230 likes | 856 Views
กีฬาพื้นบ้านไทย. จัดทำโดย เด็กหญิงชมพูนุท แก้วมาเมือง เลขที่ 22 เด็กหญิงนวพรรษ์ ดวงเกตุ เลขที่ 29 เสนอ อ. ฐิตาพร ดวงเกตุ. ซิกโก๋งเก๋ง. ชื่อ ซิก โก๋งเก๋ง ภาค ภาคเหนือ จังหวัด พะเยา
E N D
กีฬาพื้นบ้านไทย จัดทำโดย เด็กหญิงชมพูนุท แก้วมาเมือง เลขที่ 22 เด็กหญิงนวพรรษ์ ดวงเกตุ เลขที่ 29 เสนอ อ. ฐิตาพร ดวงเกตุ
ซิกโก๋งเก๋ง ชื่อ ซิกโก๋งเก๋ง ภาค ภาคเหนือ จังหวัด พะเยา อุปกรณ์ โก๋งเก๋งทำจากไม้ไผ่ ท่อนปลายของไม้รวก หรือไม้ซาง ตัดให้สูง ประมาณ ๒-๒.๕ เมตร ใช้มีดตัดเจาะกิ่งไผ่ที่เป็นปมอยู่ข้อตาไผ่ออกให้หมด แต่ต้องเหลือไว้ตรงข้อแรกของไม้ไผ่ให้เป็นปมอยู่ เหลาข้ออื่นๆ ให้เรียบเพื่อสะดวกในการจับถือ หาปล้องไม้ไผ่ที่ใหญ่กว่า ๒ ท่อนแรก ตัดให้เหลือข้อปล้องไว้ด้านหนึ่งยาวประมาณ๑๕-๓๐ เซนติเมตร จำนวน ๒ ท่อน เจาะรู ๒ ด้าน เสร็จแล้วนำไปสวมเข้ากับไม้ ๒ ท่อนแรก โดยให้ไม้ที่สวมนั้นไปค้างติดอยู่กับข้อตาไผ่ที่เหลือไว้ แล้วใช้ผ้าพันตรงไม้ ๒ ท่อนประกบกันให้แน่น วิธีการเล่น ใช้มือถือไม้โก๋งเก๋งตั้งขึ้นให้ตรง แล้วค่อยก้าวเท้าใดเท้าหนึ่ง ขึ้นเหยียบบนไม้โก๋งเก๋ง ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เท้าซ้ายขึ้นก่อน แล้วก้าวเท้าขวาตามตั้งตัวให้สมดุลแล้วค่อย ๆ ก้าวเท้าใดเท้าหนึ่งออกไป ถ้าล้มก็ขึ้นใหม่เดินใหม่จนคล่อง
ชนกว่าง ชื่อ ชนกว่าง ภาค ภาคเหนือ จังหวัด เชียงใหม่ ในบรรดาการละเล่นพื้นบ้านทางภาคเหนือโดยเฉพาะการละเล่นที่เกี่ยวข้องกับสัตว์นั้น การเล่นชนกว่างนับได้ว่าเป็นที่นิยมไม่น้อยกว่าการชนไก่ กัดปลา ชนวัว หรือวิ่งควาย ของภาคอื่น ๆกว่าง เป็นแมลงปีกแข็งชนิดหนึ่งอยู่ในตระกูลด้วงมี ๖ ขา แต่ละขามีเล็บสำหรับเกาะยึดกิ่งไม้ ใบไม้ได้อย่างมั่นคงกว่างบางชนิดมีเขา บางชนิดไม่มีเขา บางชนิดไม่นิยมนำมาเลี้ยง บางชนิดนิยมเลี้ยงไว้ดูเล่นเช่น กว่างซาง กว่างงวง กว่างกิ กว่างกิอุ และกว่างอี้หลุ้ม อุปกรณ์ในการเล่น กว่างที่นิยมนำมาเลี้ยงไว้ชนนั้นจะเป็นกว่างตัวผู้และมีเขาทั้งบนและล่าง ปลายเขาจะแยกออกเป็นแฉกและแหลมคม เขาบนติดกับส่วนหัวไม่สามารถขยับได้ ส่วนเขาล่างสามารถขยับหนีบได้ซึ่งส่วนเขานี้เองคืออาวุธสำคัญในการต่อสู้กับศัตรู
หมากเก็บ ชื่อ หมากเก็บ ภาค ภาคกลาง จังหวัด กรุงเทพมหานคร อุปกรณ์สำหรับเล่น คือ ก้อนหิน หรือก้อนกรวดที่มีลักษณะกลม ๆ โอกาสหรือเวลาที่เล่น การเล่นหมากเก็บไม่ได้จำกัดโอกาสและเวลา จะเล่นเมื่อใดก็ได้ ที่ว่างเว้นจากภารกิจประจำวัน เพื่อความเพลิดเพลินและสนุกสนาน คุณค่า/แนวคิด/สาระ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ฝึกความว่องไว ไหวพริบ ความระมัดระวัง และฝึกสายตาอีกด้วย
ชักเย่อ ชื่อ ชักเย่อ ภาค ภาคกลาง จังหวัด ฉะเชิงเทรา วิธีการเล่น แบ่งผู้เล่นเป็น ๒ ฝ่าย ๆ ละกี่คนก็ได้ตามแต่จะตกลงกัน เมื่อแบ่งพวกได้แล้วก็ขีดเส้นแบ่งแดน หัวแถว (ถ้าเป็นชายเรียกพ่อหลัก ถ้าเป็นหญิงเรียกแม่หลัก) ของทั้งสองฝ่ายเหยียดแขนจับไม้ยึดแนวขนานกับพื้นทั้งสองมือ ไม้จะนอนขนานกับเส้นแบ่งแดน ลูกน้องของแต่ละฝ่ายเกาะเอวหัวแถวเรียงต่อ ๆ กัน เริ่มเล่นต่างฝ่ายพยายามดึงให้ฝ่ายตรงข้ามหลุดล้ำเข้ามาในแดนตน ฝ่ายใดหลุดล้ำถือเป็นฝ่ายแพ้ เมื่อแพ้ทั้งสองฝ่ายก็จะเริ่มต้นเล่นเพลงระบำกัน พอจบก็เริ่มชักเย่อกันใหม่
งูกินหาง ชื่อ การเล่นงูกินหาง ภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัด ร้อยเอ็ด อุปกรณ์การเล่นหางงูที่ทำจากผ้าหรือกระดาษขมวดเป็นเกลียวยาวเท่าๆ กัน ๒ หาง สนามที่และสนามเล่น สถานที่เป็นพื้นที่โล่งราบเรียบ ขนาดประมาณ ๑๕ x ๑๕ เมตร สนามเล่นทำเส้นเป็นวงกลมรัศมี ๖ เมตร ผู้เล่นมีจำนวน ๘-๑o คน แบ่งผู้เล่นเป็น ๒ ฝ่าย ฝ่ายที่ ๑ จะต้องเป็น “พ่องู” ๑ คน ฝ่ายที่ ๒ มี “แม่งู” ๑ คน ที่เหลือเป็น“ลูกงู” ซึ่งผู้เล่นเป็นลูกงูจะต้องเกาะเอวผู้เล่นเป็นแม่งู จากนั้น พ่องูเริ่มถามว่า “แม่งูเอ๋ย” แม่งูและลูกงูก็ร้องตอบว่า“เอ๋ย” พอช่วงท้ายพ่องูถามว่า “กินหัว กินหาง” แม่งูตอบว่า “กินกลางตลอดตัว” ผู้เป็นพ่องูจะไล่จับลูกงูจากปลายแถว ฝ่ายแม่งูจะต้องกางมือเพื่อป้องกันลูก หากลูกงูตัวใดถูกพ่องูดึงจนหลุดออกจากแถวไป ก็จะต้องออกจากการเล่น ผู้เล่นที่เหลือก็เริ่มเล่นกันอีกจนกว่าลูกงูจะถูกจับจนหมด
หมากขุม ชื่อ หมากขุม ภาค ภาคใต้ จังหวัด นครศรีธรรมราช อุปกรณ์ในการเล่น ๑) รางหมากขุม เป็นรูปเรือทำจากไม้ ยาวประมาณ ๑๓๐ เซนติเมตร กว้างประมาณ ๒๐ เซนติเมตร มีหลุมเรียงเป็น ๒ แถว หลุมกว้างประมาณ ๗ เซนติเมตร ลึกประมาณ ๔ เซนติเมตร มีด้านละ ๗ หลุม เรียกหลุมว่า เมือง หลุมที่อยู่ปลายสุดทั้งสองข้างเป็นหลุมใหญ่กว้างประมาณ ๑๑ เซนติเมตร เรียกว่า หัวเมือง ๒) ลูกหมาก นิยมใช้ลูกสวดเป็นลูกหมากใส่ลูกหมากหลุมละ ๗ ลูก จึงต้องใช้ลูกหมากในการเล่น ๙๘ ลูก ๓) ผู้เล่นมี ๒ คน
กำทาย ชื่อ กำทาย ภาค ภาคใต้ จังหวัด พังงา อุปกรณ์การเล่น ๑. อุปกรณ์ในการเล่นมีดังนี้ (ใช้อย่างหนึ่งอย่างใด) ๑) ยางเส้น ๒) เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ๓) เมล็ดสวาด ๔) เมล็ดสวด ๕) ลูกนู (ก้อนดินกลม) วิธีการเล่น ๑) เมื่อสัญญาณการเล่นเริ่มขึ้นทุกคนจะกอบหรือกำของที่อยตรงหน้านั้น โดยไม่ให้คนอื่นเห็นว่ามีจำนวนเท่าใด๒) ให้ทายที่คนว่าของในมือของทุกคนเมื่อรวมกันแล้วมีจำนวนเท่าใด๓) เมื่อทายเสร็จทุกคนแบมือออกและนับของในมือของทุกคน ใครทายถูกได้เป็นกรรมสิทธิ์ในของนั้น ถ้าทายถูกหลายคนใช้วิธีหารแบ่งกัน ถ้ามีเศษให้รวมไว้เป็นกองกลาง เพื่อเล่นหนต่อไป
รีรีข้าวสาร รีรีข้าวสาร เล่นกี่คนก็ได้ ผู้เล่น ๒ คนยืนหันหน้าเข้าหากันโน้มตัวประสานมือกันเป็นรูปซุ้ม ส่วนผู้อื่นเกาะเอวต่อ ๆ กันตามลำดับ หัวแถวจะพาลอดใต้ซุ้มมือพร้อมกับร้อง เมื่อร้องถึงประโยคที่ว่า คอยพานคนข้างหลังไว้ ผู้ที่ประสานมือเป็นซุ้มจะลดมือลงกันคนสุดท้ายไว้ ซึ่งคนสุดท้ายจะถูกคัดออกไปจากแถว แล้วจึงเริ่มต้นเล่นใหม่ทำเช่นนั้นจนหมดคน รีรีข้าวสาร รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก เด็กน้อยตาเหลือก เลือกท้องใบลาน คดข้าวใส่จาน คอยพานคนข้างหลังไว รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก เด็กน้อยตาเหลือก เลือกท้องใบลาน คดข้าวใส่จาน คอยพานคนข้างหลังไว
มอญซ่อนผ้า มอญซ่อนผ้า เล่นกี่คนก็ได้ ผู้เล่นจะนั่งล้อมวงกัน มีคนหนึ่งสมมุติเป็น “มอญ” ถือผ้าอาจเป็นผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าอื่นที่มีขนาดไม่โตนักสามารถเก็บซ่อนได้ เดินหรือวิ่งไปรอบ ๆ วง ผู้ที่นั่งล้อมวงจะร้องบทร้องพร้อมกัน(ดูหัวข้อเพลงประกอบการเล่น) มอญซ่อนผ้า มอญซ่อนผ้า ตุ๊กตาอยู่ข้างหลัง ไว้โน่นไว้นี่ ฉันจะตีก้นเธอ มอญซ่อนผ้า ผู้ที่เป็น “มอญ” จะต้องคอยสังเกตว่าผู้นั่งล้อมวงคนใดเผลอจะเอาผ้าที่ถือไว้วางข้างหลังผู้ นั้นแล้วเดินหรือวิ่งต่อไป ทำทีเหมือนกับยังไม่ได้วางผ้าหากผู้ถูกวางข้างหลังยังไม่รู้ตัว เมื่อผู้เป็น “มอญ” เดินหรือวิ่งมาถึงจะหยิบผ้านั้นตีผู้ที่นั่งอยู่ ซึ่งผู้ที่ถูกตีจะต้องรีบลุกออกจากที่นั่งวิ่งหนีไปรอบวงครบ 1 รอบ จึงกลับเข้านั่งที่ตามเดิม ผู้ที่เป็น “มอญ” จะถือผ้าเดินหรือวิ่งรอบ ๆ วง เพื่อจะวางผ้าซ่อนไว้ข้างหลังผู้นั่งคนอื่นต่อไป ในทางกลับกันหากผู้นั่งที่ถูกวางผ้าข้างหลังรู้ตัว ก็จะหยิบผ้าและลุกขึ้นวิ่งไล่ตีผู้เป็น “มอญ” ไปรอบวง ซึ่งผู้เป็น “มอญ” จะต้องรีบวิ่งหนีและเข้านั่งแทนที่ผู้ที่วิ่งไล่ และผู้ที่ได้ผ้าก็จะเป็น“มอญ” ซ่อนผ้าคนอื่นต่อไป ตุ๊กตาอยู่ข้างหลัง ไว้โน่นไว้นี่ ฉันจะตีก้นเธอ