสูงขึ้น? หลายๆ ท่านอาจคิดว่าหลักของอุปสงค์และอุปทานไม่มีผลต่อราคาน้ำมันอีกต่อไป แต่...คำตอบข้อหนึ่งคือ การที่น้ำมันขึ้นราคาสูงมากเป็นผลมาจากการไร้เสถียรภาพทางการเมืองในหลายพื้นที่ของโลก ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการผลิตน้ำมันในปัจจุบันและอนาคต เลยทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นเพราะสถานการณ์การเมือง คำตอบข้อที่สองคือ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างราคาน้ำมันอย่างรุนแรง คำตอบข้อที่สามคือ ทั้งข้อหนึ่งและสองรวมกันทำให้น้ำมันมีราคาสูงขึ้น อาจมีการแย้งว่าในสมัยสงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งแรกสถานการณ์รุนแรงมากกว่านี้อีก แต่ราคาทำไมน้ำมันถึงไม่ขึ้นสูงเท่าครั้งนี้ และถามต่อไปว่าถ้าสถานการณ์ในตะวันออกกลางดีขึ้น ราคาน้ำมันจะลดลงหรือไม่ เมื่อพูดถึงด้านดีมานด์ ความต้องการน้ำมันสูงขึ้นจริง กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมเศรษฐกิจดีขึ้น จึงใช้น้ำมันมากขึ้น ประเทศเศรษฐกิจใหม่ เช่น จีน อินเดีย นำเข้าน้ำมันในอัตราที่เร็วขึ้น เพราะเศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีการสร้างคลังน้ำมันเพื่อเก็บน้ำมันสำรองมากขึ้น ความต้องการเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด แต่นั่นไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะทำให้น้ำมันราคาสูงขึ้น เพราะปริมาณน้ำมันในตลาดมีมากพอต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสำหรับฤดูหนาวที่จะมาถึง เพราะฉะนั้นอย่าคิดแต่ดีมานด์อย่างเดียว ต้องคิดถึงซัพพลายด้วย N P ต่อหน้า 2
หน้า 2 ปัญหาของซัพพลายอยู่ที่ว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันมี “กำลังผลิตสำรอง”หรือ “กำลังผลิตส่วนเกิน”มากน้อยเพียงใด มี “การลงทุนเพิ่มเติม”เพื่อเป็นหลักประกันในอนาคตว่าน้ำมันจะไม่ขาดแคลนหรือไม่ วันนี้โอเปกมีกำลังผลิตสำรองได้อีก 1-1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำให้สามารถผลิตน้ำมันได้ถึง 30.5-31 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากจำเป็น (ทั้งโลกผลิตน้ำมันได้ประมาณ 85 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ในเมื่อซัพพลายกับดีมานด์ได้ดุลกัน แต่ทำไมราคาน้ำมันถึงสูงขึ้นทุกวัน สรุปได้ว่า ก่อนนี้ผู้ผลิตโดยเฉพาะโอเปกเท่านั้นที่มีบทบาทในการกำหนดราคาน้ำมัน แต่ปัจจุบันมี “ผู้เล่น” เพิ่มเติมที่มีบทบาทมากกว่ากลุ่มผู้ผลิต นั่นคือ นักเก็งกำไรราคาน้ำมันที่มีบทบาทในการปั่นราคาให้สูงขึ้นเกินจริงใน “ตลาดกระดาษ” ซื้อขายล่วงหน้า S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก www.the-thainews.com
สาธารณรัฐประชาชนจีนแจ้งว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมการลงทุน รัฐบาลจึงอนุญาตให้บริษัทฯ หรือนิติบุคคลสามารถเข้าร่วมโครงการส่วนลดทางภาษีโดยการจัดทำข้อตกลงทางการค้าข้ามชาติ และใช้เงินหยวนเป็นสกุลหลักในการทำธุรกรรมการส่งออก ซึ่งบริษัทจะได้รับส่วนลดทางภาษีคืนจากการส่งออก และสามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ กรณีซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นผู้ประกอบการที่ส่งใบแจ้งหนี้เป็นสกุลเงินต่างประเทศเท่านั้น มีผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่า 3,500 ราย และปัจจุบันมีอัตราส่วนลดทางภาษีตั้งแต่ร้อยละ 5 ถึงร้อยละ 17 โครงการนี้เป็นโครงการนำร่องที่จะผลักดันให้เกิดขึ้นใน 5 เมืองได้แก่ เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เซินเจิ้ง ตงก่วน และซูไฮ่ การจัดทำข้อตกลงทางการค้าข้ามชาติเพื่อใช้เงินหยวนเป็นสกุลหลักกับประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ฮ่องกง มาเก๊า และประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียน (บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย ไทย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม) เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งทางด้านเศรษฐกิจแล้ว ยังส่งผลดีต่อธุรกรรมอื่นอีกด้วย โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่อยู่ในฮ่องกง S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.)เปิดเผยเกี่ยวกับกระแสข่าว การพัฒนาข้าวพันธุ์ใหม่ (LA 2125) ของสหรัฐอเมริกาที่มีคุณภาพทัดเทียมกับข้าวหอมมะลิไทยซึ่งมีชื่อทางการค้า “JAZZMAN” ว่า ข้าวดังกล่าวได้มีการพัฒนาพันธุ์มาหลายปีแล้ว แม้จะเริ่มมีการเพาะปลูกมากขึ้น แต่ปริมาณการผลิตในเชิงการค้ายังมีน้อย ประกอบกับสหรัฐฯ มีการเพาะปลูกข้าวหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งข้าวเมล็ดสั้น (Japonica) และข้าวเมล็ดยาว (Indica) ดังนั้นการผลิตข้าวดังกล่าวซึ่งเป็นข้าวเมล็ดยาวในเชิงการค้าเพื่อทดแทนข้าวหอมมะลิไทยจึงยังคงต้องใช้เวลารวมทั้งการสร้างการยอมรับของตลาดเพื่อแข่งขันกับข้าวหอมมะลิไทย ในขณะเดียวกันประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งจะต้องปรับตัวกับการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้นโดยใช้คุณภาพเป็นตัวนำในการทำตลาด ในแต่ละปีประเทศไทยผลิตข้าวหอมมะลิไทยได้ประมาณ 6-7 ล้านตันข้าวเปลือก หรือประมาณ 4-4.5 ล้านตันข้าวสาร และส่งออกเฉลี่ยปีละ 2.5 ล้านตัน โดยมีตลาดหลักในปี 2551 ได้แก่ สหรัฐฯ (15%) EU (12%) ไอวอรี่โคสต์ (11%) เซเนกัล (10%) ฮ่องกง (8%) จีน (7%) กานา (5%) สิงคโปร์ (5%) มาเลเซีย (5%) และอื่น ๆ (22%) โดยการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยได้มีการขยายตัวมากขึ้นจากเดิมซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคเอเซีย ได้แก่ จีน ฮ่องกง สิงคโปร์และมาเลเซีย แต่ปัจจุบันการส่งออกไปยังตลาดภูมิภาคต่าง ๆ มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะตลาดอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลางและโอเชียเนีย โดยปี 2548-2551 การส่งออกไปยังตลาดดังกล่าวได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 16, 21, 8 และ 11 ต่อปีตามลำดับ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาพันธุ์ข้าวหอมมะลิไทยโดยกรมการข้าว และการยกระดับคุณภาพมาตรฐานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อ/ผู้บริโภคในต่างประเทศโดยกรมการค้าต่างประเทศ S N P ต่อหน้า 2
หน้า 2 นอกจากนี้กรมการค้าต่างประเทศยังได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการส่งออกและผู้ส่งออกข้าวภาคเอกชนจัดกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ข้าวไทยและข้าวหอมมะลิไทยในงานแสดงสินค้านานาชาติในตลาดต่าง ๆ ทั่วโลกรวมทั้งการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการจำหน่ายและการบริโภคร่วมกับห้างสรรพสินค้า ภัตตาคารและร้านอาหารไทยอย่างต่อเนื่องซึ่งส่งผลให้ข้าวไทยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวหอมมะลิไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นข้าวที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก S N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก
S เปลี่ยนราคาค่า PAPERLESS จาก 25 บาท เป็น 40 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ผู้ประกอบการที่มีการส่งออกสินค้า ณ ลานบรรจุสินค้า รฟท.ลาดกระบัง จะต้องเสียค่าผ่านพิธีการศุลกากรทางอิเล็คทรอนิคส์แบบไร้เอกสาร (PAPERLESS) จาก 25 บาท เปลี่ยนเป็นราคา 40 บาท ต่อ 1 ใบขน (ราคานี้รวมภาษีแล้ว) แต่ส่วนลานที่บรรจุสินค้า ที่อื่นยังคงราคาเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ จึงขอแจ้งมาเพื่อให้ผู้ประกอบการทราบโดยทั่วกัน N P กลับเข้าสู่หน้าหลัก