310 likes | 529 Views
วิชา :: การเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ขั้นสูง 4123305. เอกสารสำหรับ การเรียนใน สัปดาห์ที่ 1. โดย อ . นัฐพงศ์ ส่งเนียม สาขาวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ และ สาขาวิชา วิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร http://www.siam2dev.com
E N D
วิชา :: การเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ขั้นสูง4123305 เอกสารสำหรับ การเรียนใน สัปดาห์ที่ 1 โดยอ. นัฐพงศ์ส่งเนียม สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและ สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร http://www.siam2dev.com xnattapong@hotmail.comnattapong@siam2dev.com xnattapong2002@yahoo.com
Agenda แนะนำ vb.net Visual Programming คืออะไร Event Driven คืออะไร Winform Webform Properties Method Event
การเรียกโปรแกรม MS-studio.net ขึ้นมาใช้งาน • กดที่ Start • เลือก Program • เลือก microsoft visual studio.net2003 • เลือก microsoft visual studio.net2003 อีกครั้งหนึ่ง
จะปรากฏหน้าแรก เมื่อเข้าสู่โปรแกรม ดังรูป
ส่วนประกอบของหน้าต่างโปรแกรม MS-Studio.NET2003 • Title Bar • Menu Bar • Tool Bar • Status Bar • Start Page • Solution • Toolbox • Properties Windows • Code view
ส่วนประกอบที่สำคัญของหน้าต่างโปรแกรม Microsoft Visual Studio.net Start Page Solution Explorer
การสร้าง Project ใหม่ • การสร้าง Project ของ VB.NET ขึ้นมาใหม่นั้นโดยปกติสามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้ • วิธีที่ 1 • ไปที่เมนู File >> New >> Project • วิธีที่ 2 • Click ที่ Start Page >> เลือกแถบ Project >> แล้วกดที่ปุ่ม New Project
จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง New Project ขึ้นมาดังรูป • โดย มีรายละเอียดดังนี้ • Project Type • หมายถึง เลือกชนิดของ ภาษาที่เราต้องการสร้าง Project ในที่นี้ก็ให้เลือก Visual Basic Project • Templates • หมายถึง ประเภทของ Project ที่เราต้องการจะสร้างขึ้นมาใช้งาน หากเราต้องการจะสร้างโปรแกรมที่จะทำงานอยู่บนวินโดวส์ ก็ต้องเลือก เป็น Windows Application ดังรูป
หน้าต่าง New Project (ต่อ) • ตรงช่อง Name นั้นให้เราใส่ชื่อของโปรเจ็กต์ที่ต้องการจะสร้างขึ้นมา โดยในที่นี้ ผม จะตั้งชื่อว่า “FirstProject” • ส่วนในช่องของ Location นั้นหมายถึงตำแหน่งที่อยู่ของไฟล์โปรเจ็กต์ทั้งหมดที่เราต้องการจะเก็บข้อมูลไฟล์ไว้ ซึ่งหากเรา ยังไม่ได้เคยสร้างโฟลเดอร์ไว้ก่อนหน้านี้ VB.NET ก็จะสร้างโฟลเดอร์นี้ให้เราโดยอัตมัติ • จากนั้นก็กด OK ได้เลย
หลังจากสร้างโปรเจ็กต์ใหม่แล้ว ก็จะเข้าสู่โปรแกรมของเราดังรูป • โดย VB.NET จะสร้าง สิ่งที่เรียกว่า Form ขึ้นมาให้เราใช้งานดังรูป
Form แนะนำ Form การเพิ่ม Form การเปลี่ยนชื่อ Form การลบ Form ออกจากโปรแจ็กต์ การกำหนดให้ Form เป็นฟอร์มแรกของ โปรเจ็กต์ คุณสมบัติต่าง ๆ ของ Form เหตุการณ์ต่าง ๆ ของ Form
แนะนำ Form • Form คืออะไร • Form หมายถึง พื้นที่ของโปรแกรมที่เราจะต้องมีในการทำงานของโปรแกรมที่ทำงาอยู่บนวินโดวส์ทุกโปรแกรม • จกรูปนี้ ส่วนที่เป็นสีเทา ก็คือฟอร์มนั่นเอง
การเพิ่ม Form • โดยปกติ Project หนึ่ง ๆ อาจมีฟอร์มได้หลายฟอร์ม โดยเราจะมีวิธีการเพิ่มฟอร์มได้ดังนี้ • ไปที่ Menu Project • เลือก Add Window Form • จะปรากฏหน้าต่างดังรูป • ให้เราพิมพ์ชื่อฟอร์มที่ต้องการ ในที่นี้จะถูกต้องเป็น Form2 โดยอัตโนมัติ แต่เราสามารถตั้งชื่อของฟอร์มใหม่นี้ได้ตามต้องการ
หลังจากเพิ่ม Form แล้วจะปรากฏชื่อฟอร์มที่ในหน้าต่าง Solution ดังรูป • ซึ่งในหน้าต่าง Solution นี้เอง จะมีหน้าที่ในการจัดการกับ Form ต่าง ๆ ในการเพิ่มลบ หรือเปลี่ยนชื่อ ของ ทั้ง Project , Form และ Module • โดยการ Click mouse ขวาที่ Object ที่ต้องการ
ชื่อของ Form • Form จะมีชื่อของฟอร์มอยู่ 2 อย่างด้วยกัน • 1 ชื่อฟอร์มที่เราใช้ในการอ้างอิงถึงเมื่อเขียนคำสั่งหรือเขียนโค้ด หรือ ตอนที่เราจะกำหนดให้แสดง ฟอร์มนี้ขึ้นมาในตอนแรกสุดเมื่อมีการรันโปรแกรม โดยการเปลี่ยนชื่อฟอร์มวิธีนี้จะกำหนดในช่อง Name ของหน้าต่าง Properties นั่นเอง • 2 ชื่อฟอร์มที่ถูกใช้ในการ Save เป็นไฟล์ข้อมูลของ Form ซึ่งจะมีนามสกุล เป็น .vb ต.ย. Form1.vb ซึ่งสามารถสังได้จากหน้าต่าง Solution
ฟอร์ม และการกำหนดคุณสมบัติของฟอร์ม • คุณสมบัติของฟอร์มนั้นมีมากมาย แต่ที่สำคัญและควรรู้จักมีดังนี้ • Name • BackColor • BackgroundImage • Cursor • Enabled • Font • ForeColor • FormBorderStyle • MiniMizeBox • MaxiMizeBox • StartPosition • Text • WindowState
คุณสมบัติ ของ Form (ต่อ) • Name • เป็นคุณสมบัติที่ใช้สำหรับการกำหนดชื่อของฟอร์ม เพื่อใช้ในการอ้างอิงในโปรแกรม • ควรตั้งชื่อให้สื่อความหมาย • โดยต้องตั้งตามหลักการตั้งชื่อ ทั่ว ๆ ไป • ต้องไม่ขึ้นต้นด้วยตัวเลข เช่น ห้ามตั้งเป็น 50FrmTest • ห้ามมีช่องว่างระหว่างชื่อ เช่น ห้ามตั้งเป็น Frm Test • ต้องไม่มีเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ในชื่อฟอร์ม เช่น ห้ามตั้งเป็น Frm+Test • ห้ามซ้ำกับคำสงวนของ VB.NET เช่น ห้ามตั้งเป็น For
ต.ย. การกำหนดคุณสมบัติ Name ของฟอร์ม จากหน้าต่าง Properties จะตั้งชื่อว่า FrmTest1
คุณสมบัติ ของ Form (ต่อ) • Backcolor • เป็นคุณสมบัติที่ใช้สำหรับการกำหนดสีของพื้นหลังของฟอร์ม • ซึ่งจะมี 3 รูปแบบให้เลือกคือ • System • Custom • Web • ไม่ควรใช้สีที่มี สีสันมากเกินไป จะทำให้ ผู้ใช้งานโปรแกรมเรา ปวดสายตาได้
ต.ย. การกำหนด BackColor ของฟอร์ม
คุณสมบัติ ของ Form (ต่อ) • BackgroundImage • เป็นคุณสมบัติที่ใช้สำหรับการกำหนดรูปภาพให้เป็นรูปพื้นหลังของฟอร์ม • ดังรูป
คุณสมบัติ ของ Form (ต่อ) • Cursor • เป็นคุณสมบัติที่ใช้สำหรับการกำหนด เคอร์เซอร์เมาส์เป็นรูปต่าง ๆ ซึ่งมีให้เลือกอยู่หลายแบบด้วย ดังรูป
คุณสมบัติ ของ Form (ต่อ) • Text • เป็นคุณสมบัติที่ใช้สำหรับการกำหนด ข้อความที่จะปรากฏอยู่บนแถบไตเติ้ลบาร์ของฟอร์ม ดังรูป
คุณสมบัติ ของ Form (ต่อ) • Startposition • เป็นคุณสมบัติที่ใช้สำหรับการกำหนด ตำแหน่งของฟอร์มเมื่อ รันโปรแกรมว่าจะต้องการให้ฟอร์มปรากฏอย่างไร โดยจะมี 5 แบบให้เลือก ดังนี้ • Manual • CenterScreen • WindowsDefaultLocation • WindowsDefaultBounds • CenterParent
คุณสมบัติ ของ Form (ต่อ) • WindowState • เป็นคุณสมบัติที่ใช้สำหรับการกำหนด ขนาดของฟอร์มเมื่อ รันโปรแกรมว่าจะต้องการให้ขนาดของฟอร์มเป็นแบบไหน โดยจะมี 3 แบบให้เลือก ดังนี้ • Manual :: • ตามขนาดเดิมที่เรากำหนด • Maximize • ขนาดใหญ่สุด เต็มจอภาพ • Minimize • ขนาดเล็กสุด ย่อเล็กสุด นั่นเอง
สรุป คำศัพท์ • Event • Object • Visual Programming • Event-Driven • Window Explorer • ToolBox • Properties Window • Properties • Method • View Code • WinForm • WebForm
โค้ดโปรแกรม Screen Saver Dim status As Int16 PrivateSub FrmTest1_Load(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) HandlesMyBase.Load Dim i As Int32 Timer1.Enabled = True status = 1 EndSub
โค้ดโปรแกรม Screen Saver PrivateSub Timer1_Tick(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles Timer1.Tick If Label1.Left > 0 Then Label1.Left -= 10 Else Dim k As Int16 Randomize() k = Rnd() * 800 + 1 Label1.Top = k Label1.Left = Me.Width EndIf EndSub
โค้ดโปรแกรม Screen Saver PrivateSub FrmTest1_KeyPress(ByVal sender AsObject, ByVal e As System.Windows.Forms.KeyPressEventArgs) HandlesMyBase.KeyPress If e.KeyChar = Chr(27) Then End ElseIf e.KeyChar = Chr(13) Then If status = 1 Then Timer1.Start() status = 2 Else Timer1.Stop() status = 1 EndIf EndIf EndSub