870 likes | 1.03k Views
Microsoft Windows. ระบบปฏิบัติการ. ระบบปฏิบัติการ (Operating System : OS) คือ ซอฟต์แวร์ที่มีหน้าที่ดังต่อไปนี้ ควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ Printer, Monitor, Mouse ช่วยให้ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมต่าง ๆ สามารถทำงานได้
E N D
ระบบปฏิบัติการ • ระบบปฏิบัติการ (Operating System : OS) คือ ซอฟต์แวร์ที่มีหน้าที่ดังต่อไปนี้ • ควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ • Printer, Monitor, Mouse • ช่วยให้ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมต่าง ๆ สามารถทำงานได้ • ช่วยให้ซอฟต์แวร์หลาย ๆ ตัวสามารถติดตั้งและทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ เช่น โปรแกรม Microsoft Word • จัดการไฟล์ • ช่วยให้ไฟล์ต่าง ๆ สามารถจัดเก็บลง disk และสามารถดึงกลับมาใช้งานได้
วิวัฒนาการของระบบปฏิบัติการ Windows • DOS • ทำงาน 16 บิต • ทำงานแบบ Single Task • รับคำสั่งทีละบรรทัดผ่าน Command line และแสดงผลด้วยข้อความล้วน ๆ (Text mode) • Windows 3.1 และ Windows 3.11 • ทำงานร่วมกับ DOS • สนับสนุน Multitasking แต่ยังไม่สมบูรณ์ • GUI
วิวัฒนาการของระบบปฏิบัติการ Windows • Windows 3.11 for Workgroup • เป็นเวอร์ชันพิเศษของ Windows 3.11 ที่ขยายความสามารถทางด้านเครือข่ายหรือเน็ตเวิร์กเพื่อทำงานร่วมกับเครื่องอื่น ๆ เช่น การใช้ไฟล์และเครื่องพิมพ์ร่วมกัน • Windows 95 • ทำงาน 32 บิต • การทำงานด้านเน็ตเวิร์กส่วนใหญ่สนับสนุนให้เป็นเครื่องลูกข่าย (Client)
วิวัฒนาการของระบบปฏิบัติการ Windows • Windows NT Workstation • เรียกย่อ ๆ ว่า NT • ทำงาน 32 บิต • เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับเน็ตเวิร์กขนาดเล็กถึงกลาง • เหมาะสำหรับเครื่องแม่ข่ายหรือเซิร์ฟเวอร์ (Server) • Windows NT Advanced Server • เรียกย่อ ๆ ว่า NTAS • เป็นเวอร์ชันพิเศษของ Windows NT • ขยายความสามารถให้รองรับงานทางด้านเน็ตเวิร์กขนาดใหญ่ได้
วิวัฒนาการของระบบปฏิบัติการ Windows • Windows 98/2000/Me/XP • เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นใหญ่ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับเทคโนโลยีในปัจจุบัน • Windows Server 2003 • เน้นการทำงานเป็นเครื่อง Server เป็นหลัก • Windows Vista • พัฒนาต่อมาจากวินโดวส์เอ็กซ์พี และวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ 2003 • Windows 7 • พัฒนาต่อมาจาก Windows Vista เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2552
ข้อดีของระบบปฏิบัติการ Windows • ดึงความสามารถของ PC มาใช้อย่างเต็มที่ • สามารถรันโปรแกรมพร้อม ๆ กันได้หลายโปรแกรม • สนับสนุนการเชื่อมต่อเน็ตเวิร์ก โดยเพิ่มความเร็วและเสถียรภาพในการทำงาน • อ่าน เขียนดิสก์ และพิมพ์ได้เร็วขึ้น • ใช้งานง่าย มีGUIในการติดต่อกับผู้ใช้ • สามารถตั้งชื่อไฟล์ได้ยาวถึง 255 ตัวอักษร ในระบบเก่าตั้งชื่อไฟล์ได้เพียง 11 ตัวอักษร
ข้อดีของระบบปฏิบัติการ Windows • มี Windows Explorerซึ่งเป็นตัวจัดการไฟล์ที่เก่งและเชื่อมต่อกับเน็ตเวิร์กได้ • สนับสนุนการคัดลอก ลบ หรือเคลื่อนย้ายไฟล์ด้วยวิธี Drag and Drop • มีการเชื่อมโยงไฟล์ไปยังตำแหน่งที่มีการติดตั้งโปรแกรมหรือที่เรียกว่า Shortcutเพื่อความสะดวกในการเรียกใช้งาน • สามารถเรียกเมนูคำสั่งของ “วัตถุ” ทุกอย่างของระบบด้วยการคลิกเมาส์ปุ่มขวาที่ออบเจ็คนั้นได้เลย
ข้อดีของระบบปฏิบัติการ Windows • สามารถกำหนดขนาดตัวอักษรหรือสีในการแสดงผลได้และยังสามารถปรับขนาดของเมาส์พอยเตอร์ได้ด้วย • เพิ่มความสามารถด้านมัลติมีเดียโดยมีระบบการเล่นภาพวีดีโอที่เร็วขึ้น • มีคุณสมบัติ Plug and Play ทำให้ติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น • มีการสอนวิธีการใช้งาน Windows และโปรแกรมต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีดัชนีและฐานข้อมูลของ Help ในการค้นหาคำที่ต้องการ
ที่มาของ Windows XP • คำว่า XP ย่อมาจาก “eXPerience” ที่แปลว่าประสบการณ์ นั่นหมายถึงเป็นการรวบรวมข้อดีของ Windows ทั้ง 2 สายพันธุ์หลาย ๆ เวอร์ชันมารวมกัน 2 สายพันธุ์นี้ก็คือ • สำหรับผู้ใช้ตามบ้าน ได้แก่ Windows 95, 98, ME • สำหรับระบบเครือข่าย ได้แก่ Windows NT, 2000 • ซึ่งข้อดีที่กล่าวมาก็คือ การใช้งานง่าย, คุณสมบัติ Plug & Play, ความปลอดภัย (Security) และความเสถียรภาพ
รุ่นต่างๆ ของ Windows XP • Windows XP Home Edition • เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานตามบ้านหรือต้องการใช้งานด้านมัลติมีเดียเป็นหลัก และมีความเสถียรภาพและความปลอดภัยของระบบรวมอยู่ด้วย • Windows XP Professional Edition • เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานในองค์กรซึ่งจะคล้ายกับรุ่น Home แต่จะมีความเสถียรภาพมากกว่า • Windows XP 64-bit Edition • เหมาะสำหรับระบบงานที่ใช้หน่วยประมวลผลแบบ 64 บิต เช่น AMD Hammer
ความต้องการพื้นฐานก่อนการติดตั้ง Windows XP • ความเร็วในการประมวลผลไม่ควรต่ำกว่า 300 MHz • ขนาดของหน่วยความจำไม่ควรต่ำกว่า 128 MB • พื้นที่ว่างในฮาร์ดดิสก์ควรเหลือไว้อย่างน้อย 1.5 GB • การ์ดจอควรใช้แบบ Super VGA (800 x 600) • CD-Rom Drive หรือ DVD • รวมถึงอุปกรณ์เชื่อมต่ออื่น ๆ ที่จำเป็น
การ Upgrade ระบบปฏิบัติการเดิมให้เป็น Windows XP
ความสามารถใหม่ของ Windows XP • หน้าจอ Log in • Start menu แบบใหม่ • การจัดกลุ่มโปรแกรมบน Taskbar • Search Companion • Windows Media Player • Internet Connection Sharing • Internet Connection Firewall • Internet Explorer 6 • System Restore Recovery
ลักษณะของตัวชี้เมาส์ • (Normal Select) ใช้เพื่อเลือกหรือชี้วัตถุต่าง ๆ • (Help) เป็นตัวชี้เมาส์จากตัวชี้เมาส์ปกติจะเปลี่ยนเป็นลักษณะนี้เมื่อชี้ที่ Help ของหน้าต่าง • (Working Background) จะเปลี่ยนเป็นตัวชี้เมาส์ลักษณะนี้เมื่อชี้อยู่เหนือพื้นที่ของโปรแกรมที่กำลังโหลดข้อมูล • (Busy) จะเป็นตัวชี้เมาส์ลักษณะนี้เมื่อ เปิดโปรแกรมขึ้นมาและเครื่องคอมพิวเตอร์กำลังโหลดข้อมูล
ลักษณะของตัวชี้เมาส์ • (Precision Select)คือการเลือกที่จะครอบคลุมวัตถุเพื่อเลือกตัวชี้เมาส์ลักษณะนี้จะพบในโปรแกรม Graphics เป็นส่วนใหญ่ • (Text Select) ใช้พิมพ์ข้อความต่าง ๆ • (Hand Writing) จะเปลี่ยนเป็นลักษณะนี้เมื่อมีการวาดภาพด้วยเมาส์ • (Unavailable) จะเปลี่ยนเป็นลักษณะนี้เมื่อไม่อนุญาตให้คลิกที่ข้อความ หรือ ปุ่มนี้ • (Vertical Resize) เป็นการขยาย/ลด หน้าต่างโดยเลื่อนลงจากด้านล่าง
ลักษณะของตัวชี้เมาส์ • (Horizon Resize) เป็นการขยาย/ลดหน้าต่างโดยการเลือนเข้า/ออกจากมุมด้านซ้ายล่าง • (Diagonal Resize1)เป็นการขยาย/ลดหน้าต่างโดยการเลือนเข้า/ออกจากมุมด้านขวาล่าง • (DiagonalResize2)เป็นการขยาย/ลดหน้าต่างโดยการเลือนเข้า/ออกจากมุมด้านซ้ายล่าง • (Move) เป็นการย้ายหน้าต่าง • (Alternate Select)เป็นตัวชี้เมาส์ที่ใช้ชี้เซลล์งานประเภท Spread sheet (ตารางคำนวณ) • (Link Select)เมื่อชี้เมาส์ปกติอยู่เหนือข้อความ hyper link
การใช้งานเมาส์ (Mouse) • Click คือ การกดและปล่อยปุ่มเมาส์ด้านซ้าย 1 ครั้ง • Double-clickคือ การกดและปล่อยปุ่มเมาส์ด้านซ้าย 2 ครั้ง ติดกัน • Dragคือ การกดปุ่มเมาส์ด้านซ้ายค้างไว้และลากเมาส์ถึงตำแหน่งที่ต้องการ จากนั้นให้ปล่อยปุ่มเมาส์ • Right-Click คือ การกดและปล่อยปุ่มเมาส์ด้านขวา 1 ครั้ง
Windows Screen Shortcut Icon Desktop Folder File Taskbar Start Menu Quick Launch Toolbar System Tray
Windows Screen • Desktop • เปรียบเสมือนโต๊ะทำงานที่วางองค์ประกอบต่าง ๆ สำหรับการทำงาน เป็นหน้าจอแรกที่พบ หลังจากเปิดเครื่อง • Taskbar • อยู่ ณ บริเวณตอนล่างสุดของ Desktop เป็นที่สำหรับการเรียกดูข้อมูล เปลี่ยนการทำงานระหว่างโปรแกรม • Shortcut Icons • เป็น icon เล็ก ๆ บน Desktop ที่เพิ่มความสะดวกในการเรียกใช้งานโปรแกรมหรือข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องใช้งานบ่อย ๆ
Windows Screen • My Computer • เป็น icon สำหรับการเรียกใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น Disk drive ต่าง ๆ • My network place • ใช้สำหรับการเรียกดูเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน • Start Menu • ปุ่มที่มุมซ้ายสุดของ Taskbar เป็นปุ่มแรกในการเปิดโปรแกรมต่าง ๆ
Windows Screen • Recycle Bin • พื้นที่ชั่วคราว สำหรับ File หรือ Folder ที่ถูกลบ จนกว่าจะถูกผู้ใช้สั่ง Clear Recycle Bin ผู้ใช้สามารถกู้คืน file หรือ folder ที่ถูกลบได้จากที่นี่ถ้า File หรือ Folder นั้น ๆ ยังไม่ถูก Clear • Quick Launch Toolbar • ใช้เพื่อความสะดวกในการเรียกใช้งานโปรแกรมที่ใช้บ่อย ๆ • System Tray • เป็นแถบเครื่องมือที่กำลังทำงานอยู่ แทนด้วยรูปภาพเล็ก ๆ
Window Maximize Minimize Control Menu Title Bar Menu Bar Tool Bar Close Work Area Windows คือพื้นที่ทำงานของตัวโปรแกรม จะมีสองพื้นที่หลัก ๆ ได้แก่ ส่วน ควบคุมของโปรแกรม กับพื้นที่ทำงาน (Work area) ของโปรแกรมนั้น
Window Component • Title Bar: แถบแสดงชื่อโปรแกรมและ File ที่เปิดใช้งานอยู่ในขณะนั้น • Control Menu: icon เล็กมุมซ้ายบน ซึ่งจะมีเมนูสำหรับการย่อ ขยาย ปรับขนาด ย้าย และปิดหน้าต่างโปรแกรม • Menu Bar: แถบสำหรับเก็บคำสั่งการทำงานทั้งหมดของโปรแกรมนั้น • Tool Bar: แถบของ icon สำหรับเรียกแต่ละคำสั่งที่ต้องใช้บ่อย ๆ ในโปรแกรมนั้น
Window Component • Minimize Button: ปุ่มสำหรับย่อโปรแกรมให้เป็น Icon Bar ที่อยู่ใน Task Bar • Maximize Button: ปุ่มสำหรับขยายหน้าต่างโปรแกรมให้เต็มหน้าจอ ซึ่งเมื่อโปรแกรมขยายเต็มหน้าจอ ปุ่มนี้จะเปลี่ยนเป็น Restore เมื่อคลิกที่ปุ่ม Restore หน้าจอจะกลับสู่ขนาดเท่าเดิมมีขนาดเท่าตอนก่อนขยาย • Close Button: ปุ่มสำหรับปิดโปรแกรม • Work Area: พื้นที่สำหรับการทำงานของโปรแกรม
DialogBox • ในเมนูโปรแกรมคำสั่งต่าง ๆ ถ้าคำสั่งใด มีเครื่องหมาย ... ต่อท้าย เช่น Font… หมายความว่าคำสั่งนั้นยังสามารถกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมในคำสั่งที่มีความซับซ้อน เช่นการกำหนดลักษณะต่าง ๆ ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ จะถูกจัดไว้เป็นหมวดหมู่ โดยอยู่ในหน้าต่างที่เรียกว่า Dialog Box
DialogBox (ต่อ) Text Box List Box Command Button Check Box
DialogBox (ต่อ) • List Box: เป็นการเก็บรายการต่าง ๆ ให้ผู้ใช้เลือก • Command Button: เป็นปุ่มสำหรับสั่งให้โปรแกรมทำงานตามที่ผู้ใช้กำหนดใน Dialog Box เรียบร้อยแล้ว หรือสั่งยกเลิก Dialog Box นั้น • Text Box: เป็นช่องสี่เหลี่ยมสำหรับรับข้อมูลตัวอักษร หรือตัวเลขจากคีย์บอร์ด ผู้ใช้สามารถป้อนข้อความได้ เช่น การตั้งชื่อ File เป็นต้น • Check Box: เป็นช่องรูปสี่เหลี่ยมสำหรับการเลือก หรือไม่เลือก การทำงานบางอย่างของ Dialog Box นั้น ถ้าถูกเลือก จะมีเครื่องหมายถูกที่ Check Box นั้นแต่ละ Check Box จะเป็นอิสระแก่กัน การเลือกแต่ละอัน จะไม่มีผลต่ออันอื่น
DialogBox (ต่อ) Tabs • Dialog Box Tabs หรือ Sheet: เป็นการแบ่งตัวเลือก หรือคำสั่งย่อย ๆ ออกจากกันเป็นกลุ่ม ๆ เมื่อคลิกที่ Tab หรือ Sheet อันใด ก็จะเหมือนกับการเปิดเอา Sheet แผ่นนั้นมาไว้หน้าสุด • OptionButton: เป็นช่องรูปวงกลมว่าง ๆ สำหรับการเลือกคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งในตัวเลือกที่กำหนดให้ คำสั่งที่ถูกเลือก จะมีจุดสีดำ ปรากฏอยู่กลางวงกลม Option Button
Dropdown List Boxes Dropdown List Box • เป็นการเก็บรายการที่มีไว้ สำหรับให้ผู้ใช้เลือกใช้ โดยจะแสดงเฉพาะชื่อที่ถูกเลือกไว้ แต่เมื่อคลิกที่ Dropdown List Box รายชื่อทั้งหมดจะปรากฏเรียงกันออกมาให้เลือก ถ้ารายชื่อยาว จะมี Scroll bar สำหรับให้เลื่อนดูรายการทั้งหมด Scroll bar
Selection, Cut, Copy, and Paste • Selectionคือพื้นที่บริเวณที่ถูกเลือก เพื่อการกระทำการใด ๆ ต่อไป พื้นที่ที่ถูกเลือก จะมีแถบที่เรียกว่า Highlight ปรากฏ ให้พื้นที่นั้นดูเด่นชัดขึ้น การ Selection ทำได้โดย • คลิกที่ตำแหน่งที่จะเริ่มต้นการ Selection ค้างไว้ • เลื่อน Mouse ไปเรื่อย ๆ จนสุดพื้นที่ที่เลือก จะมีแถบ Highlight ปรากฏขึ้นตลอดพื้นที่ที่ถูกเลือก • Cut เมื่อมีการ Cut วัตถุใดก็ตาม หมายถึงการลบวัตถุนั้น จากตำแหน่งที่อยู่ในปัจจุบัน ไปเก็บไว้ในส่วนพิเศษที่เรียกว่า Clipboard
Selection, Cut, Copy, and Paste • Copy คล้ายกับการ Cut แต่วัตถุต้นฉบับจะยังคงอยู่ที่เดิม ในขณะที่มีการทำสำเนาของวัตถุนั้น ไปเก็บไว้ใน Clipboard ด้วย • Paste คือการนำวัตถุใด ๆ ที่ถูกเก็บไว้ใน Clipboard ไปไว้ในพื้นที่ใหม่ ที่มี Cursor อยู่ หรือพื้นที่ที่เราเลือกจะนำไปไว้ • Clipboardคือพื้นที่พิเศษ ที่ใช้ในการเก็บวัตถุที่ถูก Cut หรือ Copy ทุกครั้งที่มีการ Cut หรือ Copy วัตถุนั้น ๆ จะถูกนำไปไว้ใน Clipboard สามารถนำวัตถุที่อยู่ใน Clipboard ไป Paste ณ ที่ใดก็ได้ เป็นจำนวนครั้งที่ไม่จำกัด
Selection, Cut, Copy, and Paste • หลังจากการ Highlight บริเวณที่ Selection แล้ว เราสามารถ Cut, Copy หรือ Paste ได้ โดยการคลิกที่ icon ต่อไปนี้ หรือการใช้ Hot-Keysดังต่อไปนี้ • Cut Ctrl+X • Copy Ctrl+C • Paste Ctrl+V • หรือเลือกจาก Menu Bar แก้ไขหรือ Edit
การออกจาก Windows XP • เมื่อต้องการออกจาก Windows ผู้ใช้ไม่ควรปิดสวิตช์เครื่องให้ออกจากระบบให้ถูกต้องโดย • คลิกที่ Start Button จะมี Start menu ปรากฏขึ้น • คลิกที่หัวข้อ Turn Off Computer จะมี Turn Off Computer Dialog Box ปรากฏขึ้น
การออกจาก Windows XP • Stand By เข้าสู่สภาวะการประหยัดพลังงานโดยตัดไฟเลี้ยงหรือสัญญาณไปยังส่วนที่ไม่จำเป็นต้องใช้ระหว่างนั้น เป็นการปิดเครื่องไว้ชั่วคราว เมื่อเปิดเครื่องอีกครั้ง งานที่ทำอยู่ก็จะปรากฏขึ้นมาให้ทำงานต่อไปได้ทันที • Shut down หรือ Turn Off คลิกที่ปุ่มนี้เมื่อต้องการปิดเครื่อง หรือ เลิกใช้งานจริงๆ จะเห็นข้อความ Windows is shutting down เป็นการบอกให้รอระหว่างที่ Windows กำลังปิดตัวเองอยู่ จากนั้นจะดับเครื่องไปเอง • Restart เหมือนปิด Windows แล้วเปิดเครื่องขึ้นมาใหม่ สำหรับบางกรณีที่มีการกำหนดค่าใดๆ ให้กับระบบ Windows ใหม่ซึ่งจะมีผลก็เมื่อสั่ง Restart แล้วเท่านั้น
Log off • การ log off มีไว้เพื่อเปลี่ยนผู้ใช้เครื่อง ในกรณีที่มีผู้ใช้เครื่องมากกว่า 1 คน โดย • คลิกที่ Start Button จะมี Start menu ปรากฏขึ้น • คลิกที่หัวข้อ Log Off จะมีกรอบข้อความให้เลือกทำงาน
Log off ตัวเลือกให้คลิกเพื่อเลือกรายชื่อผู้ใช้ ปิดโปรแกรมและหยุดการทำงานของ Windows XP หากทำการปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ทันทีโดยไม่ทำการ Shut down จะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ได้รับความเสียหาย กับส่วนฮาร์ดดิสก์และ แรม จะทำให้เครื่อง คอมพิวเตอร์ทำงานหนักเสียเร็ว
โปรแกรมที่ใช้สำหรับเล่น Web และอ่าน E-mail ที่เก็บเอกสารของแต่ละคนในเครื่อง เป็น Folder ย่อยใน My documents ใช้เก็บรูปภาพ เป็น Folder ย่อยใน My documents ใช้เก็บเพลง ใช้เรียกดูสิ่งต่างๆ ในเครื่อง แสดง Folder ต่างๆ ในเครือข่าย ปรับแต่งค่าต่างๆ โปรแกรมที่เรียกใช้งานบ่อย ๆ Start Program Menu
Start Program Menu • Start Menu Program จะมีหัวข้อหลัก ๆ ดังนี้ • Turn Off Computer สำหรับการปิดเครื่อง • Log Off สำหรับให้ผู้ใช้งานคนปัจจุบันออกจาก Windows แล้วเปลี่ยนให้ผู้ใช้คนอื่นเข้ามาใช้ • Run... สั่งเปิดโปรแกรมโดยระบุชื่อ • Help and Support เรียกระบบ Help เพื่อขอคำอธิบายการใช้งาน
Start Program Menu • Search เป็นการค้นหาไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการ • Settings ปรับตั้งการทำงานของเครื่อง โดยผ่านทาง Folder Control Panel, Network Connections, Printersand Faxes และ Taskbar and Start Menu • Documents เก็บรายชื่อ file ข้อมูลที่ถูกเรียกใช้ด้วยโปรแกรมต่าง ๆ ล่าสุดจำนวนหนึ่งเอาไว้ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเรียกใช้งานใหม่ • Program เป็นเมนูหลักในการเรียกใช้โปรแกรมต่าง ๆ โดยจะแบ่งเป็นเมนูย่อยอีกหลาย ๆ ชั้นตามต้องการ สำหรับโปรแกรมที่ใช้งานบ่อย ๆ จะมี Shortcut อยู่ด้านบนของ Start Program Menu
การเรียกใช้งานโปรแกรมการเรียกใช้งานโปรแกรม • การเรียกใช้โปรแกรมสามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่ • การเรียกจากเมนู Programโดยเรียกเป็นขั้น ๆ ไปตามเมนูย่อย • การเรียกจาก Shortcut Iconในกรณีที่โปรแกรมนั้นมี Shortcut Icon อยู่บน Desktop • เรียกที่ตัวโปรแกรมโดยตรง จาก Windows Explorer
การเรียกใช้งานโปรแกรมการเรียกใช้งานโปรแกรม • การเรียกใช้โปรแกรมสามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่ • การเรียกจากเมนู Run… เมื่อเรียกจากเมนูนี้ จะมี Run Dialog Box ปรากฏขึ้น ผู้ใช้สามารถพิมพ์ชื่อโปรแกรมไปได้เลย แต่อาจต้องมีการระบุ Drive และ Folder ที่โปรแกรมนั้นอยู่ด้วย
การเพิ่ม Shortcut Program ใน Program Menu • ผู้ใช้ สามารถเพิ่มเติม Shortcut Icon ที่อยู่บน Desktopไปไว้ยัง Program Menuได้ โดย • คลิกเลือกที่ Shortcut Icon ที่ต้องการ แล้วกดปุ่มซ้ายไว้ • ลาก (Drag Mouse) Shortcut Icon ที่ต้องการไปทับ ณ ปุ่ม Start โดยยังคงกดปุ่มซ้ายไว้ Icon ที่ถูกเลือกจะปรากฏเป็นสีจาง ๆ • เมื่อนำไปทับปุ่ม Start แล้ว ให้ปล่อยปุ่มซ้ายได้ Icon นั้น จะปรากฏอยู่ตอนบนของ Program menu • วิธีการนี้ สามารถใช้กับการนำ Shortcut Icon ไปไว้ยัง Task Bar ได้เช่นกัน โดยดำเนินการในวิธีเดียวกัน เพียงแต่ใช้การ Drag mouse ไปไว้ ณ Task Bar แล้วจึงปล่อยแทน
การลบ Shortcut Program ใน Program Menu • ผู้ใช้ สามารถลบ Shortcut Icon ที่อยู่ใน Program Menu ได้ โดย • เลื่อน Mouse ไปที่ Shortcut ที่ต้องการ แล้วกดปุ่มขวาไว้ จะมี sub menu ปรากฏ • เลือกไปคลิกที่หัวข้อ Delete • ระบบจะถามย้ำให้แน่ใจ ถ้ายังยืนยัน คลิกที่ Yes • วิธีการนี้ สามารถใช้กับการลบ Shortcut ที่ไม่ต้องการ ออกจาก Task Bar ได้เช่นกัน โดยดำเนินการในวิธีเดียวกัน • การลบไฟล์โดยไม่ไปเก็บไว้ที่ Recycle Bin ให้กด Shiftค้างไว้
การปิดโปรแกรม 3 1 • เมื่อต้องการปิดโปรแกรม มีวิธีในการปิด 4 วิธี 1. คลิกที่ปุ่ม ที่ด้านขวาของ Control Menu 2. คลิกที่ Menu Barเลือกที่หัวข้อ File และเลือกต่อที่ Close 3. ดับเบิ้ลคลิกที่มุมซ้ายบนสุดของ Control Menu 4. ใช้คีย์ลัดคือ Alt+F4 2
การสลับภาษา ไทย - อังกฤษ • ระบบปฏิบัติการ Windows สามารถสลับการใช้ภาษาระหว่างภาษาไทย และอังกฤษได้ การสลับภาษาจะมีผลกับโปรแกรมที่กำลัง Active อยู่ในขณะนั้น • การสลับภาษา ทำได้โดยการกดคีย์บอร์ดปุ่ม ~ หรือคลิกที่มุมขวาของ Task Bar จะพบเครื่องหมาย TH ในกรณีที่ภาษาในขณะนั้น เป็นภาษาไทย หรือ EN ในกรณีที่ภาษาในขณะนั้นเป็นภาษาอังกฤษ คลิกเลือก จะมีเมนูย่อยการสลับภาษาปรากฏขึ้น และเลือกภาษาที่ต้องการ
การเลือก Active Program • ระบบปฏิบัติการ Windows สามารถรองรับการทำงานแบบ Multi-Taskingได้ แต่ในขณะใด ๆ จะมีโปรแกรมเดียวเท่านั้น ที่จะสามารถโต้ตอบ สื่อสารกับผู้ใช้ได้ เราเรียกโปรแกรมที่กำลังติดต่อกับผู้ใช้ว่า Active Program • การเลือก Active Program ทำได้หลายวิธี • เลือกจาก Task Bar โดยการคลิกเลือกโปรแกรมที่ต้องการจาก Task Bar Window ของโปรแกรมนั้น จะ Active ขึ้นมา ส่วน Window ของโปรแกรมอื่นจะถูกซ่อน แม้ว่าโปรแกรมนั้น อาจจะยังทำงานอยู่ก็ตาม • เลือกโดยกดคีย์ Alt+Tab
การเลือก Active Program Active Program