1 / 59

การสร้างและการหาประสิทธิภาพชุดการสอน วิชาเครื่องรับวิทยุ ตามหลักสูตร

การสร้างและการหาประสิทธิภาพชุดการสอน วิชาเครื่องรับวิทยุ ตามหลักสูตร ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา พุทธศักราช 2545 (ปรับปรุง พ.ศ . 2546). นายสิทธิเดช กิตติวิริยะการ. ครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต สาขาไฟฟ้า ภาควิชาครุศาสตร์ไฟฟ้า

Download Presentation

การสร้างและการหาประสิทธิภาพชุดการสอน วิชาเครื่องรับวิทยุ ตามหลักสูตร

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การสร้างและการหาประสิทธิภาพชุดการสอน วิชาเครื่องรับวิทยุ ตามหลักสูตร ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา พุทธศักราช 2545 (ปรับปรุง พ.ศ.2546) นายสิทธิเดช กิตติวิริยะการ ครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต สาขาไฟฟ้า ภาควิชาครุศาสตร์ไฟฟ้า บัณฑิตวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ปีการศึกษา 2548 KMITNB- 2548 1

  2. บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา สรุปปัญหาหลักๆ เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนวิชาเครื่องรับวิทยุได้ดังต่อไปนี้ 1. หลักสูตรวิชาเครื่องรับวิทยุ ขาดรายละเอียดของเนื้อหาวิชา วิธีการสอน สื่อการเรียนการสอน ใบทดสอบ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ จึงทำให้แนวทาง การสอนและการวัดผลสัมฤทธิ์ของอาจารย์ ผู้สอนแตกต่างกันยังผลให้นักศึกษาได้รับเนื้อหา และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่เหมือนกัน KMITNB- 2548 2

  3. บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา สรุปปัญหาหลักๆ เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนวิชาเครื่องรับวิทยุได้ดังต่อไปนี้ 2.วิชาเครื่องรับวิทยุ ถ้ามีแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เป็นมาตราฐานเดียวกัน จะทำให้อาจารย์ผู้สอนมีการประเมินผลผู้เรียนว่าบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้และมีมาตรฐานเดียวกัน และการดำเนินการเรียนการสอนตรงตามหลักสูตร KMITNB- 2548 3

  4. บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา สรุปปัญหาหลักๆ เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนวิชาเครื่องรับวิทยุได้ดังต่อไปนี้ 3. ถ้าหากบางภาคเรียนมีการเปลี่ยนแปลงผู้สอน โดยผู้สอนที่เปลี่ยนแปลงเคยสอนวิชาเครื่องรับวิทยุมาก่อนหน้านี้แล้วสามารถกลับมาสอนวิชานี้ได้ โดยช่วยลดเวลาในการเตรียมการสอนวิชานี้ลงได้ KMITNB- 2548 4

  5. บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา ซึ่งปัญหาต่างๆ ในการเรียนการสอนดังกล่าวมาในข้างต้นนี้ สามารถ นำเทคโนโลยีทางการศึกษาเข้ามามีบทบาทในการลดและแก้ไขปัญหา โดยวิธีหนึ่งที่สามารถแก้ปัญหาเรื่องเนื้อหามีความยากในการอธิบาย และการมีเวลาเรียนที่จำกัด คือ การใช้ชุดการสอนที่สร้างขึ้น เพื่อทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพตรงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้โดยมีมาตรฐานเดียวกัน ทำให้ผู้เรียนเกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด KMITNB- 2548 5

  6. บทที่ 1 บทนำ 1.2 วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1.2.1เพื่อสร้างชุดการสอนวิชาเครื่องรับวิทยุ รหัสวิชา 2104-2209 ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา พุทธศักราช 2545 ( ปรับปรุง พ.ศ 2546 ) 1.2.2เพื่อคำนวณหาประสิทธิภาพของชุดการสอนที่สร้างขึ้น KMITNB- 2548 6

  7. บทที่ 1 บทนำ 1.3 สมมุติฐานการวิจัย ชุดการสอนที่สร้างขึ้นใช้สอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์มาตราฐานที่กำหนด 80/80 และเมื่อสื่อการสอนนี้เสร็จจะได้เป็นสื่อกลางของทุก โรงเรียนจะได้ใช้เป็นสื่อกลางในการเรียนการสอนต่อไป KMITNB- 2548 7

  8. บทที่ 1 บทนำ 1.4 ขอบเขตการวิจัย • 1.4.1ชุดการสอนภาคทฤษฎีเรื่องเครื่องรับวิทยุเอฟเอ็ม 1 ชุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ วิชาเครื่องรับวิทยุ รหัสวิชา 2104-2209 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ • 1.4.1.1คู่มือครู ประกอบด้วย แผนการสอน • เอกสารประกอบการเรียน • 1.4.1.2สื่อการสอน เป็นชุดสาธิตเครื่องรับวิทยุเอฟเอ็ม และ • โปรแกรมนำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์ ( Power Point ) KMITNB- 2548 8

  9. บทที่ 1 บทนำ 1.4 ขอบเขตการวิจัย • 1.4.2ชุดการสอนภาคทฤษฎีเรื่องเครื่องรับวิทยุเอฟเอ็ม • มี 8 หัวข้อเรื่องเลือกทำ 4 หัวข้อเรื่องดังนี้ • 1.4.2.1เครื่องรับวิทยุเอฟเอ็ม • 1.4.2.2เครื่องรับวิทยุเอฟเอ็มแบบสเตอริโอมัลติเพล็กซ์ • 1.4.2.3 ภาคขยายเสียงเครื่องรับวิทยุ • 1.4.2.4 การปรับแต่งเครื่องรับวิทยุเอฟเอ็ม KMITNB- 2548 9

  10. บทที่ 1 บทนำ 1.5 ประชากรและกลุ่มตัวอย่างในการวิจัย 1.5.1ประชากรเป็นนักศึกษาแผนกช่างอิเล็กทรอนิกส์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพของสถานศึกษาเอกชน สำนักงานคณะกรรมการ อาชีวศึกษา 1.5.2กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาแผนกวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ของโรงเรียนพระรามหกเทคโนโลยีลงทะเบียนวิชาเครื่องรับวิทยุ ในปีการศึกษา 2548 ภาคเรียนที่ 1จำนวน 45 คน KMITNB- 2548 10

  11. บทที่ 1 บทนำ 1.6 ข้อตกลงเบื้องต้น 1.6.1 การวิจัยครั้งนี้ไม่คำนึงถึงความแตกต่างด้านเพศ อายุ สติปัญญา พื้นฐานทางเศรษฐกิจ สังคม อารมณ์ ช่วงเวลาเรียน และสถานที่ตั้งของสถานศึกษาของกลุ่มตัวอย่าง 1.6.2การวิจัยครั้งนี้ถือว่ากลุ่มตัวอย่างมีพื้นฐานทางด้านการเรียนและได้ศึกษา ทำใบทดสอบ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางด้านการเรียน ด้วยความตั้งใจที่เท่าเทียมกัน 1.6.3 การทดสอบเพื่อหาประสิทธิภาพ ให้ยึดถือชุดการสอนที่ผู้วิจัยได้จัดทำขึ้นเป็นหลัก 1.6.4การกรอกแบบสอบถามของผู้เชี่ยวชาญ ถือว่าได้กระทำไปตามดุลยพินิจจากความจริงใจ ซึ่งแสดงความรู้สึกอันแท้จริงของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ KMITNB- 2548 11

  12. บทที่ 1 บทนำ • 1.7 คำจำกัดความที่ใช้ในการวิจัย 1.7.1ชุดการสอนหมายถึงชุดการสอนทฤษฎีประกอบคำบรรยาย หรือชุดการสอนสำหรับครูที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ซึ่งประกอบด้วย คู่มือครู และสื่อการสอน คือ ชุดสาธิตเครื่องรับวิทยุเอฟเอ็มและโปรแกรมนำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์ 1.7.2ประสิทธิภาพของชุดการสอน หมายถึง ความสามารถของ นักศึกษาที่ได้จากชุดการสอนโดยการคำนวณในการทำใบทดสอบหลังบทเรียน และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80 KMITNB- 2548 12

  13. บทที่ 1 บทนำ • 1.7 คำจำกัดความที่ใช้ในการวิจัย 1.7.3เกณฑ์ที่กำหนด 80/80 หมายถึง การกำหนดระดับเกณฑ์ ประสิทธิภาพของชุดการสอนที่คาดหวังของผู้วิจัยที่กำหนดขึ้น โดยกำหนดดังนี้ 80 ตัวแรก หมายถึง ประสิทธิภาพทางการเรียนระหว่างเรียน โดยคิดจากคะแนนที่นักศึกษาสามารถทำใบทดสอบได้ถูกต้อง โดยคิดเฉลี่ยเป็นร้อยละ 80 ตัวหลัง หมายถึง ประสิทธิภาพทางการเรียนภายหลังการเรียนโดยคิดจากคะแนนที่นักศึกษาสามารถทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้ถูกต้อง โดยคิดเฉลี่ยเป็นร้อยละ KMITNB- 2548 13

  14. บทที่ 1 บทนำ • 1.7 คำจำกัดความที่ใช้ในการวิจัย 1.7.4คู่มือครู หมายถึง โครงสร้างการสอนหรือแผนการสอน ใบเนื้อหา ใบทดสอบ เฉลยใบทดสอบ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ และเฉลยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ 1.7.5ใบทดสอบ หมายถึง ใบทดสอบที่ให้นักศึกษากระทำหลัง บทเรียนจบในแต่ละหัวข้อเรื่อง เพื่อประเมินผลความก้าวหน้าทางการเรียนของนักศึกษา 1.7.6ชุดสาธิตเครื่องรับวิทยุเอฟเอ็ม หมายถึง ชุดสาธิตเครื่องรับวิทยุเอฟเอ็ม ที่แสดงการทำงานของแต่ละภาค โดยแสดงเป็นบล็อกไดอะแกรมย่อยๆ ในแต่ละส่วนสามารถวัดรูปสัญญาณทำให้เห็นภาพของสัญญาณจริงขณะทำงานได้ KMITNB- 2548 14

  15. บทที่ 1 บทนำ • 1.7 คำจำกัดความที่ใช้ในการวิจัย 1.7.7 โปรแกรมนำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์ ( Power Point )หมายถึง สื่อที่ใช้ประกอบการสอนประเภทโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในลักษณะการนำเสนอประกอบการบรรยาย โดยอธิบายวงจรของ บล็อกไดอะแกรมย่อยภายในแต่ละภาคของชุดสาธิตเครื่องรับวิทยุเอฟเอ็ม โปรแกรมจะทำหน้าที่แสดงการทำงานของวงจรทีละขั้นอย่างต่อเนื่องทำให้เห็นภาพการทำงานของวงจรได้อย่างชัดเจนพร้อมทั้งคู่มือการใช้สื่อ 1.7.8แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ หมายถึงแบบทดสอบที่ให้นักศึกษากระทำภายหลังจากการเรียนด้วยชุดการสอนจบแล้วทุกเรื่อง KMITNB- 2548 15

  16. บทที่ 1 บทนำ • 1.7 คำจำกัดความที่ใช้ในการวิจัย 1.7.9ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง คะแนนที่ได้จากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในชุดการสอนเรื่องเครื่องรับวิทยุเอฟเอ็ม ในส่วนของทฤษฎีเท่านั้น 1.7.10นักศึกษา หมายถึง นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 2 แผนกช่างอิเล็กทรอนิกส์ โรงเรียนพระรามหกเทคโนโลยีที่ลงทะเบียนวิชาเครื่องรับวิทยุในปีการศึกษา 2548 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 45 คน 1.7.11ผู้เชี่ยวชาญ หมายถึง ผู้ที่มีประสบการณ์ด้านการสอน และมีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี หรือผู้ที่มีประสบการณ์ ด้านการออกแบบสื่อการเรียนการสอน อย่างน้อย 5 ปี KMITNB- 2548 16

  17. บทที่ 1 บทนำ 1.8 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ชุดการสอนวิชาเครื่องรับวิทยุ รหัสวิชา2104-2209ในหัวข้อเรื่อง หลักการของเครื่องรับวิทยุเอฟเอ็ม หลักการของเครื่องรับวิทยุเอฟเอ็มแบบ สเตอริโอมัลติเพล็กซ์ หลักการของภาคขยายเสียงเครื่องรับวิทยุการปรับแต่งเครื่องรับวิทยุเอฟเอ็ม ตามหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา พุทธศักราช 2545 ( ปรับปรุง พ.ศ 2546 ) จะส่งผลให้นักศึกษาลดจินตนาการในการเรียนหัวข้อเรื่องนี้ ทำให้นักศึกษามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาสูงขึ้น บรรลุวัตถุประสงค์ตรงตามหลักสูตรที่ได้กำหนดไว้ลดปัญหาในการใช้สื่อการเรียนการสอน และลดเวลาในการเตรียม การสอนในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้สอนในบางภาคเรียน KMITNB- 2548 17

  18. บทที่ 2 ผลงานวิจัยและงานเขียนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เอกสารและงานวิจัย ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างชุดการสอนนี้ แบ่งออกเป็น 6 หัวข้อดังต่อไปนี้ 1. ความหมายของชุดการสอน 2. ประเภทและส่วนประกอบของชุดการสอน 3. ประโยชน์และคุณค่าของชุดการสอน 4. ขั้นตอนการสร้างชุดการสอน 5. หลักเกณฑ์ในการเลือกสื่อการเรียนการสอน 6. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง KMITNB- 2548 18

  19. บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย การวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัย เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดการสอน วิชาเครื่องรับวิทยุ เรื่อง เครื่องรับวิทยุเอฟเอฟเอ็ม โดยผู้วิจัยได้ดำเนินการวิจัยและรวบรวมข้อมูลตามขั้นตอนดังนี้ 1. การกำหนดประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 2. การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 3. การดำเนินการทดลองและเก็บข้อมูล 4. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล KMITNB- 2548 19

  20. บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย การกำหนดประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากรของการวิจัยครั้งนี้เป็นนักศึกษาแผนกช่างอิเล็กทรอนิกส์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 2 โรงเรียนพระรามหกเทคโนโลยี กลุ่มตัวอย่างได้จากการเลือกแบบเจาะจง ( Purposive Sampling ) จำนวน 45 คน KMITNB- 2548 20

  21. บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย สรุปตารางวิเคราะห์น้ำหนักความสำคัญของเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน KMITNB- 2548 21

  22. บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย สรุปตารางวิเคราะห์น้ำหนักความสำคัญของพฤติกรรมจากผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน KMITNB- 2548 22

  23. บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย สรุปตารางวิเคราะห์หลักสูตรวิชาเครื่องรับวิทยุ KMITNB- 2548 23

  24. บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย สรุปจำนวนข้อสอบที่ต้องการ 50 ข้อ KMITNB- 2548 24

  25. บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ข้อสอบที่ต้องออกตามตารางหลักสูตรจำนวน 135 ข้อ KMITNB- 2548 25

  26. บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ตัวอย่าง แบบประเมินความสอดคล้องของข้อสอบ : วิชาเครื่องรับวิทยุ KMITNB- 2548 26

  27. บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ผลสรุปการประเมินความสอดคล้องของข้อสอบจากผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน ค่า IOC ที่ถือว่าใช้ได้ หรือข้อคำถามนั้นวัดได้ตรงต้องมีค่า 0.5 ขึ้นไป ผลสรุปการประเมินความสอดคล้องของข้อสอบจากผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน ได้ข้อสอบจำนวน 117 ข้อ KMITNB- 2548 27

  28. บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย โดยทั่วไปมักจะแบ่งกลุ่มผู้เข้าสอบออกเป็น 3 กลุ่ม แบ่งให้กลุ่มเก่งมีจำนวน 27 %กลุ่มกลาง 46 % และกลุ่มอ่อน 27 % ผลการวิเคราะห์ค่าความยากง่ายและค่าอำนาจจำแนกแบบทดสอบ 117 ข้อ ค่าความยากง่ายที่ใช้จะยึดเอาค่า P ระหว่าง 0.2 ถึง 0.8 ค่าอำนาจจำแนกที่ถือว่าจำแนกคนเก่งคนอ่อนได้นั้น D ต้องมีค่าตั้งแต่ 0.2 ขึ้นไป KMITNB- 2548 28

  29. บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ผลการวิเคราะห์ค่าอำนาจจำแนกตัวลวงของแบบทดสอบที่ผ่านเกณฑ์ 92 ข้อ ได้ข้อสอบที่ผ่าน ( ICQ ) และการทดลองใช้ จำนวน 92 ข้อ ครอบคลุมเนื้อหาตามตารางวิเคราะห์หลักสูตร KMITNB- 2548 29

  30. บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ผลการวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ 117 ข้อ ค่าความเชื่อมั่นควรมีค่ามากกว่า 0.7 KMITNB- 2548 30

  31. บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย นำข้อสอบที่ผ่าน ( ICQ ) และการทดลองใช้ จำนวน 50 ข้อ ครอบคลุมเนื้อหาตามตารางวิเคราะห์หลักสูตร มาใช้เป็นแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ นำข้อสอบที่ผ่าน ( ICQ ) และการทดลองใช้ ที่ครอบคลุมเนื้อหาตามตารางวิเคราะห์หลักสูตร มาใช้เป็นใบทดสอบ KMITNB- 2548 31

  32. บทที่ 4 ผลของการวิจัย การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้สร้างชุดการสอน วิชาเครื่องรับวิทยุ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้าง และหาประสิทธิภาพของชุดการสอนที่สร้างขึ้น โดยชุดการสอนนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ 1.ชุดการสอน ซึ่งประกอบด้วย คู่มือครู และสื่อการสอน คือ ชุดสาธิตเครื่องรับวิทยุเอฟเอ็มและโปรแกรมนำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์ 2.เอกสารประกอบการสอน ได้แก่ เอกสารสำหรับนักเรียน ซึ่งประกอบด้วย ใบเนื้อหา ใบทดสอบและแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ KMITNB- 2548 32

  33. บทที่ 4 ผลของการวิจัย เอกสารประกอบการเรียนวิชาเครื่องรับวิทยุ คู่มือครู วิชาเครื่องรับวิทยุ KMITNB- 2548 33

  34. บทที่ 4 ผลของการวิจัย แผงสาธิตเครื่องรับวิทยุเอฟเอ็ม KMITNB- 2548 34

  35. บทที่ 4 ผลของการวิจัย โปรแกรมนำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์ KMITNB- 2548 35

  36. บทที่ 4 ผลของการวิจัย แสดงส่วนประกอบของชุดการสอน KMITNB- 2548 36

  37. บทที่ 4 ผลของการวิจัย ผลของการหาประสิทธิภาพของชุดการสอนจากใบทดสอบหลังเรียนแต่ละหัวข้อเรื่อง KMITNB- 2548 37

  38. บทที่ 4 ผลของการวิจัย ผลของการหาประสิทธิภาพของชุดการสอนจากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ KMITNB- 2548 38

  39. บทที่ 4 ผลของการวิจัย ผลของการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของชุดการสอน จากการหาค่าของประสิทธิภาพของชุดการสอน วิชาเครื่องรับวิทยุ ที่ผู้วิจัยได้สร้างที่ มีประสิทธิภาพ 82.77/81.29 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 KMITNB- 2548 39

  40. บทที่ 4 ผลของการวิจัย ผลของการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของชุดการสอน จากผลการวิเคราะห์ข้อมูล จึงสามารถจะสรุปเป็นค่าประสิทธิภาพของ ชุดการสอน วิชาเครื่องรับวิทยุซึ่งเป็นเครื่องมือวิจัยในครั้งนี้ได้ว่า 1. ประสิทธิภาพของขบวนการสอน คิดเป็นร้อยละจากการทำ ใบทดสอบ ( E1 )= 82.77 2. ผลสัมฤทธิ์ของการเรียนคิดเป็นร้อยละจากการทำแบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ ( E2 ) = 81.29 3.ค่าประสิทธิภาพของชุดฝีกอบรม ( E1/E2 ) = 82.77/81.29 KMITNB- 2548 40

  41. บทที่ 4 ผลของการวิจัย ผลการเปรียบเทียบค่าประสิทธิภาพของชุดการฝึกอบรมกับเกณฑ์ที่กำหนด KMITNB- 2548 41

  42. บทที่ 4 ผลของการวิจัย ผลการเปรียบเทียบค่าประสิทธิภาพของชุดการฝึกอบรมกับเกณฑ์ที่กำหนด ผลการเปรียบเทียบค่าประสิทธิภาพของชุดการสอนกับเกณฑ์ที่กำหนด จะพบว่า ค่าเฉลี่ยของประสิทธิภาพการสอนจากการทำใบทดสอบมีค่ามากกว่า ร้อยละ 80ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ค่าเฉลี่ยของประสิทธิภาพการสอนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ มีค่ามากกว่าร้อยละ 80ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 KMITNB- 2548 42

  43. บทที่ 4 ผลของการวิจัย ผลการหาค่าสหสัมพันธ์ ( Correlations : rxy ) ของชุดการสอน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ rxyเป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่าสองสิ่งใดมีความสัมพันธ์กันมากน้อยเท่าไร ถ้าสองสิ่งสัมพันธ์กันสมบูรณ์แบบไปทางเดียวกัน จะมีค่า +1.0 จากการคำนวณหาค่าสหสัมพันธ์ที่ได้มีค่าเท่ากับ 0.697 แสดงให้เห็นว่าผลการทดสอบที่ไปในทิศทางเดียวกันกล่าวคือ คะแนนของใบทดสอบ แต่ละหัวข้อ และคะแนนของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์นั้นมีความสัมพันธ์กันอยู่ในเกณฑ์ดี KMITNB- 2548 43

  44. บทที่ 4 ผลของการวิจัย ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของคะแนนกับกลุ่มนักศึกษา ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว จากค่า F ที่เปิดตารางที่ df = 2 และ df2 = 42 ที่ ค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 มีค่า 3.22 แต่ค่า F ที่ได้มีค่า 28.52 ซึ่งมากกว่า F ที่เปิดจากตารางที่ค่าระดับนัยสำคัญทางสถิติน้อยกว่า 0.05แสดงว่าคะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในแต่ละกลุ่มนักศึกษาแตกต่างกัน และต้องทำการเปรียบเทียบพหุคูณ ( Post hoc ) เพื่อหาว่านักศึกษากลุ่มใดแตกต่างกันบ้าง KMITNB- 2548 44

  45. บทที่ 4 ผลของการวิจัย ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของคะแนนกับกลุ่มนักศึกษา แสดงผลเปรียบเทียบพหุคูณด้วยวิธีเชฟเฟ่ ( Multiple Comparisons Scheffe‘ ) ที่ค่านัยสำคัญเท่ากับ 0.018 ซึ่งมีค่าน้อยกว่า 0.05 ในส่วนของกลุ่ม นักศึกษาในกลุ่มเก่งกับกลุ่มนักศึกษาในกลุ่มปานกลาง แสดงว่าคะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ของกลุ่มนักศึกษาในกลุ่มเก่งมากกว่ากลุ่มนักศึกษาในกลุ่มปานกลาง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 KMITNB- 2548 45

  46. บทที่ 4 ผลของการวิจัย ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของคะแนนกับกลุ่มนักศึกษา แสดงผลเปรียบเทียบพหุคูณด้วยวิธีเชฟเฟ่ ( Multiple Comparisons Scheffe‘ ) ส่วนคะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาในกลุ่มเก่งกับนักศึกษาในกลุ่มอ่อน และนักศึกษาในกลุ่มปานกลางกับนักศึกษาในกลุ่มอ่อน เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันที่ค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 มีความแตกต่างกันมากกว่าทางสถิติที่ระดับ 0.05 KMITNB- 2548 46

  47. บทที่ 4 ผลของการวิจัย ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวนของคะแนนกับกลุ่มนักศึกษา แสดงการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเครื่องรับวิทยุ ผลการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ นักศึกษากลุ่มเก่งมีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์คิดเป็นร้อยละ สูงที่สุด อันดับรองลงมาคือ นักศึกษากลุ่มปานกลาง และนักศึกษากลุ่มอ่อนตามลำดับถือว่าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ สามารถแยกกลุ่มนักศึกษาออกเป็นกลุ่มต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและเมื่อนักศึกษาเรียนจบ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นทุกกลุ่มถือว่าชุดการสอนนี้ประสบผลสำเร็จทำให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นจริง KMITNB- 2548 47

  48. บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลการในวิจัย การวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างและคำนวณหาประสิทธิภาพของชุดการสอน วิชาเครื่องรับวิทยุ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้ได้แก่นักศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาอิเล็กทรอนิกส์ โรงเรียน พระรามหกเทคโนโลยี ที่ลงทะเบียนเรียนในวิชานี้ในภาคเรียนที่ 1/2548 ทั้งนี้ผู้วิจัยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง ( Purposive sampling ) จำนวน 45 คน KMITNB- 2548 48

  49. บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลการในวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ ชุดการสอนวิชาเครื่องรับวิทยุ ซึ่งประกอบด้วย คู่มือครู และสื่อการสอน คือ ชุดสาธิตเครื่องรับวิทยุเอฟเอ็มและโปรแกรมนำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์ เอกสารประกอบการเรียน ได้แก่ เอกสารสำหรับนักเรียนซึ่งประกอบด้วย ใบเนื้อหา ใบทดสอบและแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้น KMITNB- 2548 49

  50. บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลการในวิจัย วิธีดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยได้นำชุดการสอนที่สร้างขึ้นไว้ทดลองใช้กับผู้เรียนวิชาเครื่องรับวิทยุ ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา พุทธศักราช 2545 ( ปรับปรุง พ.ศ. 2546 ) ในหัวข้อเรื่องหลักการของเครื่องรับวิทยุเอฟเอ็ม หลักการของเครื่องรับวิทยุ เอฟเอ็มแบบสเตอริโอมัลติเพล็กซ์ หลักการของภาคขยายเสียงเครื่องรับวิทยุการปรับแต่งเครื่องรับวิทยุเอฟเอ็ม จำนวน 45 คน ในภาคการเรียนที่ 1/2548 จำนวน 16 คาบ/คาบละ 50 นาที หลังการเรียนเสร็จ ในหัวข้อเรื่องแล้วได้ผู้เรียนทำใบทดสอบของแต่ละหัวข้อเรื่องและเมื่อเรียนครบทั้ง 4 หัวข้อเรื่องแล้วจึงให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน KMITNB- 2548 50

More Related